บทที่ 33 เซียวหยวนซือ
“สำนักชิงฉือ ยอดเขาชิงสุ่ยเฟิง?”
หลี่ทงหยาและหลี่เซี่ยงผิงมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ หลี่ทงหยาลังเลอยู่ชั่วขณะก่อนเอ่ยว่า
“ผู้ส่งสารแห่งสำนักเซียน อาจเกี่ยวข้องกับชื่อจิ้ง”
หลี่เซี่ยงผิงรีบลุกขึ้นพร้อมพาคนในบ้านลงจากเขา แต่ยังไม่ทันออกจากประตูเรือนก็พบกับผู้บำเพ็ญคนหนึ่งในชุดยาวสีขาวดั่งแสงจันทร์ มีถุงประดับหลากหลายแขวนอยู่ที่เอวของเขา
ผู้บำเพ็ญผู้นั้นมีใบหน้าหล่อเหลาและสง่างามยืนอยู่หน้าลานบ้านอย่างสงบนิ่งและยิ้มให้ทุกคนด้วยความสุภาพ
“ข้าเซียวหยวนซือจากยอดเขาชิงสุ่ยเฟิงของสำนักชิงฉือ ขอคารวะสหายผู้บำเพ็ญทุกท่าน”
เซียวหยวนซือค้อมตัวเล็กน้อยพร้อมรอยยิ้ม
“ข้าหลี่เซี่ยงผิงแห่งตระกูลหลี่ ขอคารวะผู้ส่งสารแห่งสำนักชิงฉือ”
หลี่เซี่ยงผิงไม่กล้าเสียมารยาทรีบก้มคำนับพร้อมนำคนในบ้านคุกเข่าลงด้วยความเคารพ เซียวหยวนซือเบี่ยงตัวเล็กน้อยเพื่อหลีกเลี่ยงการคำนับและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า
“ทุกท่านล้วนเป็นครอบครัวของศิษย์น้องข้า ไม่จำเป็นต้องทำความเคารพยิ่งใหญ่เช่นนี้ ข้าเพียงมาในฐานะส่วนตัวมิใช่ผู้ส่งสารแห่งสำนักเซียน”
ทุกคนรีบตอบรับด้วยเสียงพร้อมเพรียง หลี่เซี่ยงผิงกล่าวอย่างเคารพ
“ท่านเซียนเชิญเข้ามาด้านใน”
ต่อหน้าผู้บำเพ็ญที่แข็งแกร่งเช่นนี้จากสำนักชิงฉือ หลี่ทงหยาและคนอื่นๆดูเหมือนจะเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา การเรียกท่านเซียนนั้นออกมาด้วยความจริงใจโดยแท้
เซียวหยวนซือก้าวเข้าไปในลานบ้านเลือกที่นั่งลงอย่างสง่างามและกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“ข้ามาที่นี่เพราะรับหน้าที่จากสำนักมาทำเรื่องสำคัญในเขตหลี่เซี่ย จากนั้นศิษย์น้องข้าคิดถึงครอบครัวอย่างยิ่งจึงให้เขียนจดหมายและฝากข้ามาที่ภูเขาต้าหลี่”
“เมื่อไม่นานมานี้ ข้าไล่ล่าปีศาจจนเสียเวลาไปมากพึ่งจะกำจัดมันได้เมื่อวาน วันนี้จึงมาที่นี่โดยไม่บอกล่วงหน้าหวังว่าทุกท่านจะไม่ถือโทษ”
“มิได้ มิได้ ท่านเซียนมาไกลเพียงเพื่อส่งจดหมายครอบครัวหลี่รู้สึกซาบซึ้งยิ่ง”
หลี่เซี่ยงผิงตอบกลับอย่างนอบน้อม เมื่อเซียวหยวนซือส่งกระบอกไม้ไผ่สีเขียวอมฟ้าที่มีขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือให้หลี่เซี่ยงผิงรีบรับมา
“เชิญพวกท่านเปิดอ่านก่อนเถิด”
เซียวหยวนซือรับชาอุ่นจากคนรับใช้มาจิบเล็กน้อยก่อนกล่าวอย่างเรียบง่าย
หลี่เซี่ยงผิงและหลี่ทงหยาพยักหน้ารับ หลี่ทงหยาค่อยๆใช้นิ้วหัวแม่มือเช็ดขี้ผึ้งที่ปิดผนึกกระบอกออกก่อนเทจดหมายสีขาวซีดที่ม้วนอยู่ด้านในออกมาและรีบเปิดอ่าน
“ข้าหลี่จิ้งขอคารวะ ผ่านมาได้กว่าหนึ่งปีแล้วไม่ทราบว่าท่านพ่อและพี่น้องยังคงสุขภาพดีอยู่หรือไม่ข้าอยู่ในสำนักเซียนอย่างปลอดภัยดี บัดนี้ข้าได้ฝึกวงล้อแห่งพลังบริสุทธิ์สำเร็จแล้ว อีกไม่นานจะก้าวสู่ระดับหยกอันสูงส่งและได้ฝึกกระบี่จนก้าวหน้ามาก…”
“ศิษย์พี่เซียวหยวนซือท่านมีความชำนาญในการหลอมยา สุภาพและอ่อนโยน หากที่บ้านมีเรื่องใดที่ตัดสินใจไม่ได้ สามารถขอคำปรึกษาจากท่านได้ หากต้องการสิ่งใดบอกกล่าวท่านไปได้เลย เมื่อข้ากลับไปยังสำนักจะชดเชยให้แก่ท่าน…”
“ในจดหมายนี้ข้าได้ส่งหยกจารึกหนึ่งชิ้นมาด้วย มีคัมภีร์กระบี่ที่เรียกว่า ‘คัมภีร์กระบี่น้ำลึก’ ซึ่งข้าได้ฝึกฝนและได้รับอนุญาตจากศิษย์พี่ให้ส่งกลับมาให้บ้านสามารถใช้ฝึกเพื่อป้องกันตัวได้…”
“ได้ยินมาว่าสำนักถังจินเหมินมีปัญหาชายแดน ขอให้ที่บ้านอดทนไว้ก่อน ข้าได้ให้ศิษย์พี่แจ้งแก่ผู้บำเพ็ญผู้ปกครองเขตหลี่เซี่ยแล้ว หากมีปัญหาให้ใช้หยกประจำตระกูลขอความช่วยเหลือ…”
“ข้าอยู่ในสำนักเซียนได้อย่างสบายไม่ต้องห่วง การฝึกฝนที่นี่มีประสิทธิภาพยิ่งกว่าที่ภูเขาต้าหลี่ หากที่บ้านมีเรื่องสำคัญ ขอให้แจ้งมา…”
เมื่อหลี่เซี่ยงผิงอ่านจดหมายจบน้ำตาก็เอ่อคลอด้วยความตื้นตันใจ เขาหันไปหาเซียวหยวนซือและค้อมตัวกล่าว
“ข้าต้องขอโทษท่านเซียนที่ทำให้ต้องรอนาน”
เซียวหยวนซือยิ้มและโบกมือก่อนวางหยกจารึกลงบนโต๊ะไม้แดงและกล่าวว่า
“อย่ากังวลไปเลย เรื่องธรรมดาของมนุษย์ ข้าเข้าใจดี นี่คือสิ่งที่ศิษย์น้องฝากมา”
เมื่อหลี่ทงหยารับหยกจารึกมาเซียวหยวนซือก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเบา
“หากที่บ้านมีปัญหาหรือข้อสงสัยใดๆขอให้บอกข้ามา”
หลี่ทงหยาและหลี่เซี่ยงผิงสบตากันก่อนกล่าวพร้อมกันว่า
“มีบางเรื่องที่เราอยากรบกวนท่านเซียน ขอเชิญท่านติดตามเราไป”
กลุ่มคนไม่กี่คนโบกมือให้เหล่าผู้ติดตามแยกย้ายแล้วเดินไปตามทางหินในลานบ้านบนภูเขา ไม่นานนักก็มาถึงต้นไทรใหญ่ที่ใบหนาแน่น พวกเขาเดินอ้อมต้นไทรนั้นเบาๆด้านหลังต้นไทรปรากฏต้นไม้เล็กต้นหนึ่งซึ่งมีผลห้อยอยู่ห้าผล
“หืม?”
เซียวหยวนซือก้มลงมองใช้นิ้วบีบคาถาเบาๆ จากนั้นมือทั้งสองก็ปรากฏแสงขาวนวลราวกับหยก เขาจึงยื่นมือไปสัมผัสผลนั้นพร้อมกับสังเกตใบของต้นไม้ด้วยความละเอียดถี่ถ้วนอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะอธิบายว่า
“รากวิญญาณนี้เรียกว่า ผลงูมังกร ต้นหนึ่งควรมีผลอยู่หกผล ผลที่อยู่สูงขึ้นไปจะสุกก่อนผลที่อยู่ต่ำลงมา เมื่อผลแรกสุกจำเป็นต้องเก็บก่อนเท่านั้นผลถัดไปถึงจะสุกต่อ”
“รากวิญญาณชนิดนี้มีลักษณะเฉพาะเช่นนี้ โดยช่วงเวลาสุกของผลถัดไปจะห่างจากผลแรกประมาณห้าปี พูดได้ว่าในทุกๆห้าปีจะมีผลออกมาเพียงผลเดียว ดูจากสีของผลแรก ผลก่อนหน้านี้ถูกเก็บไปแล้วกว่า 4 ปีและผลนี้กำลังจะสุก”
เซียวหยวนซือดันใบของผลงูมังกรที่อยู่ต่ำสุดออกไปแล้วก็พบผลเล็กๆสีเขียวอ่อนผลหนึ่งซึ่งเป็นผลที่หกที่เพิ่งงอกขึ้นมาใหม่
“ไม่ทราบว่าผลนี้มีประโยชน์อะไรบ้าง?”
หลี่ทงหยาฟังคำอธิบายอย่างตั้งใจก่อนถามขึ้นด้วยน้ำเสียงนอบน้อม
“ผลไม้นี้ในสำนักชิงฉือของข้ามีอยู่ประมาณสิบกว่าต้น ต้องใช้เวลาหลายร้อยปีกว่าจะออกผลสีทองซึ่งใช้ในการปลูกต้นใหม่ได้ ส่วนผลงูมังกรสีแดงนี้ส่วนใหญ่จะถูกนำไปใช้หลอมเป็นยา ‘โอสถแก่นงู’สำหรับมอบให้ศิษย์ระดับลมหายใจและระดับฝึกพลัง เพื่อช่วยเพิ่มความเร็วในการบำเพ็ญพลัง”
หลี่ทงหยาและหลี่เซี่ยงผิงมองหน้ากันด้วยความตกใจ ตระกูลหลี่ในปัจจุบันยากจนข้นแค้นย่อมไม่มีปรมาจารย์หลอมยา ทั้งสองบำเพ็ญพลังมานาน แต่ก็ยังไม่เคยได้ลิ้มลองยาโอสถเลย
เมื่อเห็นสีหน้าลำบากใจของทั้งสอง เซียวหยวนซือยิ้มบางๆแล้วกล่าว
“ผลนี้หากกินดิบคงเพียงพอให้คนหนึ่งคนลดเวลาบำเพ็ญพลังลงได้บ้าง”
เมื่อมองทั้งสองคนที่มีท่าทางลังเล เซียวหยวนซือเข้าใจได้ทันทีและกล่าวต่อว่า
“ผลนี้ข้าสามารถหลอมยาโอสถให้พวกท่านได้โดยคำนวณจากระดับความสามารถในการหลอมยาของข้า ยาน่าจะได้ประมาณ 7 ถึง 8 เม็ด แต่ตามธรรมเนียมข้าจะมอบให้พวกท่าน 6 เม็ด ส่วนที่เหลือจะเก็บไว้เป็นของข้าเอง”
หลี่ทงหยาและหลี่เซี่ยงผิงรีบตอบรับด้วยความดีใจและกล่าวขอบคุณ เซียวหยวนซือจึงพยักหน้าเบาๆก่อนตบถุงผ้าที่เอวหยิบกล่องหยกใบหนึ่งออกมา
เซียวหยวนซือบีบพลังวิญญาณขึ้นที่มือแตะไปที่ขั้วของผลแล้วใช้พลังรองรับผลงูมังกรจึงหลุดออกมาช้าๆและตกลงในกล่องหยก
“ยกเว้นสมุนไพรพิเศษบางชนิด สมุนไพรส่วนใหญ่ต้องใช้ภาชนะหยกในการเก็บ เพื่อไม่ให้เสียพลังวิญญาณและต้องใช้พลังวิญญาณในการเก็บเกี่ยวเพื่อรักษาคุณสมบัติของสมุนไพร”
เซียวหยวนซือเก็บเกี่ยวผลไปพลางอธิบายไปด้วยน้ำเสียงเรียบง่าย
“พรุ่งนี้ข้าจะเริ่มหลอมยา!”
เขาตบถุงผ้าบนเอวเบาๆกล่องหยกก็หายไปจากมือทันที ทำให้หลี่ทงหยาและหลี่เซี่ยงผิงมองดูด้วยความอิจฉา
“ยังมีเรื่องใดสำคัญอีกหรือไม่?”
เซียวหยวนซือเก็บกล่องหยกเรียบร้อยแล้วยิ้มถาม
“ขอบคุณท่านเซียนมาก!”
หลี่เซี่ยงผิงทั้งสองกล่าวขอบคุณอย่างจริงใจก่อนหยิบม้วนหนังสัตว์ออกมาจากแขนเสื้อ ยื่นให้เซียวหยวนซือด้วยความเคารพ
เซียวหยวนซือรับม้วนหนังสัตว์มาปลดเชือกสีขาวที่ผูกไว้ออกอย่างเบามือก่อนกางออกดู
“ค่ายกลพรางตา?”
(จบบท)