บทที่ 102 โคซิส
"ท่านเจ้าเมืองส่งคนมามอบจดหมายและขอให้ข้าส่งต่อถึงท่าน"
ชายชราผมทองตรงหน้ากล่าวด้วยท่าทีเคารพ เขาก้มศีรษะเล็กน้อยก่อนยื่นจดหมายในมือให้
อาเดียร์รับจดหมายมาอย่างไม่ใส่ใจนัก ก่อนจะเปิดออกดู ด้านในมีแผ่นกระดาษสีเหลืองอ่อนที่มีเนื้อหาบางอย่างเขียนเป็นภาษากูบา
เขาพลิกมันดูอย่างคร่าว ๆ และอ่านจบอย่างรวดเร็ว
"จดหมายเชิญงั้นหรือ?"
หลังจากอ่านจดหมายทั้งฉบับแล้ว อาเดียร์พึมพำกับตัวเอง พลางขมวดคิ้วเล็กน้อย
จดหมายฉบับนี้เป็นจดหมายเชิญ ในนามแล้วมันเป็นการเชื้อเชิญให้เขาในฐานะขุนนางหน้าใหม่แห่งเมืองเกราะโบราณไปเยี่ยมคฤหาสน์ของเจ้าเมือง
แต่หากพินิจให้ลึกลงไป คงไม่มีทางที่เจ้าเมืองผู้ยิ่งใหญ่แห่งเมืองเกราะโบราณจะเชื้อเชิญขุนนางตัวน้อยแปลกหน้าไปยังบ้านของตนโดยไม่มีเหตุผลเป็นแน่ ย่อมต้องมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝงอยู่
"ช่างเถิด อย่างไรเสียเราก็ต้องพบเขาสักวันอยู่แล้ว ในเมื่อเขาเป็นฝ่ายส่งเทียบเชิญมาก่อน ก็ไม่มีอะไรเสียหายหากจะไปดูสักหน่อย"
อาเดียร์วางจดหมายลงบนโต๊ะไม้ตรงหน้า ขณะที่ความคิดนี้แวบเข้ามาในหัว
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เขาหันไปทางชายชราผมทองที่ยังคงยืนรออยู่
"บักก์ ผู้ส่งสารยังอยู่หรือไม่?"เขาเอ่ยถาม
"เขายังคงรออยู่ที่ห้องรับแขก รอคำตอบจากท่านขอรับ" บักก์พยักหน้าตอบ
"ฝากบอกเขาว่า ข้าจะไปตามกำหนดในอีกสามวัน ให้เขากล่าวขอบคุณท่านเจ้าเมืองแทนข้าด้วย สำหรับคำเชิญอันใจกว้างของเขา"
อาเดียร์กล่าวเรียบ ๆ
ชายชราผมทองโค้งศีรษะ ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง
เมื่อร่างของบักก์ลับสายตาของเขาไป อาเดียร์ก็หันหลังกลับและเดินกลับเข้าไปในห้อง
สามวันต่อมา
ยามเที่ยง อาเดียร์นั่งอยู่ในรถม้า ค่อย ๆ เคลื่อนตัวไปยังคฤหาสน์หลังหนึ่งอย่างช้าๆ
ข้าง ๆ รถม้า เอลเดอร์และบรรดาทหารรักษาการณ์ เดินขนาบเฝ้าระวังรถม้าอย่างเงียบงัน ขณะที่ด้านหน้าขบวนมีอัศวินในชุดล่าสัตว์สีแดงควบม้านำทาง
เขาคือผู้ส่งสารที่เจ้าเมืองเกราะโบราณส่งมา เพื่อเป็นผู้นำทางพาอาเดียร์ไปยังที่พักของเจ้าเมือง
หลังจากนั้นไม่นานนัก อาเดียร์และขบวนก็มาถึงด้านหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่แห่งหนึ่ง
"ท่านครับ เรามาถึงคฤหาสน์ของท่านเจ้าเมืองแล้ว ท่านสามารถพาผู้ติดตามเข้าไปได้เพียงสองคน"
อัศวินในชุดล่าสัตว์สีแดงหันกลับมาบอก ก่อนเสริมว่า
"สำหรับทหารที่เหลือคนอื่นๆของท่าน พวกเราจะจัดการดูแลพวกเขาให้ เช่นนั้น โปรดวางใจ"
"ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ" อาเดียร์พยักหน้าก่อนหันไปมองด้านหลัง "เอลเดอร์, กรู จงมากับข้า"
ภายใต้สายตาอิจฉาของบรรดาทหารรักษาการณ์ เอลเดอร์และกรูก้าวออกมาและเดินตามอาเดียร์ไปอย่างเงียบ ๆ
ภายในคฤหาสน์ พวกเขาเดินผ่านทางเดินยาว และเมื่อถึงปลายทาง ก็พบร่างสูงใหญ่กำลังยืนรออยู่
บุรุษตรงหน้าคือชายวัยกลางคน รูปร่างสูงโปร่ง ผมสีทอง สวมอาภรณ์ขุนนาง ร่างกายแข็งแกร่งทรงพลัง แผ่กลิ่นอายกดดันออกมาอย่างชัดเจน
ราวกับรู้สึกได้ถึงการมาถึงของอาเดียร์และพวก เขาจึงเงยหน้าขึ้นและมองตรงมาทางอาเดียร์
สายตาของทั้งสองสบกันในทันที
ในขณะนั้น ดวงตาของชายร่างสูงเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย ก่อนเขาจะเผยรอยยิ้มแล้วก้าวเข้ามา
"ฮ่า ๆ ท่านต้องเป็นแขกของข้าแน่ ๆ!"
เสียงหัวเราะดังขึ้น พร้อมกับน้ำเสียงทุ้มกึกก้องไปไกล
"ขอแนะนำตัวก่อน ข้าชื่อโคซิส อิสเทอร์ เจ้าเมืองแห่งเมืองเกราะโบราณ ยินดีที่ได้พบ!"
"ข้าชื่อ อาเดียร์ ฟาร์คัส ขอบคุณสำหรับคำเชิญของท่าน"
อาเดียร์ยิ้มตอบกลับ โดยไม่หวั่นไหวต่ออำนาจที่อีกฝ่ายแผ่ออกมาแม้แต่น้อย
"ชื่อ: โคซิส อิสเทอร์ ความแข็งแกร่ง: 7.8 ความว่องไว: 7.6 ร่างกาย: 8.0"
ในชั่วพริบตา ข้อมูลทางกายภาพของอีกฝ่ายก็ปรากฏขึ้นในสายตาของอาเดียร์
เขาคือสุดยอดอัศวินระดับสูง ด้วยค่าพลังกายภาพเหล่านี้ ถ้าเป็นเพียงแค่พ่อมดฝึกหัดระดับ 2 ธรรมดา ๆ เพียงเข้าใกล้อีกฝ่ายก็อาจจะจบชีวิตลงได้ง่าย ๆ
แต่ถ้าหากเป็นอาเดียร์ล่ะก็ เรื่องคงกลับกัน…
เมื่อได้ยินคำพูดของอาเดียร์ รอยยิ้มบนใบหน้าของโคซิสก็กว้างขึ้น โคซิสเดินเข้ามาและกอดอาเดียร์แน่น
"ที่นี่ไม่สะดวกคุยกันนัก เชิญเข้าไปด้านในเถอะ"เขาหันไปมองทหารรักษาการณ์จำนวนมากที่อยู่รอบๆตัว รวมถึง เอลเดอร์และชายอีกสองคนที่อยู่ด้านหลังอาเดียร์ จึงอดไม่ได้ที่จะกล่าวขึ้นมา
สำหรับเรื่องนี้ อาเดียร์ไม่ได้คัดค้านสิ่งใด อาเดียร์เพียงพยักหน้า ก่อนจะเดินตามเขาเข้าไป
หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็เดินเข้ามาถึงห้องภายใน
ภายในห้องตกแต่งอย่างหรูหรา พอมาถึงที่นี่คนก็น้อยลงอย่างเห็นได้ชัด มีเพียงหญิงรับใช้สองคนยืนอยู่ ไม่มีคนอื่นอีก
อาเดียร์เหลือบมองไปยังมุมหนึ่งของห้องอย่างครุ่นคิด พลางเอ่ยถาม
"ท่านเจ้าเมือง ท่านรู้เรื่องของข้าได้อย่างไร?"
แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดตรง ๆ แต่ทั้งอาเดียร์และโคซิสต่างก็เข้าใจความหมายของคำพูดนี้ดี
"ฮ่า ๆ"เมื่อได้ยินความสงสัยของอาเดียร์ โคซิสหัวเราะก่อนโบกมือให้หญิงรับใช้สองคนในห้องออกไป
หลังจากพวกนางทั้งสองออกไป ร่างหนึ่งในชุดคลุมสีดำก็ก้าวออกมาจากเงามืด
เนื่องจากเขาสวมหมวกคลุมและก้มหัวลง อาเดียร์จึงไม่สามารถมองเห็นรูปร่างหน้าตาของชายคนนั้นได้อย่างชัดเจนจนกระทั่งเขามาอยู่ตรงหน้าเขา
ชายลึกลับมีใบหน้าเน่าเปื่อย น่าสยดสยองเหมือนดังศพ และในเบ้าตาของใบหน้าของเขา มีดวงตาสีดำสนิทที่ดูผิดปกติอย่างเห็นได้ชัดคู่หนึ่งจ้องมองไปที่ อาเดียร์ อย่างเงียบๆ ดูแปลกประหลาดและลึกลับ
เมื่อเห็นใบหน้าของเขา อาเดียร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย แม้เขาจะไม่หวาดกลัว แต่ก็อดรู้สึกขยะแขยงไม่ได้
อย่างไรก็ตาม คลื่นพลังเวทมนตร์จากร่างของอีกฝ่ายนั้นแข็งแกร่งมาก มากกว่าของอาเดียร์ และอยู่ในระดับของพ่อมดฝึกหัดระดับ 3
"ขออภัยที่รูปลักษณ์ข้าดูไม่น่าพิสมัยนัก"
เมื่อเห็นท่าทางบนใบหน้าของ อาเดียร์ ชายในชุดคลุมสีดำก็ยักไหล่ แล้วรอยยิ้มที่น่ากลัวก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่เน่าเปื่อยของเขา พลางกล่าว "ขอแนะนำตัวก่อน ข้าชื่อ โมกรา อิสซูร์ พ่อมดฝึกหัดระดับ 3"
"อาเดียร์ ฟาร์คัส พ่อมดฝึกหัดระดับ 2"
อาเดียร์พยักหน้าตอบและกล่าวแนะนำตัวเอง
"โมกราคือญาติของข้า" โคซิสที่อยู่ด้านข้างกล่าวเสริม "เมืองเกราะโบราณของเรารกร้างมาก เพราะมีสงครามเกิดขึ้นอยู่เสมอ ขุนนางท้องถิ่นมากมายได้อพยพหนีไป จึงเป็นธรรมดาที่ข้าจะให้ความสนใจขุนนางหน้าใหม่ทุกคนที่เข้ามาตั้งหลักแหล่งที่นี่ และข้าไม่คาดว่าจะเจอเจ้า"เขาจ้องมองอาเดียร์และอธิบายอย่างอดทน
อาเดียร์พยักหน้าเข้าใจ
"ก็สมเหตุสมผลดี ที่ขั้นตอนการซื้อทรัพย์สินเหล่านั้นจะเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ดูเหมือนว่าเป็นเพราะเจ้าเมือง"
"เป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น" ในตอนนั้นเอง โมกราที่อยู่ด้านข้างก็พูดขึ้นมา "สำหรับพวกเราแล้ว ทรัพย์สินของมนุษย์ธรรมดาก็ไม่มีค่าอะไรเลย"
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ อาเดียร์พยักหน้าเห็นด้วย
แท้จริงแล้วเหล่าพ่อมดและมนุษย์ปุถุชนนั้นอยู่กันคนละระดับ แม้แต่เพียงเป็นพ่อมดฝึกหัดก็ตาม หากต้องการความมั่งคั่งในโลกมนุษย์ก็สามารถหาได้อย่างง่ายดาย
ยังไม่นับความสามารถของพวกเขาเอง แค่เพียงคริสตัลเวทมนตร์ที่เหล่าพ่อมดใช้ ก็มีค่ามากพอให้มนุษย์จำนวนมากยอมจ่ายเป็นพัน ๆ เหรียญทองเพื่อครอบครอง
"พูดถึงเรื่องนี้แล้ว นอกจากลูกพี่ลูกน้องของข้า ท่านเป็นหนึ่งในไม่กี่พ่อมดฝึกหัดที่เลือกจะตั้งรกรากอยู่ในเมืองเกราะโบราณ"
โคซิสถอนหายใจขณะมองไปที่อาเดียร์
"มีพ่อมดฝึกหัดในเมืองนี้น้อยขนาดนั้นเลยหรือ?" อาเดียร์มองสีหน้าของเขาก่อนถามขึ้น
"ใช่" โมกราพยักหน้า "ในเมืองเกราะโบราณแห่งนี้ ข้ามีระดับ 3 เพียงคนเดียว นอกจากข้าแล้วก็มีพ่อมดฝึกหัดระดับ 2 อีกเพียงสามคนเท่านั้น ซึ่งแต่ละคนต่างก็เป็นตัวแทนสังกัดโรงเรียนเวทมนตร์เล็ก ๆ ที่แยกกันอยู่"
"มีน้อยมากขนาดนั้นเลยหรือ?" เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย อาเดียร์ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว
จำนวนพ่อมดในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง มักสะท้อนถึงทรัพยากรของพื้นที่นั้น
ในเมื่อเมืองนี้มีพ่อมดฝึกหัดอยู่น้อยมาก ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าเมืองนี้ขาดแคลนทรัพยากรที่เกี่ยวข้องกับเวทมนตร์มาก
โมกราสังเกตเห็นท่าทีของอาเดียร์จึงกล่าวต่อ "พ่อมดฝึกหัดในเมืองนี้มักจะจัดการชุมนุมกันเป็นระยะ ท่านสามารถมาร่วมกับพวกเราได้ในครั้งหน้า"
"ขอบคุณ เช่นนั้นข้าคงต้องรบกวนท่านโมกรา" อาเดียร์กล่าวพร้อมรอยยิ้ม
หลังจากทั้งสามคนพูดคุยกันสักพัก เมื่อถึงเวลาอาหารกลางวัน พวกเขาก็รับประทานอาหารกลางวันร่วมกันที่คฤหาสน์ของโคซิส ก่อนจะแยกย้ายกันไป
ในไม่ช้าก็สามเดือนต่อมา
ในเช้าตรู่วันหนึ่ง อาเดียร์กำลังฝึกดาบอยู่ ณ ลานฝึกขนาดกว้างใหญ่
เบื้องหน้าเขา เอลเดอร์ในชุดฝึกรัดรูปสีขาวแนบตัว กำลังมองดูอาเดียร์ด้วยสีหน้าตื่นเต้นปนประหม่า
"เจ้าจงสังเกตมันให้ดี"
หลังจากฝึกไปได้สักพัก อาเดียร์หยุดการเคลื่อนไหว วางดาบในมือกลับเข้าที่ชั้นวางอาวุธข้างๆเขา และหันไปพูดกับเอลเดอร์ที่อยู่เบื้องหลัง
"เอาล่ะ ลองทำดูสิ"
"ข้าเห็นมันชัดเจนแล้ว!"เมื่อฟังคำพูดของอาเดียร์ เอลเดอร์พยักหน้ารัว ๆ สีหน้าของเขาที่เคยแข็งทื่อ ตอนนี้เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น
เมื่อได้รับสัญญาณจากอาเดียร์ เขาก็รีบเดินไปด้านข้าง ดึงดาบยาวออกมาจากชั้นวางอย่างรวดเร็ว ก่อนจะยืนกลางลานฝึก และเริ่มกวัดแกว่งดาบด้วยสีหน้าจริงจัง
การเคลื่อนไหวของเขานั้นคล้ายคลึงกับของอาเดียร์ แต่ยังมีหลายจุดที่ไม่สมบูรณ์แบบ และมีข้อผิดพลาดมากมายในรายละเอียดหลายประการ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นพัฒนาการของเอลเดอร์ อาเดียร์ก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ
"ฝึกมาถึงระดับนี้ได้ในเวลาแค่สามเดือน ถือว่าใช้ได้ทีเดียว
[ชื่อ: เอลเดอร์]
[ความแข็งแกร่ง: 2.3]
[ความคล่องตัว: 2.2]
[ร่างกาย: 2.4]
ในชั่วขณะหนึ่ง ข้อมูลทางกายภาพของเอลเดอร์ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของอาเดียร์
เมื่อเปรียบเทียบกับสามเดือนก่อนแล้ว เขาดูเหมือนเป็นคนละคน
"ดูเหมือนว่าเทคนิคฝึกลมหายใจของอัศวินที่ ชิปดัดแปลงมาในครั้งนี้ จะสามารถใช้กับคนทั่วไปได้จริง ๆ"
เมื่อมองดูความก้าวหน้าของอีกฝ่าย อาเดียร์คิดพลางพยักหน้ากับตัวเอง
ก่อนหน้านี้ ในอดีต ตอนที่เขาเพิ่งมาถึงโลกนี้ เขาได้รวบรวมเทคนิคฝึกลมหายใจของอัศวินหลากหลายรูปแบบ และใช้ ชิปในการวิเคราะห์และพัฒนาเทคนิค "เดียร์" ให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม อาเดียร์ก็เป็นลูกครึ่งเอลฟ์ และแม้ว่าโครงสร้างร่างกายของเขาจะคล้ายคลึงกับมนุษย์ทั่วไป แต่ก็ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยมากมายที่แตกต่างกันอยู่
เทคนิคลมหายใจ "เดียร์" ดั้งเดิมถูกออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับร่างกายของเขาโดยเฉพาะ แม้ว่ามนุษย์ทั่วไปจะสามารถฝึกตามได้ แต่อาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีเท่าเขา
ด้วยเหตุนี้ ในช่วงเวลาว่างที่อยู่ในเมืองเกราะโบราณ อาเดียร์จึงใช้ ชิป เพื่อดัดแปลงเทคนิคลมหายใจ "เดียร์" ใหม่ ให้เหมาะกับโครงสร้างร่างกายของมนุษย์มากขึ้น
และจากผลลัพธ์ของเอลเดอร์ อาเดียร์ก็สามารถมั่นใจได้ว่า เทคนิคที่ปรับปรุงใหม่นี้ ใช้ได้ผลอย่างแน่นอน