ตอนที่แล้วบทที่ 38 เสริมสร้างร่างกาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 40 เส้นแบ่งมีไว้เพื่อถูกทำลาย

บทที่ 39 พลังที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์


เมื่อได้ยินคำพูดของหญิงสาว เย่ฟานก็สตาร์ทรถ พร้อมเสียงเครื่องยนต์ที่ดังขึ้น เขาค่อย ๆ ขับรถออกไป พลางเอ่ยถาม “ผมชื่อเย่ฟาน คุณล่ะครับ คุณชื่ออะไร?”

“ฉันชื่อหลิวหยวี่ เรียกฉันว่าเสี่ยวหยวี่ก็ได้” หลิวหยวี่ตอบพร้อมรอยยิ้ม เธอพูดอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่มีท่าทีเคอะเขิน สมกับเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปะ

“เสี่ยวหยวี่ ให้ผมพาคุณไปเดินห้างไหมครับ?” เย่ฟานเสนอด้วยท่าทางมั่นใจ เขาใช้กลยุทธ์แรกของคนมีเงิน นั่นคือการพาไปช้อปปิ้ง เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่ยากจะปฏิเสธวิธีนี้ได้

หลิวหยวี่มีประกายตาวาบขึ้น แต่ก็ยังปฏิเสธ “ไว้วันหลังดีกว่าค่ะ วันนี้ฉันไม่ได้พกเงินมา” เธอพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ เผยให้เห็นว่าเธอไม่ใช่คนที่สนใจเงินทองจนเกินไป

“ไม่เป็นไรครับ แค่ไปเดินเล่นเฉย ๆ ก็ได้ ไม่ต้องใช้เงินหรอก” เย่ฟานพูดต่อด้วยรอยยิ้ม

“งั้นก็ได้ค่ะ ถ้าแค่ไปเดินเล่น ฉันไม่ได้เดินห้างมานานแล้วเหมือนกัน” หลิวหยวี่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็ยอมตกลง

“ตกลงตามนี้เลยครับ” เย่ฟานยื่นมือช่วยเธอคาดเข็มขัดนิรภัย จากนั้นขับรถมุ่งหน้าไปยังห้างสรรพสินค้าที่ใกล้ที่สุด

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ทั้งสองก็มาถึงห้าง เย่ฟานจอดรถเรียบร้อย และพาหลิวหยวี่เดินขึ้นไปยังชั้นบน

“คุณชอบอะไรเป็นพิเศษบ้างครับ?” เย่ฟานถามขณะอยู่ในลิฟต์ เพราะเขารู้ดีว่าการรู้จักความชอบของอีกฝ่ายคือกุญแจสู่ชัยชนะ

“สาว ๆ ส่วนใหญ่ก็ชอบกระเป๋า ลิปสติก แล้วก็เสื้อผ้าค่ะ อย่างอื่นฉันไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่” หลิวหยวี่ตอบด้วยรอยยิ้ม ไม่ปิดบังความจริง

“งั้นเรามาเริ่มที่ร้านเสื้อผ้ากันก่อนดีกว่า” เมื่อประตูลิฟต์เปิด เย่ฟานพาหลิวหยวี่เดินตรงไปยังร้านเสื้อผ้าหรู

ร้านที่เย่ฟานเลือกนั้นเต็มไปด้วยเสื้อผ้าที่มีราคาแพงลิบลิ่ว เดิมทีหลิวหยวี่ยังดูสงบนิ่ง แต่เมื่อเธอเห็นป้ายราคาของเสื้อผ้าแต่ละตัวที่มีราคาหลักหมื่น เธอก็อดตกใจไม่ได้ เธอได้แต่ยืนมองอยู่ห่าง ๆ และไม่กล้าแม้แต่จะแตะเสื้อผ้าเหล่านั้น

“ช่วยเลือกชุดที่เหมาะกับผู้หญิงคนนี้สักสองชุดนะครับ ถ้าผมคิดว่าสวย ผมจะซื้อให้เลย” เย่ฟานพูดพร้อมรอยยิ้ม และหันไปบอกพนักงานให้พาหลิวหยวี่ไปเลือกเสื้อผ้า

หลังจากผ่านไปห้านาที หลิวหยวี่กลับออกมาพร้อมชุดที่ดูสวยสง่า ใบหน้าของเธอเปื้อนรอยยิ้มเพราะเธอชอบชุดนี้มาก เย่ฟานมองเธอแล้วก็พยักหน้าด้วยความพอใจ ก่อนจะตัดสินใจซื้อทันที

“ลองไปเลือกชุดเพิ่มอีกสักสองชุดนะครับ” เย่ฟานพูดพร้อมส่งสัญญาณให้พนักงานช่วยพาเธอไปเลือกเสื้อผ้าอีกครั้ง

หลังจากใช้เวลาประมาณยี่สิบนาที หลิวหยวี่ลองเปลี่ยนเสื้อผ้ากว่าสิบชุด สุดท้ายเย่ฟานเลือกมาได้สามชุด และจ่ายเงินด้วยบัตรธนาคารเป็นจำนวน 50,000 หยวน

“ผมว่าคุณดูชอบชุดพวกนี้นะครับ จริง ๆ แล้วแฟนผมก็มีรูปร่างพอ ๆ กับคุณ ผมคิดว่าเธอก็น่าจะชอบเหมือนกัน” หลังจากจ่ายเงินเสร็จ เย่ฟานหันไปพูดกับหลิวหยวี่

คำพูดนี้ทำให้หลิวหยวี่ที่กำลังมีความสุขถึงกับชะงัก รอยยิ้มบนใบหน้าเริ่มแข็งค้าง เธอพูดออกมาอย่างอึดอัด “เธอต้องชอบแน่นอนค่ะ เพราะคุณเลือกอย่างพิถีพิถันขนาดนี้”

เย่ฟานเห็นสีหน้าผิดหวังของหลิวหยวี่แล้วก็ยิ้มในใจ เขารู้ว่าตอนนี้เธอกำลังเสียความรู้สึกอย่างมาก ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเขา เขาเอื้อมมือจับมือของหลิวหยวี่ ยื่นหน้าไปกระซิบข้างหูเธอว่า “จริง ๆ แล้วผมล้อเล่นน่ะครับ เสื้อผ้าพวกนี้ผมซื้อให้คุณ”

“จริงเหรอคะ?” หลิวหยวี่ที่เสียใจอยู่เมื่อครู่ ใบหน้ากลับเปลี่ยนเป็นเปี่ยมไปด้วยความดีใจอีกครั้ง เธอมองเย่ฟานด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ เพราะเสื้อผ้าพวกนี้มีมูลค่าถึง 50,000 หยวน

“จะหลอกคุณไปทำไมล่ะครับ” เย่ฟานกระซิบพร้อมเป่าลมหายใจเบา ๆ ใกล้หูของเธอ จากนั้นจับมือเธอพาไปที่ร้านกระเป๋า เขารู้ดีว่าการพิชิตใจผู้หญิงต้องใช้เวลาและวิธีที่เหมาะสม

ไม่กี่นาทีต่อมา ทั้งสองเดินออกจากร้านกระเป๋า คราวนี้หลิวหยวี่มีของเพิ่มมาอีกหนึ่งชิ้นในมือ และในขณะเดียวกัน เย่ฟานก็เริ่มโอบเอวเธออย่างใกล้ชิด พาเธอเดินขึ้นไปยังชั้นดาดฟ้าของห้าง

ทั้งสองเข้าไปในโรงภาพยนตร์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่มืดสลัว ทำให้ความระมัดระวังในใจของผู้หญิงลดลงอย่างมาก เย่ฟานจึงฉวยโอกาสเข้าจู่โจม เขาประทับจูบที่ริมฝีปากของหลิวหยวี่

ถึงแม้ตอนแรกหลิวหยวี่จะขัดขืนเล็กน้อย แต่ด้วยท่าทีที่แข็งกร้าวของเย่ฟาน รวมกับบรรยากาศในโรงภาพยนตร์ที่มืดสลัว ทำให้เธอหาข้ออ้างกับตัวเองและยอมจำนนในที่สุด

ตลอดระยะเวลาหนึ่งชั่วโมงของภาพยนตร์ เย่ฟานถือโอกาสเดินหน้าอย่างเต็มที่ เขาใช้ทุกวิถีทางจนเธอต้องยอมอ่อนข้อ แม้จะยังไม่ได้ “ลิ้มรสเต็มที่” แต่เขารู้สึกว่าเป้าหมายอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

หลังภาพยนตร์จบ หลิวหยวี่พูดด้วยเสียงเบา “ดึกแล้วค่ะ ฉันต้องกลับไปที่มหาวิทยาลัยแล้ว ไม่อย่างนั้นหอพักจะปิด”

คำพูดนี้เป็นความพยายามของหลิวหยวี่ที่จะหลบหนี เธอยังไม่พร้อมที่จะก้าวข้ามเส้นไปกับเย่ฟานในตอนนี้

“ได้เลยครับ ผมไปส่งคุณเอง” เย่ฟานตอบอย่างสุภาพ เขารู้ดีว่าในที่สาธารณะแบบนี้ เขาไม่สามารถบังคับอะไรได้

หลังจากขึ้นรถ หลิวหยวี่คิดว่าเย่ฟานจะขับไปส่งเธอที่มหาวิทยาลัย แต่เย่ฟานกลับหักพวงมาลัยมุ่งหน้าไปยังบ้านของเขาโดยไม่พูดอะไร เพราะในใจเขาชัดเจนว่าจุดประสงค์ของเขาไม่ใช่การ “ออกเดต” แต่เป็นการไปให้ถึงเป้าหมาย

“พี่ฟาน เราจะไปไหนกันคะ? ไม่ใช่ว่าจะไปส่งฉันกลับหอพักเหรอ?” หลิวหยวี่ถามด้วยเสียงเบา เมื่อเห็นว่าทางที่เย่ฟานขับนั้นผิดไปจากเส้นทางเดิม เธอเข้าใจดีว่าผู้ชายคิดอะไร แต่เธอยังไม่อยากเสีย "ต้นทุน" ของตัวเองไปง่าย ๆ เพราะเมื่อเธอเสียมันไป ความสำคัญของเธอจะลดลงทันที

“ไปดื่มชาที่บ้านผมก่อนสิครับ ดื่มเสร็จแล้วผมจะไปส่งคุณ ไม่ต้องกลัวนะ เดี๋ยวนี้เป็นยุคของกฎหมายแล้ว” เย่ฟานพูดพร้อมรอยยิ้ม พลางปลอบใจให้หลิวหยวี่รู้สึกสบายใจ

ไม่นานนัก ทั้งสองก็มาถึงบ้านของเย่ฟาน เมื่อหลิวหยวี่เห็นการตกแต่งที่หรูหราอลังการในบ้าน เธอถึงกับอึ้งจนพูดไม่ออก ดวงตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและแววตาเปล่งประกายเมื่อมองเย่ฟาน

เมื่อประตูบ้านปิดลง เย่ฟานเดินไปสวมกอดหลิวหยวี่จากด้านหลัง ซบหน้าลงที่ต้นคอของเธอแล้วพูดเบา ๆ ว่า “คืนนี้อยู่กับผมเถอะนะครับ ผมจะดูแลคุณอย่างดี”

“พี่ฟาน ฉันต้องกลับค่ะ หอพักของฉันมีกฎเข้มงวดมาก ตอนกลางคืนฉันไม่สามารถไม่กลับได้” แม้ว่าหลิวหยวี่จะรู้สึกประทับใจในความหรูหรา แต่เธอยังคงมีสติ เธอพยายามดึงมือของเย่ฟานที่กอดเธอไว้ แต่แรงของเธอน้อยเกินไป

“ไม่เป็นไรหรอกครับ แค่คืนเดียวคงไม่มีปัญหาอะไร” เย่ฟานพูดพลางอุ้มหลิวหยวี่ขึ้น แล้วพาเธอเข้าไปในห้องนอนด้วยรอยยิ้ม

“ไม่ได้จริง ๆ ค่ะ พี่ฟาน ไว้วันหลังได้ไหมคะ?” หลิวหยวี่ยังคงยืนยัน เธอเข้าใจดีว่าการรักษา "เส้นแบ่ง" เป็นสิ่งสำคัญ ผู้ชายมักจะหลงใหลในสิ่งที่พวกเขายังไม่ได้ครอบครอง

“ถ้าคุณอยู่ต่อ เงินพวกนี้จะเป็นของคุณทั้งหมดนะครับ ถือว่าเป็นค่าพักค้างคืนก็แล้วกัน” เย่ฟานหยิบเงินสดสามหมื่นหยวนออกมา แล้วโปรยขึ้นไปในอากาศ ธนบัตรปลิวว่อนทั่วทั้งห้อง

เมื่อเห็นเงินสดลอยอยู่เต็มห้อง หัวใจของหลิวหยวี่เต้นแรง เธอหายใจถี่ขึ้น แม้เงินสามหมื่นหยวนจะไม่ใช่จำนวนที่มาก แต่แรงกระแทกทางสายตาของเงินสดนั้นทรงพลังมากกว่าตัวเลขในบัญชีหลายเท่า

“พี่ฟาน ฉันทำแบบนั้นไม่ได้จริง ๆ ค่ะ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น” หลิวหยวี่พูดด้วยเสียงสั่น เธอพยายามควบคุมจิตใจของตัวเอง ขณะที่มองธนบัตรที่ลอยตกลงมาช้า ๆ เธอรู้สึกเหมือนมีบางสิ่งในใจเจ็บปวด

“แล้วถ้าผมเพิ่มเงินอีกล่ะครับ?” เย่ฟานพูดด้วยท่าทางไม่ใส่ใจ ก่อนจะหยิบเงินอีกสองหมื่นหยวนออกมาและโปรยไปในอากาศเช่นเดียวกัน “แค่คุณตกลง เงินทั้งหมดนี้จะเป็นของคุณ”

หลิวหยวี่หายใจหนักขึ้นกว่าเดิม ความคิดในใจของเธอสับสนไปหมด เสียงหนึ่งในหัวบอกให้เธอยึดมั่นในหลักการของตัวเอง เพื่อรอจังหวะที่ดีกว่า ขณะที่อีกเสียงกลับกระซิบว่า “สิ่งที่เธอถืออยู่ในมือคือของจริง สิ่งอื่น ๆ เป็นแค่ภาพลวงตา”

(จบบท)###

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด