บทที่ 6 ต่อกรกับราชินีแห่งภูต
บทที่ 6 ต่อกรกับราชินีแห่งภูต
หุบเขาวิญญาณลม
สายลมอ่อนพัดโชย แสงแดดสดใสแต่ไม่ร้อนจัดปกคลุมหุบเขา เป็นช่วงที่ดอกไม้ป่าบานสะพรั่ง
วิญญาณผีเสื้อลมสองสามตัวล่องลอยผ่านป่าอย่างสบายอารมณ์ ตามหลังมีสัตว์ล่าวายุหลายตัวเดินตามติดราวกับองครักษ์ พวกมันดูเหมือนกำลังเที่ยวเล่น หรืออาจกำลังลาดตระเวน
ทันใด ลมแรงพัดกระโชก ชายหนุ่มหน้าตาดีพุ่งออกมาจากพุ่มหญ้า ดาบในมือฟาดฟัน คมดาบห่อหุ้มด้วยจิตสังหารอันเยือกเย็นและประกายวาววับที่แทบมองไม่เห็นใต้แสงอาทิตย์
เห็นเพียงดาบเต้นระบำ ร่างของชายหนุ่มพลิ้วไหวปราดเปรียวผ่านไป ราวกับกำลังเริงระบำ วิญญาณผีเสื้อลมและสัตว์ล่าวายุล้มลงเป็นใบไม้ร่วง
[สังหารวิญญาณผีเสื้อลม LV12 ได้รับค่าประสบการณ์: 120]
[สังหารสัตว์ล่าวายุ LV11 ได้รับค่าประสบการณ์: 150]
....
[เลเวลเพิ่มขึ้น ระดับปัจจุบัน: 11, พละกำลัง +0.5, ความคล่องแคล่ว +1.5, ความทนทาน +0.5, จิตใจ +0.5]
"สบายจริงๆ~" ฟางซิวยืดร่างอย่างสำราญ
การเพิ่มระดับทำให้คุณสมบัติเพิ่มขึ้น ทำให้เขารู้สึกถึงความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นได้อย่างชัดเจน
หันกลับไปดูว่าวิญญาณผีเสื้อลมและสัตว์ล่าวายุที่เพิ่งสังหารดรอปไอเทมหรือไม่
ว่างเปล่า
หันหลังกลับ เดินหน้าต่อ
ชินชาแล้ว ตลอดทางที่ผ่านมา เขาเดินทะลุผ่านหุบเขาวิญญาณลม ที่ใดที่ผ่านย่อมเป็นสังเวียนเลือด
รวมวิญญาณผีเสื้อลมและสัตว์ล่าวายุที่สังหารไปแล้วไม่ต่ำกว่าแปดสิบตัว แม้จะไม่ถึงร้อย
ของที่ดรอปมีเพียงสามชิ้น
เขี้ยวสัตว์ล่าวายุสองซี่ และปีกแห่งภูตลมหนึ่งคู่
[ปีกแห่งภูตลม]
วัตถุดิบธรรมดา
คำอธิบาย: ปีกของวิญญาณผีเสื้อลม ภายในมีพลังลมเล็กน้อย เพียงสะบัดเบาๆ ก็สามารถก่อพายุได้ ใช้ในการปรุงยาและตกแต่ง
เป็นวัตถุดิบธรรมดาเช่นกัน แต่ปีกแห่งภูตลมมีราคาแพงกว่าเขี้ยวสัตว์ล่าวายุเล็กน้อย ห้าสิบเหรียญต่อคู่
เพราะเมื่อเทียบกับเขี้ยวสัตว์ล่าวายุ ปีกแห่งภูตลมนอกจากใช้สร้างอุปกรณ์แล้ว ยังใช้ทำ "ยาพายุคลั่ง" ที่เพิ่มพลังทักษะธาตุลมได้ด้วย
ในเมืองชิงซานที่มีดันเจี้ยนผลิตทักษะธาตุลม นี่คือของใช้สิ้นเปลืองที่อุปสงค์เกินอุปทาน
แต่ก็แค่ห้าสิบเหรียญเท่านั้น
รวมกับเขี้ยวสัตว์ล่าวายุสองซี่ วันนี้ได้เงินเก้าสิบเหรียญ ยังไม่พอให้เขากินสุกี้แบบจุใจ
ดังนั้น ต้องฝากความหวังไว้ที่บอสตัวสุดท้ายแล้ว
ขอเพียงดรอปอุปกรณ์สักชิ้น วันนี้ก็ไม่เสียแรงลงดันเจี้ยน
ขณะครุ่นคิด ฟางซิวมาถึงส่วนลึกสุดของหุบเขาวิญญาณลม ที่ซึ่งบอส "ราชินีแห่งภูต" สถิตอยู่
สวนดอกไม้เล็กๆ ที่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์
มอนสเตอร์สูงราวสองเมตร ครึ่งบนเป็นร่างมนุษย์ ครึ่งล่างยังคงเป็นร่างผีเสื้อ ด้านหลังกระพือปีกขนาดมหึมาที่มีลวดลายประหลาด กำลังเดินเล่นในสวนของตน เหนือศีรษะมีตัวอักษรลอย
[ราชินีแห่งภูต LV15 (BOSS)]
[HP: 1000]
เมื่อฟางซิวก้าวเข้าสวน สายตาของราชินีแห่งภูตก็จับจ้องมาทันที ใบหน้างดงามปรากฏความโกรธ ตวาดเสียงแหลม "ผู้บุกรุก! ออกไป!"
หากเป็นราชินีแห่งภูตตัวจริง เขาคงคุยกับนางอีกสองสามประโยค เช่น เตือนให้นางนึกถึงการสวมเสื้อผ้า
แต่ทุกอย่างในดันเจี้ยนล้วนเป็นเพียงเงาที่หลงเหลือจากอดีต ไม่มีทางตอบโต้กับผู้ท้าทาย
สำหรับทุกผู้ท้าทายที่เข้ามาในดันเจี้ยน มันจะลงมือสังหารเท่านั้น
หลังเสียงตวาด ราชินีแห่งภูตก็โจมตีทันที ปีกด้านหลังสั่นสะเทือน ตวัดใบมีดลมมหึมาสองคมไขว้กัน
ใบมีดลมไขว้ เวทมนตร์ธาตุลมสองดาว เป็นทักษะเด่นของราชินีแห่งภูต การโจมตีเพียงครั้งเดียวก็สามารถสังหารผู้ใช้อาชีพสายเวทย์เลเวล 10 ที่สวมอุปกรณ์ครบชุดได้ในทันที
เช่นเดียวกัน หากโดนเขาเข้า ก็ต้องตายคาที่แน่นอน ใครใช้ให้เขาสวมเสื้อผ้าธรรมดาที่เพิ่มการป้องกันแค่ +1 กันเล่า
คู่มือที่อ่านเมื่อคืนแนะนำว่าให้ผู้ใช้อาชีพป้องกันถือโล่ใหญ่ยืนหน้าสุด รับใบมีดลมไขว้โดยตรง นักบวชรักษาต่อเนื่อง เท่านี้ราชินีแห่งภูตก็มีแต่รอความตาย ด้วยนี่เป็นเพียงดันเจี้ยนระดับต่ำ
แต่เขาลงคนเดียว ไม่ใช่อาชีพป้องกัน และไม่มีนักบวชร่วมทีม
ทำได้แค่หลบหลีก!
ข้อดีของจอมดาบในฐานะอาชีพสามดาวที่เน้นความคล่องแคล่วแสดงออกมาทันที
ก้าวเท้านิดเดียวก็หลุดพ้นระยะครอบคลุมของใบมีดลมไขว้ กลับมือฟันดาบกลางอากาศ
พลังดาบคมกริบดุจจันทร์เสี้ยวพุ่งผ่านอากาศ ตรงเข้าหาศีรษะราชินีแห่งภูต
ราชินีแห่งภูตยกแขนทั้งสองข้างขึ้นป้องกัน แม้เป็นเพียงเงา แต่ยังคงรักษาสัญชาตญาณการต่อสู้
"-35"
แต่เมื่อมันรับพลังดาบได้ ฟางซิวที่ควรอยู่ห่างสามถึงห้าเมตรกลับกระโดดขึ้นกลางอากาศ มาอยู่ประชิดตัวแล้ว
"ศิลปะการชักดาบ!"
"ฉึก!"
ประกายเย็นวาบ ดอกเหมยสีเลือดผลิบานกลางอากาศ ฟางซิวพลิ้วกายไปอยู่เบื้องหลังราชินีแห่งภูตแล้ว
"ฉึบ!"
ร่างครึ่งบนของราชินีแห่งภูตพุ่งเลือดกระจาย!
รอยแผลทอดยาวจากไหล่ซ้ายถึงชายโครงขวา เลือดพุ่งราวน้ำพุ
"-474 (โจมตีจุดอ่อน)"
"-126 (โจมตีจุดอ่อน)"
"อ๊ากก!!!!"
ราชินีแห่งภูตร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด ดาบเดียวปลิดชีพนางไปกว่าครึ่ง
แต่ไม่มีเวลาให้รู้สึกเจ็บปวด เข้าประชิดตัวอีกครั้ง ดาบบุปผาเลือดในมือฟันซ้ำไม่หยุด
"-72"
"-53"
...
คมดาบฟันลงบนร่างราชินีแห่งภูต แต่ละดาบสร้างความเสียหายสองช่วง พลังดาบทำให้การโจมตีธรรมดาของฟางซิวเกือบเท่าตัว!
พอราชินีแห่งภูตหันมา ปล่อย "ใบมีดลมไขว้" อีกครั้ง
ฟางซิวก้าวกระโดดหลบได้ทัน
หลายปีมานี้ เข้าไม่ได้ฝึกแค่วิชาดาบเท่านั้น ทักษะการต่อสู้ก็ขัดเกลาจนเชี่ยวชาญ
เผชิญหน้ากับใบมีดลมไขว้ที่สังหารได้ในที ดูเหมือนฟางซิวเต้นระบำบนคมดาบ แต่แท้จริงคุมเกมได้สบาย
คู่มือเมื่อคืนยังแสดงหน้าต่างคุณสมบัติของราชินีแห่งภูตไว้ ทำให้ฟางซิวเข้าใจนางอย่างถ่องแท้
ท่าร่ายเวทของราชินีแห่งภูตเห็นชัดเกินไป คาดการณ์ได้ไม่ยาก ความคล่องแคล่วก็ไม่สูง อย่างน้อยไม่สูงเท่าเขา เมื่อหยั่งรู้การเคลื่อนไหวได้ก็หลบหลีกได้ง่ายดาย
จังหวะการต่อสู้อยู่ในกำมือ
การสังหารเป็นเพียงเรื่องของเวลา
หลบใบมีดลมไขว้แล้วบุกเข้าไป ซัดอีกสองดาบ
ยังไม่ทันที่ทักษะศิลปะการชักดาบจะครบคูลดาวน์ ฟางซิวก็ฟันเลือดที่เหลือของราชินีแห่งภูตจนหมด
"ไอ้ผู้บุกรุกชั่วช้า เจ้าต้องถูกพายุแก้แค้นแน่!"
ราชินีแห่งภูตเปล่งคำสาปสุดท้ายด้วยความแค้น ร่างจางหายไปในอากาศ เหลือเพียงถุงมือสีฟ้าคู่หนึ่งและม้วนหนังแกะเก่าๆ ตกอยู่บนพื้น
"อืม!"
"ดรอปอุปกรณ์แล้ว!" ตาฟางซิวเป็นประกาย รีบเก็บดาบแล้วก้าวไปหยิบ
(จบบทที่ 6)