บทที่ 691: การแข่งขันสะสมพลังงานอารมณ์ด้านลบ
ในสัปดาห์ถัดมาเฉียวซางไปฝึกที่สโมสรทุกวันไม่เคยขาด
หลังจากผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ของการถูกซ้อมยับการป้องกันของเธอก็ก้าวกระโดดอย่างรวดเร็วตอนนี้สามารถทนรับแรงหมัด 110 กิโลกรัมได้โดยไม่บาดเจ็บหนักเกินไป
สัตว์อสูรประเภทรักษาที่ทางสโมสรเตรียมไว้แทบไม่ได้ถูกใช้งานเลยเพราะลู่เป่าคอยใช้แสงแห่งการรักษาช่วยเธออยู่ทุกวันทำให้ไม่มีบาดแผลอะไรหลงเหลืออยู่เลย
ในคำพูดของอัลมาเธอถึงกับอุทานว่า—ไม่คิดเลยว่าเธอจะมีพรสวรรค์ในการทนแรงกระแทก(หรือก็คือทนโดนซ้อม)ได้ดีขนาดนี้
แม้เฉียวซางจะรู้สึกแปลกๆกับคำพูดนั้นอยู่บ้างแต่เธอก็ยอมรับมันด้วยความพอใจเพราะเป้าหมายหลักของเธอในการมาที่นี่ก็เพื่อฝึกฝนด้านการป้องกันอยู่แล้ว
ระหว่างนั้นเรื่องการขอรับกำไลปรับขนาดขนาดก็ได้รับการอนุมัติแล้วแต่เป็นเพียงการสั่งจองล่วงหน้าเท่านั้นของจะถูกส่งมาให้ในอีกครึ่งเดือนข้างหน้า
วันนั้นหลังจากฝึกเสร็จแล้วกลับมาถึงบ้านเฉียวซางก็เรียกหยาเป่าออกมา
"ย่าห์..."
พอหยาเป่าปรากฏตัวออกมามันก็เดินตรงไปที่กระจกบานใหญ่พิเศษที่เธอสั่งทำขึ้นเมื่อสองวันก่อนแล้วมองดูรูปร่างที่ดูองอาจทรงพลังของตัวเองด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยสดใสเท่าไหร่
เฉียวซางเห็นแบบนี้ก็ไม่แปลกใจเลย
ตอนแรกๆ หยาเป่ายังโอเคอยู่บ้างเวลาเธอออกไปข้างนอกแล้วพามันเข้าไปในตำราอสูรแต่พอเวลาผ่านไปนานเข้ามันก็เริ่มรู้สึกหดหู่เล็กน้อย
ตอนนี้มันจะรู้สึกดีขึ้นได้ก็ต่อเมื่อได้มองเห็นรูปร่างใหม่ของตัวเองในกระจกเท่านั้น
เฉียวซางดื่มยาเสริมสร้างกล้ามเนื้อขวดหนึ่งแล้วเดินไปนั่งลงบนโซฟา
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาตั้งใจจะหาข้อมูลเกี่ยวกับการแข่งขันแนวความบันเทิงที่รองผู้อำนวยการเคยพูดถึง
ด้วยรูปร่างของหยาเป่าตอนนี้ถ้าปล่อยมันออกไปเดินเล่นบนถนนมันอาจจะพลาดไปทำร้ายคนอื่นได้ง่ายๆ แต่ถ้ามีสถานที่ที่จัดการแข่งขันสำหรับผู้ฝึกสัตว์อสูรโดยเฉพาะเธอก็ไม่ต้องกังวลเรื่องพวกนี้มากนัก
อีกอย่างช่วงนี้หยาเป่าแทบไม่ได้ออกไปไหนเลยก็คงถึงเวลาที่จะต้องให้มันออกไปเคลื่อนไหวบ้างแล้ว…
เธอเปิดแอปที่ชื่อว่า "ศึกเขตหนึ่ง" แล้วไล่ดูรายการแข่งขันที่กำลังจะมีขึ้นในช่วงสัปดาห์นี้
[การแข่งขันท้าทายพลังสูงสุดของสัตว์อสูรประเภทต่อสู้]
[ศึกประชันกลุ่มสำหรับผู้ฝึกสัตว์อสูรระดับ D]
[ศึกแย่งสมบัติของสัตว์อสูรประเภทน้ำ]
[ศึกชิงแชมป์สำหรับผู้ฝึกสัตว์อสูรระดับ B]
[การแข่งขันความงามระดับ C ของผู้ฝึกสัตว์อสูร]
[ศึกแปลภาษาสัตว์อสูร]
[การแข่งขันจับไพ่ของผู้ฝึกสัตว์อสูรระดับD]
หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอการแข่งขันที่รองผู้อำนวยการพูดถึงเลย…
เฉียวซางรู้สึกจนปัญญาถ้าในแอปนี้ไม่มีประกาศนั่นก็แปลว่าในช่วงสัปดาห์นี้ไม่มีการแข่งขันที่เหมาะกับสัตว์อสูรประเภทพลังจิตเลย
ทันใดนั้นสายตาของเฉียวซางก็หยุดอยู่ที่ชื่อของการแข่งขันรายการหนึ่ง
[การแข่งขันสะสมพลังงานด้านลบของสัตว์อสูรประเภทผี]
มีการแข่งขันแบบนี้ด้วยเหรอ…!
เฉียวซางตาวาวขึ้นมาทันทีรีบกดเข้าไปอ่านรายละเอียดของการแข่งขัน
เธอไล่อ่านอย่างรวดเร็วการแข่งขันจะจัดขึ้นในอีกสามวันข้างหน้าไม่จำกัดระดับของสัตว์อสูร ผู้ฝึกสัตว์อสูรแต่ละคนจะได้รับขวดแก้วสะสมพลังงานอารมณ์มีเวลาสะสมทั้งหมดสามชั่วโมง ผู้ที่ได้อันดับหนึ่งถึงสามจะได้รับขวดสะสมพลังงานอารมณ์ไว้เป็นของตัวเองโดยไม่ต้องคืนและยังได้รับเครื่องตรวจจับพลังงานอารมณ์อีกหนึ่งเครื่อง
เธอเคยได้ยินเกี่ยวกับอุปกรณ์นี้มาก่อนมันเป็นอุปกรณ์ที่ใช้วัดพลังงานทางอารมณ์ของคนอื่นว่ากำลังเป็นพลังงานด้านบวกหรือด้านลบ
ถ้าเป็นด้านบวกไฟจะขึ้นเป็นสีเขียว
ถ้าเป็นด้านลบไฟจะขึ้นเป็นสีแดง
เครื่องมือนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้สัตว์อสูรประเภทผีที่ไม่ค่อยไวต่อพลังงานอารมณ์สามารถรับรู้ได้ง่ายขึ้น
สำหรับรางวัลเฉียวซางไม่ได้รู้สึกว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเธอเท่าไหร่แต่ตัวการแข่งขันเองน่าสนใจไม่น้อย
เพราะก่อนหน้านี้ซุนเป่าเคยดูดซับพลังงานอารมณ์มาก่อนแล้วพลังงานของมันก็พุ่งขึ้นไปจนถึงช่วงปลายของระดับสูงในทันที
เธอไล่อ่านกฎการแข่งขันอีกครั้งแล้วจัดการโอนเงินค่าสมัคร 1,000 เหรียญพันธมิตรในทันที
"ซุนซุน~"
จังหวะนั้นเองซุนเป่าลอยเข้ามาหาเธอแล้วชี้ไปที่คอมพิวเตอร์บนโต๊ะเหมือนกับจะบอกว่าอยากเล่น
"ไม่ได้"
เฉียวซางปฏิเสธทันทีโดยไม่ลังเล
"ฝึกควบคุมเงาให้ครบ 300 รอบต่อวัน วันนี้ของแกยังทำไม่ครบเลย"
"ซุนซุน..."
ซุนเป่ายกอุ้งมือทั้งสองข้างขึ้นแสดงสีหน้าสลดสุดๆ
แต่ก็มันเพิ่งฝึกฟาดกระเบื้องไปตั้งนานเหนื่อยจะแย่แล้ว…!
เฉียวซางมองอุ้งเท้าของมันแวบหนึ่งก่อนจะพูดขึ้นมา
"ถ้าเหนื่อยฉันให้ลู่เป่าช่วยใช้แสงแห่งการรักษาให้นะ"
"......"
ซุนเป่าพลันเงียบกริบ
"ซุนซุน..."
มันถอนหายใจก่อนจะก้มหน้าก้มตาลอยกลับไปซ้อมอย่างหมดอาลัยตายอยาก
เฉียวซางเห็นแล้วก็อดถอนหายใจไม่ได้ก่อนจะพูดขึ้นว่า
"อีกสามวันข้างหน้ามีการแข่งขันสะสมพลังงานอารมณ์ด้านลบ ถ้าแกได้ติดหนึ่งในสามฉันจะให้วันหยุดแกหนึ่งวัน"
"ซุนซุน!"
ซุนเป่าตาเป็นประกายทันทีหันกลับมามองผู้ฝึกของตัวเองด้วยสีหน้าประมาณว่า พูดจริงเหรอ!?
"แน่นอนว่าจริงสิ "เฉียวซางยิ้ม
วันนั้นนอกจากจะเป็นวันแข่งแล้วรองผู้อำนวยการก็น่าจะเดินทางมาถึงด้วยเธอคงต้องคุยเรื่องของหยาเป่ากับเขาและไม่มีเวลามาฝึกต่อที่สโมสรอยู่แล้ว
"ซุนซุน~"
ซุนเป่าได้ยินแบบนั้นก็อารมณ์ดีขึ้นมาทันทีรีบบินกลับไปฝึกอย่างกระตือรือร้น
....
สามวันผ่านไปในพริบตา
ตอนเช้าของคนอื่นอาจจะเป็นการถูกนาฬิกาปลุกปลุกให้ตื่นขึ้นมา แต่สำหรับเฉียวซางตอนเช้าของเธอคือการถูกซุนเป่าบีบจมูกจนหายใจไม่ออกแล้วตื่นขึ้นมาแทน
เธอลืมตาขึ้นอย่างหมดคำพูด
"ซุนซุน!"
ซุนเป่าลอยวนไปรอบๆอย่างร่าเริงแสดงให้เห็นว่ามันเตรียมตัวพร้อมสำหรับการแข่งขันแล้ว
"การแข่งขันเริ่มตอนบ่ายโมงตอนนี้ยังเช้าอยู่" เฉียวซางพูดพลางดึงผ้าห่มขึ้นคลุมหัว
"ซุนซุน~"
ซุนเป่าพยายามดึงผ้าห่มของเธอออกพร้อมกับพยายามปลุกเธอให้ลุกขึ้นมา
แม้ว่าการแข่งขันยังไม่เริ่มก็ไม่เป็นไรถ้าไปถึงสนามเร็วหน่อยก็จะได้มีเวลาเดินสำรวจว่าตรงไหนมีพลังงานอารมณ์ด้านลบมากที่สุด
ถ้าแกมีความกระตือรือร้นแบบนี้ตอนฝึกควบคุมเงาป่านนี้คงฝึกถึงขั้นไร้ที่ติไปแล้วล่ะ...
เฉียวซางแอบบ่นในใจแต่ก็ยังคงซุกตัวอยู่ในผ้าห่ม
"ขอนอนต่ออีกหน่อย"
"ซุนซุน..."
ซุนเป่ามองผู้ฝึกของตัวเองที่เอาแต่ขี้เกียจแล้วส่ายหัวอย่างปลงๆ
เจ้านายของมันนี่ขี้เกียจจริงๆเลย…
ตอนเที่ยงหลังจากกินข้าวเสร็จแล้วเฉียวซางก็ขี่หลังกงเป่าตรงไปตามระบบนำทางไปยังสถานที่จัดการแข่งขันที่ชื่อว่า “สังเวียนออกัสต์”
หลังจากยืนยันข้อมูลกับเจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้วเธอก็ก้าวเข้าไปข้างใน
ทันทีที่เข้ามาเธอก็ถึงกับอึ้งไปเล็กน้อย
ภายในตกแต่งอย่างหรูหราสุดๆ รูปปั้นสัตว์อสูรรอบๆ สะท้อนกับแสงจากโคมไฟระย้าคริสตัลขนาดมหึมาบนเพดานดูโอ่อ่าสง่างาม
ที่สะดุดตาที่สุดก็คือจอภาพเสมือนจริงขนาดยักษ์ที่ตั้งอยู่ตรงกลางของโถง
แต่ที่ทำให้เฉียวซางตกใจยิ่งกว่านั้นคือตอนนี้โถงขนาดมหึมาที่สามารถจุคนได้เป็นพันๆคนนั้น เต็มไปด้วยผู้ชมจนแทบไม่มีที่นั่งว่าง
เธอกวาดตามองไปทั่วพลางคิดในใจอย่างงงๆ นี่มันอะไรกัน? แข่งสะสมพลังงานอารมณ์ด้านลบต้องมีคนมาดูเยอะขนาดนี้เลยเหรอ? หรือว่าต้องแข่งกันแบบถ่ายทอดสด?
จังหวะนั้นเองมีเสียงบ่นอย่างหงุดหงิดดังขึ้นมาจากด้านหลัง
"หลีกทางหน่อยอย่าขวางทาง"
เฉียวซางหันไปมองเห็นชายวัยกลางคนคนหนึ่งสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงขายาวสีดำผมสีทองที่ขมับเริ่มมีสีขาวแซมใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยทั้งรอยย่นบนหน้าผากร่องแก้มและหางตา
ถึงแม้อีกฝ่ายจะพูดจาไม่ค่อยสุภาพแต่ด้วยความที่เป็นผู้สูงวัยเฉียวซางก็ขยับตัวหลีกทางให้
ชายวัยกลางคนก้าวไปข้างหน้าแต่จู่ๆก็เหมือนสังเกตเห็นอะไรบางอย่างเขาหยุดชะงักแล้วส่งเสียง "อืม?" ออกมาเบาๆ
เฉียวซางลองมองตามสายตาของเขาแล้วในใจของเธอก็พลันกระตุกวูบ
เพราะสิ่งที่ชายคนนั้นกำลังมองอยู่ก็คือตำแหน่งของซุนเป่า
แต่ตอนนี้ซุนเป่ากำลังอยู่ในสภาพล่องหน
ชายคนนี้…จะไม่ใช่ว่ามองเห็นซุนเป่าใช่ไหม…?
เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ตอนนี้ซุนเป่ากำลังล่องหนอยู่นี่นา…
ระหว่างที่เฉียวซางกำลังคิดไปต่างๆนานาชายวัยกลางคนก็หันสายตามามองเธอดวงตาที่ดูขุ่นมัวของเขาจ้องมาที่เธอพลางเอ่ยขึ้น
"สัตว์อสูรตัวนี้เป็นของเธอเหรอ?"
เฮ้ย! เขาเห็นซุนเป่าได้จริงๆเหรอ!?
เฉียวซางตกใจสุดขีดรีบถอยห่างออกจากเขาเล็กน้อย แล้วทำเป็นไม่เข้าใจถามกลับไปว่า
"คุณพูดเรื่องอะไรกันคะ?"
"ฉันหมายถึงสัตว์อสูรสีเทาที่มีวงแหวนสีทองตัวนี้เป็นของเธอใช่ไหม?"
น้ำเสียงของชายวัยกลางคนดูดีขึ้นกว่าเมื่อครู่มาก
เฉียวซางถามกลับทันที
"คุณมองเห็นมันเหรอคะ?"
ชายวัยกลางคนได้ยินแล้วหัวเราะเบาๆ
"ผู้ใหญ่ในบ้านเธอไม่เคยบอกเหรอ? ผู้ฝึกสัตว์อสูรที่มีสัตว์อสูรประเภทผี หากถึงระดับหนึ่งแล้วพวกเขาจะสามารถมองเห็นสิ่งที่คนทั่วไปมองไม่เห็นได้"
"เช่นสัตว์อสูรประเภทผีที่กำลังล่องหนอยู่"