ตอนที่แล้วบทที่ 696: ถ้านี่คือความปรารถนา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 698: แค่รู้สึกว่าฉันเข้าใจแล้ว

บทที่ 697: ฉันเห็นหมดแล้ว


เงาดำรัดร่างชายที่กระดูกหักให้ลอยอยู่กลางอากาศ

"ทำ…ไม…"

เด็กผู้หญิงเอ่ยถามอีกครั้ง

"ช่วยฉัน!ช่วยฉันด้วย!" ชายคนนั้นกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง

เมื่อทุกคนเห็นสภาพของชายผู้นั้นต่างหันไปมองหน้ากันด้วยความหวาดกลัวอย่างรุนแรงจนอดไม่ได้ที่จะถอยหลัง

พวกเขาอยากช่วยก็จริง แต่เงื่อนไขคือต้องไม่ทำให้ตัวเองซวยไปด้วย

แต่ตอนนี้ดูจากสภาพแล้วคนที่มีพลังอาฆาตแรงกล้าตรงหน้านี้กลับเล่นงานชายคนนั้นจนกระดูกหักพวกเขากลัวว่าถ้าออกตัวช่วยอาจจะเป็นตัวเองที่ต้องเจอชะตากรรมเดียวกัน

ชายที่ถูกแขวนอยู่กลางอากาศเห็นว่าไม่มีใครเข้ามาช่วยใบหน้าของเขาซีดขาวราวกับกระดาษแววตาเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นและสิ้นหวัง

แต่เด็กผู้หญิงไม่รอให้เขาตอบ

เธอยกมือขึ้นทันทีก่อนที่ลูกบอลพลังงานสีดำขนาดใหญ่จะก่อตัวขึ้น

"มีคนบังคับฉัน!" ชายคนนั้นจ้องมองเด็กผู้หญิงอย่างหวาดกลัวและตะโกนออกมา

"ยังจำป้าลาติฟาได้ไหม? เธอบังคับฉัน! ฉันไม่อยากทำ! เธอเป็นคนสั่งให้ฉันราดน้ำมันพฤกษาปะการังใส่เสื้อผ้าของพวกเธอ! ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนที่เธอควรไปหาต่างหากไม่ใช่ฉัน!"

เมื่อคำพูดนี้ดังขึ้นทุกคนในที่นั้นถึงกับสมองว่างเปล่าไปชั่วขณะ

ความเย็นยะเยือกไหลผ่านเข้ามาในใจของทุกคน

จากที่ได้ยินหมายความว่าหมอนี่เป็นคนลงมือฆ่าลูกของตัวเองอย่างนั้นเหรอ?

….

สังเวียนออกัสต์

ผู้ชมเงียบงันไปชั่วครู่ก่อนที่เปลวเพลิงแห่งโทสะจะลุกโชนในดวงตา พวกเขาตะโกนด่าทอออกมาอย่างบ้าคลั่ง คำหยาบสารพัดจะนึกออกถูกพ่นออกมาไม่หยุด

"ค**เหอะ! ฉันว่าแล้วเชียวว่าหมอนี่ต้องมีอะไรผิดปกติ!"

"สัตว์นรกเอ้ย! แม้แต่ลูกตัวเองยังไม่เว้นเลยงั้นเหรอ?!"

"ขยะ! ไอ้เศษเดน! ทำไมถึงต้องมีคนแบบนี้อยู่บนโลกด้วยว่ะ?"

"ลาติฟาคือใคร?" มีคนหนึ่งถามพลางหันไปมองผู้ชมที่บอกว่ารู้จักชายคนนั้น

ผู้ชมคนนั้นมีท่าทางโกรธแค้นอย่างมาก "ก็เมียใหม่ของมันน่ะสิ! ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพวกมันสองคนจะเลวระยำได้ขนาดนี้!"

โรงพยาบาลเฟรดบิต

เฉียวซางถอนหายใจเงียบๆแล้วหันไปมองหมายเลข 98 "น้ำมันพฤกษาปะการังคืออะไรงั้นเหรอ?"

หญิงสาวถอนหายใจออกมาเช่นกัน "มันเป็นของเหลวที่สามารถดึงดูดปลาไหลพิษได้ ตามปกติแล้วสัตว์อสูรป่าจะเข้ามาในบ้านเรือนยากมาก แต่มีสัตว์อสูรบางชนิดที่อาศัยลักษณะเฉพาะตัวในการเข้าออกได้ตามอำเภอใจอย่างปลาไหลพิษ มันสามารถเข้าไปในห้องได้จากทุกที่ที่มีท่อน้ำ"

"ฉันเดาว่าตัวที่ทำให้เด็กผู้หญิงตกลงไปคงเป็นปลาไหลพิษทน"

หญิงสาวฟังคำพูดของคนรอบข้างไปด้วยจึงพอจะรู้ว่าสาเหตุการตายของเด็กผู้หญิงคืออะไร

ใช้สัตว์อสูรในการฆ่าคน…นี่มันไม่ใช่มนุษย์แล้ว…

เฉียวซางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามระงับความคิดที่จะสั่งให้ซุนเป่าพุ่งเข้าไปโจมตี

ผู้คนรอบข้างเริ่มได้สติต่างก็พากันด่าทอชายที่ถูกมัดอยู่

เฉียวซางรู้ดีว่าตอนนี้เป็นโอกาสดีที่จะเก็บสะสมพลังงานอารมณ์ด้านลบแต่จู่ๆเธอก็ไม่อยากให้ซุนเป่าดูดซับพลังงานพวกนี้

เด็กผู้หญิงหยุดชะงักไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดนั้นจากนั้นชาโดว์บอลในมือก็ถูกขว้างลงไปโดยไม่ลังเล

"ฉันเป็นพ่อของแกนะ!"

ชายคนนั้นมีสีหน้าหวาดกลัวสุดขีดเขาทำได้เพียงตะโกนร้องอย่างสิ้นหวัง

"เหี้*! มานึกได้เอาตอนนี้ว่าเป็นพ่อเนี่ยนะ?"

"ไอ้เวรเอ๊ย!"

"พอคิดว่าเมื่อกี้ฉันเกือบจะไปขวางไม่ให้พลังอาฆาตของเธอลงมือฉันแทบอยากจะตบหน้าตัวเองสักฉาด!"

เสียงถ่มน้ำลายดังระงม

ในเสี้ยววินาทีก่อนที่ลูกบอลเงาดำจะกระแทกชายคนนั้นมันหยุดห่างจากเขาเพียง 0.5 เซนติเมตร

จากนั้น…

เกราะโปร่งแสงบางเบาก็ปรากฏขึ้นครอบคลุมร่างของชายคนนั้นไว้

ปัง!

เสียงระเบิดดังสนั่นลูกบอลเงาดำกระแทกเข้ากับร่างของเขาเต็มแรง

แต่เมื่อฝุ่นควันจางลง

ร่างของชายคนนั้น…

กลับยังอยู่ในสภาพเดิม!

ทุกคนราวกับตระหนักถึงอะไรบางอย่างก่อนจะหันไปมองทางเข้าโรงพยาบาล

สิ่งที่เห็นคือเหล่าสัตว์อสูรที่สวมเครื่องแบบตำรวจหลายตัวพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจปรากฏตัวขึ้นที่นั่น

ชายคนนั้นเงยหน้ามองตามสายตาของทุกคนหายใจติดขัดขึ้นอย่างฉับพลันบนใบหน้าฉายชัดถึงความปีติราวกับได้รับชีวิตใหม่

"ช่วยฉัน! ช่วยฉันเร็วเข้า!"

สัตว์อสูรป่าของเขตที่ 1 สามารถสื่อสารได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจวัยกลางคนคนหนึ่งจึงหยิบเครื่องกระจายเสียงขึ้นมาแล้วกล่าวว่า

"ภูตสะสมแค้นอย่าทำร้ายมนุษย์ไม่ว่าเรื่องอะไรเราสามารถพูดคุยกันได้"

แต่เด็กผู้หญิงไม่แม้แต่จะชายตามองเธอดวงตาเปล่งประกายสีม่วงก่อนที่คมมีดเงาดำหลายสายจะก่อตัวขึ้นกลางอากาศแล้วฟาดลงไปยังร่างของชายคนนั้น

ในขณะเดียวกันเกราะโปร่งแสงก็ปรากฏขึ้นครอบคลุมตัวชายคนนั้นอีกครั้ง

คมมีดเงากระแทกใส่เขาเต็มแรงแต่กลับไม่ระคายผิวแม้แต่น้อย

"นี่มันทักษะอะไร?" เฉียวซางขมวดคิ้ว

"เกราะแสง" หญิงสาวตอบ "เป็นทักษะระดับสูงของประเภทพลังจิต ดูจากที่ภูตสะสมแค้นไม่สามารถทะลวงเกราะแสงนี้ได้แสดงว่าผู้ที่ใช้ก็คงเป็นสัตว์อสูรระดับนายพลนั่นแหละ"

เมื่อได้ยินดังนั้นเฉียวซางจึงเหลือบมองไปยังกลุ่มตำรวจสายตาของเธอไปหยุดอยู่ที่สัตว์อสูรประเภทแมวตัวหนึ่งที่สวมเครื่องแบบตำรวจ

ขนาดร่างของมันเล็กเพียง 60 เซนติเมตร ทั่วทั้งร่างเป็นสีขาวขณะนี้ดวงตากำลังเปล่งประกายสีน้ำเงิน

เธอเหลือบมองไปที่อุ้งมือของมันและก็เป็นไปตามคาดเห็นกำไลปรับขนาดถูกสวมเอาไว้อยู่

ทักษะนี่ดูแล้วป้องกันได้ดีทีเดียว…

ขณะที่เฉียวซางกำลังครุ่นคิดอยู่ๆสัตว์อสูรแมวตัวนั้นก็หายวับไปจากที่เดิมและไปปรากฏตรงหน้าของเด็กผู้หญิง

พร้อมกันนั้นเองสัตว์อสูรประเภทนกที่สวมเครื่องแบบตำรวจอีกตัวก็บินโฉบลงมาจากท้องฟ้าอย่างว่องไวคว้าตัวชายที่กระดูกหักไป

"เตี้ยนเตี้ยน"

สัตว์อสูรแมวร้องเรียกก่อนที่ร่างของมันจะค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นจนกระทั่งสูงราวห้าเมตรจึงหยุด

"ทุกคนโปรดออกจากที่นี่โดยเร็ว" เจ้าหน้าที่ตำรวจวัยกลางคนกล่าว

ผู้คนมองหน้ากันครู่หนึ่งก่อนจะเริ่มทยอยถอยเข้าไปในโรงพยาบาล

"เธอไม่ไปเหรอ?" หญิงสาวที่กำลังจะเดินตามฝูงชนเห็นเฉียวซางยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิมจึงเอ่ยถาม

"ฉันขอดูก่อน" เฉียวซางจ้องไปทางชายที่ถูกพาตัวขึ้นไปบนฟ้า

หญิงสาวเหลือบมองตามสายตาของเฉียวซางคล้ายจะเข้าใจอะไรบางอย่างจึงตบบ่าเธอเบาๆแล้วกล่าวว่า

"อย่าสนใจเลยตำรวจมาจัดการแล้ว"

เฉียวซางกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "ฉันไม่ได้จะยุ่งอะไรหรอก แค่อยากรู้ว่าตำรวจจะจัดการกับหมอนั่นยังไงก็เท่านั้น"

หญิงสาวไม่ได้พูดอะไรอีกและเดินเข้าไปในโรงพยาบาล

ขณะนั้นเองเฉียวซางก็นึกขึ้นได้บางอย่างเธอรีบส่งสายตาให้ซุนเป่า "รีบเข้าไปดูดซับพลังงานด้านลบของทุกคนให้หมดอย่าให้ใครชิงตัดหน้าไปก่อนนะ"

"ซุนซุน…"

ซุนเป่ารีบส่ายหัว ที่นี่อันตรายเกินไปมันไม่วางใจ

เฉียวซางรู้สึกอบอุ่นในใจขึ้นมาก่อนจะยิ้มออกมา

"ไม่เป็นไรลู่เป่ายังอยู่ข้างหลังฉันอยู่เลย"

"ปิงลู่…"

ลู่เป่าโผล่หัวออกมาจากกระเป๋าเปล่งเสียงร้องเบาๆ เป็นเชิงรับรองว่ามีมันอยู่ไม่ต้องห่วง

"ซุนซุน…"

ซุนเป่ามุ่ยหน้าไปเล็กน้อยก่อนจะเข้าสู่สภาวะล่องหนแล้วหายตัวไปจากที่เดิม

ในบริเวณที่ยังมีคนยืนอยู่เฉียวซางจึงไม่ได้ดูแปลกแยกนัก

ในขณะเดียวกันภูตสะสมแค้นและสัตว์อสูรแมวระดับนายพลก็เริ่มปะทะกัน

เสียงระเบิดดังสนั่นไปทั่วบริเวณ

หลังจากปะทะกันไปได้สองกระบวนท่า สัตว์อสูรแมวก็ยกอุ้งมือหน้าซ้ายขึ้นแล้วกระแทกลงกับพื้น

แสงสีสันหลายสายพุ่งเข้าใส่เด็กผู้หญิงทันที

แต่เด็กผู้หญิงกลับจ้องมองแสงภาพลวงตานั้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์

แล้วจู่ๆก่อนที่แสงเหล่านั้นจะกระทบตัวเธอก็ค่อยๆหลับตาลง

จากนั้นร่างของเธอก็ล้มพับลงไปราวกับหมดสติไปในทันที

.....

เฉียวซางกำลังจดจ่ออยู่กับชายคนนั้น

แม้จะอยู่ห่างออกไปไกลแต่ด้วยการได้ยินที่เหนือกว่าคนทั่วไปเธอก็ยังสามารถจับบทสนทนาระหว่างตำรวจกับชายคนนั้นได้อย่างชัดเจน

"นี่คือศพของลูกสาวคุณหรือเปล่า?"

เสียงของชายคนนั้นดังขึ้นอย่างชัดแจ๋ว

"เธอตายไปแล้ว! นั่นคือภูตสะสมแค้นไม่ใช่ลูกสาวของฉัน! ขอร้องล่ะคุณต้องกำจัดมันให้ได้!"

"คุณไม่ต้องห่วงพวกเราจะพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้ร่างของลูกสาวคุณได้รับความเสียหายมากที่สุด" ตำรวจกล่าวปลอบโยน

"ฉันบอกแล้วไงว่าลูกสาวฉันตายไปแล้ว!"

ชายคนนั้นขึ้นเสียงอย่างไม่พอใจ "นั่นมันภูตสะสมแค้น!พวกคุณมีหน้าที่แค่โจมตีมันก็พอ!"

ตำรวจดูเหมือนจะคาดไม่ถึงกับคำพูดของเขาจึงเงียบไปชั่วครู่

....

ขณะนั้นเองเฉียวซางก็เพิ่งตระหนักว่าร่างของเด็กผู้หญิงนอนนิ่งอยู่กับพื้นราวกับเป็นศพ

ภูตสะสมแค้นได้ออกจากร่างของเธอแล้ว…

ทันใดนั้นเองเธอก็เข้าใจทุกอย่างทันทีหัวใจรู้สึกหนักอึ้งขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

เธอเองก็ไม่แน่ใจว่าความรู้สึกนี้คืออะไรรู้เพียงแต่ว่าตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกเสียใจที่เมื่อครู่สั่งให้ซุนเป่าควบคุมชายคนนั้นเพื่อให้รอดพ้นจากการโจมตีของภูตสะสมแค้น

"ซุนซุน~"

เสียงของซุนเป่าดังขึ้นข้างๆ

"ดูดซับเสร็จแล้วเหรอ?"เฉียวซางถาม

"ซุนซุน~"

ซุนเป่าพยักหน้า

แต่จู่ๆ มันก็หยุดนิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะหันสายตามามองเจ้านายของมัน

"ซุนซุน…"

ซุนเป่ารู้สึกเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด

มันได้กลิ่นของพลังงานด้านลบจากร่างของเจ้านาย…

พลังงานนี้ควรเป็นสิ่งที่มันชอบแต่พอเป็นพลังด้านลบที่มาจากเจ้านายของมันเองซุนเป่ากลับไม่ชอบใจเลยสักนิด

"ซุนซุน~"

ซุนเป่าถูแก้มเข้ากับหน้าของเฉียวซางเบาๆเหมือนกำลังจะพยายามปลอบโยน

"ฉันไม่เป็นไร" เฉียวซางกล่าว

พูดจบเธอก็ก้าวไปข้างหน้าตั้งใจจะไปบอกตำรวจเรื่องของชายคนนั้น

แต่ยังไม่ทันเดินไปได้สองก้าว ร่างของเธอกลับหยุดชะงักกะทันหันทันที

ที่ห่างออกไปไม่กี่สิบเมตรชายคนนั้นดูเหมือนจะคิดว่าตัวเองปลอดภัยแล้ว

เขานอนแผ่ลงกับพื้นระบายความอัดอั้นกับตำรวจที่อยู่ข้างๆอย่างโล่งใจ

ตำรวจคุยกับเขาสองสามประโยคก่อนจะเดินไปสมทบกับเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ

ตอนนี้ชายคนนั้นกำลังนอนอยู่ตรงนั้นอย่างไร้การป้องกันตัวเองโดยสิ้นเชิง

และในตอนนั้นเอง…

ร่างเล็กๆ ร่างหนึ่งก็ก้าวเดินเข้ามาจากมุมที่สายตาของเขามองไม่เห็น

ทว่ามันเป็นมุมที่เฉียวซางนั้นมองเห็นได้อย่างชัดเจน

มันเป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งริมฝีปากของเขาเป็นสีม่วงใบหน้าซีดขาวผิดปกติ เขาสวมเสื้อฮู้ดสีน้ำเงินที่เปื้อนเลือด

"น้องสาวเธอเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดหรือเปล่า?"

ทันใดนั้นตำรวจสองสามนายเดินเข้ามาหาเธอ

เฉียวซางปรับสีหน้าให้เป็นปกติก่อนจะละสายตากลับมา

เธอพยักหน้าเล็กน้อย “ค่ะ ฉันเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดค่ะ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด