ตอนที่แล้วบทที่ 654: เผามัน!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 656: ลาจากโรงเรียน

บทที่ 655: จดหมายตอบรับ


เมื่อแน่ใจแล้วว่าตัวเองได้รับการตอบรับจากสถาบันผู้ฝึกสัตว์อสูรแห่งจักรวรรดิ เฉียวซางก็รู้สึกว่าหลังจากนี้จะไม่เข้าเรียนเลยก็ไม่เป็นไร… ทันใดนั้นเอง เธอก็เกิดความรู้สึกอยากโดดเรียนตอนบ่ายขึ้นมา

แต่ไม่นานเธอก็นึกอะไรขึ้นได้ จึงเก็บข้าวของก่อนจะเดินออกจากห้องพัก

เรื่องของความรู้ ตัวเธอเองยังขาดอยู่มาก อะไรที่ควรฟังก็ต้องฟัง อีกอย่างตอนนี้เธอก็ไม่ได้มีที่ไปที่อื่นในอัลติเมทสตาร์อยู่แล้ว

ทุกอย่างค่อยว่ากันหลังจากได้รับจดหมายตอบรับจากสถาบันผู้ฝึกสัตว์อสูรแห่งจักรวรรดิในอีกหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้าแล้วกัน…

เฉียวซางเดินมุ่งหน้าไปทางโรงอาหาร

“ซุนซุน?”

ในตอนนั้นเอง ซุนเป่าก็ส่งเสียงขึ้นมาอย่างอดทนรอมานาน ก่อนจะถามขึ้นว่า พอเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว สัตว์อสูรต้องเรียนด้วยหรือเปล่า?

ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันแฮะ… เฉียวซางคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหัวเราะเบาๆ แล้วตอบว่า

“น่าจะไม่ต้องนะ? ฉันเคยได้ยินมาว่าที่มหาวิทยาลัยผู้ฝึกสัตว์อสูรกับสัตว์อสูรจะทำกิจกรรมร่วมกันเป็นหลัก”

“ซุนซุน~”

ดวงตาของซุนเป่าพริ้มลงทันทีด้วยความดีใจ ก่อนจะลอยวนเป็นวงด้วยความตื่นเต้น

เฉียวซางมองท่าทางของซุนเป่าแล้วรู้สึกอ่อนใจขึ้นมา

เอาเถอะ… วันนี้เป็นวันดีขนาดนี้ ให้ซุนเป่าดีใจไปด้วยหน่อยก็แล้วกัน…

14.12 น.

เฉียวซางนั่งอยู่ในห้องเรียน มือข้างหนึ่งกำลังแกะเมล็ดแตงโมกิน ส่วนอีกข้างก็ถือโทรศัพท์เล่นไปพลาง

พอถังอี้เดินเข้ามาในห้อง สิ่งแรกที่เห็นก็คือภาพนี้

เขานั่งลงที่โต๊ะตัวเอง ก่อนจะเอ่ยด้วยความประหลาดใจ

“เธอไม่อ่านหนังสือแล้วเหรอ?”

เฉียวซางยังคงแกะเมล็ดแตงโมกินอย่างสบายๆ พร้อมตอบไปว่า

“ไม่มีเรียนซะหน่อย ฉันจะอ่านหนังสือทำไม?”

ถังอี้ชะงักไปเล็กน้อย “แต่เธอปกติไม่ใช่ชอบอ่านหนังสือที่สุดหรือไง?”

เฉียวซางเหลือบตามองเขา “ใครบอก?”

ถังอี้: “???”

นี่มันต้องมีใครบอกด้วยเหรอ?

ใครๆ ก็รู้กันหมดว่าเธอแทบจะถือหนังสืออ่านตลอด 24 ชั่วโมง!

“เธอถูกสิงรึเปล่าเนี่ย?” ถังอี้ทำหน้าตาตกใจ แกล้งทำเป็นหวาดกลัว

เฉียวซางหยุดมือที่กำลังแกะเมล็ดแตงโม ก่อนจะวางมันลง แล้วโน้มตัวเข้าไปใกล้กระซิบเบาๆ

“ฉันสอบติดสถาบันผู้ฝึกสัตว์อสูรแห่งจักรวรรดิแล้ว ไม่ต้องเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยอีกต่อไปแล้วล่ะ”

“อะไรนะ?!”

ถังอี้ดีดตัวลุกขึ้นยืนทันที ก่อนจะร้องเสียงดังลั่น “เธอสอบติดสถาบันผู้ฝึกสัตว์อสูรแห่งจักรวรรดิแล้วเหรอ?!”

เพื่อนร่วมชั้นทั้งห้องถึงกับหยุดชะงักแล้วหันมามองเธอเป็นตาเดียว

เฉียวซางกระแอมไอหนึ่งครั้ง ก่อนจะแสร้งทำสีหน้าสุขุม “เบาๆหน่อย”

“เธอตอบฉันมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!” ถังอี้ไม่มีท่าทีว่าจะลดเสียงลงเลย

“จริงสิ” เฉียวซางพยายามเก็บมุมปากตัวเองไม่ให้ยกขึ้นสูงเกินไป ก่อนจะพูดต่อ

“มีคนช่วยส่งจดหมายแนะนำตัวไปให้สถาบันผู้ฝึกสัตว์อสูรแห่งจักรวรรดิ ตอนเช้าหลังเลิกเรียน อาจารย์ของสถาบันก็มา สัมภาษณ์ฉัน แล้วสุดท้ายก็ผ่านเลย”

ถังอี้อึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะนั่งลงกับที่เหมือนหมดแรง พร้อมกับพึมพำว่า

“ไอ้ตัวประหลาด…”

ช่วยเรียกฉันว่าอัจฉริยะดีกว่า…

เฉียวซางคิดในใจ แต่ไม่พูดออกไป กลัวว่าจะดูอวดดีเกินไปหน่อย

ทันใดนั้นเอง ยูนะ ที่อยู่ข้างๆ ก็เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงระมัดระวัง

"เธอสอบติด สถาบันผู้ฝึกสัตว์อสูรแห่งจักรวรรดิ จริงๆ เหรอ?"

เฉียวซางตอบรับสั้นๆ ว่า "อืม"

ยูนะขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะถามต่อ

"แล้วเธอไม่คิดจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัยยูเลียนทันแล้วเหรอ?"

นักเรียนในโรงเรียนแห่งนี้มีเครือข่ายข่าวสารที่รวดเร็วมาก เรื่องที่โรงเรียนเคยมอบจดหมายแนะนำจากมหาวิทยาลัยยูเลียนทันให้เฉียวซางเมื่อเดือนก่อนนั้น แพร่กระจายไปทั่วตั้งนานแล้ว

แต่ก็ไม่ได้ถือว่าเป็นความลับอะไร เพราะทุกปีจดหมายแนะนำก็มักจะถูกมอบให้กับนักเรียนที่สะสมคะแนนสูงสุดอยู่แล้ว

ฉันบอกได้ไหมว่า มหาวิทยาลัยยูเลียนทันไม่เคยติดต่อฉันเลย…

เฉียวซางอดบ่นในใจไม่ได้ แต่ภายนอกกลับแสดงท่าทีไม่ใส่ใจ ก่อนจะตอบไปอย่างสบายๆ

"ฉันเป็นคนบลูสตาร์อยู่แล้ว แน่นอนว่ากลับไปเรียนที่บ้านเกิดจะสะดวกที่สุด"

พูดความจริงออกไปคงไม่ได้ เพราะสถาบันผู้ฝึกสัตว์อสูรแห่งจักรวรรดิกับมหาวิทยาลัยยูเลียนทันเป็นคู่แข่งกันโดยตรง ถ้าพูดอะไรไม่ดีเกี่ยวกับยูเลียนทัน ก็อาจทำให้สถาบันจักรวรรดิต้องเสียหน้าได้

ตั้งแต่เผาจดหมายนั่นทิ้งไป เฉียวซางก็ถือว่าตัวเองเป็นนักศึกษาของสถาบันจักรวรรดิอย่างเป็นทางการแล้ว

เธอเว้นช่วงไปเล็กน้อยก่อนจะพูดเสริม

"อีกอย่าง เทอมแรกปีหนึ่งของฉันก็ต้องไปแลกเปลี่ยนที่มหาวิทยาลัยยูเลียนทันอยู่แล้ว ถือว่าได้ไปเรียนที่นั่นเหมือนกัน"

ได้เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยอันดับสองของจักรวาลแถมยังได้ไปแลกเปลี่ยนที่มหาวิทยาลัยอันดับสามของจักรวาลอีกครึ่งเทอม…

ยูนะที่ได้ฟังถึงกับรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาในใจ

นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอรู้สึกว่าตัวเองห่างชั้นกับคนอื่นมากขนาดนี้

เพื่อนร่วมชั้นที่ได้ยินการสนทนานี้ ต่างมองไปที่เฉียวซางด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอิจฉา

แม้ว่าพวกเขาจะไม่ต้องกังวลเรื่องการเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำแต่ระดับของสถาบันจักรวรรดิหรือมหาวิทยาลัยยูเลียนทันนั้น… พวกเขาไม่มีวันเอื้อมถึงแน่นอน

บรรยากาศในห้องเรียนพลันเงียบไปครู่หนึ่ง

ข่าวเรื่องเฉียวซางได้รับการรับรองเข้าศึกษาต่อในสถาบันผู้ฝึกสัตว์อสูรแห่งจักรวรรดิแพร่สะพัดไปทั่วโรงเรียนในเวลาไม่นาน ทำให้เธอกลายเป็นดาวเด่นของโรงเรียนมัธยมปลายไซแนนท์ อีกครั้ง

แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตของเธอสักเท่าไหร่

นักเรียนของไซแนนท์โดยพื้นฐานแล้วเป็นคนที่รักษาระยะห่างได้ดี และไม่ค่อยเข้าไปก้าวก่ายเรื่องของคนอื่นมากนัก

ยกเว้นแค่ตอนที่เหยี่ยวเกราะเหล็กของเธอวิวัฒนาการเป็นเหยี่ยวเกราะพิทักษ์ซึ่งมีบางส่วนอดใจไม่ไหว ต้องแอบมาดูให้เห็นกับตา

นอกเหนือจากนั้น เวลาที่นักเรียนคนอื่นเห็นเธอ ก็มักจะเพียงพูดคุยกันจากระยะไกลเท่านั้น

หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ในช่วงเวลานี้เฉียวซางกินอิ่ม นอนหลับเต็มที่ จนรู้สึกผ่อนคลายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน สมองของเธอที่เคยล้าเพราะอดนอนบ่อยๆ ก็กลับมาปลอดโปร่งอย่างน่าประหลาด

เวลา 20:13 น.

เฉียวซางนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ กำลังไล่ดูรายการไอเทมต่างๆ ที่สามารถแลกเปลี่ยนได้ด้วยแต้มคะแนนสะสม

อีกไม่กี่วันเธอก็ต้องออกจากมัธยมปลายไซแนนท์แล้ว หนึ่งแต้มสะสมเทียบเท่ากับ 100,000 เหรียญพันธมิตร ดังนั้นก่อนจากไป เธอจะต้องใช้ให้หมด

[ชื่อ: หมวกคลุมวิเศษ]

[ฟังก์ชั่น: เพียงแค่ให้พลังงานและกลิ่นอายของสัตว์อสูรซึมซับเข้าไป ไอเทมนี้จะสามารถปกปิดใบหน้าของสัตว์อสูรตัวนั้นได้]

[หมายเหตุ 1: ไอเทมนี้สามารถปกปิดได้แค่บริเวณศีรษะ ส่วนร่างกายที่เหลือจะยังเป็นเหมือนเดิม]

[หมายเหตุ 2: หากต้องการใช้กับสัตว์อสูรตัวอื่น จำเป็นต้องทำความสะอาดหมวกก่อน ไม่เช่นนั้นมันจะยังคงมีกลิ่นอายของสัตว์อสูรตัวก่อนหน้าอยู่ และจะไม่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ]

[หมายเหตุ 3: ขนาดของหมวกสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามขนาดศีรษะของสัตว์อสูร แต่ขนาดต่ำสุดคือ 10 ซม. และใหญ่สุดคือ 1.9 เมตร]

[คะแนนที่ต้องใช้: 50]

ใช้ปกปิดหน้าตาของสัตว์อสูรเหรอ? ดูเหมือนจะไม่ได้มีประโยชน์อะไรมาก…

แต่ดีไซน์ของหมวกดูสวยใช้ได้เลยนะ ถ้าให้กงเป่าใส่น่าจะเหมาะมาก…

เฉียวซางจ้องดูรูปตัวอย่างของหมวกคลุมวิเศษพลางคิดในใจ

พอคิดได้ดังนั้น เธอก็เตรียมจะไปเรียกกงเป่ามาถามว่าสนใจหรือเปล่า แต่ทันใดนั้นเอง…

พรึ่บ!

จู่ๆหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็ดับวูบ

ก่อนที่กลางจอจะเกิด ระลอกคลื่นเล็กๆ ซึ่งค่อยๆ ขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ

แกร๊ก—

จากกลางหน้าจอ มีมือกลไกโลหะสีเหล็กดำโผล่ออกมา!

ตัวโครงสร้างของมันซับซ้อนอย่างเหลือเชื่อ ราวกับเป็นแขนกลจากเทคโนโลยีระดับสูง

และที่น่าตกใจกว่านั้นคือ ในอุ้งมือของมันมีซองจดหมายขนาดใหญ่กว่ากระดาษ A4

บนซองจดหมายปิดผนึกด้วยขี้ผึ้งสีทองที่มีลวดลายซับซ้อน

เฉียวซางชะงักไปชั่วขณะ มองแขนกลที่ยื่นออกมาจากจออย่างตะลึงงัน

เธอยังไม่ทันได้ตอบสนองอะไรด้วยซ้ำ

แขนกลเห็นว่าไม่มีใครรับซองไป มันจึงขยับมือเบาๆคล้ายกับกำลังเร่งให้เธอรับมันไปเสียที

…เชี่ย นี่มันอะไรฟะ?!

เฉียวซางลังเลอยู่เสี้ยววินาทีก่อนจะค่อยๆเอื้อมมือไปรับซองจดหมายมา

ทันทีที่เธอรับไป แขนกลยกมือขึ้นโบกเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ หดกลับเข้าไปในจอ

พรึ่บ!

หน้าจอกลับสู่สภาพปกติราวกับว่า เมื่อครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เฉียวซางก้มลงมองซองจดหมายในมือ ก่อนที่จู่ๆ เธอจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้

เธอเบิกตากว้าง รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที ก่อนจะฉีกซองออกอย่างร้อนรน แล้วหยิบของข้างในออกมา

ซองสีแดงลวดลายปั๊มทอง

ดีไซน์เรียบง่ายแต่ให้ความรู้สึกหรูหราและสง่างาม

บนหน้าปกมีตัวอักษรชัดเจนที่เขียนว่า

[จดหมายตอบรับจากสถาบันผู้ฝึกสัตว์อสูรแห่งจักรวรรดิ]

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด