บทที่ 44 ระบบ

บทที่ 44 ระบบ

หลิวเซิ่งเปิดนมมะพร้าวกล่องใหม่ รินใส่แก้วจนเต็ม ดื่มไปครึ่งแก้วก่อนวางแก้วลงและกล่าวว่า “นายรู้ไหมว่า วงเกิร์ลกรุ๊ปและบอยแบนด์ในเกาหลีมีเยอะมาก ถ้านักฝึกหัดเกิดเรื่องอื้อฉาวขึ้นมาอย่างร้ายแรง พวกเขามักจะถูกนักลงทุนทอดทิ้ง วงของเพื่อนฉันไม่ได้ทำอะไรผิด แต่พวกเขากลับกลายเป็นเหยื่อของเกมการเมืองในโลกทุน พวกเขาถูกกล่าวหาว่าขโมยเพลงเปิดตัว”

ชุยเจี้ยนแปลกใจ: “นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินว่ามีเรื่องลิขสิทธิ์เพลงแบบนี้”

หลิวเซิ่งอธิบาย: “มีคนที่อ้างตัวว่าเป็นปรมาจารย์เพลงขายลิขสิทธิ์เพลงให้กับวงเกิร์ลกรุ๊ป นักลงทุนเห็นว่ามันเหมาะสมมากจึงซื้อลิขสิทธิ์เพลงนั้นไป หลายเดือนต่อมา ปรมาจารย์ตัวจริงกลับมาจากต่างประเทศ และเมื่อเขาได้ดูการแสดงเปิดตัวของวง เขาก็โกรธจัดและแจ้งตำรวจ คนที่ขายลิขสิทธิ์นั้นเป็นศิษย์ที่ถูกทอดทิ้งของปรมาจารย์ เป็นคนติดการพนัน เบื้องหลังเรื่องนี้ซับซ้อนมาก แต่บนพื้นผิวคือศิษย์คนนี้ขโมยเพลงของปรมาจารย์ ปลอมลายเซ็น และขายเพลงให้วงเกิร์ลกรุ๊ป เพลงนี้เดิมทีถูกเตรียมไว้สำหรับวงอื่นที่กำลังจะเปิดตัว”

หลิวเซิ่งกล่าวต่อ: “ไม่ค่อยมีคนรู้เรื่องนี้ หลังจากปรมาจารย์แจ้งความ เธอเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฉันฟัง เธอเสียใจมากและร้องไห้เป็นเวลานาน โชคดีที่ฉันเคยพบกับปรมาจารย์คนนั้น เมื่อเขาแจ้งความไปไม่ถึงหนึ่งวัน เขาก็ถอนแจ้งความ”

ชุยเจี้ยนหัวเราะ: “แล้วนายก็สูญเสียคู่ชีวิตของนายไปสินะ” เขาหัวเราะอยู่พักใหญ่ก่อนพูดต่อ: “ดูสิ พวกเราก็เป็นพวกเดียวกัน โดยเฉพาะนาย ทุกครั้งที่ฝนตก ขานายคงเจ็บจนทนไม่ไหวใช่ไหม?”

หลิวเซิ่งตะโกนด้วยเสียงดัง: “ไม่ใช่! ฉันรักเธอ ฉันถึงได้ยอมปล่อยเธอไป ฉันอยากให้เธอไล่ตามความฝันของตัวเอง และประสบความสำเร็จในชีวิต”

ชุยเจี้ยนตอบ: “งั้นก็เพราะอย่างนี้สินะ นายกับลุงจินถึงได้เข้ากันได้ดี ทั้งคู่คิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่”

หลิวเซิ่งมองชุยเจี้ยนและกล่าว: “นายมันไม่มีหัวใจ นายไม่มีทางเข้าใจ นี่ไม่ใช่ความยิ่งใหญ่ แต่มันคือความรัก”

ชุยเจี้ยนแย้ง: “ถ้าเธอรักนายจริง เธอจะเลิกกับนายไหม? สุดท้ายแล้วมันก็เป็นแค่ความรักข้างเดียว ถ้าเธอรักนายจริง แม้เธอจะต้องยอมเสียสละเพื่ออาชีพของเธอ เธอก็ควรจะยังคงรักษาความสัมพันธ์กับนายไว้ และเมื่อเธอประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง เธอควรเปิดเผยความสัมพันธ์ของเธอกับนาย แต่ผมเดาว่าตลอดหลายปีนี้ นายคงเป็นฝ่ายที่ติดตามเธออยู่เงียบ ๆ ส่วนเธอคงไม่ได้แม้แต่จะโทรหานาย ผมเชื่อว่าความรักมีอยู่จริง แต่ความรักของนายเหมาะสำหรับเด็กฝึกหัด คนไม่มีเงิน และคนที่กำลังอารมณ์เสีย เพราะสถานะทางสังคมของนายมันต่ำเกินไป นายก็แค่ช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าพิการ ไม่ใช่แค่เธอที่คิดแบบนั้น แต่นายเองก็ยังดูถูกตัวเอง”

หลิวเซิ่งจ้องชุยเจี้ยนด้วยสายตาโกรธจัด: “ไสหัวไป ออกไปเดี๋ยวนี้!”

ชุยเจี้ยนยกกระป๋องโคล่าขึ้นดื่มจนหมด ก่อนยิ้มบาง ๆ และเดินออกไป หลิวเซิ่งมองชุยเจี้ยนที่หายไปทางบันไดอยู่พักใหญ่ ก่อนจะคว้ากระป๋องโคล่าแล้วบีบจนแบน และขว้างลงไปที่บันไดด้วยความโกรธ จากนั้นเขาเริ่มไออย่างรุนแรง

สัปดาห์ที่สามของการฝึกในกลุ่มของแอลลียังคงอยู่ที่ศูนย์ฝึกขับรถยนต์ ในวันจันทร์แอลลีปรากฏตัวด้วยบุคลิกที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากเดิมที่ร่าเริงและมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ วันนี้เธอดูซูบผอมและไม่มีชีวิตชีวา การเปลี่ยนแปลงของเธอทำให้บรรยากาศในรถบัสเย็นชาลงอย่างมาก นอกจากชุยเจี้ยนแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

ในการลอบสังหารครั้งนี้ การเสียชีวิตของสมาชิกกลุ่มไอซ์พิคสองคนและเจ้าหน้าที่ตำรวจหนึ่งคนถือเป็นความเสียหายข้างเคียง ชุยเจี้ยนและหลิวเซิ่งไม่ได้สนใจชะตากรรมของทั้งสามคน พวกเขาสนใจแค่เพียงว่า ระเบิดแม่เหล็กไฟฟ้าจะต้องมีกำลังระเบิดเท่าไรเพื่อให้สามารถฆ่าเป้าหมายได้ แม้ว่าระเบิดจะถูกติดตั้งในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสมก็ตาม

ชุยเจี้ยนแทบไม่มีความสนใจที่จะนึกถึงการลอบสังหารครั้งนี้อีก เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ดูแลถึงต้องปล่อยเป้าหมายออกมาในช่วงนี้ ส่วนหนึ่งอาจมาจากปัจจัยทางการเงิน หรือสถานการณ์ในกลุ่มไอซ์พิคและนิโม อีกส่วนหนึ่งคือเรื่องของการจัดการเปลี่ยนตัวสมาชิกกลุ่มเจ็ดสังหาร เนื่องจาก “ลุงจิน” และ “เสี่ยวสุ่ย” ที่เสียชีวิตหรือถูกทรยศ ต้องถูกแทนที่ด้วยสมาชิกใหม่

ผู้ดูแลจะเลือกผู้สมัครที่เหมาะสมที่สุด จากนั้นให้ผู้ที่มีประสบการณ์ในกลุ่มนำและสั่งการในการลอบสังหารเป้าหมายอย่างน้อยสองครั้ง เพื่อให้สามารถขึ้นมาแทนที่ตำแหน่งของลุงจินและเสี่ยวสุ่ย และกลายเป็นสมาชิกกลุ่มเจ็ดสังหารอย่างเป็นทางการ สำหรับผู้สมัครที่ไม่ผ่านการคัดเลือก พวกเขาจะได้รับมอบหมายให้ดำเนินชีวิตแบบคนธรรมดาตามอัตลักษณ์ที่กลุ่มสร้างให้ โดยในช่วงสุดท้ายของการฝึกอบรม ผู้สมัครทุกคนจะต้องเข้ารับการศึกษาระดับสูงอย่างน้อยหนึ่งปี ซึ่งอาจไม่จำเป็นต้องจบการศึกษา แต่ต้องได้รับการประเมินในด้านความรู้ ทักษะ และความสามารถในการแฝงตัว

เมื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ ผู้สมัครบางคนอาจมีงานที่ดี มีคู่ชีวิต และต้องการใช้ชีวิตแบบคนปกติ ในกรณีนี้ พวกเขาสามารถส่งอีเมลลาออกไปยังกลุ่มเจ็ดสังหารได้ กลุ่มจะมอบเงินช่วยเหลือ 30,000 ดอลลาร์ และลบข้อมูลทั้งหมดของพวกเขาในฐานข้อมูลขององค์กร ทำให้ทั้งสองฝ่ายไม่มีความเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป

หากพวกเขาไม่ได้ส่งอีเมลลาออก พวกเขาอาจถูกแนะนำให้เป็นสมาชิกสืบทอดของกลุ่มเจ็ดสังหาร เมื่อเป็นสมาชิกสืบทอดแล้ว พวกเขาต้องละทิ้งชีวิตเดิมและเข้ารับการฝึกฝนอย่างหนักที่ศูนย์ฝึกอบรม ก่อนจะถูกมอบหมายให้ลอบสังหารเป้าหมายภายใต้คำสั่งของสมาชิกกลุ่มเจ็ดสังหารที่มีประสบการณ์

ศูนย์ฝึกอบรมของกลุ่มเจ็ดสังหารไม่มีสถานที่ประจำ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับครูฝึก บางคนเคยเป็นผู้สมัครที่ไม่ผ่านการคัดเลือกหรือสมาชิกเก่าที่ได้รับบาดเจ็บจากภารกิจลอบสังหารจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อได้

ระบบของ “สุนัขนรก” ที่หลิวเซิ่งเป็นสมาชิกแตกต่างออกไป เนื่องจากข้อจำกัดด้านร่างกายของหลิวเซิ่ง ทำให้เขาไม่สามารถเป็นสมาชิกสืบทอดของกลุ่มเจ็ดสังหารได้ แต่เขาแสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์ด้านคอมพิวเตอร์ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า “คำสาบาน” ทำให้เขาได้เข้าสู่ระบบสุนัขนรก

สุนัขนรกก็มีระบบผู้สมัครเช่นเดียวกับเจ็ดสังหาร แต่แตกต่างกันตรงที่ผู้สมัครของสุนัขนรกจะทำงานต่อเนื่องไปจนกว่าจะเกษียณด้วยความสมัครใจ หลิวเซิ่งมีผู้สมัครสุนัขนรกสี่คนที่ช่วยเหลือเขาในการทำงาน ผู้สมัครเหล่านี้ไม่ได้รับอนุญาตให้สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับชุยเจี้ยน และจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของหลิวเซิ่งโดยไม่มีการตีความคำสั่งมากเกินไป

ตัวอย่างเช่น หากหลิวเซิ่งสั่งให้ “A” ตัดการเชื่อมต่อเครือข่ายของอาคารแห่งหนึ่งในเวลา 20.00-22.00 น. “A” จะต้องหาวิธีปฏิบัติหน้าที่โดยไม่สอบถามเหตุผลของคำสั่ง

ตัวอย่างเหตุการณ์ลอบสังหารบนทางเท้าถนนจุงมู ผู้สมัครสุนัขนรกสี่คนเฝ้าสังเกตเป้าหมายผ่านกล้องวงจรปิดสาธารณะ และส่งข้อมูลให้หลิวเซิ่งเพื่อสรุปและส่งต่อให้ชุยเจี้ยน

ในอดีต กลุ่มเจ็ดสังหารและสุนัขนรกเคยประสบปัญหาภายในจนถูกแทรกซึมอย่างหนัก แต่หลังจากผู้ดูแลคนปัจจุบันเข้ามา สถานการณ์ก็เปลี่ยนไป โดยมีการลดขนาดองค์กรและเน้นการพัฒนาเฉพาะบุคคล พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูล แม้ว่ายังมีการทรยศอยู่บ้าง แต่ความเสียหายถูกจำกัดให้อยู่ในระดับที่จัดการได้

เช่น หากหลิวเซิ่งทรยศ ชุยเจี้ยนและผู้สมัครสุนัขนรกสี่คนจะหนีไม่พ้น แต่หากผู้สมัครสุนัขนรกทรยศ หลิวเซิ่งจะถูกจัดการ ส่วนชุยเจี้ยนและผู้สมัครที่เหลือจะหนีไปก่อน หรือหากชุยเจี้ยนทรยศ ผู้ที่ต้องรับผลกระทบก็มีแค่หลิวเซิ่ง

ครั้งสุดท้ายที่ผู้ดูแลถามเกี่ยวกับการแทนที่ลุงจิน ชุยเจี้ยนตอบว่า หากคนใหม่อยู่ในวงการฮันเฉิง เขาจะดูแลคนใหม่นั้นเอง แต่หลังจากนั้นไม่มีข่าวเพิ่มเติม ชัดเจนว่าผู้สืบทอดตำแหน่งของลุงจินไม่ได้อยู่ในวงการของฮันเฉิง