ตอนที่แล้วบทที่ 180: พลังจากหนึ่งในหกภพภูมิ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 182: การดูดวิญญาณของสัตว์อสูร​!

บทที่ 181: เจ้าหญิงเข้าสู่สนามรบ!


บทที่ 181: เจ้าหญิงเข้าสู่สนามรบ!

ด้านนอกเมือง

เม็ดฝนเย็นเฉียบตกกระทบเกราะของเหล่าปรมาจารย์อสูร ทำให้สนามรบมืดมัวด้วยบรรยากาศอึมครึม

บนท้องฟ้า เสียงฟ้าร้องยังคงดังสนั่นหวั่นไหวราวกับภัยพิบัติที่ไม่มีวันสิ้นสุด

บนพื้นเบื้องล่าง​ บนทะเลทรายที่ถูกฝนชะล้างได้เต็มไปด้วยซากศพ แยกไม่ออกเลยว่าเป็นซากศพของ​อสูรหรือมนุษย์

“ท่านเจ้าเมือง กองกำลังที่สามสูญเสียกำลังพลไปกว่าครึ่งเเล้วครับ!”

“หัวหน้าเฉินเหนียน แห่งกองกำลังที่ห้าเสียชีวิตแล้ว!”

“รายงานทาานเจ้าเมือง! นายพลหวังฟานสละชีพในการต่อสู้กับอสูร​ระดับ​ราชาครับ!”

“กองทัพอสูรบุกหนักเกินไป แบบนี้เราทนได้อีกไม่นานแน่ๆครับ!”

ณ ขณะนี้​ โจวซงยืนฟังรายงาน​อยู่กลางทะเลเลือด

ตามข่าว​ มือของเขาเริ่มสั่นเทา ดวงตาของเขาเริ่มแดงก่ำ

ในช่วงครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา เขาเห็นเพื่อนร่วมรบที่เคยร่วมเป็นร่วมตาย ได้ล้มตายไปทีละคน

ปรมาจารย์อสูรบางคนถูกอสูรกินไปทั้งตัว แม้แต่ซากศพก็ไม่เหลือทิ้งไว้

ตึง!

ตึง!

ตึง!

ใน​ช่วงเวลา​ที่ย่ำแย่​อยู่​เเล้ว​ พื้นดินรอบๆก็ยังสั่นสะเทือน จากนั้น​เงาดำทะมึนก็ได้ปรากฏขึ้นในระยะไกล

แต่โจวซงรู้ดีว่า เงาดำเหล่านี้​คืออสูรสายพันธุ์​ยักษา!

ทำไมภูเขาคุนหมี่ถึงไม่มีอสูรสายพันธุ์​ยักษา?

นั่นก็เพราะพวกมันได้รับคำสั่งลับจากบิดาแห่งสวรรค์ - อุลดิส ให้อพยพมารวมตัวกันอย่างเงียบๆใต้เนินทรายนอกเมืองหวงหยาน รอคอยที่จะเข้าร่วมสงคราม​ในคืนนี้

ตึงงงงง!!!

เสียงดังกึกก้องเป็นพิเศษ​มาจากพื้นดินอีกรอบ ยักษาตนหนึ่ง​ที่มีร่างกายสูงกว่าร้อยเมตรปรากฏตัวต่อหน้าโจวซง

มันไม่มีกล้ามเนื้อหรือผิวหนัง มีเพียงโครงกระดูก, ภายในโครงกระดูกไม่มีอวัยวะภายใน ดวงตาที่ว่างเปล่ามีเปลวไฟสีเขียวลุกโชน

นี่คืออสูร​ระดับ​จักรพรรดิ​ ยักษ์กระดูก…อสูรสายยักษาและอันเดดผสมกัน!

ยักษ์กระดูกยกแขนทั้งสองข้างขึ้น กระดูกมือเปลี่ยนรูปร่าง กลายเป็นค้อนกระดูกขนาดมหึมาที่บดบังท้องฟ้า

วู้มมมม!!!!

ลมพัดแรง ค้อนกระดูกขนาดยักษ์ตกลงมา ราวกับจะบดขยี้โจวซงให้แหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

กรรรรร!!!!

จักรพรรดิ​แรดสงครามคำรามดังสนั่น, มันพุ่งตัวใช้เขาแหลมคมรับค้อนกระดูก

บูมมม!!!!

ทั้งสองเป็นอสูร​ระดับ​จักรพรรดิ​ การปะทะกันเพียงครั้งเดียวก็รุนแรง​จนทำให้ฟ้าถล่มดินทลาย เนินทรายรอบๆปั่นป่วนราวกับคลื่นยักษ์!

ยักษ์กระดูกถอยหลังไปสามก้าว เท้าจมลงในทราย ค้อนกระดูกในมือแตกเป็นเสี่ยงๆ

จักรพรรดิ​แรดสงครามหายใจหอบ บนผิวหนังมีรอยไหม้จากเปลวไฟอันเดด

โจวซงคุกเข่าลงข้างหนึ่ง หอบหายใจติดขัด มีเลือดไหลออกจากมุมปาก, แต่เลือดเหล่านั้นถูกชะล้างด้วยสายฝนอย่างรวดเร็ว เหลือเพียงใบหน้าที่ซีดเผือด

“ท่านเจ้าเมือง ตอนนี้กองทัพอสูรบุกหนักมาก พวกเราเสียพี่น้องไปมากมาย​แล้ว!”

“ผมขอเสนอให้ถอยทัพ ถอยหลังไปสักหนึ่งกิโลเมตรเพื่อลดการปะทะ​!”

“ไม่ได้! ไม่ได้เด็ดขาด!” เสียงแหบแห้งของโจวซงเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว

เขาลุกขึ้นยืน เเล้งมองกลับไป

ประตูเมืองเก่าแก่ของหวงหยาน ดูทรุดโทรมและเศร้าหมองท่ามกลางสายฝน

“ถ้าเราถอยอีกหนึ่งกิโลเมตร สงครามจะลุกลามเข้าไปในเมือง มันจะสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวเมืองอย่างมาก”

ขีดจำกัดของโจวซง คือชาวเมือง

เขาปกป้องขีดจำกัดนี้มาสามสิบปี ไม่เคยละเมิดเเม้เพียง​วัน​เดียว​

“ท่านเจ้าเมือง ถึงเราจะยืนหยัดต่อไป สุดท้ายก็ต้องตายกันหมดอยู่ดี!”

“ใช่ครับท่านเจ้าเมือง พวกเราถอยกันก่อนเถอะ!”

“รายงานครับ! กองกำลังที่สาม ถูกทำลายจนหมดสิ้นเเล้ว”

กองกำลังที่สาม เป็นหนึ่งในกองกำลังหลักของเมืองหวงหยาน

ข่าว​นี้​ทำให้​สีหน้าของโจวซงยิ่งแย่ลง การต่อสู้ที่เสียเปรียบด้านจำนวนคน ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายแบบนี้ มีแต่ความสิ้นหวัง!

สายฟ้าแลบผ่าน ส่องสว่างสนามรบที่มืดมิด

โจวซงมองไปรอบๆ ภายในรัศมีร้อยเมตร ตอนนี้มันมีซากศพของเพื่อนร่วมรบมากกว่าที่เขาคิดไว้มาก!

ถอย ชาวเมืองก็เดือดร้อน

ไม่ถอย กองทัพก็ต้องตาย

ถอยหรือไม่ถอย ก็มีแต่ทางตาย!

กลิ่นอายของความตายแผ่กระจายไปทั่วสนามรบ นำมาซึ่งความสิ้นหวังเเละจมดิ่ง

เมื่อขวัญกำลังใจของปรมาจารย์อสูรเริ่มสั่นคลอน ความต้องการต่อสู้ของอสูรก็ลดลงเช่นกัน

โจวซงมองจักรพรรดิ​แรดสงครามที่อยู่เคียงข้างเขามานาน ก็รู้สึกใจหาย

ในดวงตาของแรดสงครามตอนนี้ เขาเห็นความหวาดกลัวและความเศร้าโศกที่ไม่ได้เห็นมานานหลายปี

“สงครามครั้งนี้ พวกเรา​ไม่มีทางชนะเลย” โจวซงกำหมัดแน่น ทุบลงบนพื้น

ขวัญกำลังใจของมนุษย์ มาจากความมั่นใจ

เเต่เมื่อปรมาจารย์อสูรห้าพันคน ต้องเผชิญหน้ากับกองทัพอสูรสองหมื่นตัว เเบบนี้​พวกเขา​จะมีความมั่นใจได้อย่างไร?

อย่างไร​ก็ตาม, ท่ามกลางสถานการณ์​ความพ่ายแพ้นี้ เสียงใสเเละงดงาม​ก็ได้ดังขึ้นมา

“ในฐานะองค์หญิงแห่งประเทศมังกร ฉันขอออกคำสั่ง!”

“ก่อนรุ่งสาง อย่าให้อสูรเหยียบย่างเข้าไปในเมืองแม้แต่ก้าวเดียว!”

ทุกคนในสนามรบเงยหน้ามองไปที่ประตูเมือง

บนกำแพงเมือง มีหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ เเละนั่นคือองค์หญิงซ่างกวนเฉียน

สายฝนทำให้ใบหน้าที่งดงามยิ่งดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น​

ด้านข้างซ่างกวนเฉียน มีชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ เเละเเน่นอนว่าเขาคือเซียวซิง​หยู​

เซียวซิงหยูมองออกไปไกลๆ เห็นแต่ซากศพและทะเลเลือด

นี่เป็นครั้งแรกที่เซียวซิงหยูได้เห็นสนามรบที่โหดร้ายเช่นนี้ แต่ถึงกระนั้น​ บนใบหน้าของเขากลับไม่มีความกลัวเลยเเม้เเต่น้อย…มันมีแต่ความตื่นเต้นอย่างบ้าคลั่ง

โจวซงนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตะโกนออกมาสุดเสียง “องค์หญิงเสด็จมา เราจะยอมแพ้ไม่ได้!”

“ใช่เเล้ว ฉันจะสู้ตาย!”

“ใช่ฉันก็จะสละชีวิต เพื่อปกป้องเมืองนี้!”

ซ่างกวนเฉียนมีฐานะพิเศษ เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของจักรพรรดินีซ่างกวนหลาน เป็นองค์หญิงผู้สูงศักดิ์ของประเทศมังกร

การที่องค์หญิงเสด็จมาที่สนามรบด้วยตัวเอง มันถือเป็นขวัญกำลังใจที่ดีที่สุดสำหรับเหล่าทหาร

กองทัพปรมาจารย์อสูรรวมกำลังกันใหม่ เเล้วยืนหยัดต่อสู้อีกครั้ง

“เซียวซิงหยู เธอเป็นแค่ปรมาจารย์อสูรระดับสองดาว กล้าขึ้นมาสู้ในสนามรบแบบนี้เลยเหรอ” ซ่างกวนเฉียนถามด้วยรอยยิ้ม​

“องค์หญิง ผมจะไม่ปล่อยให้ท่านไปเสี่ยงคนเดียว​หรอก”

เซียวซิงหยูยกมือขวาขึ้น ทำท่าทางแสดงความเคารพประจำของกองกำลัง​วิญญาณจักรพรรดิ

ซ่างกวนเฉียนรู้สึกประทับใจกับความกล้า​หาญนี้พอสมควร​

ในวินาทีต่อมา ซ่างกวนเฉียนก็ขึ้นขี่กิเลนน้ำแข็ง กระโดดลงจากกำแพงเมืองราวกับดาวตก ทะลุผ่านความเงียบสงัดของค่ำคืน

เซียวซิงหยูขี่หมาป่าปีศาจ​แห่ง​นรกอบายกระโดดลงจากกำแพงตามมาติดๆ

ทั้งสองคนควบคุมอสูรของตน พุ่งเข้าสู่สนามรบที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด

เสียงคำรามของกิเลนเเละเสียงหอนของหมาป่าดังกึกก้อง​ไปทั่วสนามรบ!

“ฆ่าพวกมันให้หมด!”

ซ่างกวนเฉียนนำทัพ บุกเข้าสู่กองทัพอสูรที่กำลังบุกเข้ามา

ท่ามกลางความวุ่นวาย เซียวซิงหยูก็ได้เดินมาหาโจวซง

“น้องเซียว ทำไมนายมาอยู่ที่นี่!”

“ผมมาช่วยพี่ไง”

โจวซงยิ้มแห้งๆ จากนั้น​เขาก็นึกอะไร​ขึ้น​มา​ได้…เเละรีบถามด้วยความร้อนใจ

“นายกับองค์หญิงมาช่วยข้างนอกเเบบนี้​ แล้วในเมืองล่ะ?”

“เรื่องปัญหาในเมือง ผมจัดการเรียบร้อยแล้ว” เซียวซิงหยูยกยิ้มอย่างภาคภูมิใจ

“จัดการเรียบร้อยแล้ว?”

โจวซงงุนงงกับคำอธิบาย​นี้มาก

……..

ยี่สิบนาทีก่อนหน้า

ภายในเมือง

“หัวหน้าฉิน อสูรที่เข้ามาในเมืองจากอุโมงค์เริ่มมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยเเล้ว​ครับ​!”

“พวกเรารับมือไม่ไหวแล้ว!”

“แบบนี้ต่อไป อีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เมืองจะต้อง​แตกอย่างเเน่นอน!”

ฉินเยี่ยนหรันที่ตัวเปื้อนเลือดอสูรเงยหน้าขึ้น​มองสถานการณ์​รอบๆ, ตอนนี้เธอฆ่าอสูรไปมากมายเเล้ว แต่มันก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหมดเลย

กำลังพลในเมืองมีน้อยอยู่แล้ว ยังมีอสูรไหลทะลักเข้ามาจากอุโมงค์ไม่หยุด มันก็ยิ่งทำให้ฉินเยี่ยนหรันจนปัญญา

“พี่เยี่ยนหรัน ผมมีวิธี”

“ว่ามาสิ!”

“ถ้าอยากแก้ปัญหาในเมือง เราต้องจัดการที่ต้นตอ เเละต้นตอก็คืออุโมงค์” เซียวซิงหยูวิเคราะห์อย่างจริงจัง

“เธอต้องการ​จะบอกอะไร...”

“ถ้าเราปิดอุโมงค์ เราก็จะหยุดยั้งการรุกคืบของกองทัพอสูรได้!”

เมื่อได้ยินสิ่งที่เซียวซิงหยูพูด ซ่างกวนเฉียนที่เพิ่งฆ่าอสูรกลายพันธุ์ระดับเหนือธรรมชาติอยู่ใกล้ๆ ก็เดินเข้ามาหาทันที​

“นี่เซียวซิงหยู นายคิดว่าการปิดอุโมงค์มันง่ายนักเหรอ”

“หึๆ เรื่องนี้สำหรับผม มันง่ายยิ่งกว่าการปอกกล้วย​กินเสียอีก”

เซียวซิงหยูเพิ่งคิดแผนการสุดยอดได้ เขาเลยอยากลองใช้มันสักหน่อย

……………………

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด