ตอนที่แล้วตอนที่ 22 ลอบโจมตี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 24 สังหาร

ตอนที่ 23 ศัตรูเก่า


ตอนที่ 23 ศัตรูเก่า

ในป่าลึก

“ศิษย์พี่ อาจารย์จะไม่เป็นอะไรจริงๆ ใช่ไหม?” อู๋เสี่ยวพั่งหันกลับไปมองด้านหลัง ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล

สวี่เมิงนิ่งเงียบ

แม้เขาจะรู้ว่าจางอวิ๋นมีพลังแข็งแกร่งมาก แต่ฝ่ายตรงข้ามมีถึงสามคนในระดับแก่นทองคำ โดยเฉพาะชายชุดคลุมดำร่างสูงใหญ่คนสุดท้ายที่ปรากฏตัว พลังของเขาให้ความรู้สึกเหมือนเป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดของแก่นทองคำ

การต่อสู้หนึ่งต่อสาม...

ดวงตาของสวี่เมิงฉายแววกังวล

เขากำหมัดแน่น กัดริมฝีปากด้วยความเจ็บใจ เขาโทษตัวเองที่ไม่มีพลังมากพอ

“หนูตัวน้อยทั้งสอง คิดจะหนีไปที่ไหน?”

ในตอนนั้น เสียงหนึ่งดังขึ้นอย่างไม่คาดคิดจากด้านบน

สวี่เมิงและอู๋เสี่ยวพั่งหน้าถอดสี เงยหน้าขึ้นไปมอง

บนต้นไม้ทั้งสองฝั่ง ปรากฏชายในชุดคลุมดำสองคนกำลังมองพวกเขาด้วยแววตาเย้ยหยัน

“เจ้าอ้วน หนีเร็ว!” สวี่เมิงตะโกนดังลั่น

“หนี? ต่อหน้าข้า เจ้าคิดว่าจะหนีไปได้ถึงไหนกัน?”

ชายชุดคลุมดำคนหนึ่งหัวเราะเย็นชา ก่อนทั้งสองพุ่งลงมาจากต้นไม้พร้อมดาบในมือ พุ่งฟันใส่พวกเขา

สวี่เมิงและอู๋เสี่ยวพั่งรีบกระโดดหลบไปคนละทาง

แต่แรงกระแทกจากดาบที่ปักลงพื้น พร้อมกับลมปราณที่ตามมาทำให้ทั้งสองเซถลาถอยไปหลายก้าว

“เสียงนี้...”

หลังจากถอยไปได้ไม่กี่ก้าว สวี่เมิงตั้งหลักได้ ก่อนมองไปยังชายชุดคลุมดำที่พูดเสียงเยาะเย้ย ใบหน้าของเขาเปลี่ยนสีในทันที เขาตัวสั่น ดวงตาเต็มไปด้วยความแค้นที่ฝังลึก เขาตะโกนออกมาอย่างเดือดดาล “หลินซื่อ! เจ้าคือหลินซื่อ!!”

ชายชุดคลุมดำที่หัวเราะเย้ยหยันชะงักไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินชื่อ ก่อนมุมปากของเขายกขึ้นเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาจึงเลิกปกปิดตัวเองและเปิดหมวกออก เผยให้เห็นใบหน้าของชายหนุ่มที่ดูหล่อเหลา

“เจ้าจำข้าได้ถึงเพียงนี้?” ชายที่ถูกเรียกว่าหลินซื่อยิ้มเยาะ

“เป็นเจ้าแน่!!”

เมื่อเห็นใบหน้าของเขา ดวงตาของสวี่เมิงเหมือนจะลุกเป็นไฟ ใบหน้าของเขาแดงฉานด้วยความโกรธแค้น

“ศิษย์พี่...” อู๋เสี่ยวพั่งมองสวี่เมิงด้วยความกังวล

ความโกรธแค้นที่ระเบิดออกมาจากสวี่เมิง ทำให้อู๋เสี่ยวพั่งที่ยืนอยู่ข้างๆ ถึงกับตกตะลึง นับตั้งแต่รู้จักกันมา เขาไม่เคยเห็นสวี่เมิงในสภาพเช่นนี้มาก่อน

“คุณชาย…”

ชายชุดคลุมดำอีกคนที่ยืนอยู่ใกล้หลินซื่อ มีสีหน้ากังวลเล็กน้อย

“ไม่เป็นไร”

หลินซื่อโบกมือด้วยท่าทีหยิ่งผยอง ก่อนมองไปยังสวี่เมิงและอู๋เสี่ยวพั่งด้วยสายตาดูถูก “สองคนที่กำลังจะตาย ยังไงก็ไม่มีทางส่งข่าวออกไปได้!”

เขาหันไปบอกชายชุดคลุมดำอีกคน “ไปจัดการเจ้าอ้วนคนนั้น ส่วนคนไร้ค่าคนนี้…”

สายตาของเขาจ้องมองสวี่เมิงที่เต็มไปด้วยความโกรธ แววตาของเขาเหมือนนักล่าที่กำลังมองเหยื่อ เขาเลียริมฝีปากด้วยท่าทีเย้ยหยัน “ข้าจะทำให้เจ้าสิ้นสภาพอีกครั้งด้วยตัวข้าเอง!!”

“รับทราบ คุณชาย!”

ชายชุดคลุมดำไม่พูดอะไรอีก ก่อนชักดาบออกมาพุ่งเข้าหาอู๋เสี่ยวพั่งทันที

อู๋เสี่ยวพั่งหน้าซีด รีบดึงดาบออกจากแหวนเก็บของเพื่อป้องกันตัว

เสียงโลหะปะทะกันดังสนั่น

ประกายไฟกระจาย พร้อมแรงกระแทกที่ทำให้อู๋เสี่ยวพั่งเสียหลัก ร่างกายของเขาถูกซัดกระเด็นถอยไปหลายก้าว

“ระดับสร้างรากฐาน?”

หลังจากถอยไปเกือบสิบก้าว อู๋เสี่ยวพั่งพอจะทรงตัวได้ เขาเงยหน้ามองชายชุดคลุมดำตรงหน้าด้วยความแปลกใจ

ก่อนหน้านี้ ทั้งสามคนที่พวกเขาพบล้วนเป็นระดับแก่นทองคำ เขาคิดว่าคนนี้ก็น่าจะเหมือนกัน แต่กลับเป็นเพียงระดับสร้างรากฐาน

เขาไม่มีเวลาคิดอะไรมากนัก เพราะชายชุดคลุมดำพุ่งเข้ามาอีกครั้งพร้อมดาบในมือ

“แค่สร้างรากฐาน ข้าไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น!”

อู๋เสี่ยวพั่งกัดฟัน ก่อนยกดาบขึ้นเผชิญหน้าโดยไม่คิดจะหนี

ขณะที่การต่อสู้นี้เริ่มต้นขึ้น ด้านอีกฝั่งของลานโล่ง

“เจ้าคนไร้ค่า คงไม่คิดว่าจะได้พบข้าอีกใช่หรือไม่?”

หลินซื่อจ้องมองสวี่เมิงด้วยสายตาเย้ยหยัน “ก่อนหน้านี้ข้าบอกแล้วว่าเจ้าไม่มีทางหนีรอดได้! คราวก่อนเจ้าโชคดีที่พ่อแม่ของเจ้าช่วยปกป้อง แต่คราวนี้ ไม่มีใครช่วยเจ้าได้อีกแล้ว!!”

“ไอ้สัตว์นรก!!”

เมื่อได้ยินคำว่าพ่อแม่ สวี่เมิงแทบคลั่ง ดวงตาของเขาแดงก่ำ เขาดึงดาบออกมาแล้วพุ่งเข้าหาหลินซื่อด้วยความโกรธเกรี้ยว

เสียงดาบปะทะกันดังสะท้อนก้องไปทั่วบริเวณ

หลินซื่อยกดาบขึ้นป้องกันการโจมตี ก่อนจะระดมพลังปราณเข้าสู่คมดาบแล้วฟันกวาดออกไป

สวี่เมิงถูกแรงกระแทกจนทั้งตัวและดาบของเขาปลิวกระเด็นออกไป

เสียงดังสนั่น

ดาบยาวตกลงกับพื้น สวี่เมิงมองหลินซื่อพร้อมกับบีบมือที่ชาไปทั้งข้าง เขาเบิกตากว้างเล็กน้อย “ระดับสร้างรากฐาน?”

“ที่ข้าสามารถทะลุถึงระดับสร้างรากฐานได้เร็วขนาดนี้ ก็ต้องขอบคุณเจ้านั่นแหละ เจ้าคนไร้ค่า...”

หลินซื่อยิ้มเยาะ ก่อนกล่าวต่อ “หากไม่ใช่เพราะรากวิญญาณมังกรของเจ้า ข้าคงต้องเสียเวลาอีกมากกว่าจะสร้างรากฐานได้!”

“เจ้าต้องตาย!!”

เมื่อได้ยินดังนั้น สวี่เมิงตะโกนลั่นด้วยความโกรธ

เสียงคำรามดังก้อง

มังกรทองคำราม ก่อเกิดพลังมังกรมหาศาลแผ่กระจายออกจากร่างของสวี่เมิง

หลินซื่อที่อยู่ตรงหน้า รับพลังมังกรนี้โดยตรง ร่างกายของเขาสั่นสะท้านโดยไม่อาจควบคุมได้ การไหลเวียนของปราณในร่างกายชะงักไปชั่วขณะ

เขามองสวี่เมิงด้วยความตกใจ “ดูเหมือนข่าวที่ครอบครัวข้าได้รับจะเป็นความจริง เจ้าคนไร้ค่านี่ได้ปลุกสายเลือดมังกรที่ซ่อนอยู่ในตัวขึ้นมา! หากเป็นเช่นนั้น แสดงว่าในร่างกายเจ้ามีรากวิญญาณมังกรอยู่อีกสายหนึ่งใช่หรือไม่?”

เขาเลียริมฝีปากพลางมองสวี่เมิงด้วยสายตาเต็มไปด้วยความโลภและคลั่งไคล้ “รากวิญญาณมังกรสายแรกที่ข้าแย่งมาจากเจ้าทำให้ข้าทะลุถึงสร้างรากฐานได้ ถ้าข้าได้สายที่สองของเจ้าอีก ข้าคงสามารถทะลุถึงแก่นทองคำได้ในไม่ช้า! เจ้าคนไร้ค่าจงมอบรากวิญญาณมังกรสายที่สองของเจ้ามาให้ข้าเสียดีๆ!!”

สิ้นเสียง หลินซื่อพุ่งเข้าหาสวี่เมิง

สวี่เมิงสีหน้าหนักแน่น ก่อนใช้วิชา ย่างก้าวคลื่นเมฆา เคลื่อนตัวหลบการโจมตี

“หึ!”

หลินซื่อยิ้มเย็น เขาจับจ้องจังหวะการเคลื่อนไหวของสวี่เมิงอย่างแม่นยำ เมื่อเห็นจังหวะในก้าวที่สาม เขาพุ่งดาบแทงไปข้างหน้า

เสียงหวืดดังขึ้น

แต่ดาบของเขากลับแทงไปในอากาศ

หลินซื่อชะงัก มองไปยังสวี่เมิงที่ยังคงอยู่ในท่าก้าวเดิน

เขาเพิ่งสังเกตว่าสวี่เมิงไม่ได้ก้าวจริงในจังหวะที่สาม แต่ก้าวเท้าลวงเพื่อล่อหลินซื่อให้โจมตีผิดจุด

“เจ้า...”

หลินซื่อมองด้วยความตกตะลึง

สวี่เมิงฉวยโอกาสในจังหวะนั้น ฟาดดาบออกไปอย่างแรง

เสียงดัง แกร๊ง!

หลินซื่อสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย รีบยกดาบขึ้นป้องกันอย่างลวกๆ โดยไม่ได้ระดมพลัง ส่งผลให้เขาถูกแรงกระแทกจากดาบของสวี่เมิงจนเซถอยหลัง

เมื่อศัตรูอ่อนแอ จงปลิดชีวิตมัน!

สวี่เมิงไม่ปล่อยให้โอกาสทองหลุดลอยไป เขาก้าวเท้าที่สี่พร้อมดาบที่พุ่งเข้าโจมตีอย่างรวดเร็ว

หลินซื่อพยายามตั้งหลักและยกดาบขึ้นป้องกันอีกครั้ง ทว่าขณะทำเช่นนั้น เขาเหลือบมองไปยังจังหวะการก้าวของสวี่เมิงด้วยสายตาจับจ้อง

เมื่อเห็นสวี่เมิงก้าวเท้าที่ห้า เขาไม่ลังเลที่จะเหวี่ยงดาบออกไปเพื่อโจมตีสวนกลับ

เสียงดาบตัดอากาศดังขึ้น

แต่ดาบของเขากลับฟาดลงไปในความว่างเปล่าอีกครั้ง

ก้าวที่ห้าของสวี่เมิงกลับเป็นก้าวลวง!

หลินซื่อยืนนิ่งด้วยความไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น

“นี่มันอะไรกัน??”

ย่างก้าวคลื่นเมฆาของสวี่เมิงเป็นกระบวนท่าที่เขาเคยเห็นหลายครั้ง และเขาเคยให้ผู้ฝึกตนระดับปฐมวิญญาณตรวจสอบจนพบช่องโหว่ของกระบวนท่านี้ เขาจึงสามารถเอาชนะสวี่เมิงได้ในครั้งก่อน และชิงรากวิญญาณมังกรไป

แต่ตอนนี้ กระบวนท่าที่เคยมีช่องโหว่เหล่านั้น กลับไม่มีข้อบกพร่องใดๆ อีกต่อไป

เป็นไปได้อย่างไร?

หรือว่าสวี่เมิงค้นพบช่องโหว่แล้วแก้ไข?

เป็นไปไม่ได้!

หลินซื่อมั่นใจว่าข้อบกพร่องนี้ถูกเปิดเผยโดยผู้ฝึกตนระดับปฐมวิญญาณ ซึ่งแม้แต่ผู้ฝึกตนระดับแก่นทองคำส่วนใหญ่ยังไม่สามารถมองเห็นได้

ในขณะเดียวกัน สวี่เมิงก็รู้สึกขอบคุณในใจ

“อาจารย์พูดถูกจริงๆ!”

เขานึกถึงการชี้แนะของจางอวิ๋นเกี่ยวกับย่างก้าวคลื่นเมฆา ถ้าไม่ได้คำแนะนำจากอาจารย์ จังหวะก้าวที่สามก่อนหน้านี้ เขาคงถูกหลินซื่อโจมตีจนบาดเจ็บหนักไปแล้ว

แต่ตอนนี้...

เมื่อดาบของหลินซื่อฟาดวืดไป ร่างกายส่วนใหญ่ของเขาเปิดช่องโหว่ให้โจมตีอย่างชัดเจน

สวี่เมิงไม่มีทางพลาดโอกาสนี้!

เสียงดัง ฉัวะ!

ดาบของเขาฟันเข้าที่ลำตัวของหลินซื่อ เลือดกระเซ็นออกมาทันที

พลังปราณระเบิดออกมาพร้อมกับดาบที่ฟันลงเต็มกำลัง

“อ๊าก!”

เสียงกรีดร้องดังขึ้น เลือดสาดกระเซ็นพร้อมกับแขนข้างหนึ่งของหลินซื่อที่ถูกฟันจนขาดกระเด็นลอยขึ้นไปในอากาศ

พลั่ก

ดาบในมือของหลินซื่อหล่นลงกับพื้น เขาใช้มือซ้ายกุมบาดแผลที่แขนขวาซึ่งถูกตัดขาด พร้อมกับกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะตะโกนออกมาด้วยความเดือดดาล “เจ้าไร้ค่า เจ้ากล้าฟันข้า...”

ฉัวะ!

คำพูดของเขายังไม่ทันจบ สวี่เมิงที่สีหน้าเย็นชาก็ฟันดาบอีกครั้ง คราวนี้ฟันใส่กลางลำตัวจนหลินซื่อล้มลงกับพื้น

ที่หน้าอกของหลินซื่อปรากฏรอยแผลฉกรรจ์ เลือดไหลทะลักออกมา เขามองสวี่เมิงที่ยืนอยู่เบื้องหน้าด้วยสายตาหวาดกลัว เมื่อสัมผัสได้ถึงเจตนาสังหารที่แผ่ออกมาจากสวี่เมิง เขาตะโกนออกมาด้วยความตื่นตระหนก

“อย่า... สวี่เมิง เจ้าอย่าฆ่าข้า! ข้าเป็นบุตรชายคนโตของตระกูลหลินแห่งนครเมฆาใต้! หากเจ้าฆ่าข้า ไม่ใช่แค่เจ้า แต่ทุกคนรอบตัวเจ้าก็จะถูกครอบครัวข้าล้างแค้น!!”

สวี่เมิงชะงักเมื่อได้ยินคำพูดนี้ ดาบที่เตรียมฟันหยุดลงกลางคัน

ตระกูลหลินแห่งนครเมฆาใต้...

เขานึกถึงชื่อเสียงและอำนาจอันยิ่งใหญ่ของตระกูลนี้ ใจหนึ่งของเขาเริ่มลังเล

หากเป็นเขาคนเดียว เขาไม่กลัวการเผชิญหน้ากับการล้างแค้นของตระกูลหลิน แต่ตอนนี้เขามีอาจารย์ และศิษย์น้องที่ต้องปกป้อง...

“ศิษย์พี่ ระวัง!!”

ทันใดนั้น เสียงตะโกนเตือนของอู๋เสี่ยวพั่งดังขึ้น

สวี่เมิงรีบเบี่ยงตัวหลบอย่างรวดเร็ว

ในจังหวะที่เขาหลบ ชายชุดคลุมดำอีกคนก็พุ่งเข้ามา คว้าตัวหลินซื่อที่ล้มอยู่แล้วหนีไปทันที

“อย่าหนี!”

สวี่เมิงตะโกนลั่น พร้อมกับพยายามวิ่งไล่ตาม

แต่พอเขาก้าวออกไปเพียงก้าวเดียว บาดแผลที่ไหล่ซ้ายของเขาซึ่งบาดเจ็บมาตั้งแต่แรกก็ส่งความเจ็บปวดอย่างรุนแรงไปทั่วร่าง เลือดพุ่งออกมาไม่หยุด

ความเจ็บปวดเข้าปกคลุมทันที

การต่อสู้อย่างดุเดือดที่ผ่านมาทั้งหมด เขาอาศัยพลังแห่งความโกรธและความแค้นหล่อเลี้ยงตัวเองไว้ แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถทนต่อไปได้อีกแล้ว

“ศิษย์พี่!”

เสียงร้องด้วยความตกใจของอู๋เสี่ยวพั่งดังขึ้นเป็นสิ่งสุดท้ายที่สวี่เมิงได้ยิน ก่อนที่เขาจะหมดสติล้มลงไปกับพื้น

...

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด