ตอนที่แล้วบทที่ 702: ไม่ใช่ว่านายอยากแข่งมาตลอดเหรอ?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 704: ประลองอีกครั้งกับถังอี้

บทที่ 703: ตอนกลางคืนมีเรื่องสำคัญต้องทำ


เช้าวันรุ่งขึ้น เวลาประมาณแปดโมง

เฉียวซางตื่นนอน ล้างหน้าล้างตาอย่างง่ายๆ แล้วเดินออกไปที่ห้องนั่งเล่น

ทันทีที่ออกมาก็เห็นซุนเป่ายังคงนั่งเล่นคอมพิวเตอร์อยู่ ข้างๆมีขวดเปล่าของน้ำยาฟื้นฟูพลังงานกองอยู่เต็มไปหมด

ตื่นมาแล้วเห็นซุนเป่าโหมฝึกซ้อมข้ามคืนแบบนี้... เฉียวซางถึงกับรู้สึกตาลายไปชั่วขณะ

“ซุนซุน……”

ซุนเป่าได้ยินเสียงก็เงยหน้าขึ้น พอเห็นว่าเป็นผู้ฝึกสัตว์อสูรของตัวเอง ก็รีบสะบัดควบคุมเงาออกไปโดยอัตโนมัติ แล้วทำท่าจะปิดคอมพิวเตอร์

“ไม่ต้องปิด!” เฉียวซางรีบห้ามไว้ “เล่นต่อไปเถอะ!”

“ซุนซุน!”

ซุนเป่าอึ้งไปนิดหน่อย แต่ก็ร้องเสียงใสอย่างดีใจ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาใช้ควบคุมเงาต่อ

ฝึกแบบนี้ไปเรื่อยๆ อีกไม่กี่วันก็น่าจะฝึกควบคุมเงาจนถึงระดับไร้ที่ติได้แล้วสินะ… เฉียวซางคิดเล็กน้อย แล้วก็ตัดสินใจยกเลิกแผนที่จะไปฝึกที่สโมสรหลังอาหารเช้า

ในเมื่อซุนเป่าหายากนักที่จะตั้งใจฝึกขนาดนี้ ก็คงไม่ต้องไปขัดมัน รอให้มันเหนื่อยเองก่อนค่อยว่ากัน…

เวลาค่อยๆ ผ่านไปจนถึงสิบเอ็ดโมง ซุนเป่ายังนั่งเล่นคอมพิวเตอร์พลางใช้ควบคุมเงาไม่หยุด

เฉียวซางเห็นแล้วก็อดรู้สึกทึ่งไม่ได้

หลิวเหยาหิ้วถาดที่มีเม็ดพลังงานที่ตัวเองยุ่งอยู่กับการทำมาตลอดเช้าออกมา พร้อมพูดขึ้นว่า

“ใกล้เที่ยงแล้ว เรียกผีวงแหวนอาคมมากินข้าวก่อนเถอะ”

เฉียวซางพยักหน้า ก่อนจะหันไปเรียก

“ซุนเป่ามากินก่อน ค่อยเล่นต่อ”

ซุนเป่าไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมา แค่ยกนิ้วมือสั้นๆขึ้นมานิดเดียว เงาดำก็พุ่งออกไปพันจานที่วางเม็ดพลังงานไว้ แล้วกระชากเข้ามาหาตัว

“ซุนซุน~”

มันร้องเสียงสดใส ราวกับจะบอกว่าไม่เป็นไร มันกินไปเล่นไปได้

พูดจบ มือหนึ่งของมันก็ใช้ควบคุมเงาพิมพ์แป้นพิมพ์ ขณะที่อีกข้างใช้ควบคุมเงาคีบเม็ดพลังงานเข้าปากตัวเอง

เฉียวซาง: “……”

สุดยอด…

หลิวเหยาอ้าปากเหมือนอยากพูดอะไร แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะเงียบแล้วเดินกลับไปที่ห้องครัว หยิบถาดที่มีเม็ดพลังงานของลู่เป่ากับตัวอื่นๆออกมา

หยาเป่าตื่นเต้นรออยู่ตั้งนาน กว่าจะได้เห็นถาดของตัวเองถูกยกมา มันก็ก้มลงไปดมอย่างดีใจ แต่พอได้กลิ่นมันก็รู้ได้ทันทีว่ายังคงเป็นเม็ดพลังงานแบบเดียวกับที่มันกินมาตลอดช่วงนี้ ทันใดนั้นหางของมันก็ตกลงอย่างหงอยเหงา

“ย่าห์ ย่าห์……”

คราวนี้ หลิวเหยาเข้าใจอารมณ์ของหยาเป่าทันที เขาหัวเราะพลางพูดว่า

“เม็ดพลังงานของสัตว์อสูรระดับขั้นนายพลมันไม่ได้ทำเสร็จในวันเดียวหรอก ไม่ต้องห่วง อีกไม่เกินสามวัน ฉันจะทำเม็ดพลังงานที่ถูกใจแกออกมาให้เอง”

“ย่าห์!”

พอหยาเป่าได้ยินแบบนั้น มันก็กลับมาดีใจอีกครั้งทันที

เฉียวซางที่ยืนมองอยู่ข้างๆ เห็นแล้วก็อดคิดไม่ได้ ว่าทำไมผู้ฝึกสัตว์อสูรที่ระดับสูงขึ้นถึงได้รับความนิยมจากสัตว์อสูรขนาดนี้…

ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้มีเรื่องต้องทำเยอะเกินไปละก็ เธอคงอยากจะไปฝึกเรียนรู้วิชานักพัฒนาสัตว์อสูรจากรองผู้อำนวยการสักหน่อย

บ่ายสามโมง

เฉียวซางทำสมาธิเสร็จเรียบร้อย หันไปมองซุนเป่าที่ยังคงเล่นคอมพิวเตอร์แบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เธอถึงกับกระตุกมุมปาก แล้วคิดจะบอกมันว่าฝึกเสร็จแล้วค่อยกลับมาเล่นต่อ...

“ติ๊งต่อง~”

แต่พอดีกับตอนนั้น กริ่งประตูก็ดังขึ้น

เฉียวซางเดินไปที่ประตู มองผ่านกล้องวงจรปิด เห็นว่าเป็นถังอี้จึงเปิดประตูให้

ทันทีที่ถังอี้เข้ามา เขาก็พูดขึ้นอย่างตื่นเต้นตรงประเด็นเลยว่า

“มาเริ่มการต่อสู้กันเถอะ!”

เฉียวซางเหลือบมองเวลาบนโทรศัพท์ ก่อนจะพูดขอโทษ

“เอาไว้ตอนเย็นเถอะนะ พอดีฉันต้องออกไปข้างนอกก่อน”

ถังอี้ได้ยินแบบนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นผิดหวัง “เธอจะไปไหนเหรอ?”

“ฉันหาโค้ชได้แล้ว จะไปฝึกฝนเพิ่มความสามารถในการป้องกันของตัวเองน่ะ” เฉียวซางตอบ

พอถังอี้ได้ยิน เขาก็นึกออกทันทีว่าเฉียวซางกำลังฝึกเพื่ออะไร เนื่องจากตัวเขาเองก็เคยมีประสบการณ์เรื่องสายสัมพันธ์สัตว์อสูรวิวัฒนาการมาก่อน

“งั้นฉันไปกับเธอด้วยแล้วกัน” ถังอี้พูดขึ้น “พอดีฉันก็อยากฝึกฝนความสามารถในการป้องกันอยู่เหมือนกัน”

“ได้สิ” เฉียวซางตอบรับ แล้วหันไปมองซุนเป่า

“ซุนเป่าพอได้แล้ว พวกเราจะไปฝึกกันก่อน”

“ซุนซุน!”

ซุนเป่ากำลังเล่นเกมลงดันเจี้ยนอยู่ แถมยังอยู่ในช่วงเวลาสำคัญพอดี มันเลยร้องขึ้นเสียงดัง

รอเดี๋ยว!

เฉียวซาง: “…”

ถ้าไม่ติดว่าซุนเป่ามันกำลังทำตามที่เธอสั่งนั่่นคือการใช้ควบคุมเงาทุกนาทีละก็ เธอคงจับมันส่งศูนย์บำบัดอาการติดเกมไปแล้ว…

ถังอี้มองตามสายตาของเฉียวซางไป แล้วก็ต้องตะลึง

“?!!”

ผีวงแหวนอาคม… เล่นคอมพิวเตอร์?!

เขาตกตะลึงไปชั่วขณะ สงสัยว่าตัวเองดูผิดไปรึเปล่า

ปกติสัตว์อสูรที่สามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้ไม่ใช่พวกประเภทจักรกลเหรอ?!

“ผีวงแหวนอาคมของเธอเล่นคอมเป็นด้วยเหรอ?” ถังอี้กลั้นความสงสัยเอาไว้ไม่ไหวจนต้องเอ่ยถามออกมา

เฉียวซางถอนหายใจ ก่อนจะพูดว่า “ฉันก็เพิ่งรู้เหมือนกัน…”

บ้าชะมัด! มันเล่นเป็นจริงๆ ด้วย… ถังอี้อึ้งไปหมด

“ซุนซุน……”

แต่แล้วซุนเป่าก็ชะงักไปเหมือนรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง มันหยุดพิมพ์แป้นพิมพ์ทันที

มันก้มลงไปมองนิ้วมือสั้นๆของตัวเองที่กำลังใช้ควบคุมเงาอยู่

จากนั้น… นิ้วมือของมันกระดิกเบาๆ

วินาทีต่อมาควบคุมเงาที่แต่เดิมเหมือนเศษผ้าสีดำพลันยืดยาวอย่างบ้าคลั่ง บิดเบี้ยว แยกตัวออกไปทั่ว

ในชั่วพริบตา เส้นเงาสีดำบางเฉียบก็พุ่งออกไปจนปกคลุมเกือบทั้งห้องนั่งเล่น ราวกับเส้นผมสีดำจำนวนนับไม่ถ้วน

ถังอี้ถึงกับช็อก ตกตะลึงจนสมองตามไม่ทัน

เดี๋ยวๆๆ ไม่ใช่ว่ากำลังเล่นคอมอยู่เหรอ?!

แล้วทำไมจู่ๆ ถึงกลายเป็นแบบนี้?!

นี่มัน… ควบคุมเงาเหรอ?!

ควบคุมเงามันสามารถละเอียดได้ขนาดนี้เลยเหรอ?!

เฉียวซางก็มองภาพตรงหน้าด้วยความตกตะลึง ก่อนจะเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ เธอรีบหลับตาลงแล้วจดจ่อสติไปยังตำราอสูร

หน้าสัญญาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็มาถึงหน้าของซุนเป่า

เฉียวซางกวาดตามองลงไป จนกระทั่งสายตาหยุดอยู่ที่ข้อมูลบรรทัดหนึ่ง

[ควบคุมเงา (ไร้ที่ติ 20000/20000)]

เฉียวซาง: “!!!”

ถึงจุดสูงสุดแล้วเหรอ?!

นี่มันฝึกจนถึงจุดสูงสุดแล้วจริงๆงั้นเหรอ?!

เฉียวซางตกใจแทบพูดไม่ออก

ทั้งที่เมื่อคืนเธอเพิ่งดูข้อมูลไปอยู่เลยว่าควบคุมเงาของซุนเป่ายังห่างจากจุดสูงสุดของขั้นไร้ที่ติอีกตั้ง… เดี๋ยวนะ…

จู่ๆ เฉียวซางก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ สีหน้ากลายเป็นซับซ้อนขึ้นมาทันที…

ถ้าซุนเป่าทำตามที่เธอบอกมาตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ใช้ควบคุมเงาทุกนาทีอย่างต่อเนื่อง มันก็คงจะสามารถฝึกจนถึงจุดสูงสุดได้จริงๆ…

แต่เดิม เฉียวซางคิดว่าถ้าตัวเองไม่ได้อยู่คอยจับตามอง ซุนเป่าต้องมีแอบอู้แหงๆ คงเล่นแต่เกมโดยไม่ใช้ควบคุมเงาทุกนาทีตามที่เธอสั่งแน่ๆ

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า… ซุนเป่าไม่ได้อู้เลยแม้แต่นิดเดียว แม้ว่าเธอจะไม่อยู่เฝ้ามันก็ตาม…

เฉียวซางถอนจิตสำนึกออกจากตำราอสูรแล้วกลับมาสู่ความเป็นจริง

ในตอนนี้ ซุนเป่าได้เก็บควบคุมเงากลับไปหมดแล้ว

“ซุนซุน……”

มันยื่นอุ้งมือของตัวเองออกมาหาเธอ สีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย

เฉียวซางยิ้มบางๆ แล้วพูดด้วยเสียงอ่อนโยน “ไม่เป็นไรหรอก แค่จะบอกว่าแกฝึกควบคุมเงาถึงระดับที่ฉันต้องการแล้ว”

“ซุนซุน~”

ซุนเป่าได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มกว้างออกมาทันทีด้วยความดีใจ

จากนั้นมันก็ก้มลงไป เตรียมจะกลับไปเล่นดันเจี้ยนต่อให้จบ

“พอได้แล้ว” เฉียวซางพูดขึ้น “พักผ่อนให้ดี ตอนกลางคืนมีเรื่องสำคัญที่ต้องทำ”

ซุนเป่าที่ยิ้มอยู่เมื่อกี้ ปากหุบลงในพริบตา สีหน้าหม่นลงอย่างเห็นได้ชัด

เฉียวซางหันไปมองถังอี้แล้วพูดว่า

“งั้นเรามาสู้กันสักรอบเลยไหม?”

“หา?” ถังอี้อึ้งไป “ไม่ใช่ว่าเธอบอกว่าจะออกไปฝึกการป้องกันเหรอ?”

“วันนี้ไม่ไปแล้ว” เฉียวซางยิ้ม “ซุนเป่าต้องพักเอาแรงไว้ทำเรื่องอื่น”

ถังอี้ถึงแม้จะไม่เข้าใจว่าผีวงแหวนอาคมเกี่ยวอะไรกับการฝึกป้องกันของเฉียวซาง แต่พอรู้ว่าตัวเองกำลังจะได้สู้กับเฉียวซาง เขาก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที

“ฉันบอกเลยนะ ตอนนี้ฉันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว! ฉันฝึกหนักมาตลอดช่วงนี้…”

“ย่าห์!”

ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ หยาเป่าก็เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นอย่างช้าๆ

ถังอี้เงยหน้าขึ้นมองสัตว์อสูรที่เดินเข้ามา แล้วเสียงของเขาก็ขาดหายไปทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด