ตอนที่ 1040 รายละเอียดที่น่าสะพรึงกลัว
หญิงสาว Hermès จ้องไปที่เช็คในมือของ เย่เฉิน อย่างตะลึงงัน
สิ่งที่เธอสังเกตเห็นนั้น คือรายละเอียดบางอย่างเกี่ยวกับเช็คนี้
และมันคือ ‘รายละเอียดที่น่าสะพรึงกลัว’
ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกหวาดกลัว!!!
ในความทรงจำของเธอ เช็คธรรมดาทั่วไปจะมีวงเงินสูงสุดที่สามารถเขียนได้คือ 999,999,999.99
หรือก็คือเก้าร้อยเก้าสิบเก้าล้านเก้าแสนเก้าหมื่นเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้า
แต่ทำไมเช็คที่ชายหนุ่มแซ่เย่คนนี้เขียนกลับระบุวงเงิน 1,500,000,000 ได้?
วงเงินสูงสุดไม่ตรงกับที่เธอเคยรู้มาก่อนเลย..
ถ้าเช็คนี้สามารถเขียนได้ถึง 1.5 พันล้านหยวน นั่นหมายความว่ามันอาจจะเขียนวงเงินได้สูงถึง 9,999,999,999.99 หยวน!!!
ขาดอีกเพียงเฟินเดียวก็ครบหนึ่งหมื่นล้านหยวนแล้ว
เมื่อคิดมาถึงจุดนี้ ร่างกายของหญิงสาว Hermès ก็อดไม่ได้ที่จะสั่นไหวเบาๆ ด้วยความหวาดหวั่น
นี่มันวงเงินที่สูงกว่าปกติถึงสิบเท่า!!!
ทันใดนั้นเอง เธอก็หวนคิดถึงบางสิ่งที่เคยได้ยินเมื่อไม่นานมานี้
เธอเคยได้ยินมาว่า สำหรับบุคคลที่ร่ำรวยมหาศาล มีทรัพย์สิน และเงินฝากระดับที่น่าตกตะลึง ธนาคารจะออก ‘สมุดเช็คพิเศษ’ ให้แก่พวกเขา
สมุดเช็คพิเศษที่ว่านี้จะมีวงเงินที่สูงกว่าสมุดเช็คปกติมากมาย
คนที่จะได้รับสมุดเช็คชนิดนี้ต้องเป็นระดับมหาเศรษฐีชั้นนำ หรือบุคคลผู้ทรงอิทธิพลระดับสูงเท่านั้น
นับว่าเป็นบุคคลที่หายากอย่างยิ่ง บางครั้งแม้แต่ธนาคารทั้งแห่งยังอาจไม่มีใครถือสมุดเช็คเล่มนี้เลย
ตอนนั้นเธอคิดเพียงว่าเป็นเรื่องเล่าสนุกๆ เลยไม่ได้ใส่ใจอะไร
ใครมันจะไปคิดว่าเธอจะมีโอกาสได้พบกับบุคคลระดับนั้นจริงๆ เล่า?
แต่ตอนนี้...เมื่อได้เห็นเช็คในมือของชายหนุ่มแซ่เย่คนนี้ เธอถึงกับช็อกจนพูดไม่ออก
ไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอจะได้เจอกับ ‘สมุดเช็คพิเศษ’ ด้วยตาตัวเองในวันนี้!!!
หญิงสาว Hermès หันไปมอง เย่เฉิน อย่างตกตะลึง
ถ้าธนาคารออกสมุดเช็คชนิดนี้ให้กับใคร นั่นหมายความว่าทรัพย์สินของบุคคลผู้นั้นจะต้องมีมูลค่ามากกว่า 1 แสนล้านหยวน เป็นอย่างต่ำ
ร่างกายของเธอถึงกับก้าวถอยหลังไปก้าวหนึ่งโดยไม่รู้ตัว
ชายหนุ่มตรงหน้าที่เธอเคยดูถูกว่าไม่มีประสบการณ์ กลับกลายเป็นบุคคลผู้มีทรัพย์สินระดับแสนล้านหยวน!!
โอ้พระเจ้า!!!
หญิงสาว Hermès ยกมือปิดปากด้วยความตกตะลึงอย่างขีดสุด
“ท่านประธานเย่…เอ่อ…การลงทุนครั้งที่สองของคุณ…มันดูเยอะไปหน่อยหรือเปล่าคะ…”
หญิงสาวที่ดูเรียบร้อยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
ในฐานะนักพัฒนา เธอย่อมยินดีที่จะได้รับเงินลงทุนมากเท่าที่จะมากได้
แต่ในใจของเธอคาดการณ์ไว้ว่าการลงทุนครั้งที่สองนี้ ประธานเย่ อาจให้เงินเพิ่มอีกสองถึงสามร้อยล้านหยวน หรืออย่างมากสุดห้าถึงหกร้อยล้านหยวน
ทว่าตอนนี้ ประธานเย่ กลับเขียนเช็คมูลค่า 1.5 พันล้านหยวน ให้เธอ!!!
มันเกินกว่าที่เธอคาดการณ์ไว้ถึง 1 พันล้านหยวนทีเดียว
จนเธอเองยังไม่กล้ารับมัน...
“นั่นสิคะ...เอ่อ...ท่านประธานเย่ คุณช่วยพิจารณาอีกสักครั้งดีไหมคะ?”
หญิงสาวที่หยิ่งทะนงที่อยู่ข้างๆ กลืนน้ำลายลงคอ พร้อมพยักหน้าซ้ำๆ อย่างเห็นด้วย
เงินจำนวนนี้มากเกินไปจนพวกเธอไม่กล้ารับ
“ไม่มากหรอกครับ ผมก็แค่อยากลองดูว่า ถ้าเพิ่มเงินลงทุนในแอปตัวนี้ขึ้นไปอีก ..จะมีศักยภาพในการพัฒนาไปได้ไกลแค่ไหน”
เย่เฉิน ยกกาแฟที่พนักงานเพิ่งนำมาเสิร์ฟเมื่อครู่ขึ้นจิบ พร้อมตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
ก่อนหน้านี้ เย่เฉิน คาดการณ์ไว้ว่า หากเขาลงทุนอีกไม่กี่พันล้านหยวน อนาคตอาจจะได้ผลตอบแทนเป็นหลักพันล้านถึงหลายพันล้านหยวน…
แต่ถ้าเขาเพิ่มเงินลงทุนมากขึ้นไปอีก ผลกำไรในอนาคตจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วยหรือไม่?
เย่เฉิน เชื่อว่ามันมีความเป็นไปได้ เพราะเงินลงทุนที่มากขึ้นจะช่วยให้การพัฒนา และการขยายตัวของแอปเป็นไปได้ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม มันก็แค่เพิ่มเงินอีก 1 พันล้านหยวน เท่านั้นเอง ถือว่าเป็นจำนวน ‘เงินเล็กน้อย’ สำหรับเขา
เงินไม่มาก!!!
เงินลงทุน 1.5 พันล้านหยวน นี่เรียกว่าไม่มากงั้นหรือ?!!!
ประธานเย่ ช่างเป็นคนที่ ‘รวยจนไร้มนุษยธรรม’ อย่างแท้จริง
เงินจำนวนมหาศาลที่พวกเธอมองว่าเป็น ‘ทรัพย์สมบัติอันล้ำค่า’ ที่แทบจะจับต้องไม่ได้ กลับเป็นเพียง ‘เศษเงิน(เล็กๆ น้อยๆ)’ ในสายตาของ ประธานเย่
ความแตกต่างระหว่างคนกับคน ช่างห่างไกลเกินไปจริงๆ
สองสาวผู้พัฒนาแอปได้แต่นั่งถอนหายใจอย่างทึ่ง และตกตะลึง
ส่วนหญิงสาว Hermès ใบหน้าของเธอกลับซีดเผือดขึ้นมา
เธอคิดถึงคำพูดโอหังที่เคยกล่าวกับ เย่เฉิน ก่อนหน้านี้!
‘ตอนนี้ถ้าคุณสามารถหยิบเงิน 1 พันล้านหยวนออกมาได้ ฉันจะคุกเข่าขอโทษคุณเดี๋ยวนี้เลย และยอมรับว่าฉันมันสายตาแคบเอง!!!’
ตอนนี้ไม่ใช่แค่ชายหนุ่มแซ่เย่คนนี้หยิบเงินสด 1 พันล้านหยวนออกมาได้
แต่เขากลับหยิบออกมาถึง 1.5 พันล้านหยวน ซึ่งมากกว่าที่เธอพูดถึงถึงห้าร้อยล้านหยวน
เธอเป็นคนที่ถือศักดิ์ศรีมาก การที่ต้องคุกเข่าต่อหน้า เย่เฉิน ในสถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่านเช่นนี้
มันเปรียบเสมือนการ ‘ตายทั้งเป็น’ สำหรับเธอ
บางครั้งความอับอายก็เลวร้ายยิ่งกว่าความตายเสียอีก
เธอยิ่งอยากจะหนีๆ มันไปให้พ้น
แต่เมื่อเผชิญหน้ากับบุคคลที่สามารถหยิบเงิน 1.5 พันล้านหยวนออกมาได้อย่างง่ายดาย แถมยังถือสมุดเช็คพิเศษจากธนาคาร และมีทรัพย์สินน่าจะมากกว่า แสนล้านหยวน..
เธอไม่กล้าแม้แต่จะเล่นแง่ หรือผิดคำพูด
ถ้าหากชายหนุ่มแซ่เย่คนนี้โกรธ และคิดจะจัดการเธอ ชีวิตเธอก็อาจจะคงจบสิ้นลง ..ภายในเวลาไม่กี่นาที?
คุกเข่า!
คิดได้ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจกัดฟัน คุกเข่าลงอย่างรวดเร็ว ทำตามคำพูดที่ตัวเองเคยพูดไว้
อย่างไรก็ตาม ที่นี่คงไม่น่าจะเจอคนรู้จักของเธอ ยิ่งเธอคุกเข่าลง และขอโทษให้เสร็จเร็วเท่าไหร่ เธอจะได้รีบหนีไปได้เร็วขึ้นเท่านั้น
ในใจเธอตัดสินใจเด็ดขาด ได้ยินเพียงเสียง ‘ปึก’ หญิงสาว Hermès ก็ก้มลงคุกเข่าต่อหน้า เย่เฉิน โดยตรง
“ขอโทษคะ คุณเย่ ฉันเป็นคนตาแคบ มองอะไรตื้นเขินเอง ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ค่ะ”
หญิงสาว Hermès กล่าวคำขอโทษออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
การกระทำของหญิงสาว Hermès ที่คุกเข่าลงต่อหน้า เย่เฉิน ในร้านกาแฟอันแสนพลุกพล่านนี้ ดึงดูดความสนใจของผู้คนโดยรอบข้างในทันที
“เอ๊ะ! นั่นคุณนายสวี่ไม่ใช่เหรอ?”
“คุณนายสวี่ คุณกำลังทำอะไรอยู่?”
ทันใดนั้นก็มีเสียงลูกค้าคนหนึ่งร้องออกมาอย่างตกใจ เห็นได้ชัดว่าเขาจำตัวตนของเธอได้
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หญิงสาว Hermès ที่กำลังคุกเข่าอยู่ถึงกับหน้ามืดเกือบจะล้มลงแทบจะหมดสติไปตรงนั้น
จบสิ้นแล้ว! ที่นี่มีคนรู้จักเธออยู่ด้วย!!!
ครั้งนี้เธอไม่ใช่แค่เสียหน้า แต่ถึงขั้น ‘ตายทางสังคม’ จริงๆ แล้ว!!!
ตอนนี้เธอได้คุกเข่า และกล่าวคำขอโทษไปแล้ว ถือว่าทำตามคำพูดของตัวเองสำเร็จ
ดังนั้นเธอจึงรีบยกมือขึ้นปิดหน้าของตัวเอง ก่อนจะลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็วิ่งออกจากร้านกาแฟไปด้วยความเร็วที่เร็วที่สุดในชีวิต ราวกับหนีตาย
ส่วน เย่เฉิน ยังคงนั่งจิบกาแฟอย่างสงบนิ่ง พร้อมพูดคุยกับสองสาวผู้พัฒนาแอปต่อไป ..ตอนนี้ เย่เฉิน กำลังรอของบางอย่างที่จะส่งมาถึง