บทที่ 33: การแข่งขันออกแบบเกมขนาดเล็ก
บทที่ 33: การแข่งขันออกแบบเกมขนาดเล็ก
วันที่ 11 พฤษภาคม วันเสาร์ เวลา 1 ทุ่ม
กู้ฝานหยิบกระป๋องโคล่าจากตู้เย็น ก่อนจะเอนตัวลงนั่งบนเก้าอี้นวดที่เพิ่งซื้อมาอย่างสบายใจ
โปรเจคเตอร์รุ่นเก่าถูกเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมกับจอเฟรเนลขนาด 120 นิ้วที่ช่วยลดแสงสะท้อน ทำให้ประสบการณ์การรับชมพัฒนาขึ้นไปอีกระดับ
ไม่มีทางเลือก เพราะกระเป๋าตังค์มันอ้วนขึ้นแล้ว!
จนถึงตอนนี้ เกม ‘นรกแห่งรางรถไฟ’ มียอดขายสะสมถึง 890,000 ก๊อบปี้ โดยเดือนแรกของการวางขายเป็นช่วงที่มียอดขายสูงสุด ประมาณ 470,000 ก๊อบปี้ หลังจากนั้นยอดขายก็ลดลงอย่างรวดเร็วและคงที่ในระดับหนึ่ง
นี่เป็นเรื่องปกติสำหรับเกมเล่นคนเดียว เพราะส่วนใหญ่มักจะขายดีในช่วงเดือนหรือสองเดือนแรกหลังเปิดตัว ความสำเร็จนี้นับว่าเยี่ยมยอดสำหรับเกมจากบริษัทอินดี้เล็กๆ
ถ้า ‘นรกแห่งรางรถไฟ’ มีการขายไอเทมในเกม มันจะยิ่งทำกำไรได้มาก แต่ก็น่าเสียดายที่ทำไม่ได้
ส่วน ‘ซีซีฟัส’ ที่เพิ่งวางจำหน่ายได้เกินครึ่งเดือน มียอดขายอยู่ที่ 220,000 ก๊อบปี้
แม้ว่าความนิยมในโลกออนไลน์จะสูงมาก แต่ยอดขายของ ‘ซีซีฟัส’ กลับไม่ได้พุ่งกระฉูดเหมือน ‘นรกแห่งรางรถไฟ’ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะกลยุทธ์การตั้งราคา
เนื่องจากราคาของ ‘ซีซีฟัส’ สูงกว่า ‘นรกแห่งรางรถไฟ’ ทำให้ผู้เล่นไม่ได้ซื้อเกมแบบไม่คิดอะไรเหมือนเดิม อีกทั้งการให้ทดลองเล่นฟรี 2 ชั่วโมงก่อนตัดสินใจซื้อ ทำให้ผู้เล่นหลายคนที่ลองเล่นแล้วรู้สึกว่ามันยากเกินไป เลือกที่จะดูคนอื่นเล่นแทน
ถึงแม้ว่า ‘การควบคุมมังกรห้าหัว’ จะเป็นความฝันของผู้เล่นทุกคน และเมื่อสำเร็จก็สามารถอวดได้บนโลกออนไลน์ แต่ผู้เล่นส่วนใหญ่ก็รู้ดีว่านี่เป็นอะไรที่ยากเกินกว่าความสามารถของตัวเอง
ดังนั้น ‘นรกแห่งรางรถไฟ’ และ ‘ซีซีฟัส’ จึงมีความนิยมสูงกว่ายอดขายจริง
แต่ถึงอย่างนั้น ‘ซีซีฟัส’ ก็ยังนำรายได้ที่ดีมาสู่ ‘บริษัทเกมนรกสวรรค์’ เนื่องจากราคาต่อหน่วยที่สูงขึ้นทำให้กำไรต่อหน่วยเพิ่มขึ้น
ขณะนี้เงินในบัญชีของ ‘บริษัทเกมนรกสวรรค์’ มีทั้งหมด 11.36 ล้านหยวน โดยรายได้จาก ‘นรกแห่งรางรถไฟ’ อยู่ที่ประมาณ 6.3 ล้านหยวน ส่วน ‘ซีซีฟัส’ ยังไม่ถึงจุดสูงสุดของยอดขาย จึงคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต
และนี่คือรายได้ที่ยังไม่รวมจากแพลตฟอร์มขนาดเล็กบางแห่งที่ยังไม่ได้จ่ายเข้ามา
ธุรกิจเกมก็เป็นแบบนี้ หากเกมฮิตขึ้นมา การทำเงินก็เหมือนเครื่องพิมพ์ธนบัตรที่หยุดไม่ได้
แน่นอนว่าหากเกมล้มเหลว ก็จะขาดทุนจนหมดตัวเช่นกัน
จากเงิน 11.36 ล้านนี้ กู้ฝานสามารถนำ 5% มาเป็นโบนัสของตัวเองได้อย่างมั่นคง ซึ่งแน่นอนว่าเขาไม่ลังเลที่จะจ่ายออกทันที
แต่น่าเสียดายที่โบนัสนี้กระทบเพดานภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ 45% ดังนั้นจากโบนัส 550,000 หยวน กู้ฝานจะได้รับเงินสุทธิแค่ 300,000 หยวน
แม้จะเจ็บปวดใจ แต่การจ่ายภาษีเพื่อชาติยังถือว่าเป็นเกียรติอยู่
รวมกับเงินที่กู้ฝานทยอยจ่ายให้ตัวเองก่อนหน้านี้ เขามีทรัพย์สินส่วนตัวถึง 410,000 หยวน
เงินจำนวนนี้ไม่มากไม่น้อย
ถ้าจะซื้อบ้านในเมืองหลวง? ฝันไปเถอะ แม้แต่ห้องน้ำยังซื้อไม่ได้
จะซื้อรถ? ขอโทษที ยังไม่มีโควตาให้ลงทะเบียนรถ
แต่ถ้าเอาเงินนี้ไปกินดื่มและซื้อเฟอร์นิเจอร์เพิ่ม ก็เพียงพออย่างแน่นอน
ดังนั้น กู้ฝานจึงอัปเกรดอุปกรณ์โปรเจคเตอร์ และซื้อเก้าอี้นวด ทำให้ห้องนั่งเล่นที่เคยว่างเปล่าดูอบอุ่นขึ้น
จริงๆ แล้วโปรเจคเตอร์ยังให้คุณภาพการแสดงผลที่สู้ทีวีไม่ได้ แต่เนื่องจากเป็นบ้านเช่า หากซื้อทีวีขนาดใหญ่แล้วต้องย้ายบ้านทีหลังคงไม่สะดวก กู้ฝานจึงเลือกโปรเจคเตอร์แทน
ถ้าหาเงินได้มากกว่านี้ อาจจะเริ่มพิจารณาเรื่องย้ายบ้านได้แล้ว
สำหรับเงินในบัญชีบริษัท 70% หรือประมาณ 8 ล้านหยวน จะถูกใช้เป็นงบประมาณสำหรับการพัฒนาและโปรโมตเกมใหม่ ส่วนอีก 25% หรือ 2.8 ล้านหยวนจะใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานบริษัท
เห็นได้ชัดว่าเกมถัดไปหลังจาก ‘บล็อกนรกสวรรค์’ จะมีงบพัฒนาอย่างเหลือเฟือ!
การแข่งขันออกแบบเกมขนาดเล็กในครั้งนี้จัดขึ้นทั้งหมดแบบออนไลน์ โดยมีการถ่ายทอดสดตลอดเวลา
กำหนดการของการแข่งขันคือ: คืนนี้เวลา 1 ทุ่มถึง 4 ทุ่ม จะเป็นรอบแรกที่กรรมการผู้เชี่ยวชาญจะทดลองเล่นเกมและวิจารณ์ทีละเกม
ผู้ชมออนไลน์สามารถหาเกมเหล่านี้มาเล่นได้บนแพลตฟอร์มทางการ
หลังจากนั้นจะเข้าสู่รอบโหวตที่ใช้เวลาหนึ่งวันเต็ม
การโหวตถูกจำกัดอย่างเข้มงวดโดยแพลตฟอร์มจะใช้ข้อมูลโปรไฟล์ของผู้ใช้ในการกำหนดสิทธิ์โหวต เพื่อป้องกันการโกง
พรุ่งนี้เวลา 1 ทุ่ม พิธีกรและกรรมการจะประกาศรางวัลจากการแข่งขัน พร้อมกับมอบพื้นที่โปรโมตให้กับเกมที่ได้รับรางวัล
สำหรับรางวัลใหญ่ที่สุดคือรางวัลพิเศษมูลค่า 300,000 หยวน ซึ่งเงินจำนวนนี้อาจไม่มากสำหรับบริษัทเกม แต่สำหรับผู้พัฒนาเกมอิสระหรือบริษัทเกมขนาดเล็ก ถือว่าเป็นเงินจำนวนมาก
จุดประสงค์ของการแข่งขันครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อเงินรางวัล แต่เพื่อสร้างชื่อเสียงและทิ้งภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาผู้จัดการแข่งขัน
หากสามารถคว้ารางวัลและได้รับพื้นที่แนะนำพิเศษ ก็จะช่วยเพิ่มผู้เล่นให้กับเกมอื่นๆ ของบริษัท ซึ่งเป็นสิ่งที่เงินซื้อไม่ได้
กู้ฝานนอนเอนตัวบนเก้าอี้นวด พร้อมจิบโคล่าอย่างสบายใจ ขณะรอให้การแข่งขันเริ่มขึ้น
เขาคิดว่า ลิลิธคงจะไม่มาคืนนี้ แต่ทันทีที่เก้าอี้นวดเริ่มทำงาน เขาก็รู้สึกได้ถึงบรรยากาศหนาวเย็นที่แผ่ซ่านมาจากด้านหลัง
กู้ฝานหันไปมอง และแน่นอน ลิลิธยืนอยู่พร้อมกับใบหน้าที่ไร้อารมณ์ จ้องมองเก้าอี้นวดตัวใหม่
เห็นได้ชัดว่าลิลิธรู้สึกหมดคำพูด “อัปเกรดอีกแล้วเหรอ!”
ตอนแรก ห้องนั่งเล่นมีแค่เก้าอี้แบบ Bean Bag ธรรมดา หลังจากลิลิธใช้เก้าอี้นั้น กู้ฝานก็ซื้อเก้าอี้โซฟาเดี่ยวมาเพิ่ม แต่พอลิลิธเปลี่ยนไปใช้เก้าอี้โซฟาเดี่ยว เขาก็ซื้อเก้าอี้นวดมาแทน!
ปัญหาคือ เขาไม่เคยคิดจะกันของดีไว้ให้เธอเลย ต้องให้เธอมาบอกถึงจะรู้ตัว
กู้ฝานถอนหายใจพร้อมลุกขึ้น และยก “พื้นที่ทอง” ของเก้าอี้นวดให้ลิลิธ
ลิลิธเอนตัวลงนอนอย่างพอใจ แต่ไม่นาน เธอก็สะดุ้งขึ้นมาเหมือนถูกไฟช็อต เพราะฟังก์ชันนวดของเก้าอี้ทำให้เธอตกใจเล็กน้อย
ไม่นานเธอก็เอนตัวลงนอนอีกครั้ง แม้ขาสั้นๆ ของเธอจะไม่ค่อยเข้ากับส่วนขานวดของเก้าอี้ แต่มันก็สบายกว่าที่คิด
“ก็ได้ ถือว่าทำตัวดี เก้าอี้โซฟาเดี่ยวตัวนั้นให้เขาใช้ต่อไปก็แล้วกัน” ลิลิธคิดในใจ
แต่เมื่อเธอหันไปมองกลับพบว่า กู้ฝานเปิดผ้าคลุมที่โซฟาอีกตัวหนึ่ง เผยให้เห็นเก้าอี้นวดอีกตัวที่ขนาดเล็กลงซึ่งเหมือนจะออกแบบมาสำหรับเธอโดยเฉพาะ
“หา?” ลิลิธถึงกับนิ่งไป เพราะไม่คิดว่ากู้ฝานจะซื้อเก้าอี้นวดมาสองตัว
กู้ฝานชี้ไปที่เก้าอี้นวดตัวเล็ก พร้อมส่งสายตาโดยไม่พูดอะไร
ลิลิธลุกขึ้นเปลี่ยนไปนั่งเก้าอี้ตัวใหม่: “ถือว่ามีจิตสำนึกบ้าง”
เห็นได้ชัดว่าเธอไม่คาดคิดว่าครั้งนี้กู้ฝานจะจัดเต็มแบบนี้
กู้ฝานถอนหายใจกลับไปนั่งบนเก้าอี้นวดของตัวเอง “ฉันไม่ซื้อสองตัวไม่ได้แล้ว ทุกครั้งก็ไม่มีที่ให้ฉันนั่ง มันจะไปไหวได้ยังไง!”
เมื่อเขาเอนตัวลงอย่างสบายใจ การแข่งขันออกแบบเกมขนาดเล็กก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
พิธีกรเริ่มต้นด้วยการแนะนำเนื้อหาและกติกาของการแข่งขัน ก่อนจะแนะนำคณะกรรมการ
เนื่องจากเป็นการแข่งขันที่จัดโดยทางการ ความเป็นมืออาชีพจึงได้รับการยกระดับอย่างมาก
คณะกรรมการในครั้งนี้มีทั้งหมดสี่คน ซึ่งถูกคัดเลือกมาอย่างพิถีพิถัน
กรรมการคนที่หนึ่ง ชื่อ เฉิงอันฮวา เป็นผู้รีวิวเกมมืออาชีพจากแพลตฟอร์มทางการ และยังเป็นแขกรับเชิญของสถาบันและเว็บไซต์รีวิวเกมชื่อดังหลายแห่ง
กรรมการคนที่สอง ชื่อ เหลียงชุน เป็นนักพัฒนาเกมอินดี้มือดี และยังเป็นแชมป์จากการแข่งขันออกแบบเกมขนาดเล็กครั้งก่อน
กรรมการคนที่สาม ชื่อ หลี่เหวินฮ่าว หรือรู้จักกันในชื่อออนไลน์ว่า “เหย่าซือ” เป็นสตรีมเมอร์ชื่อดังที่เชี่ยวชาญด้านเกมขนาดเล็กและเกมอินดี้ แม้ความนิยมของเขาจะไม่เทียบเท่ากับสตรีมเมอร์ชั้นนำ แต่ในกลุ่มเกมเฉพาะทางนี้ เขาเป็นที่รู้จักอย่างดี
กรรมการคนที่สี่ เป็นชาวต่างชาติชื่อ โจนาส ซึ่งเป็นแชมป์โลกของเกม ‘หมุนบล็อก’ ติดต่อกันห้าครั้ง
แน่นอนว่า เกม ‘หมุนบล็อก’ ในโลกนี้อาจไม่ฮิตเท่า ‘เทตริส’ ในโลกของกู้ฝาน แต่ตำแหน่งแชมป์โลกของโจนาสยังคงมีน้ำหนักในวงการ
คณะกรรมการทั้งสี่คนนี้ถูกเลือกมาอย่างตั้งใจ โดยเป็นตัวแทนของสายอาชีพที่แตกต่างกัน ได้แก่ นักรีวิวเกม นักออกแบบเกม ผู้เล่นทั่วไป และผู้เล่นมืออาชีพ
เห็นได้ชัดว่าผู้จัดต้องการให้มีมุมมองที่หลากหลายในการประเมินผลงานจากการแข่งขันครั้งนี้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ครอบคลุมและยุติธรรมที่สุด
