บทที่ 40 เขาเป็นซูเปอร์ฮีโร่หรือเปล่า?
บทที่ 40 เขาเป็นซูเปอร์ฮีโร่หรือเปล่า?
เฉินหยางมองไปที่พนักงานสาวเสิร์ฟคนนั้นอย่างตกตะลึง เขาไม่คาดคิดเลยว่าเธอจะเป็นหลินโหรว
ไม่แปลกใจเลยที่หนุ่มโต๊ะข้างๆ จะจ้องเธอจนตาค้าง เพราะนี่คือเทพธิดาอันดับหนึ่งของมหาวิทยาลัยต้าหยี่ แม้ว่าเธอจะเพียงมาทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในบาร์ และไม่ได้แต่งตัวอะไรมากมาย แต่เธอก็ยังคงเป็นสาวที่สวยที่สุดในบาร์แห่งนี้อย่างไม่ต้องสงสัย
“นี่เธอซื่อจริงหรือแกล้งซื่อกันแน่? บาร์มันเป็นที่ที่เต็มไปด้วยคนหลายแบบ มาทำงานที่นี่ วันหนึ่งต้องถูกคนเลวร้ายเล่นงานแน่ๆ”
เฉินหยางส่ายหัวเบาๆ และไม่ได้เดินเข้าไปหาเธอ เขาเพียงมองดูอยู่ห่างๆ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เขาก็ไม่อยากรบกวนชีวิตปกติของหลินโหรว
“สาวสวย อย่ากลัวเลย มานั่งดื่มด้วยกันสักแก้วเถอะ ถ้าเธอดูแลพี่ดีๆ เงินที่ได้จะมากกว่าที่เธอทำงานทั้งเดือนอีกนะ”
ทางด้านหลินโหรว ชายหัวล้านคนหนึ่งเห็นว่าเธอพยายามเลี่ยง เขาลูบหัวตัวเองที่แวววาวแล้วยิ้มโชว์ฟันหน้าสองซี่ที่เป็นสีทอง ดวงตาเล็กเหมือนถั่วเขียวของเขาจ้องมองไปที่หลินโหรวพลางกลืนน้ำลาย ท่าทางเหมือนคนที่ใจร้อน
“ขอโทษค่ะ ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟ ไม่ได้นั่งดื่มกับลูกค้า” หลินโหรวกัดริมฝีปากเล็กน้อย มองชายหัวล้านด้วยสายตาหวาดกลัว แม้ว่าเธอจะเกลียดเขามาก แต่เธอก็พยายามสงบสติอารมณ์เพื่อทำงานต่อไป
ชายหัวล้านหัวเราะเบาๆ และไม่ได้สนใจคำพูดของหลินโหรวเลย เขาที่เที่ยวบาร์มานาน ไม่เคยเห็นสาวคนไหนที่ทั้งสวยและดูบริสุทธิ์แบบนี้มาก่อน ยิ่งมองก็ยิ่งอยากพิชิต
เมื่อเห็นสายตาหวาดกลัวของหลินโหรว ชายหัวล้านยิ่งอดใจไม่ไหว เขาตบเก้าอี้ข้างๆ แล้วพูดว่า “สาวน้อย มานั่งตรงนี้สิ มาเป็นเพื่อนกันหน่อย ฉันรู้ว่าเธอขายเหล้าได้ค่าคอมมิชชั่น ถ้าเธอมานั่ง ฉันจะสั่ง Royal Salute หนึ่งขวด เธอน่าจะรู้ว่าขวดนี้มันกำไรล้วนๆ ค่าคอมมิชชั่นก็เป็นพัน”
“ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้นั่งดื่มกับลูกค้า” หลินโหรวส่ายหัวหนักแน่น และมองชายหัวล้านด้วยสายตาแสดงความรังเกียจ
เมื่อเห็นว่าใช้ไม้อ่อนไม่ได้ผล ชายหัวล้านจึงตัดสินใจใช้ไม้แข็ง เขาตบโต๊ะเสียงดัง “หน็อย! อย่าทำเป็นเล่นตัว! มานั่งเดี๋ยวนี้!”
“คุณ...คุณจะทำอะไร?” หลินโหรวพูดด้วยเสียงสั่นกลัว
ชายหัวล้านหัวเราะเยาะ หันไปสั่งลูกน้องว่า “บอกให้เธอรู้ว่าฉันเป็นใคร คนที่กล้าปฏิเสธฉันต้องเจออะไรบ้าง”
ชายหนุ่มคนหนึ่งที่ทำผมสีเหลืองลุกขึ้นยืนและพูดเสริม “สาวน้อย เธอรู้ไหมว่าคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าคือใคร? เขาคือ ‘อสรพิษ’ อู่เหิง”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น กลุ่มชายหัวล้านต่างพากันยืดตัวด้วยความภูมิใจ แต่หลินโหรวกลับขมวดคิ้วและพูดว่า “อสรพิษ? ฉันไม่เคยได้ยินชื่อ”
ชายหัวล้านคิดว่าหลินโหรวกำลังดูถูกเขา เขาโมโหทันทีและสั่งลูกน้องว่า “จับเธอมานี่! วันนี้เธอจะต้องดื่มกับฉัน และหลังจากดื่มเสร็จ เธอต้องไปนอนกับฉัน!”
ลูกน้องของเขาสองคนรีบลุกขึ้นและพยายามจับตัวหลินโหรว เธอถึงกับตกใจจนหน้าซีดเผือด แต่ก่อนที่มือของทั้งสองจะถึงตัวเธอ จู่ๆ ก็มีมือคู่หนึ่งยื่นออกมาจับข้อมือพวกเขาไว้
ทุกคนตกตะลึง เมื่อมองไปเห็นเป็นชายหนุ่มธรรมดาแต่งตัวเรียบๆ คล้ายกับนักศึกษา ทั้งกลุ่มจึงไม่รู้สึกกังวล
“ไอ้หนู ปล่อยมือเดี๋ยวนี้!”
“อย่ายุ่งเรื่องคนอื่น ไสหัวไปซะ!”
สองหนุ่มหัวเหลืองที่ถูกเฉินหยางจับข้อมือไว้ พยายามด่าและขู่เขา
เฉินหยางเพียงหัวเราะเบาๆ ก่อนจะปล่อยมือพวกเขา และทันทีนั้นเขาก็ยกขาทั้งสองขึ้นเตะออกไป ชายหนุ่มหัวเหลืองสองคนยังไม่ทันตั้งตัวก็ร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะล้มกระแทกลงบนโต๊ะด้านหลังจนขวดและแก้วเหล้าตกแตกกระจาย เสียงดังสนั่น และเศษแก้วกระจายเต็มพื้น
การต่อสู้ในบาร์ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ผู้คนรอบข้างที่เห็นเหตุการณ์กลับไม่หลบหนี แถมยังมุงดูด้วยท่าทีสนใจเหมือนกำลังดูโชว์อะไรบางอย่าง
หลินโหรวยังคงยืนนิ่งไม่ขยับ เธอมองไปที่ด้านหลังของเฉินหยางด้วยความรู้สึกตะลึง
เธอเคยคิดว่าวันนี้เธอคงจะต้องถูกใครบางคนรังแก แต่ครั้งนี้เฉินหยางกลับปรากฏตัวขึ้นและช่วยเธอในช่วงเวลาสำคัญอีกครั้ง
“หรือว่าเขาคืออัศวินของฉันจริงๆ?”
หัวใจของหลินโหรวเต้นแรง เธอลืมสภาพแวดล้อมปัจจุบันไปชั่วขณะ และมุมปากของเธอก็เผยรอยยิ้มเขินอายเล็กน้อย
“เฮ้ ใครมันกล้าขนาดนี้! กล้าต่อยพวกของอสรพิษ?”
“ไอ้หนุ่มนี่งานเข้าแล้ว ครั้งก่อนคนที่หาเรื่องอสรพิษมือยังถูกตัดเลย”
“โอ้ย งานนี้มีเรื่องสนุกให้ดูแน่ๆ”
ผู้คนรอบข้างเมื่อรู้ว่าคนที่ถูกทำร้ายคือพวกของอสรพิษ อู่เหิง พวกเขายิ่งตื่นเต้นขึ้น ราวกับกำลังดูโชว์ยิ่งใหญ่
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น หลินโหรวก็ตื่นจากภวังค์ เธอรู้สึกกลัว รีบพูดกับเฉินหยางว่า “พวกเรารีบไปกันเถอะ”
“ตีคนของฉันแล้วยังคิดจะหนี?” ชายหัวล้านมองไปที่ลูกน้องสองคนที่กำลังร้องครวญครางบนพื้น ก่อนจะลุกขึ้นยืนและชี้ไปที่เฉินหยางพลางพูดว่า “นายรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?”
“รู้สิ นายก็แค่ไอ้ขยะที่ชอบรังแกผู้หญิง” เฉินหยางพูดพร้อมรอยยิ้มเยาะเย้ย เขาไม่สนใจคำขู่ของอีกฝ่ายแม้แต่น้อย ในสายตาของเขาคำขู่เหล่านี้ช่างไร้ความหมาย
เมื่อเห็นว่าเฉินหยางไม่เกรงกลัวตน อสรพิษก็โกรธจนควันออกหู “ไอ้เวรกล้าด่าฉัน? ฉันจะหักแขนหักขานายให้ได้!”
เขาหันไปสั่งลูกน้องสี่คนที่ยังยืนอยู่ “จัดการมันซะ เอาขวดเบียร์ไปตีให้มันกระดูกหักเลย!”
ลูกน้องของอสรพิษเห็นว่าเฉินหยางฝีมือไม่ธรรมดา พวกเขาไม่รีบเข้าปะทะ แต่กลับหยิบขวดเบียร์มาตีให้แตกก่อนจะใช้ปลายแหลมเล็งไปที่เฉินหยาง
แต่ในสายตาของเฉินหยาง การโจมตีเหล่านี้ไม่ต่างอะไรกับเด็กเล่น ไม่มีความน่ากลัวเลยสักนิด
ขณะที่ขวดเบียร์กำลังจะถูกแทงเข้าที่ท้องของเฉินหยาง เขายกมือขวาขึ้นอย่างรวดเร็ว ตบไปที่อีกฝ่ายด้วยความแรงจนเกิดเสียงดังสนั่น
แรงตบของเฉินหยางทำให้ชายคนนั้นลอยกระเด็นไปชนกับเพื่อนอีกสามคนที่ยืนอยู่ด้านหลังจนพวกเขาล้มลงทั้งหมด ราวกับลูกโบว์ลิ่งที่ถูกโยนกระแทก
คนที่ถูกเฉินหยางตบจนลอยกระเด็น หน้าของเขาถูกทำลายจนเป็นแผลลึก เลือดไหลออกมา และกระดูกข้างในก็แตกจนเห็นได้ชัด
ทันใดนั้น บรรยากาศในบาร์ที่คึกคักก็เงียบลง เสียงดนตรีเพียงอย่างเดียวที่ยังคงดังอยู่ทำให้บรรยากาศดูน่าขนลุก
ผู้คนรอบข้างต่างสูดหายใจด้วยความตกใจ และมองไปที่เฉินหยางด้วยสายตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว “เขามีแรงมากขนาดไหนถึงทำให้คนเจ็บหนักขนาดนี้ด้วยการตบเพียงครั้งเดียว?”
ชายหัวล้านถึงกับสะอึกและกลืนน้ำลาย เขารีบตะโกนสั่งให้ลูกน้องที่ล้มอยู่ลุกขึ้น “ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้ ไปจัดการมัน!”
“พี่อสรพิษ ผมซี่โครงหัก”
“ผมขยับไม่ได้ ขาหักไปแล้ว”
“เลือดไหลไม่หยุด ขวดเบียร์ใครแทงเข้าที่ท้องของผมเนี่ย!”
เสียงร้องครวญครางของลูกน้องที่ล้มอยู่ทำให้ทุกคนในบาร์ถึงกับตกใจจนพูดไม่ออก หนุ่มคนนี้จัดการคนทั้งสี่ได้ในเวลาไม่กี่วินาที และทุกคนที่ถูกเขาตบนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัส
เขาเป็นซูเปอร์ฮีโร่หรือเปล่า?