ตอนที่แล้วบทที่ 708: ผมจะรีบถ่ายทำเดี๋ยวนี้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 710: จบแล้ว

บทที่ 709: ช้าเกินไป


"กงเว่ย"

มันกางปีกสะบัดเบาๆ ก่อนจะส่งสัญญาณบอกกับหยาเป่าว่า เรียบร้อยแล้ว พี่ใหญ่กลับไปฝึกต่อได้เลย

"ย่าห์ ย่าห์..."

หยาเป่ารู้สึกแปลกๆเหมือนมีอะไรไม่ชอบมาพากล มันขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็ส่ายหัว

เจ้านายของมันไม่สบาย มันต้องเฝ้าดูมนุษย์คนนี้ ไม่ให้เข้าไปรบกวนเธอ

"กงเว่ย"

กงเป่าได้ยินแบบนั้นก็ไม่พูดอะไรอีก ขยับตัวไปอีกด้าน แล้วเริ่มฝึกกำแพงเหล็กต่อ

แต่ทันใดนั้นเอง!

ตูม! ตูม!

เสียงระเบิดดังสนั่นมาจากด้านนอก

กงเป่าที่หูไวรีบหันไปทันที

เสียงนี้มันคุ้นเคยเกินไป—เป็นเสียงของหยาเป่าตอนฝึกใช้ทักษะไฟ

มันยกเลิกกำแพงเหล็ก ก่อนจะหันไปมองด้านข้าง สีหน้าฉายแววสงสัย

แต่พี่ใหญ่หยาเป่าอยู่ตรงนี้นี่นา...

มันขบคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วตัดสินใจเดินไปยังลานฝึกด้านนอก

สิ่งที่เห็นทำให้มันหยุดชะงัก

ตรงหน้า...

กลุ่มสัตว์อสูรเพลิงพิศวงกำลังใช้ทักษะประเภทไฟกันอย่างหนักหน่วง

"กงเว่ย..."

กงเป่ามองภาพตรงหน้า พลางตกอยู่ในภวังค์ของความคิด...

มันรู้ว่าหยาเป่าสามารถสร้างร่างแยกเพื่อฝึกฝนทักษะที่แตกต่างกันไปได้หลายอย่างในเวลาเดียวกัน แต่มันไม่เคยรู้เลยว่า... ร่างแยกกับร่างจริงจะสามารถอยู่ห่างกันขนาดนี้แล้วยังทำอะไรแยกกันได้โดยอิสระ...

ถ้ามันเรียนรู้ทักษะนี้บ้างล่ะก็... มันก็สามารถทำหลายอย่างพร้อมกัน ประหยัดเวลาไปได้มหาศาลเลยสิ...

.....

หนึ่งชั่วโมงต่อมา

"ต้วนต้วน"

หนอมเสริมกายสวมชุดทำงานของมันกลับเข้าไป ก่อนจะโค้งให้เล็กน้อย แล้วคลานออกไปทางประตูอย่างเชื่องช้า

เฉียวซางนอนแผ่หลาอยู่บนเตียง พูดออกมาด้วยเสียงอ่อนแรง "เดินทางดีๆล่ะ..."

เธอพักฟื้นอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา อยากรู้ว่าวันนี้เธอใช้เวลาฝึกไปนานแค่ไหน

เมื่อเปิดหน้าจอขึ้นมา ปรากฏว่ามีข้อความที่ยังไม่ได้อ่านสองข้อความ

[สวัสดีครับ ผมเป็นผู้รับผิดชอบถ่ายทำวิดีโอโปรโมตของผีวงแหวนอาคม ตอนนี้ผมถึงที่บ้านของคุณแล้ว คุณอยู่บ้านหรือเปล่าครับ?]

[ผมถ่ายทำเสร็จแล้ว ไม่คาดคิดเลยว่าสัตว์อสูรของคุณจะวิวัฒนาการไปแล้ว ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ!]

หืม? ถ่ายเสร็จแล้วเหรอ?

เฉียวซางขยับตัวขึ้นนั่ง แล้วทบทวนว่าก่อนหน้านี้เธอได้ยินเสียงอะไรจากข้างนอกบ้าง

ก็ได้ยินเสียงแว่วๆ อยู่บ้างจริงๆ...

แต่เพราะวัสดุของคฤหาสน์นี้มีระบบกันเสียงที่ดีมาก แค่ปิดประตูข้างนอกก็แทบไม่ได้ยินเสียงอะไรข้างในแล้ว มีเพียงเธอที่ยังพอได้ยินอยู่บ้าง แต่ก็ฟังไม่ชัดว่าพูดอะไรกัน

เธอคิดว่าเสียงที่ได้ยินอาจเป็นแค่เสียงของหยาเป่ากับพวกสัตว์อสูรที่กำลังฝึกกัน แต่ไม่คิดเลยว่า... มันคือเสียงของทีมถ่ายทำที่มาถ่ายวิดีโอโปรโมต!

เธอพิมพ์ตอบกลับไปว่า

[เมื่อกี้ฉันไม่ค่อยสบาย การถ่ายทำไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหมคะ?]

อีกฝ่ายตอบกลับมาแทบจะทันที

[ไม่มีปัญหาครับ! การถ่ายทำออกมาดีมาก สัตว์อสูรของคุณให้ความร่วมมือดีสุดๆเลยครับ!]

เฉียวซางโล่งใจ ปิดหน้าจอข้อความ

เธอไม่ได้กังวลว่าการวิวัฒนาการของซุนเป่าจะทำให้การถ่ายทำมีปัญหา เพราะก่อนหน้านี้เธอก็เคยมีประสบการณ์มาก่อน เช่นตอนที่หยาเป่าวิวัฒนาการเป็นสุนัขเพลิงเร้นลับ ก่อนการถ่ายทำก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไร แถมยังกลายเป็นจุดขายให้ทีมโปรโมตได้อีกด้วย

แต่สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจคือ...

แม้ว่าเธอจะไม่ได้อยู่ดูแล แต่ซุนเป่าก็ยังสามารถให้ความร่วมมือกับทีมงานจนถ่ายทำเสร็จลุล่วงไปได้

....

"กงเว่ย"

ขณะนั้นเอง กงเป่าก็ผลักประตูเดินเข้ามา พร้อมกับเปล่งเสียงเรียก

"หืม?" เฉียวซางเงยหน้าขึ้น "มีอะไรเหรอ?"

กงเป่ามองเธอด้วยสีหน้ามุ่งมั่น ก่อนจะบอกว่า...

มันอยากเรียนรู้ทักษะแยกเงา

เฉียวซางชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะถามกลับ

"ทำไมแกถึงอยากเรียนทักษะนี้ล่ะ?"

กงเป่ากระพือปีกเบาๆ เป็นสัญลักษณ์ว่า—เพราะมันคิดว่าถ้ามันเรียนรู้ร่างแยก มันก็จะสามารถทำหลายอย่างพร้อมกันได้ เหมือนพี่ใหญ่หยาเป่า

เหตุผลนี้เองหรอกเหรอ?... เฉียวซางทั้งคาดไม่ถึงและก็เหมือนไม่แปลกใจเลยในเวลาเดียวกัน

เพราะกงเป่าเป็นสัตว์อสูรที่มีแนวทางของตัวเองมาโดยตลอด มันรู้เสมอว่าตัวเองต้องการพัฒนาไปในทิศทางไหน แต่นึกไม่ถึงเลยว่า ตอนนี้มันจะเลือกฝึกทักษะแยกเงา

แต่ปัญหาคือ...

สำหรับเธอที่มีนิ้วทองคำ ทักษะนี้มันขี้โกงเกินไป!

ถ้ามีแค่สัตว์อสูรตัวเดียวที่สามารถใช้ร่างแยกได้ อาจจะพอเนียนไปได้ว่ามันแค่เป็นสัตว์อสูรที่มีพรสวรรค์สูง แต่ถ้าสัตว์อสูรทุกตัวของเธอสามารถใช้ร่างแยกได้แบบหยาเป่าทุกตัว?

ถ้าเธอไปแข่งในการแข่งขันสนามใหญ่ๆ รับรองได้เลยว่า... ผู้คนต้องขุดคุ้ยประวัติของเธอจนหมดแน่!

สัตว์อสูรที่เพิ่งเรียนรู้ทักษะใหม่ แต่เพราะสามารถใช้ร่างแยกฝึกได้พร้อมกัน ภายในวันเดียวกลับไปถึงขั้นสูงหรือขั้นสูงสุด—แค่คิดก็ดูไม่สมเหตุสมผลแล้ว!

ถ้าเป็นแค่ตัวเดียว คนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องของพรสวรรค์ แต่ถ้าทุกตัวของเธอเป็นแบบนี้?

ชาวเน็ตต้องระเบิดความสงสัยออกมาอย่างแน่นอน

โชคดีที่... สัตว์อสูรตัวอื่นๆของเธอมีแนวทางการฝึกของตัวเองที่ชัดเจน และอัตราการพัฒนาก็ไม่ได้ช้าจนผิดปกติ

ดังนั้น เธอเลยไม่เคยให้ซุนเป่าหรือลูเป่าเรียนรู้ทักษะแยกเงา

เฉียวซางนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า

"ได้ ฉันจะหาทางให้แกเรียนรู้มันได้ แต่ห้ามละเลยการฝึกทักษะอื่นๆโดยเฉพาะกำแพงเหล็กเข้าใจไหม?"

"กงเว่ย"

กงเป่าพยักหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง มันเข้าใจแล้ว

จากนั้นมันก็เดินออกจากห้อง พร้อมกับปิดประตูให้อย่างเบามือ

"เอาเถอะ... ถ้ากงเป่าอยากเรียนก็ให้มันเรียนไป"

"แค่หลังจากที่มันเรียนรู้แล้ว ให้รอไปสักพักก่อนจะใช้ต่อหน้าคนอื่นก็พอ"

เฉียวซางคิดในใจ ก่อนจะล้มตัวลงนอนอีกครั้ง

เธอไม่ได้สังเกตเลยว่า...

ตั้งแต่ต้นจนจบ เธอไม่เคยสงสัยเลยว่า "กงเป่า" จะสามารถเรียนรู้ทักษะร่างแยกได้หรือไม่

เธอแค่คิดว่า... จะปิดบังเรื่องนี้จากสายตาของคนอื่นได้อย่างไร เท่านั้นเอง...

เฉียวซางไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป

ตอนนี้เธอมีบัตรเครดิตวงเงินไม่จำกัด อยู่ในช่วงวันหยุด และสิ่งแรกที่เธอนึกถึงก็คือ—พากงเป่าไปเรียนกับร้านพัฒนาสัตว์อสูร สถาบันฝึก หรือสโมสรที่เชี่ยวชาญด้านการฝึกทักษะแยกเงาโดยเฉพาะ!

หลังจากค้นหาในอินเทอร์เน็ต เธอก็พบสถานที่ที่เหมาะสม และในคืนวันนั้นเอง...

เธอเดินทางมาถึงสถาบันฝึกแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของเธอมากนัก

ที่นี่เป็นสถาบันฝึกอบรมระดับแนวหน้าของเขตที่ 1 ที่เต็มไปด้วยผู้ฝึกสอนมืออาชีพ แต่ละคนล้วนมีใบรับรองระดับสูง และปกติแล้วตารางฝึกของพวกเขาก็เต็มจนแทบไม่มีคิวว่าง

อย่างไรก็ตาม การขอข้อมูลเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย ไม่ต้องจองคิวล่วงหน้า

พนักงานที่ให้คำปรึกษาผลักแฟ้มเอกสารของเหล่าผู้ฝึกสอนไปข้างหน้า ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้ม

"ผู้ฝึกสอนของเราทุกคนล้วนเป็นระดับแนวหน้าในเขตที่ 1 ค่ะ พวกเขาเคยฝึกสอน..."

แต่ยังไม่ทันพูดจบ...

"ใครใช้เวลาสอนให้สัตว์อสูรเรียนรู้แยกเงาได้เร็วที่สุดคะ?"

เฉียวซางถามขัดขึ้นมาโดยไม่รีรอ

พนักงานชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะครุ่นคิด แล้วชี้ไปที่ภาพของชายคนหนึ่งที่มีผมหยิกฟูเป็นเอกลักษณ์

"คุณเอเวอเร็ตต์ ท่านนี้เป็นผู้ฝึกสอนระดับสูง เคยใช้เวลาครึ่งเดือนสอนให้สัตว์อสูรเรียนรู้ทักษะแยกเงาและสามารถใช้มันได้อย่างชำนาญ ลูกค้าคนนั้นถึงขั้นแนะนำเพื่อนๆของเขามาหาเราอีกหลายคนเลยทีเดียว"

"ห๊ะ? เร็วที่สุดคือครึ่งเดือน?"

เฉียวซางพูดด้วยน้ำเสียงที่แฝงความตกใจเล็กน้อย

อีกหนึ่งคนที่โดนคุณเอเวอเร็ตต์มัดใจแน่ๆ คราวนี้ต้องปิดดีลได้ชัวร์... พนักงานให้คำปรึกษายิ้มอย่างมั่นใจ

"ใช่เลยค่ะ ครึ่งเดื—"

"ช้าไปไหม?"

เฉียวซางขมวดคิ้ว "ไม่มีที่ไหนเร็วกว่านี้อีกเหรอคะ?"

"..."

พนักงานให้คำปรึกษานิ่งไป เธอได้ยินผิดไปหรือเปล่า...?

ครึ่งเดือน สอนทักษะระดับกลางให้สัตว์อสูรเรียนรู้สำเร็จ—นี่ก็ถือว่าเร็วมากแล้วไม่ใช่หรือไง!?

เธอควบคุมสีหน้าของตัวเอง พยายามรักษารอยยิ้มเอาไว้

"ทักษะแยกเงาเป็นทักษะระดับกลาง ครึ่งเดือนถือว่าเร็วมากแล้วค่ะ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับพรสวรรค์ของสัตว์อสูร สัตว์อสูรทั่วไปไม่สามารถเรียนรู้ได้เร็วขนาดนี้หรอกนะคะ"

เฉียวซางรู้สึกผิดหวัง ก่อนจะถามอีกครั้ง

"ไม่มีที่ไหนเร็วกว่านี้แล้วจริงๆใช่ไหม?"

"ไม่มีค่ะ" พนักงานส่ายหน้า

"งั้นก็ไม่ต้องละกันค่ะ"

"ช้าเกินไป ฝึกเองดีกว่า"

เฉียวซางลุกขึ้นยืน เดินออกไปอย่างไม่ลังเล

พนักงานให้คำปรึกษาถึงกับอึ้ง

นี่เธอพูดจริงเหรอ?

เธอไม่ได้พูดประชดใช่ไหม...?

....

หลังจากกลับถึงบ้าน

เฉียวซางนั่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเรียกหยาเป่าและกงเป่ามารวมตัวกัน

"หยาเป่าช่วงนี้แกฝึกฝนดาวตกอยู่ใช่ไหม? งั้นช่วยควบคุมพลังหน่อย อย่าให้แรงเกินไป แล้วให้กงเป่าหลบใต้การโจมตีของแก"

หยาเป่าเรียนรู้ทักษะแยกเงาได้ในห้องฝึกซ้อมเทนนิส

ฝนดาวตกเป็นทักษะที่ทั้งรุนแรงและหนาแน่นกว่า ลูกเทนนิสของสนามฝึกเทนนิสมาก ถ้าหากกงเป่าฉลาดพอ การใช้วิธีเดียวกับหยาเป่าในการฝึก อาจจะทำให้มันเรียนรู้ร่างแยกได้ในเวลาไม่นาน

และตอนนี้ เธอเองก็ผ่านการฝึกขั้นแรกของการเพิ่มพลังป้องกันไปแล้ว...

แม้ว่ากงเป่าจะโดนฝนดาวตกโจมตีเข้าใส่ เธอก็น่าจะยังทนรับไว้ได้อยู่!

"ย่าห์!"

"กงเว่ย!"

หยาเป่าและกงเป่าตอบรับพร้อมกัน

เฉียวซางมองดูสัตว์อสูรของเธอ แล้วเผยรอยยิ้มพึงพอใจ

ข้อดีที่สุดของสัตว์อสูรของเธอก็คือ พวกมันไม่ต้องให้เธอคอยดูแลมาก เวลาฝึกพวกมันก็ฝึกกันเองได้อย่างยอดเยี่ยม

...เว้นก็แต่เจ้าซุนเป่า

ขณะที่เธอคิดแบบนั้น...

"ซุนซุน!"

ซุนเป่าที่กำลังเล่นเกมอยู่กำลังจ้องไปที่หน้าจอด้วยสายตาดุดัน

ลุยเลย! วิ่งเข้าไป! อย่ากลัว!!

เฉียวซางที่เห็นก็ได้แต่กลอกตาอย่างเงียบๆ

....

เวลา 02:00 น.

ซุนเป่าจิบน้ำยาฟื้นฟูพลังงาน ก่อนจะใช้พลังจิตควบคุมคีย์บอร์ดเหมือนดั่งปกติ

[พี่อ้วนเสน่ห์แรง: น้องชายนายตลกดีนะ เห็นรอบก่อนเรียกแฟนตัวเองว่าเป็นผู้ฝึกสัตว์อสูรด้วยนี่?]

"ซุนซุน?"

พอเห็นข้อความซุนเป่าก็เลยเอียงหัวแล้วทำสีหน้าสงสัยขึ้นมา ก่อนจะพิมพ์ตอบกลับไป

[ไม่ใช่คู่รัก ฉันคือสัตว์อสูรของผู้ฝึกสัตว์อสูร]

[พี่อ้วนเสน่ห์แรง: ฮ่าๆๆ โอเคเลย น้องเอ๋ย พี่ชายคนนี้วิ่งตามน้องไม่ทันแล้ว]

ซุนเป่าไม่เข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายหมายถึง จึงพิมพ์ตอบกลับ

[ทำไมต้องวิ่งตาม มันไม่ได้มีเท้า นี่มันลอยตัวเล่นอยู่]

[พี่อ้วนเสน่ห์แรง: หืม ยังเล่นตามบทบาทสัตว์อสูรอยู่อีก? นี่ตกลงเป็นสัตว์อสูรประเภทผีหรือพลังจิตกันแน่?]

ซุนเป่าตอบกลับทันที

[ฉันเป็นสัตว์อสูรประเภทผี]

[พี่อ้วนเสน่ห์แรง: …พี่ชายคนนี้ขอคารวะเอ็งจริงๆไอ้น้อง]

ซุนเป่าเห็นข้อความแล้วรู้สึกภูมิใจ

[ฉันเก่งมากอยู่แล้ว]

[พี่อ้วนเสน่ห์แรง: …]

ขณะที่ซุนเป่ากำลังจะพิมพ์ต่อ...

แต่จู่ๆ มันก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง ดวงตาของมันสว่างขึ้นเป็นแสงสีฟ้า

วินาทีถัดมา—

โต๊ะน้ำชา คอมพิวเตอร์ โซฟา ทีวี โต๊ะอาหาร...

—ทุกสิ่งทุกอย่างในห้องนั่งเล่น ลอยขึ้นกลางอากาศ!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด