ตอนที่แล้วบทที่ 199 เซียนปลดวิญญาณแปดขั้น ความโกรธาของราชามังกร (ต้น-ปลาย)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 201 มังกรอสูรล่มสลาย ถลกหนังและชักเส้นเอ็น (ต้น-ปลาย)

บทที่ 200 ถุงผ้าของจูเก๋อ วางแผนเสือกลืนหมาป่า (ต้น-ปลาย)


เมื่อเผชิญหน้ากับจ้าวหน้ากากในตอนนี้ หัวใจของทุกคนล้วนหนักอึ้ง

แม้แต่ราชามังกรเฒ่าก็ไม่อาจหยุดเขาได้จริงหรือ?

เซียนปลดวิญญาณขั้นที่แปด แม้จะเหลือเพียงแค่ผิวหนัง ก็ยังน่ากลัวถึงเพียงนี้ แทบจะไม่อาจเอาชนะได้

“สู้ตาย!”

เยวี่ยหลิงจับดาบหักไว้แน่น เส้นผมปลิวไสว ดวงตาเต็มไปด้วยความแน่วแน่ ปราศจากความกลัวแม้แต่น้อย

ตั้งแต่เธอเข้าร่วมฉินเทียนเจี้ยนเมื่ออายุสิบสี่ เธอก็เตรียมใจที่จะตายในหน้าที่มาโดยตลอด

สำหรับแม่ทัพแล้ว การเสียชีวิตในสนามรบคือชะตากรรม

สิ่งเดียวที่เธอเสียใจ อาจเป็นเพียงการไม่ได้ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับจางจิ่วหยาง ทั้งสองเคยให้คำมั่นว่าจะร่วมกันทำลายองค์กรหวงเฉวียน และกำจัดสิ่งชั่วร้ายให้หมดสิ้น

จากนั้นก็ได้ดื่มสุรา อาบแดด และอ่านนิยายที่เขาเขียน หากมีส่วนที่เธอไม่พอใจ เธอจะใช้ดาบขู่บังคับให้เขาแก้ไข...

น่าเสียดาย ชีวิตเช่นนั้น คงไม่มีวันมาถึง

เทพธิดามังกรเองก็เผยสีหน้าที่มุ่งมั่น แม้ว่าเธอจะไม่ได้มีนิสัยแข็งกร้าวเช่นเยวี่ยหลิง แต่เธอก็มีความหยิ่งในศักดิ์ศรี และไม่มีวันทอดทิ้งเพื่อนร่วมรบเพื่อเอาตัวรอด

ยิ่งไปกว่านั้น ในสถานการณ์เช่นนี้ การคิดหนีเอาชีวิตรอดก็เป็นเพียงความฝันลมๆ แล้งๆ

เธอเชื่อว่าจางจิ่วหยางจะช่วยดูแลอ้าวหยาให้

ดวงตาของจูเก๋ออวิ๋นหู่แวบประกายของความมุ่งมั่น คล้ายกับว่าเขาตัดสินใจบางอย่างได้แล้ว เตรียมที่จะใช้ไพ่ตาย

นั่นคือสมบัติล้ำค่าที่ตระกูลจูเก๋อถ่ายทอดกันมารุ่นต่อรุ่น ถุงผ้าที่จูเก๋อชีชิงได้ทิ้งไว้

ภายในถุงผ้านั้นบรรจุวิชาหนึ่งที่จูเก๋อชีชิงเคยทิ้งไว้เมื่อครั้งอดีต แต่เขาเองก็ไม่ทราบว่าวิชานั้นคืออะไร

ทว่าบันทึกของตระกูลกล่าวไว้ว่า เมื่อใดที่เปิดถุงผ้านี้ ย่อมสามารถช่วยให้คนรุ่นหลังรอดพ้นจากวิกฤตชีวิตได้ครั้งหนึ่ง

เมื่อเขากำหนดจิต จ้าวหน้ากากก็รู้สึกถึงความอันตรายขึ้นมาทันที

เซียนปลดวิญญาณขั้นที่แปด สามารถเชื่อมโยงจิตวิญญาณกับฟ้าดิน มีพลังลึกลับที่เกินจะหยั่งถึง แม้แต่ใครที่อยู่ห่างออกไปหมื่นลี้เพียงเอ่ยชื่อเขา ก็อาจรับรู้ได้ วิชานี้เปรียบเสมือนเทพเจ้าบนผืนแผ่นดิน

สายตาของจ้าวหน้ากากจ้องมองจูเก๋ออวิ๋นหู่ ไม่เสียแรงที่เขาเป็นผู้ตรวจการสูงสุดในยุคนี้ ที่ยังมีวิชาลับซ่อนไว้

แต่กระนั้น...

เขาหัวเราะเย็นชา โดยไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อย ในตอนนี้เขากล่าวได้เลยว่า แม้แต่จูเก๋อชีชิงคืนชีพ เขาก็กล้าต่อสู้ด้วย แล้วนับประสาอะไรกับแมวป่วยตัวหนึ่ง?

“ทุกคนต้องตาย!”

แต่ในขณะที่เขาเตรียมจะเริ่มการสังหาร จู่ๆ หัวใจของเขาก็เต้นสะท้าน เขามองไปยังทิศทางหนึ่งด้วยดวงตาเบิกกว้าง พร้อมกับเผยแววตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

พี่สาว...ตายแล้วหรือ?

ในใจของเขาปั่นป่วนอย่างหนัก ความรู้สึกว้าวุ่นที่ยากจะอธิบายได้เข้ามาเติมเต็มจนทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ ราวกับบางสิ่งที่สำคัญที่สุดกำลังจะจากเขาไป

แม้ว่าเขาจะมีพลังบำเพ็ญที่ลึกซึ้งหลังจากการกลับชาติมาเกิด แต่ในช่วงหนึ่งของชีวิต เขายังมีช่วงเวลาที่มึนงงในครรภ์ ในเวลานั้นเอง เขาได้หลงรักผู้หญิงคนหนึ่งเป็นครั้งแรก

นั่นคือพี่สาวที่คอยดูแลเขาอย่างลับๆ แบ่งปันอาหารให้ครึ่งหนึ่ง และกอดเขาเวลานอน

เธอไม่ได้สวยสะดุดตามากนัก แต่สำหรับเขาที่ไม่เคยสัมผัสความรักในโลกมนุษย์ เขาได้ฝากความรู้สึกบางอย่างที่ลึกซึ้งไว้ในตัวเธอ

ดังนั้น เมื่อได้ยินว่าพี่สาวจะแต่งงาน เขาจึงโกรธเกรี้ยวจนทำลายครอบครัวของฝ่ายชายทั้งหมดด้วยการถลกหนัง และชายที่แตะต้องพี่สาวของเขาก็ถูกเขาเฉือนหนังทั้งเป็นอย่างโหดเหี้ยม

เพื่อให้พี่สาวอยู่กับเขาตลอดไป เขาไม่เพียงแค่บังคับให้มีลูกด้วยกัน แต่ยังตัดแขนขาของเธอ และปลูกคาถาลับไว้ในหัวใจของเธอ ทุกครั้งที่เธอพยายามฆ่าตัวตาย เขาจะรู้สึกถึงมันและช่วยชีวิตเธอไว้เสมอ

แท้จริงแล้วเขามีหลายวิธีที่สามารถบิดเบือนจิตใจของพี่สาวให้รักเขาอย่างแท้จริง เช่นเดียวกับที่เขาทำกับซิ่วเหนียง

แต่ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด เขากลับไม่อยากทำเช่นนั้น

เขามองเยวี่ยหลิงและคนอื่นๆ ด้วยความโกรธ แม้จะรู้ว่าการพลาดโอกาสในครั้งนี้ จะทำให้การแก้แค้นของเขาต้องเลื่อนออกไปอีกนาน เพราะการใช้ผิวหนังเซียนมีราคาที่ต้องจ่าย

แต่เมื่อสัมผัสได้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจพี่สาวที่อ่อนแอลงเรื่อยๆ เขาก็ยังตัดสินใจได้

ช่วยพี่สาวก่อน!

ฟิ้ว!

จ้าวหน้ากากใช้วิชาหายตัว พุ่งไปยังทิศทางหนึ่งโดยไม่หันกลับมามองกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังอีกเลย

เยวี่ยหลิงและเทพธิดามังกรสบตากัน ต่างก็เห็นความสับสนในแววตาของอีกฝ่าย

“นี่เขา...ไปแล้วหรือ?”

จูเก๋ออวิ๋นหู่ถอนหายใจเล็กน้อย เก็บถุงผ้าที่อยู่ในแขนเสื้อของเขาไว้ และกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาขณะไอเป็นเลือด

“ข้าว่าเมื่อครู่เขาเปลี่ยนท่าทีไปทันที อาจจะเกิดอะไรบางอย่างขึ้น”

เยวี่ยหลิงดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างออก สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปทันที

“หรือว่าเป็นเพราะจางจิ่วหยาง?”

จูเก๋ออวิ๋นหู่ขมวดคิ้วและกล่าว

“ดูเหมือนจะมีเพียงคำอธิบายนี้เท่านั้น”

จางจิ่วหยางที่ล้างบางพวกผิวหนังมนุษย์ในเมืองหยางโจว อาจเป็นเหตุที่ทำให้จ้าวหน้ากากต้องรีบกลับไป

แต่เพียงแค่พวกผิวหนังมนุษย์เหล่านั้น จะสำคัญกับจ้าวหน้ากากถึงเพียงนี้เลยหรือ?

“จางจิ่วหยางจะตกอยู่ในอันตราย!”

ดวงตาสีแก้วของเทพธิดามังกรฉายแววจริงจัง เธอกลายร่างเป็นมังกรขาว และมุ่งหน้าไปยังเมืองหยางโจว

“ท่านผู้ตรวจการ เร็วเข้า!”

บนเมฆ เยวี่ยหลิงเร่งเร้าอย่างต่อเนื่อง

“นี่เร็วที่สุดแล้ว ข้ายังบาดเจ็บอยู่นะ...”

จูเก๋ออวิ๋นหู่เผยรอยยิ้มขมขื่น แต่ในใจกลับถอนหายใจเบาๆ

ชายหนุ่มจางจิ่วหยางเป็นคนฉลาด ไม่ว่าด้วยวิธีใดที่เขาใช้เพื่อเบี่ยงเบนจ้าวหน้ากากไป มันก็เท่ากับช่วยชีวิตพวกเขาไว้ทางอ้อม

เพียงหวังว่าเขาจะปลอดภัยดี

.....

ในรังของจ้าวหน้ากาก

จางจิ่วหยางทำลายไหและอุ้มหญิงที่ถูกตัดแขนขาขึ้นวางบนเตียง เลือดไหลซึมออกมาเปื้อนพื้นจนกลายเป็นสีแดงฉาน

ที่หัวใจของเธอมีเขามังกรของจงซานปักอยู่ มันเสียบลึกลงไปในหัวใจ พร้อมทั้งปลดปล่อยพลังมังกรอันชั่วร้ายที่แทรกซึมทำลายคาถาลับที่จ้าวหน้ากากใช้ควบคุมเธอ

“ขะ...ขอบคุณ…”

แม้จะรู้สึกถึงชีวิตที่กำลังเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว แต่แววตาของหญิงสาวกลับเต็มไปด้วยความโล่งใจ ริมฝีปากเผยรอยยิ้มบางเบา

หลายปีที่เธอถูกกักขังในสถานที่แห่งนี้ แม้แต่การตายยังกลายเป็นความฝันอันเลื่อนลอย

เมื่อรู้ว่าลูกชายของเธอได้เสียชีวิตไป เธอจึงหมดความปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่ และไม่อยากเผชิญหน้ากับน้องชายผู้โหดร้ายอีกต่อไป

เส้นผมสีเทาของเธอกลายเป็นสีขาวในทันที ผิวหนังเริ่มเหี่ยวย่นอย่างเห็นได้ชัด จากหญิงสาวที่ดูเหมือนอายุเพียงสามสิบถึงสี่สิบ กลายเป็นผู้หญิงชราวัยเจ็ดสิบถึงแปดสิบในพริบตา

ในช่วงเวลาสุดท้ายของเธอ คาถาเสริมอายุและความงามที่จ้าวหน้ากากใช้กับเธอ ถูกทำลายโดยเขามังกร

