บทที่ 703: ตอนกลางคืนมีเรื่องสำคัญต้องทำ
เช้าวันรุ่งขึ้น เวลาประมาณแปดโมง
เฉียวซางตื่นนอน ล้างหน้าล้างตาอย่างง่ายๆ แล้วเดินออกไปที่ห้องนั่งเล่น
ทันทีที่ออกมาก็เห็นซุนเป่ายังคงนั่งเล่นคอมพิวเตอร์อยู่ ข้างๆมีขวดเปล่าของน้ำยาฟื้นฟูพลังงานกองอยู่เต็มไปหมด
ตื่นมาแล้วเห็นซุนเป่าโหมฝึกซ้อมข้ามคืนแบบนี้... เฉียวซางถึงกับรู้สึกตาลายไปชั่วขณะ
“ซุนซุน……”
ซุนเป่าได้ยินเสียงก็เงยหน้าขึ้น พอเห็นว่าเป็นผู้ฝึกสัตว์อสูรของตัวเอง ก็รีบสะบัดควบคุมเงาออกไปโดยอัตโนมัติ แล้วทำท่าจะปิดคอมพิวเตอร์
“ไม่ต้องปิด!” เฉียวซางรีบห้ามไว้ “เล่นต่อไปเถอะ!”
“ซุนซุน!”
ซุนเป่าอึ้งไปนิดหน่อย แต่ก็ร้องเสียงใสอย่างดีใจ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาใช้ควบคุมเงาต่อ
ฝึกแบบนี้ไปเรื่อยๆ อีกไม่กี่วันก็น่าจะฝึกควบคุมเงาจนถึงระดับไร้ที่ติได้แล้วสินะ… เฉียวซางคิดเล็กน้อย แล้วก็ตัดสินใจยกเลิกแผนที่จะไปฝึกที่สโมสรหลังอาหารเช้า
ในเมื่อซุนเป่าหายากนักที่จะตั้งใจฝึกขนาดนี้ ก็คงไม่ต้องไปขัดมัน รอให้มันเหนื่อยเองก่อนค่อยว่ากัน…
เวลาค่อยๆ ผ่านไปจนถึงสิบเอ็ดโมง ซุนเป่ายังนั่งเล่นคอมพิวเตอร์พลางใช้ควบคุมเงาไม่หยุด
เฉียวซางเห็นแล้วก็อดรู้สึกทึ่งไม่ได้
หลิวเหยาหิ้วถาดที่มีเม็ดพลังงานที่ตัวเองยุ่งอยู่กับการทำมาตลอดเช้าออกมา พร้อมพูดขึ้นว่า
“ใกล้เที่ยงแล้ว เรียกผีวงแหวนอาคมมากินข้าวก่อนเถอะ”
เฉียวซางพยักหน้า ก่อนจะหันไปเรียก
“ซุนเป่ามากินก่อน ค่อยเล่นต่อ”
ซุนเป่าไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมา แค่ยกนิ้วมือสั้นๆขึ้นมานิดเดียว เงาดำก็พุ่งออกไปพันจานที่วางเม็ดพลังงานไว้ แล้วกระชากเข้ามาหาตัว
“ซุนซุน~”
มันร้องเสียงสดใส ราวกับจะบอกว่าไม่เป็นไร มันกินไปเล่นไปได้
พูดจบ มือหนึ่งของมันก็ใช้ควบคุมเงาพิมพ์แป้นพิมพ์ ขณะที่อีกข้างใช้ควบคุมเงาคีบเม็ดพลังงานเข้าปากตัวเอง
เฉียวซาง: “……”
สุดยอด…
หลิวเหยาอ้าปากเหมือนอยากพูดอะไร แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะเงียบแล้วเดินกลับไปที่ห้องครัว หยิบถาดที่มีเม็ดพลังงานของลู่เป่ากับตัวอื่นๆออกมา
หยาเป่าตื่นเต้นรออยู่ตั้งนาน กว่าจะได้เห็นถาดของตัวเองถูกยกมา มันก็ก้มลงไปดมอย่างดีใจ แต่พอได้กลิ่นมันก็รู้ได้ทันทีว่ายังคงเป็นเม็ดพลังงานแบบเดียวกับที่มันกินมาตลอดช่วงนี้ ทันใดนั้นหางของมันก็ตกลงอย่างหงอยเหงา
“ย่าห์ ย่าห์……”
คราวนี้ หลิวเหยาเข้าใจอารมณ์ของหยาเป่าทันที เขาหัวเราะพลางพูดว่า
“เม็ดพลังงานของสัตว์อสูรระดับขั้นนายพลมันไม่ได้ทำเสร็จในวันเดียวหรอก ไม่ต้องห่วง อีกไม่เกินสามวัน ฉันจะทำเม็ดพลังงานที่ถูกใจแกออกมาให้เอง”
“ย่าห์!”
พอหยาเป่าได้ยินแบบนั้น มันก็กลับมาดีใจอีกครั้งทันที
เฉียวซางที่ยืนมองอยู่ข้างๆ เห็นแล้วก็อดคิดไม่ได้ ว่าทำไมผู้ฝึกสัตว์อสูรที่ระดับสูงขึ้นถึงได้รับความนิยมจากสัตว์อสูรขนาดนี้…
ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้มีเรื่องต้องทำเยอะเกินไปละก็ เธอคงอยากจะไปฝึกเรียนรู้วิชานักพัฒนาสัตว์อสูรจากรองผู้อำนวยการสักหน่อย
…
บ่ายสามโมง
เฉียวซางทำสมาธิเสร็จเรียบร้อย หันไปมองซุนเป่าที่ยังคงเล่นคอมพิวเตอร์แบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เธอถึงกับกระตุกมุมปาก แล้วคิดจะบอกมันว่าฝึกเสร็จแล้วค่อยกลับมาเล่นต่อ...
“ติ๊งต่อง~”
แต่พอดีกับตอนนั้น กริ่งประตูก็ดังขึ้น
เฉียวซางเดินไปที่ประตู มองผ่านกล้องวงจรปิด เห็นว่าเป็นถังอี้จึงเปิดประตูให้
ทันทีที่ถังอี้เข้ามา เขาก็พูดขึ้นอย่างตื่นเต้นตรงประเด็นเลยว่า
“มาเริ่มการต่อสู้กันเถอะ!”
เฉียวซางเหลือบมองเวลาบนโทรศัพท์ ก่อนจะพูดขอโทษ
“เอาไว้ตอนเย็นเถอะนะ พอดีฉันต้องออกไปข้างนอกก่อน”
ถังอี้ได้ยินแบบนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นผิดหวัง “เธอจะไปไหนเหรอ?”
“ฉันหาโค้ชได้แล้ว จะไปฝึกฝนเพิ่มความสามารถในการป้องกันของตัวเองน่ะ” เฉียวซางตอบ
พอถังอี้ได้ยิน เขาก็นึกออกทันทีว่าเฉียวซางกำลังฝึกเพื่ออะไร เนื่องจากตัวเขาเองก็เคยมีประสบการณ์เรื่องสายสัมพันธ์สัตว์อสูรวิวัฒนาการมาก่อน
“งั้นฉันไปกับเธอด้วยแล้วกัน” ถังอี้พูดขึ้น “พอดีฉันก็อยากฝึกฝนความสามารถในการป้องกันอยู่เหมือนกัน”
“ได้สิ” เฉียวซางตอบรับ แล้วหันไปมองซุนเป่า
“ซุนเป่าพอได้แล้ว พวกเราจะไปฝึกกันก่อน”
“ซุนซุน!”
ซุนเป่ากำลังเล่นเกมลงดันเจี้ยนอยู่ แถมยังอยู่ในช่วงเวลาสำคัญพอดี มันเลยร้องขึ้นเสียงดัง
รอเดี๋ยว!
เฉียวซาง: “…”
ถ้าไม่ติดว่าซุนเป่ามันกำลังทำตามที่เธอสั่งนั่่นคือการใช้ควบคุมเงาทุกนาทีละก็ เธอคงจับมันส่งศูนย์บำบัดอาการติดเกมไปแล้ว…
ถังอี้มองตามสายตาของเฉียวซางไป แล้วก็ต้องตะลึง
“?!!”
ผีวงแหวนอาคม… เล่นคอมพิวเตอร์?!
เขาตกตะลึงไปชั่วขณะ สงสัยว่าตัวเองดูผิดไปรึเปล่า
ปกติสัตว์อสูรที่สามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้ไม่ใช่พวกประเภทจักรกลเหรอ?!
“ผีวงแหวนอาคมของเธอเล่นคอมเป็นด้วยเหรอ?” ถังอี้กลั้นความสงสัยเอาไว้ไม่ไหวจนต้องเอ่ยถามออกมา
เฉียวซางถอนหายใจ ก่อนจะพูดว่า “ฉันก็เพิ่งรู้เหมือนกัน…”
บ้าชะมัด! มันเล่นเป็นจริงๆ ด้วย… ถังอี้อึ้งไปหมด
“ซุนซุน……”
แต่แล้วซุนเป่าก็ชะงักไปเหมือนรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง มันหยุดพิมพ์แป้นพิมพ์ทันที
มันก้มลงไปมองนิ้วมือสั้นๆของตัวเองที่กำลังใช้ควบคุมเงาอยู่
จากนั้น… นิ้วมือของมันกระดิกเบาๆ
วินาทีต่อมาควบคุมเงาที่แต่เดิมเหมือนเศษผ้าสีดำพลันยืดยาวอย่างบ้าคลั่ง บิดเบี้ยว แยกตัวออกไปทั่ว
ในชั่วพริบตา เส้นเงาสีดำบางเฉียบก็พุ่งออกไปจนปกคลุมเกือบทั้งห้องนั่งเล่น ราวกับเส้นผมสีดำจำนวนนับไม่ถ้วน
ถังอี้ถึงกับช็อก ตกตะลึงจนสมองตามไม่ทัน
เดี๋ยวๆๆ ไม่ใช่ว่ากำลังเล่นคอมอยู่เหรอ?!
แล้วทำไมจู่ๆ ถึงกลายเป็นแบบนี้?!
นี่มัน… ควบคุมเงาเหรอ?!
ควบคุมเงามันสามารถละเอียดได้ขนาดนี้เลยเหรอ?!
เฉียวซางก็มองภาพตรงหน้าด้วยความตกตะลึง ก่อนจะเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ เธอรีบหลับตาลงแล้วจดจ่อสติไปยังตำราอสูร
หน้าสัญญาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็มาถึงหน้าของซุนเป่า
เฉียวซางกวาดตามองลงไป จนกระทั่งสายตาหยุดอยู่ที่ข้อมูลบรรทัดหนึ่ง
[ควบคุมเงา (ไร้ที่ติ 20000/20000)]
เฉียวซาง: “!!!”
ถึงจุดสูงสุดแล้วเหรอ?!
นี่มันฝึกจนถึงจุดสูงสุดแล้วจริงๆงั้นเหรอ?!
เฉียวซางตกใจแทบพูดไม่ออก
ทั้งที่เมื่อคืนเธอเพิ่งดูข้อมูลไปอยู่เลยว่าควบคุมเงาของซุนเป่ายังห่างจากจุดสูงสุดของขั้นไร้ที่ติอีกตั้ง… เดี๋ยวนะ…
จู่ๆ เฉียวซางก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ สีหน้ากลายเป็นซับซ้อนขึ้นมาทันที…
ถ้าซุนเป่าทำตามที่เธอบอกมาตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ใช้ควบคุมเงาทุกนาทีอย่างต่อเนื่อง มันก็คงจะสามารถฝึกจนถึงจุดสูงสุดได้จริงๆ…
แต่เดิม เฉียวซางคิดว่าถ้าตัวเองไม่ได้อยู่คอยจับตามอง ซุนเป่าต้องมีแอบอู้แหงๆ คงเล่นแต่เกมโดยไม่ใช้ควบคุมเงาทุกนาทีตามที่เธอสั่งแน่ๆ
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า… ซุนเป่าไม่ได้อู้เลยแม้แต่นิดเดียว แม้ว่าเธอจะไม่อยู่เฝ้ามันก็ตาม…
เฉียวซางถอนจิตสำนึกออกจากตำราอสูรแล้วกลับมาสู่ความเป็นจริง
ในตอนนี้ ซุนเป่าได้เก็บควบคุมเงากลับไปหมดแล้ว
“ซุนซุน……”
มันยื่นอุ้งมือของตัวเองออกมาหาเธอ สีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย
เฉียวซางยิ้มบางๆ แล้วพูดด้วยเสียงอ่อนโยน “ไม่เป็นไรหรอก แค่จะบอกว่าแกฝึกควบคุมเงาถึงระดับที่ฉันต้องการแล้ว”
“ซุนซุน~”
ซุนเป่าได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มกว้างออกมาทันทีด้วยความดีใจ
จากนั้นมันก็ก้มลงไป เตรียมจะกลับไปเล่นดันเจี้ยนต่อให้จบ
“พอได้แล้ว” เฉียวซางพูดขึ้น “พักผ่อนให้ดี ตอนกลางคืนมีเรื่องสำคัญที่ต้องทำ”
ซุนเป่าที่ยิ้มอยู่เมื่อกี้ ปากหุบลงในพริบตา สีหน้าหม่นลงอย่างเห็นได้ชัด
เฉียวซางหันไปมองถังอี้แล้วพูดว่า
“งั้นเรามาสู้กันสักรอบเลยไหม?”
“หา?” ถังอี้อึ้งไป “ไม่ใช่ว่าเธอบอกว่าจะออกไปฝึกการป้องกันเหรอ?”
“วันนี้ไม่ไปแล้ว” เฉียวซางยิ้ม “ซุนเป่าต้องพักเอาแรงไว้ทำเรื่องอื่น”
ถังอี้ถึงแม้จะไม่เข้าใจว่าผีวงแหวนอาคมเกี่ยวอะไรกับการฝึกป้องกันของเฉียวซาง แต่พอรู้ว่าตัวเองกำลังจะได้สู้กับเฉียวซาง เขาก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที
“ฉันบอกเลยนะ ตอนนี้ฉันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว! ฉันฝึกหนักมาตลอดช่วงนี้…”
“ย่าห์!”
ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ หยาเป่าก็เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นอย่างช้าๆ
ถังอี้เงยหน้าขึ้นมองสัตว์อสูรที่เดินเข้ามา แล้วเสียงของเขาก็ขาดหายไปทันที