ตอนที่ 1068 ตัดหน้าโกยกำไรแสนล้าน!!!

เฉิน เย่าจวิน เปลี่ยนน้ำเสียงการพูด ไม่คิดเรื่องฟุ้งซ่านอีกต่อไป และเริ่มเข้าสู่หัวข้ออย่างจริงจัง

ก่อนหน้านี้ ตอนที่ เฉิน เย่าจวิน โทรหา เย่เฉิน เพื่อชวนมาพูดคุย และดื่มชาด้วยกัน เขาบอกว่าสิ่งที่อยากพูดนั้นไม่สะดวกจะพูดทางโทรศัพท์ แต่เขากล้ารับประกันว่า เย่เฉิน จะต้องสนใจเรื่องนี้แน่นอน

เรื่องนี้ทำให้ เย่เฉิน รู้สึกสงสัยอยู่บ้าง กอปรกับก่อนหน้านี้เขาก็รับปากไปแล้ว จึงตัดสินใจมา

“ตอนนี้ที่นี่ไม่มีคนนอกแล้ว ผมจะขอพูดตรงๆ เลย ตอนนี้ผมรู้มาว่ามีโครงการที่สามารถทำกำไรได้สูงถึงแสนล้าน ไม่ทราบว่า บอสเย่ สนใจจะแบ่งส่วนแบ่งไหมครับ?”

เฉิน เย่าจวิน พูดถามอย่างจริงจัง สีหน้าของเขาเองก็จริงจังขึ้นมาทันที

“กำไรแสนล้าน?”

เย่เฉิน ชะงักไปเล็กน้อย ไม่มีใครที่จะไม่สนใจเงินจำนวนมหาศาลขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นมหาเศรษฐีระดับไหนก็ตาม

แต่เขาก็ไม่แสดงท่าทางตื่นเต้นเกินไป เพราะถ้ามันทำกำไรได้มากขนาดนั้น ทำไม เฉิน เย่าจวิน ถึงมาชวนเขาด้วย?

ถ้าเป็นเขาเอง เขาจะกวาดมันทั้งหมดเข้ากระเป๋า แบบนี้จะไม่ดีกว่าหรือ?

“เล่าให้ฟังหน่อยว่ามันคือยังไง”

เย่เฉิน ถามกลับไปอย่างสงบนิ่ง

“ไม่เสียชื่อ บอสเย่ เลยจริงๆ เจอโปรเจกต์ทำกำไรแสนล้านยังนิ่งได้ขนาดนี้ นับถือเลยๆ”

เมื่อเห็น เย่เฉิน สงบมาก เฉิน เย่าจวิน อดไม่ได้ที่จะชื่นชม ตอนที่เขารู้ข่าวนี้ครั้งแรก ตัวเขาเองยังตื่นเต้นจนควบคุมตัวเองไม่ได้ขนาดนี้

บอสเย่ อายุประมาณยี่สิบต้นๆ เท่านั้น ส่วนเขาเองอายุใกล้สี่สิบแล้ว ได้มายืนในจุดนี้ก็เพราะมีครอบครัวที่ทรงอำนาจหนุนหลัง แถมผ่านประสบการณ์ในวงการธุรกิจมากว่ายี่สิบปี

แต่ตอนนี้เขากลับสงบนิ่งสู้ บอสเย่ ยังไม่ได้เลย น่าอับอายจริงๆ...

ความประทับใจที่ เฉิน เย่าจวิน มีต่อ เย่เฉิน เพิ่มขึ้นอีกระดับ

“เอาเป็นว่า บอสเย่ รู้จักอุตสาหกรรมพลังงานใหม่ไหมครับ?”

เฉิน เย่าจวิน วกเข้าเรื่องดังกล่าว

“พลังงานใหม่?”

เมื่อพูดถึงพลังงานใหม่ เย่เฉิน ฟังแล้วก็ต้องยอมรับว่าเขาไม่ได้มีความรู้มากนักเกี่ยวกับอุตสาหกรรมนี้ เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน แม้แต่ในเกม [ด้วยเงินเดือนแค่สามพัน ฉันก็กลายเป็นมหาเศรษฐีของโลกได้] ก็ยังไม่มีธุรกิจด้านพลังงานใหม่ปรากฏขึ้น

แต่สิ่งหนึ่งที่เขารู้แน่ชัดก็คือ.. อุตสาหกรรมพลังงานใหม่มีศักยภาพในการเติบโตสูงมาก และทำกำไรได้มหาศาล ยกตัวอย่างง่ายๆ ปัจจุบันบริษัทพลังงานใหม่ที่ใหญ่ที่สุดของเอกชน มีมูลค่าตลาดเกือบ 3 ล้านล้าน!!!

จากจุดนี้ก็สามารถเห็นได้ว่า อุตสาหกรรมนี้มันน่ากลัวแค่ไหน

“บอสเย่ ผมจะพูดตรงๆ เลยแล้วกัน มีเจ้าของบริษัทพลังงานใหม่ขนาดกลางจากต่างประเทศ ต้องการขายกิจการของเขาออกไป”

“ถ้าเราซื้อบริษัทนี้มาได้ ผมให้ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์แล้ว ถ้าพัฒนาไปได้ดี กำไรขั้นต่ำที่เราจะได้รับจะอยู่ที่ราวๆ แสนล้าน หรืออาจจะมากกว่านั้นด้วยซ้ำ!!!”

แววตาของ เฉิน เย่าจวิน เริ่มเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น

หลังจากฟังที่ เฉิน เย่าจวิน พูดจบ เย่เฉิน กลับไม่ได้รีบตอบกลับ

บริษัทพลังงานใหม่นี้ ถ้าเป็นเพียงบริษัทขนาดกลาง ราคาซื้อขายก็คงไม่สูงมากนัก ถ้า เฉิน เย่าจวิน สามารถควักเงินหลายหมื่นล้านไปซื้อ Givenchy ที่กำลังเสื่อมถอยลงได้ งั้นเขาก็น่าจะกัดฟันซื้อบริษัทพลังงานใหม่นี้ได้ด้วยตัวเองเหมือนกัน

แล้วทำไม เฉิน เย่าจวิน ถึงเอาเรื่องนี้มาเล่าให้เขาฟังล่ะ?!

มันดูไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด...

“ประธานเฉิน การจะซื้อบริษัทพลังงานใหม่ขนาดกลางจากต่างประเทศแบบนี้ เกรงว่าจะไม่ง่ายนักใช่ไหม?”

เย่เฉิน มองไปที่ เฉิน เย่าจวิน เขารู้สึกว่าอีกฝ่ายยังไม่ได้บอกข้อมูลที่สำคัญที่สุดออกมา

“ฮ่าๆ บอสเย่ พูดถูกต้องเลย การจะซื้อบริษัทพลังงานใหม่จากต่างประเทศนี้มันมีอุปสรรคอยู่ไม่น้อยทีเดียว”

เฉิน เย่าจวิน เริ่มอธิบายรายละเอียดในเรื่องนี้ให้ เย่เฉิน ทราบ

“ประการแรก ที่ตั้งของบริษัทพลังงานใหม่นี้ค่อนข้างพิเศษ พื้นที่นั้นมีความไม่สงบ ซึ่งนี่เป็นสาเหตุหลักที่เจ้าของบริษัทต้องการขายกิจการ”

เจ้าของบริษัทนี้ปีนี้อายุกว่าเจ็ดสิบปีแล้ว และลูกหลานก็ไม่มีความสามารถ ดังนั้นเขาจึงต้องการขายบริษัท และนำเงินไปตั้งถิ่นฐานในที่ที่มั่นคง และปลอดภัยกว่า

“แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาอะไร เพราะถ้าเราซื้อมันมาแล้ว เราสามารถย้ายฐานบริษัทไปอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัยกว่าได้”

“แต่ปัญหาที่แท้จริงคือ ถ้าเราเข้าไปแทรกแซง จะเท่ากับว่าเป็นการ ‘ตัดหน้าซื้อ’”

เมื่อพูดถึงจุดนี้ สีหน้าของ เฉิน เย่าจวิน และหู จิ่งถง ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

“ตัดหน้า? ตัดหน้าใคร?”

เย่เฉิน รู้สึกสับสนขึ้นมา ทำไมจู่ๆ กลายเป็นเรื่องตัดหน้าซื้อไปได้อย่างไร?

“ตัดหน้า ‘อวี๋ เจิ้นชวี่’!!!”

ทันทีที่ได้ยินชื่อนี้ แววตาของ เฉิน เย่าจวิน ก็เผยความเกลียดชังออกมา ซึ่ง เย่เฉิน สังเกตเห็นมันได้อย่างชัดเจน

“อวี๋ เจิ้นชวี่ เป็นหนึ่งในสี่ผู้อาวุโสของสมาคมการค้าชิงถานของเรา”

หู จิ่งถง กล่าวเสริมจากด้านข้าง

‘หืม? คนคนนี้ก็เป็นคนของสมาคมการค้าชิงถานเหมือนกันงั้นเหรอ?’

เย่เฉิน เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

“บอสเย่ สมาคมการค้าชิงถานไม่ได้มีเพียงผมเป็นผู้ตัดสินใจเพียงคนเดียว นอกจากผมแล้ว ยังมีผู้อาวุโสอีกหลายคนที่มีอำนาจสำคัญภายในสมาคม”

การแข่งขันภายในสมาคมการค้าชิงถานดุเดือดมาก อวี๋ เจิ้นชวี่ ที่ เฉิน เย่าจวิน พูดถึงก็เป็นคนของอีกฝ่าย และเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ เฉิน เย่าจวิน ความสัมพันธ์ของทั้งสองจึงไม่ดีเลย เรียกได้ว่าย่ำแย่มาก..

บริษัทพลังงานใหม่จากต่างประเทศที่ เฉิน เย่าจวิน พูดถึง ถูก อวี๋ เจิ้นชวี่ กับพรรคพวกติดต่อไปก่อนแล้ว และอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะมีการเจรจาเกิดขึ้นในเมืองเซี่ยงไฮ้แห่งนี้

แต่ เฉิน เย่าจวิน บังเอิญรู้เรื่องนี้เข้า ถ้า อวี๋ เจิ้นชวี่ สามารถปิดดีลนี้ได้จริงๆ มันจะส่งผลกระทบต่อเขาอย่างมาก และเมื่อเผชิญกับผลกำไรระดับแสนล้าน เขาเองก็อดใจไม่ไหว

ดังนั้น เขาจึงคิดจะ ‘ตัดหน้าซื้อ’ อวี๋ เจิ้นชวี่..

แต่ฝั่งของ อวี๋ เจิ้นชวี่ นั้น ดูเหมือนจะมีพาร์ตเนอร์ร่วมทุนด้วย เฉิน เย่าจวิน ไม่แน่ใจว่าเขาจะสามารถต่อกรได้ด้วยตัวคนเดียว ดังนั้นเขาจึงเดินทางมายังมหานครเซี่ยงไฮ้แห่งนี้เพื่อขอความร่วมมือกับ เย่เฉิน

ก่อนหน้านี้ เขาให้ หู จิ่งถง พยายามสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อ เย่เฉิน ถึงขั้นยกวิลล่าสุดหรูในสนามกอล์ฟนานาชาติเสอซานให้กับ เย่เฉิน ฟรีๆ

ทั้งหมดนี้ก็เพื่อวันนี้ วันที่เขาอาจต้องขอความช่วยเหลือจาก เย่เฉิน…

“บอสเย่ ยังจำได้ไหมครับว่า วันแรกที่เราพบกันเป็นยังไง?”

หู จิ่งถง ถามขึ้นมาอย่างกะทันหัน

“อืม”

เย่เฉิน พยักหน้า ครั้งแรกที่เขาพบกับ หู จิ่งถง ก็เพราะ เฉิน เย่าจวิน ชวนเขาเข้าร่วมสมาคมการค้าชิงถาน แต่เขาปฏิเสธไปในตอนนั้น

“ในวันนั้น นอกจากผมแล้ว ยังมี ‘เฉา เจียอัน’ รองประธานสมาคมอยู่ด้วย”

“และเฉา เจียอัน คนนี้ก็เป็นพวกเดียวกับ อวี๋ เจิ้นชวี่ ทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นต่อกัน”

หู จิ่งถง อธิบายต่อ

ในตอนนั้น เย่เฉิน รู้สึกไม่ค่อยถูกชะตากับ เฉา เจียอัน เลย

“บอสเย่ นี่คือโอกาสทำกำไรแสนล้าน หาก บอสเย่ เต็มใจร่วมมือกับผม เราจะซื้อบริษัทพลังงานใหม่นี้ด้วยกัน”

“เรื่องเงินลงทุน ผมจะเป็นฝ่ายออกส่วนใหญ่ ส่วนผลกำไรหลังจากนั้น บอสเย่ จะได้รับส่วนแบ่งมากกว่า”

เฉิน เย่าจวิน กล่าวเงื่อนไขของเขา

เขายอมลงทุนมากขึ้น และยอมแบ่งผลกำไรมากกว่าให้กับ เย่เฉิน ทั้งหมดนี้ก็เพื่อหวังให้ เย่เฉิน มาเป็นพันธมิตรกับเขา

“เรื่องนี้ไม่ต้องรีบตัดสินใจ บอสเย่ สามารถใช้เวลาพิจารณาก่อน เพียงแต่ต้องให้คำตอบก่อนวันมะรืนนี้ก็พอครับ”

แน่นอนว่า เรื่องแบบนี้มันกะทันหันเกินไป แม้แต่เขาเอง หากได้รับข่าวแบบนี้ ก็ยังต้องใช้เวลาคิดทบทวนก่อนตัดสินใจ เมื่อถึงระดับของพวกเขาแล้ว ทุกการตัดสินใจต้องผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบในการจะทำสิ่งต่างๆ

เฉิน เย่าจวิน คาดหวัง และอยากรู้ว่า บอสเย่ จะตัดสินใจเลือกอย่างไร...