ตอนที่แล้วบทที่ 42 โจรปล้นสุสาน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 44 น้าสาวคนสวย

บทที่ 43 อาวุธแห่งความหวัง


หลังจากเย่ฟานกลับถึงบ้าน ก็เป็นอีกค่ำคืนที่เต็มไปด้วยความสุขและความสนุกสนาน

เช้าวันรุ่งขึ้น เขาตื่นขึ้นมาด้วยจิตใจที่สดชื่น เมื่อเหลือบมองหลิวหยวี่ยังนอนหลับอยู่บนเตียง เขาจึงเดินไปที่ห้องนั่งเล่นและนั่งลงบนโซฟา ก่อนจะเปิดระบบขึ้นมาเพื่อตรวจสอบภารกิจในวันนี้ เขารู้สึกว่าภารกิจในวันนี้อาจจะไม่ธรรมดา

ในอีกโลกหนึ่ง โจรปล้นสุสานตื่นขึ้นมาเพราะเสียงเคลื่อนไหวจากภายนอก เมื่อเขารีบลุกขึ้นมาดูสภาพแวดล้อมด้านนอก ใบหน้าของเขาก็ซีดเผือดทันที เพราะฝูงคนบ้าที่ดูเหมือนซอมบี้ได้มารวมตัวกันจำนวนมาก หากเขาไม่รีบหนี เขาคงถูกล้อมและไม่มีทางรอด

โดยไม่รอช้า เขาคว้าอาวุธและอาหารที่เตรียมไว้ก่อนเปิดประตูออกไป แต่ไม่นานนักก็เจอคนบ้าตัวหนึ่งขวางทาง

ในสถานการณ์แบบนี้ เขาไม่กล้าเสียเวลา เขาใช้โล่ที่ทำจากฝาหม้อในแขนซ้ายป้องกันการโจมตี และในขณะเดียวกันก็ใช้หอกสั้นที่เขาประดิษฐ์เองแทงไปที่หัวของคนบ้าทันที หอกสั้นพุ่งทะลุเข้าไปที่กะโหลกจนจบชีวิตของมัน

หลังจากจัดการคนบ้าตัวนั้นเสร็จ เขาเจอจักรยานคันหนึ่งและรีบขี่ออกไปอย่างรวดเร็ว ด้วยสัญชาตญาณบอกเขาว่า หากช้ากว่านี้ ชีวิตของเขาคงไม่รอดจากสถานที่นรกแห่งนี้

แต่เมื่อเขาใกล้จะหนีออกจากเมืองเล็ก ๆ ได้ กลับเจอทางถูกปิดขวางด้วยร่างของคนบ้าร่างยักษ์ที่สูงเกือบสองเมตร คนบ้าตัวนี้แตกต่างจากคนบ้าทั่วไป มันดูแข็งแกร่งและเต็มไปด้วยพลังที่น่ากลัว

เพียงแค่สบตามัน โจรปล้นสุสานก็รู้ทันทีว่าเขาไม่สามารถสู้กับมันได้ เขาหันกลับหวังจะหาทางอื่นหนี แต่พบว่าด้านหลังก็เต็มไปด้วยฝูงคนบ้าจำนวนมาก ทางรอดเดียวของเขาคือการเอาชนะคนบ้ายักษ์ตัวนี้

แต่เขารู้ดีว่าความแข็งแกร่งของมันเกินจะรับมือได้ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เขาเคยเห็นคนบ้าประเภทนี้ยกของหนักหลายร้อยกิโลกรัมด้วยมือเปล่า หากมันโจมตีเขา เขาคงไม่รอด

“ผมต้องการอาวุธ! อาวุธที่สามารถฆ่าพวกมันได้ในทันที! ปืน! ผมต้องการปืน! ถ้าไม่มีปืน ผมจะตายแน่ ๆ!” โจรปล้นสุสานร้องขอในใจอย่างบ้าคลั่ง นี่คือความหวังสุดท้ายของเขา

ในเวลาเดียวกัน เย่ฟานซึ่งเพิ่งเปิดระบบการค้า ก็เห็นคำขอของโจรปล้นสุสานทันที

【ผมต้องการปืนด่วน! ถ้าไม่มีปืน ผมต้องตายแน่ ๆ เร็วเข้า!】

นี่เป็นข้อความที่สั้นที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา ซึ่งบ่งบอกว่าโจรปล้นสุสานกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายสุด ๆ เย่ฟานไม่ลังเลเลย เขารีบนำปืนที่อยู่ในคลังสินค้าส่งไปยังโจรปล้นสุสานทันที

หลังจากส่งปืนออกไปสำเร็จ เย่ฟานก็มีเวลาตรวจสอบรายละเอียดคำสั่งซื้อทั้งหมด

【ความต้องการของผู้ซื้อ: ปืน】

【การชำระเงินของผู้ซื้อ: 2,000,000 หยวน (RMB)】

【ระยะเวลาที่คำสั่งซื้อมีผล: 1 นาที】

“ให้ตายสิ แค่ 1 นาทีเอง ถ้าผมช้ากว่านี้นิดเดียว เขาคงตายไปแล้วจริง ๆ โชคดีมาก” เย่ฟานถอนหายใจพร้อมกับลูบหน้าอกตัวเองเบา ๆ รู้สึกโล่งใจที่ตัดสินใจได้เร็ว

เขาไม่ได้กังวลเรื่องเงิน 2 ล้านหยวน แต่สิ่งที่ทำให้เขาใส่ใจคือความสำคัญของลูกค้ารายนี้ เพราะถ้าโจรปล้นสุสานคนนี้เป็นอะไรไป เขาก็อาจเสียโอกาสสร้างรายได้มหาศาลในอนาคต โลกที่เต็มไปด้วยอันตรายแบบนั้นต้องมีของล้ำค่ามากมาย และถ้าโลกนั้นมีเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ากว่าโลกนี้ ของที่ได้มาก็ยิ่งคุ้มค่ามากขึ้น

เมื่อมั่นใจว่าทุกอย่างเรียบร้อย เย่ฟานสั่งอาหารเช้าผ่านบริการเดลิเวอรี่ จากนั้นเขาก็ลงไปวิ่งออกกำลังกายด้านล่างคอนโด เพราะเขาเชื่อว่า "สุขภาพคือทุนรากฐานของชีวิต" ดังนั้นเขาจะออกกำลังกายทุกวันหากมีโอกาส

หลังจากผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง เย่ฟานไปรับอาหารเช้าที่หน้าคอนโด ก่อนจะเดินกลับบ้านอย่างสบายใจ

เมื่อมาถึงบ้าน เขาวางอาหารเช้าบนโต๊ะ แล้วตบเบา ๆ ที่ก้นของหลิวหยวี่ซึ่งยังนอนอยู่บนเตียง “ลุกขึ้นมากินข้าวได้แล้ว ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ”

“โอ๊ย! ตบเบา ๆ หน่อยสิคะ” หลิวหยวี่ลูบก้นตัวเองด้วยความรู้สึกน้อยใจ “คุณนี่ไม่รู้จักทะนุถนอมผู้หญิงเลยนะ ฉันก็เป็นผู้หญิงนะ”

“หยุดบ่น แล้วรีบมากินข้าวได้แล้ว” เย่ฟานพูดขณะที่เดินไปนั่งที่โต๊ะอาหาร โดยไม่ได้สนใจคำบ่นของเธอ

หลังจากใช้เวลาง่วนอยู่บนเตียงอีกสิบนาที หลิวหยวี่ก็เดินออกมาจากห้องนอน เธอยิ้มยั่วยวนขณะเดินไปที่เย่ฟาน “มีอะไรจะสั่งฉันเหรอคะ?”

“ให้ตายสิ” เย่ฟานคิดในใจ พลางพยายามสงบสติอารมณ์ เพราะท่าทางของเธอในตอนนี้ทำให้เขาเกือบจะเผลอตัว เขาจึงรีบเปลี่ยนหัวข้อ “อีกไม่กี่วันนี้ผมมีงานต้องทำ คุณกลับไปอยู่ที่มหาวิทยาลัยสักสองสามวันนะ ผมจะโอนเงินให้ 50,000 หยวน อยากได้อะไรก็ไปซื้อเอา”

แม้ว่าหลิวหยวี่จะทำตัวดีมากในช่วงที่ผ่านมา แต่เย่ฟานก็รู้ว่าเขาควรเว้นระยะห่างบ้าง เพราะถ้าอยู่ด้วยกันนานเกินไป ความผูกพันอาจก่อตัวขึ้น และสิ่งนั้นคือสิ่งที่เขาไม่ต้องการ การรักษาระยะห่างจึงเป็นวิธีที่เขาเลือกใช้

“งั้นเมื่อไหร่คุณจะกลับมาคะ? ฉันจะได้มาหาคุณอีก” แม้ว่าหลิวหยวี่จะไม่อยากไป แต่ด้วยสถานะของเธอในตอนนี้ที่ยัง

ไม่ใช่แฟน เธอไม่มีสิทธิ์พูดอะไรมากนัก ยิ่งไปกว่านั้น 50,000 หยวนสำหรับใช้จ่ายก็เป็นข้อเสนอที่ดีพอ เธอจึงยอมรับโดยไม่มีข้อโต้แย้ง

“กินเสร็จแล้วก็เรียกรถกลับไปเองนะ ผมจะไม่ไปส่ง” เย่ฟานพูดพร้อมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโอนเงิน 50,000 หยวนให้หลิวหยวี่ จากนั้นเขาก็ปล่อยเธอไว้โดยไม่ได้สนใจอะไรอีก หันไปทำงานของตัวเองต่อ

หลิวหยวี่ที่ต้องออกจากบ้านสุดหรูแห่งนี้ ถึงกับไม่มีอารมณ์จะกินอาหารเช้าต่อ การกลับไปที่หอพักซึ่งมีสภาพเรียบง่ายและธรรมดาทำให้เธอรู้สึกต่อต้านในใจอย่างมาก เพราะเธอรู้สึกว่าหอพักไม่เหมาะสมกับเธออีกต่อไป

ถึงแม้ในใจจะไม่อยากกลับ แต่หลิวหยวี่ก็ไม่กล้าขัดคำสั่งของเย่ฟาน เพราะตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน เธอเรียนรู้แล้วว่าผู้ชายคนนี้มีนิสัยยังไง คำพูดที่เขาพูดออกมานั้นไม่มีที่ว่างให้เธอคัดค้าน การเชื่อฟังและยอมรับจึงเป็นทางเลือกเดียว

“คิดถึงฉันก็บอกนะ เดี๋ยวฉันจะส่งรูปฉันใส่ถุงน่องดำแบบใหม่ให้ดู” หลิวหยวี่พูดพลางมองเย่ฟานด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์ ก่อนจะเดินออกจากบ้านไปด้วยความไม่เต็มใจ

“แม่งเอ๊ย เจ้าเสน่ห์ตัวจริงเลย ผู้หญิงแบบนี้ถ้าสอนดี ๆ อีกสักพัก คงยิ่งเปิดเผยตัวตนได้มากกว่านี้อีก เธอเป็นของหายากจริง ๆ แต่ก็ต้องปล่อยเธอไปสักพัก ถ้าไม่อย่างนั้นผู้หญิงจะได้ใจเกินไป” เย่ฟานพูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ

อีกด้านหนึ่ง หลิวหยวี่เดินออกจากคอนโดหรู ถังเฉินอี้ผิ่น พร้อมกับหันกลับไปมองทุก ๆ ก้าว เธอซื้อขนมและชานมเล็กน้อยก่อนจะเรียกรถกลับไปยังหอพักของมหาวิทยาลัย

“โอ๊ะ! ใครกลับมานี่ล่ะ? ฉันนึกว่าเธอจะไม่กลับมาแล้วซะอีก” เพื่อนร่วมห้องคนที่สี่พูดล้อเลียนพร้อมรอยยิ้ม เมื่อหลิวหยวี่เดินเข้าห้อง

“เสี่ยวหยวี่ เธอโดนไล่กลับมาหรือเปล่า?” หัวหน้าห้องถามด้วยความสงสัย เพราะหลิวหยวี่หายไปหลายวัน และการกลับมาแบบกะทันหันนี้ต้องมีอะไรผิดปกติ

“เขามีธุระต้องออกไปทำ ช่วงนี้ฉันเลยต้องกลับมาอยู่ที่นี่” หลิวหยวี่วางของลง ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงพร้อมพูดว่า “ฉันซื้อของมาฝาก กินกันตามสบายเลยนะ”

“เสี่ยวหยวี่ ดูเหมือนสถานะของเธอยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยนะ ถ้าเขามีธุระออกไป เธอก็น่าจะอยู่บ้านเขาได้นี่” เพื่อนร่วมห้องคนที่สองพูดขณะหยิบชานมขึ้นมาดื่ม

หลิวหยวี่ถอนหายใจยาวก่อนส่ายหัว “พวกคนรวยไม่เล่นเรื่องความรู้สึกหรอกนะ เขาไม่มีความสงสารหรือทะนุถนอมเลย แม้แต่นิดเดียว จนตอนนี้ก้นฉันยังเจ็บอยู่เลย”

“ไม่จริงน่า! เธอเล่นกันหนักขนาดนั้นเลยเหรอ? ถึงขั้นเจ็บก้นเนี่ย?” หัวหน้าห้องอุทานด้วยความตกใจ เธอไม่อยากจะจินตนาการถึงสถานการณ์นั้นเลย

(จบบท)###

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด