บทที่ 3: งูเขียวฟักสำเร็จ

พลังวิญญาณเทียบเท่ากับการฝึกฝนอย่างหนักยี่สิบวันปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า

พลังนี้เริ่มหมุนเวียนในเส้นลมปราณของซูเจ๋ออย่างรวดเร็ว

ซูเจ๋อรู้สึกราวกับกำลังแช่น้ำพุร้อน ทั้งร่างอบอุ่นและรู้สึกสบายอย่างบรรยายไม่ถูก

พละกำลังของเขาพัฒนาขึ้นมาก

จากที่เพิ่งก้าวเข้าสู่การฝึกร่างกายเลเวลหนึ่ง ก็พัฒนาจนถึงขั้นสมบูรณ์แบบของเลเวลหนึ่งทันที เหลือเพียงก้าวเดียวก็จะก้าวผ่านไปสู่การฝึกร่างกายเลเวลสอง!

แม้จะดูไม่ใช่การพัฒนาที่ยิ่งใหญ่

แต่ต้องรู้ไว้ว่า เมื่อวานซูเจ๋อยังเป็นแค่คนธรรมดาที่ไม่มีการบ่มเพาะ!

การพัฒนาการฝึกร่างกายเลเวลหนึ่งให้สมบูรณ์ภายในวันเดียวเป็นไปได้เฉพาะอัจฉริยะที่พบเจอเพียงศตวรรษละครั้งเท่านั้น

สำหรับคนทั่วไป ต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งเดือนเพื่อก้าวจากการฝึกร่างกายเลเวลหนึ่งไปสู่เลเวลสอง!

แคร๊ก!

ทันใดนั้น เสียงแตกกรอบดังขึ้น ปลุกซูเจ๋อที่กำลังมึนเมาในความยินดีให้ตื่นขึ้น

เขาหันไปมอง แววประหลาดใจวาบผ่านดวงตา

รอยร้าวปรากฏบนเปลือกไข่งูเขียว!

การฟักใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว!

แคร๊ก แคร๊ก แคร๊ก...

เสียงแตกดังต่อเนื่อง

รอยร้าวบนเปลือกไข่ก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ

จนในที่สุด เปลือกไข่ชิ้นหนึ่งร่วงลงพื้น และงูเขียวตัวเล็กก็เลื้อยออกมา

"ฟี๊ส..."

มังกรน้อยส่งเสียงคำรามอ่อนแอ มองโลกตรงหน้าอย่างงุนงง

ไม่นานมันก็พบซูเจ๋อที่อยู่ไม่ไกล

แม้สติปัญญาทางวิญญาณจะยังไม่เปิดเต็มที่ แต่มันก็รู้สึกถึงความเมตตาลึกๆ โดยสัญชาตญาณ

ในตอนนี้ ข้อความหลายบรรทัดปรากฏในสายตาของซูเจ๋อ

"ชื่อ: งูเขียว"

"เลเวล: วัยเยาว์"

"เลเวลสายเลือด: E"

"สายเลือดพิเศษ: สายเลือดงูเขียวที่อ่อนแอ!"

"ความสามารถ: วิชาหลบหนีงูเขียวแห่งสี่ทิศ (ไม่สมบูรณ์): สามารถใช้พลังลมและเมฆเพิ่มความเร็วถึงขีดสุด 500 กิโลเมตรในพริบตา"

"หมายเหตุ: เมื่อความเข้มข้นของเลือดในร่างกายของสัตว์อสูรที่ทำสัญญาเพิ่มขึ้นถึงเลเวลหนึ่ง มรดกที่ซ่อนอยู่ลึกในเลือดจะเปิดออก เติมเต็มความสามารถที่หายไปโดยอัตโนมัติ!"

หน้าจอแสดงความสามารถของสัตว์อสูรละเอียดขึ้น

ซูเจ๋อยื่นมือจับงูเขียวขึ้นมา มองมันครู่หนึ่งแล้วพูดว่า

"ตั้งแต่นี้ฉันจะเรียกเธอว่าเสี่ยวชิง"

เสี่ยวชิงดูเหมือนจะเข้าใจประโยคนี้ และถูไถหัวกับฝ่ามือของซูเจ๋ออย่างรักใคร่

หลังจากเลื้อยวนในฝ่ามือสองสามรอบ มันก็พันรอบข้อมือของซูเจ๋อ

หากไม่มองให้ดี คงคิดว่าเป็นกำไลสีเขียวอ่อน

รู้สึกถึงสัมผัสเย็นที่ข้อมือ

ซูเจ๋อยิ้มบางๆ นั่งขัดสมาธิ และฝึกฝนต่อ

ในโลกที่กฎป่าเถื่อนครอบงำ พลังคือราชา

ไม่ว่าเมื่อไหร่ การพัฒนาพลังของตัวเองย่อมถูกต้องเสมอ

ตอนนี้เขามีการบ่มเพาะเพิ่มอีกหนึ่งวัน ตัวคูณคืนอัตราบ่มเพาะครั้งต่อไปก็จะได้มากขึ้น!

สิ่งนี้มีประโยชน์มากในช่วงแรกที่มีการบ่มเพาะน้อย

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

วันต่อมามาถึงในพริบตา

แสงอาทิตย์สายหนึ่งส่องเข้ามาในห้อง

ห้องที่มืดสลัวพลันอบอุ่นขึ้น

ซูเจ๋อลืมตาและหยุดฝึกฝน

การใช้ชีวิตเป็นเด็กกำพร้าหลายสิบปีได้หล่อหลอมความอดทนของเขามานาน

แม้จะมีระบบเสริมแล้ว เขาก็ยังขยันอย่างไม่น่าเชื่อ

ในใจเขามีความคิดเดียวตอนนี้

นั่นคือการเติบโตให้แข็งแกร่งขึ้น!

เมื่อแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น จึงจะมีโอกาสค้นหาที่อยู่ของพ่อแม่...

แม้ซูเจ๋อจะรู้ว่าผ่านมาหลายปีแล้ว

แต่อยากเจอคนก็ต้องเจอทั้งเป็น อยากเจอศพก็ต้องเจอทั้งตาย!

หากไม่ได้ผลลัพธ์ที่แน่ชัด เขาจะไม่มีวันสงบ!

วันใหม่เริ่มต้น และคูลดาวน์ของตัวคูณคืนอัตราบ่มเพาะก็สิ้นสุดลง

เกือบเที่ยงแล้ว

ซูเจ๋อวางมือบนตัวเสี่ยวชิง เริ่มต้นการบ่มเพาะอย่างเงียบๆ

"คุณใส่การบ่มเพาะยี่สิบเอ็ดวันเข้าไปในงูเขียว!"

"กระตุ้นฟังก์ชันตัวคูณคืนอัตราบ่มเพาะ!"

"กำลังสุ่มเลือกตัวคูณ..."

"ยินดีด้วย ตัวคูณครั้งนี้ของคุณคือสิบเท่า!"

"เปิดใช้ความสามารถตัวคูณคืนอัตาบ่มเพาะ คุณได้รับการบ่มเพาะสองร้อยสิบวัน!"

โชคอาจจะดีหรือไม่ดีก็ได้

เช่นเดียวกับเมื่อวาน พลังวิญญาณมหาศาลปรากฏขึ้น

เสียงทุ้มดังมาจากร่างของซูเจ๋อเป็นชุด พลังวิญญาณอันน่าทึ่งกำลังชำระล้างเส้นลมปราณ ล้างสิ่งสกปรกมากมาย

เกือบจะในพริบตา

สิ่งสกปรกสีดำหนาปรากฏบนผิวร่างของเขา

ล้างเส้นเอ็นและตัดไขกระดูก!

นี่เป็นสมรรถภาพที่จะทำได้ก็ต่อเมื่อถึงการฝึกร่างกายเลเวลห้าเท่านั้น!

หลังจากล้างกล้ามเนื้อและตัดไขกระดูก ร่างกายจะเปลี่ยนแปลงและพละกำลังจะเพิ่มขึ้น

พละกำลัง ความเร็ว ความสามารถในการตอบสนอง และความต้านทานต่อการโจมตีจะพัฒนาขึ้นอย่างมาก!

สองวัน

จากคนธรรมดาถึงการสร้างร่างกายเลเวลห้า!

มุมปากของซูเจ๋อยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม

ความเร็วนี้หาได้ยากแม้แต่ในทั้งโลก!

เว้นแต่จะกินยาวิเศษบางอย่าง จึงจะสามารถทำได้

เสี่ยวชิงก็รู้สึกถึงอารมณ์ของเจ้านาย และในขณะเดียวกันก็รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในพลังของตัวเอง

ไม่เพียงเท่านั้น สติปัญญาทางวิญญาณของมันก็ถูกปลดล็อกบางส่วน

ระหว่างเคลื่อนไหว ดวงตาแสดงความคล่องแคล่วมากขึ้น

ซูเจ๋อมองเสี่ยวชิง และข้อความหลายบรรทัดปรากฏตรงหน้าอีกครั้ง

"ชื่อ: งูเขียว"

"เลเวล:  F ขั้นต้น"

"สายเลือดพิเศษ: สายเลือดงูเขียวที่อ่อนแอ"

"ความสามารถ: วิชาหลบหนีงูเขียวแห่งสี่ทิศ (ไม่สมบูรณ์)"

พลังของเสี่ยวชิงเพิ่มขึ้นมาก

มันถูกเลื่อนจากร่างวัยเยาว์ขึ้นไปสู่ระดับ F

นี่เป็นการแบ่งลำดับชั้นระหว่างสัตว์อสูร

ระดับ F ในหมู่สัตว์อสูรเทียบเท่ากับการฝึกร่างกายของมนุษย์

เพียงแต่พลังของสัตว์อสูรให้ความสำคัญกับพรสวรรค์มากกว่า และสายเลือดเป็นตัวกำหนดขีดจำกัดสูงสุด

ดังนั้น โดยทั่วไปในเลเวลเดียวกัน พลังของสัตว์อสูรจะแข็งแกร่งกว่าผู้ฝึกฝนที่เป็นมนุษย์เล็กน้อย

ในตอนนี้ กลิ่นเหม็นเข้าสู่โพรงจมูก

ซูเจ๋อถึงได้รู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา

เขารีบไปทำความสะอาดร่างกาย

สิบนาทีต่อมา

ซูเจ๋อเดินออกมาจากห้องน้ำ รอบตัวมีไอหมอกฟุ้งกระจาย

ใต้หมอกนั้นคือร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ

การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการฝึกร่างกายคือร่างกาย

เส้นเอ็น กล้ามเนื้อ เลือด เส้นลมปราณ ฯลฯ จะได้รับการพัฒนาและเสริมสร้างอย่างครอบคลุม

นี่ยังเป็นขั้นตอนของการวางรากฐาน

ยิ่งรากฐานแข็งแกร่ง ความสำเร็จในอนาคตก็จะยิ่งสูง

และหากต้องการมีรากฐานที่แข็งแกร่ง

อันดับแรกคุณต้องมีตำราเกี่ยวกับเทคนิคการบ่มเพาะในอดีต!

ตอนนี้ซูเจ๋อกำลังฝึกฝนวิธีดึงพลังชี่ที่พื้นฐานที่สุด

พูดตามตรง มันยังไม่ถือว่าเป็นทักษะด้วยซ้ำ

อย่างมากก็แค่วิธีที่สามารถปลุกกระแสพลังระหว่างสวรรค์และพิภพ ไม่มีวิธีการที่เป็นระบบ

ตอนนี้ยังฝึกฝนในช่วงแรกได้

หากปล่อยไปนาน แม้จะมีระบบคืนการบ่มเพาะ ก็เกรงว่าเส้นทางในอนาคตจะเรียบง่ายเกินไป

ดังนั้น

หลังจากคิดครู่หนึ่ง

ซูเจ๋อตัดสินใจไปลองดวงที่หอสมุดผู้ฝึกฝนในเมืองเจียงหนาน

นี่เป็นสวัสดิการสำหรับผู้มาใหม่อีกอย่าง

ทุกคนที่ปลุกพรสวรรค์การบ่มเพาะสำเร็จสามารถไปเลือกวิธีฝึกฝนได้ฟรี!

แม้จะเป็นแค่การฝึกฝนธรรมดา แต่ก็ดีกว่าการฝึกดึงพลังชี่ที่ซูเจ๋อใช้อยู่ตอนนี้