ในวินาทีสุดท้ายก่อนเธอสิ้นลม จางจิ่วหยางเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ เขากระซิบเบาๆ ข้างหูเธอ

“ลูกชายของเจ้า ‘เสิ่นถูสง’ เป็นนักรบที่กล้าหาญ เขาได้ปกป้องผู้คนมากมาย และปราบสิ่งชั่วร้ายจำนวนมาก ทุกคนล้วนเคารพและรักเขา…ไม่มีใครมองเขาเป็นอสูรอีกแล้ว”

จางจิ่วหยางมองเห็นดวงตาของเธอเบิกกว้างขึ้น ใบหน้าของเธอปรากฏรอยยิ้ม

เธอเคยปฏิบัติต่อ ‘อสูร’ สองตนด้วยความจริงใจ คนหนึ่งคือน้องชายของเธอ และอีกคนคือลูกชายของเธอ น้องชายที่เหมือนงูพิษได้ทำลายชีวิตของเธอ แต่ลูกชายกลับไม่ทำให้เธอผิดหวัง

จางจิ่วหยางมองร่างไร้ชีวิตของเธอ และถอนหายใจเบาๆ

“ขอโทษด้วยนะ แม้แต่ในวาระสุดท้าย ข้าก็ยังต้องใช้ร่างของเจ้าอีกครั้ง”

เขาดึงเขามังกรออก เลือดพุ่งกระจายไปทั่ว เขาหลบเลือดที่พุ่งมา พร้อมจัดการร่างของเธอให้เลือดสาดกระจายไปทั่วห้อง

เมื่อเขานึกถึงอดีตของจ้าวหน้ากากที่เคยเป็นเซียนแตกสลาย และสุสานเซียนที่มีผิวหนังมนุษย์ของเขาฝังอยู่ จางจิ่วหยางจึงตระหนักถึงอันตราย

หากจ้าวหน้ากากสามารถคืนพลังในอดีตได้จากผิวหนังเซียน เยวี่ยหลิงและคนอื่นๆ จะต้องตกอยู่ในอันตรายอย่างใหญ่หลวง

จางจิ่วหยางจึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ฆ่าพี่สาวของจ้าวหน้ากาก เพื่อดึงเขากลับมายังรังของตัวเอง

ก่อนที่จ้าวหน้ากากจะกลับมาถึง เขาจำเป็นต้องใช้เวลาที่มีอยู่อย่างคุ้มค่าในการเตรียมการทุกอย่าง

แผนการหนึ่งผุดขึ้นในหัวของเขา เขาจึงใช้เขามังกรของจงซานฆ่าพี่สาวของจ้าวหน้ากาก

“นายท่าน ต่อไปเราจะทำอย่างไรดี?”

ซิ่วเหนียงถามด้วยความห่วงใย

“วางแผนเสือกลืนหมาป่า”

ดวงตาของจางจิ่วหยางฉายแววแน่วแน่ เสียงของเขาเยือกเย็น

“ซิ่วเหนียง ที่นี่อยู่ใกล้กับทะเลสาบต้งหยาง เจ้ารีบไปปล่อยข่าวที่จงซานทันที บอกข้อมูลตำแหน่งรังและวิธีทำลายค่ายกล แต่ที่สำคัญที่สุด ต้องบอกว่าจ้าวหน้ากากได้ ‘ไข่มุกมังกร’ และเก็บไว้ในรังนี้!”

“ข้าเข้าใจ แต่หญิงคนนี้ตายแล้ว จ้าวหน้ากากน่าจะกำลังกลับมา นายท่านรีบหนีเถอะ!”

ในตอนนี้ ซิ่วเหนียงผู้ภักดีต่อจางจิ่วหยางเป็นอย่างมาก แสดงความเป็นห่วงเขาอย่างแท้จริง

“ไม่จำเป็น ข้ายังคงเป็นแค่เชลยธรรมดาที่เจ้าแสร้งจับตัวมา ข้าเชื่อว่าเขาจะไม่สนใจข้ามากนัก”

จางจิ่วหยางตั้งใจเล่นแผน ‘หลบในเงามืด’ เขาเลือกที่จะอยู่ต่อเพื่อสังเกตการณ์สภาพที่แท้จริงของจ้าวหน้ากากด้วยตัวเอง

เขาไม่เชื่อว่า การเผชิญหน้ากับฉินเทียนเจี้ยนและยอดฝีมือจำนวนมากเช่นนั้น จ้าวหน้ากากจะไม่ต้องจ่ายราคาใดๆ

แน่นอน เขาไม่โง่พอที่จะลงไปเผชิญหน้าด้วยตัวเอง ดังนั้นเขาจึงวางแผนให้เสือกลืนหมาป่า ด้วยการใช้จงซานเป็นตัวทดสอบพลังและสภาพของจ้าวหน้ากาก

ด้วยซิ่วเหนียงที่เป็นสายลับภายในที่จ้าวหน้ากากไว้วางใจ เขามั่นใจว่าสามารถเอาตัวรอดและหนีออกจากรังแห่งนี้ได้ทุกเมื่อ

“นายท่าน โปรดอดทนรอในนี้สักครู่ ข้าจะไปหาจงซานทันที!”

ซิ่วเหนียงพาจางจิ่วหยางไปซ่อนตัวในห้องลับของเธอชั่วคราว ก่อนจะเร่งเดินทางออกไป

จางจิ่วหยางนั่งอยู่ในห้องลับ หวังว่าเป้าหมายที่จะมาถึงก่อนคือจงซาน ไม่เช่นนั้นแผนการนี้จะพังทลาย

โชคดีที่ครั้งนี้โชคอยู่ข้างเขา

ซิ่วเหนียงทำงานได้ดีอย่างไร้ที่ติ ไม่นานนัก เสียงคำรามของมังกรอันชั่วร้ายก็ดังขึ้น

มังกรยักษ์สีแดงพุ่งทะลุเข้ามา เกล็ดทั่วร่างแหลมคมดุจใบมีด ในร่องเกล็ดเต็มไปด้วยมอสและสาหร่ายน้ำ ดวงตาสีแดงฉายแววอาฆาตและชั่วร้ายสุดขีด

“จ้าวหน้ากาก!!”

“ข้าเจอรังของเจ้าแล้ว!”

“คืนไข่มุกมังกรของข้ามา!!!”

โครม!

จางจิ่วหยางนั่งอยู่ในห้องลับ เขารู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนรอบตัว พื้นใต้เท้าสั่นสะเทือนไม่หยุด เสียงอึกทึกจากการต่อสู้ดังขึ้นภายนอก แต่ถูกเสียงคำรามของมังกรกลบจนหมดสิ้น

ริมฝีปากของเขาปรากฏรอยยิ้มบางเบา

เป็นไปตามคาด หลังจากที่พวกมันร่วมมือกันล้มเหลวในการต่อสู้กับอ้าวหลี่ครั้งก่อน ทั้งสองก็เริ่มเกิดความขัดแย้ง โดยเฉพาะจงซานที่เชื่อมั่นมาตลอดว่าจ้าวหน้ากากแย่งชิงไข่มุกมังกรไป และไม่ยอมแบ่งปัน

สิ่งมีชีวิตอย่างจงซาน ซึ่งเป็นสิ่งชั่วร้ายที่มีจิตพยาบาทสูงมาก และเนื่องจากไข่มุกมังกรคือกุญแจสำคัญที่จะทำให้มันกลายเป็นมังกรแท้จริงได้ เมื่อได้รับข่าวมันจึงไม่อาจทนอยู่เฉยได้

“จ้าวหน้ากาก ออกมาสู้กับข้าซะ!!”

เสียงคำรามของมังกรดังก้องต่อเนื่อง เหล่าพ่อค้าหนังที่เหลืออยู่ทั้งหมดพากันออกมารับมือ เช่นเดียวกับเหล่าลูกสมุนของจ้าวหน้ากากที่พุ่งเข้าปะทะจงซานโดยไม่เกรงกลัวความตาย แต่กลับสูญเสียไปเป็นจำนวนมาก

ซิ่วเหนียงกลับทำเหมือนไม่เต็มใจออกแรงช่วย และยังแอบนำจงซานพุ่งชนไปยังห้องที่ขังพี่สาวของจ้าวหน้ากากจนพังราบเป็นหน้ากลอง

เช่นนี้ก็จะสามารถทำลายหลักฐานทั้งหมด ไม่เหลือเบาะแสใดๆ ไว้

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ในขณะที่จงซานสร้างความเสียหายครั้งใหญ่ เสียงเยือกเย็นก็ดังขึ้น

“จงซาน เจ้ากำลังหาทางตายอยู่ใช่ไหม?”

จ้าวหน้ากากกลับมาแล้ว!

“เจ้าเฒ่า คืนไข่มุก...”

เสียงของจงซานหยุดลงทันที ดวงตาสีแดงขนาดใหญ่เหมือนโคมไฟเผยความตกตะลึงอย่างสุดขีด

พลังเช่นนี้...ไม่ใช่ขั้นที่หกแน่นอน!

จ้าวหน้ากากในตอนนี้ปลดปล่อยพลังอันมหาศาลจนแม้แต่จงซานยังรู้สึกหายใจลำบาก

ความกลัวตายพุ่งเข้าสู่หัวใจของมัน ทำให้คำพูดที่ยังไม่ทันเอ่ยจบถูกกลืนกลับเข้าไป

สายตาของจ้าวหน้ากากจับจ้องไปยังห้องของพี่สาวที่กลายเป็นซากปรักหักพัง ดวงตาเต็มไปด้วยจิตสังหาร อักขระบนผิวหนังเซียนเปล่งแสงลึกลับน่ากลัว

ต้องตายแน่! ตายอย่างไม่ต้องสงสัย!

จงซานรู้สึกหวาดกลัวอย่างลึกซึ้ง ยิ่งมั่นใจว่าจ้าวหน้ากากได้กลืนไข่มุกมังกรไปแล้ว ไม่เช่นนั้นจะมีพลังเช่นนี้ได้อย่างไร?

มันพยายามหมุนตัวเพื่อหลบหนี แต่ร่างกายใหญ่โตของมันกลับหยุดนิ่งในทันที

มือที่เปล่งแสงเซียนจับปลายหางมังกรของมันไว้ พลังมหาศาลราวกับมหาสมุทรทำให้เกล็ดของมันลุกตั้งขึ้นโดยอัตโนมัติ

“จ้าวหน้ากาก หากเจ้ากลืนไข่มุกมังกรไปจริง ข้าก็ไม่อยากยุ่งกับเจ้าอีกแล้ว!”

มันพยายามสงบศึกและกลืนความขมขื่นไว้

เสียงของจ้าวหน้ากากเยือกเย็นและเต็มไปด้วยจิตสังหารอันลึกซึ้ง

“จงซาน ข้าจะให้เจ้าตายไปพร้อมกับนาง!”

แสงเซียนเปล่งประกาย พลังอันน่าสะพรึงกลัวปกคลุมรังทั้งหมด จงซานร้องด้วยความเจ็บปวด ความเจ็บปวดที่ปลายหางมังกรกระตุ้นสัญชาตญาณความโหดร้ายของมัน

“จ้าวหน้ากาก แม้ข้าจะต้องตาย ข้าก็จะกัดเนื้อเจ้าให้ได้!”

มันคำรามลั่น เปิดปากกว้างพุ่งเข้าหาจ้าวหน้ากากอย่างไม่ปรานี

ในที่สุด สิ่งชั่วร้ายสองตนที่เคยร่วมมือกัน ก็กลายเป็นศัตรูกันอย่างเต็มตัว และเปิดศึกสู้ตาย

ส่วนจางจิ่วหยางเฝ้ามองฉากนี้อย่างเงียบๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความลึกซึ้งและความสงบนิ่ง

ในใจเขาได้ข้อสรุปแล้ว

จ้าวหน้ากากได้ผิวหนังเซียนแน่นอน และจงซานจะต้องตายในที่นี้ แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่านั้นคือ สภาพของจ้าวหน้ากาก...

ดูเหมือนจะไม่ปกติ

......

ถ้าอ่านตอนนี้ ก็จะค้างเหมือนเดิม

5 1 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด