ตอนที่ 1039 สมุดเล่มพิเศษ
การถูกหยามเกียรติแบบนี้ เธอไม่มีทางทนได้แน่!!!
หญิงสาว Hermès โกรธจนแทบระเบิด แต่หลังจากสงบสติอารมณ์ได้ เธอก็พบกับปัญหาที่น่าอึดอัดใจอย่างหนึ่ง
เธอไม่รู้จะโต้เถียงชายหนุ่มแซ่เย่คนนี้อย่างไรดี
ก่อนหน้านี้ วิธีที่เธอใช้ประจำคือการใช้เงินฟาดหัว แต่เมื่อครู่นี้เธอใช้วิธีนี้แล้วกลับถูกชายหนุ่มแซ่เย่คนนี้ตอกจนพูดไม่ออก
‘แค่ 6 พันล้าน คุณยังจ่ายไม่ได้ แล้วยังจะมาคุยอะไรกันอีก!’
ประโยคนี้เหมือนดาบที่ฟาดใส่เธอจนสิ้นท่า!!!
ถึงเธอจะเก่งกาจแค่ไหน การลงทุนที่ใหญ่ที่สุดของ หุ่ยไท่ อินเวสเมนท์ กรุ๊ป ที่ผ่านมา ก็ไม่เคยเกิน 3 พันล้านหยวนเลย
บางครั้ง แม้แต่การลงทุนทั้งหมดของบริษัทในรอบปี ยังไม่ถึง 6 พันล้านหยวนด้วยซ้ำ
แต่ตอนนี้ ชายหนุ่มแซ่เย่คนนี้กลับกล้าบอกให้เธอจ่าย 6 พันล้านหยวน เพื่อซื้อสิทธิ์ทั้งหมดที่เขาเคยลงทุนเพียง 30 ล้านหยวน นี่มันบ้าไปแล้ว!
นี่มันกำไรตั้ง 200 เท่า!
ไม่ต้องพูดถึงว่าเธอไม่มีเงินถึงขนาดนั้น แม้จะมีเงิน เธอก็ไม่มีวันยอมจ่าย
สูงสุดที่เธอยอมจ่ายได้ ก็แค่ 1-2 พันล้านหยวนเท่านั้น
“หึๆ 6 พันล้าน ในปากคุณเหมือนแค่ 6 หยวน ฉันขำตายแล้ว”
หญิงสาว Hermès กอดอกพร้อมหัวเราะเยาะเย้ย เย่เฉิน
“ฉันยอมรับว่าฉันไม่มีปัญญาจ่าย 6 พันล้านได้ ไม่สิ นับประสาอะไรต่อให้เป็น 3 พันล้าน หรือแค่ 1 พันล้าน ฉันก็ไม่มีปัญญาจ่ายได้ในคราวเดียว”
“แล้วคุณล่ะ? คุณทำได้หรือเปล่า? เรื่องพวกนี้มันไม่ใช่ว่าพูดออกมาลอยๆ ได้หรอกนะ”
หญิงสาว Hermès มองสำรวจ เย่เฉิน ตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยแววตาไม่เชื่อ ก่อนจะกล่าวอย่างมั่นใจ :
“ฉันว่าคุณก็แค่คนที่ปากเก่งเท่านั้นเอง พูดเอามันส์ไปงั้นล่ะ แต่ให้จริงจังลงมือคงไม่มีทางทำได้หรอก!”
“เหรอครับ?”
เย่เฉิน ส่ายหน้าพร้อมกับยิ้มบางๆ
“คนที่มองโลกแค่ก้นบ่อ อย่าเอามุมมองตัวเองไปตัดสินคนอื่นเลย”
เย่เฉิน แอบถอนหายใจเบาๆ หญิงสาว Hermès คนนี้ คิดว่าเพราะตัวเองไม่มีปัญญาจ่ายเงิน 6 พันล้านหยวน คนอื่นก็ต้องเหมือนเธออย่างนั้นเหรอ?
อย่าเอามุมมองทางการเงินของตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นสิ
เพราะคนเรา.. มันไม่เหมือนกัน
“หึ!”
หญิงสาว Hermès ยังคงหัวเราะเยาะ
“ดี งั้นในเมื่อคุณมั่นใจว่ารวยล้นฟ้านักนะ ก็โชว์ให้ฉันเห็นหน่อยสิ”
“ไม่ต้องถึง 6 พันล้านก็ได้ หรือแม้แต่ 3 พันล้านก็ไม่ต้อง”
“แค่ตอนนี้คุณสามารถหยิบเงิน 1 พันล้านหยวนออกมาได้ ฉันจะคุกเข่าขอโทษคุณเดี๋ยวนี้เลย และยอมรับว่าฉันมันสายตาแคบเอง!”
หญิงสาว Hermès มั่นใจเต็มที่ว่าชายหนุ่มแซ่เย่คนนี้ไม่มีทางมีเงินมากขนาดนั้น
คุณต้องรู้ก่อนว่า การที่คนคนหนึ่งสามารถเอาเงินทุนหมุนเวียนพันล้านออกมาได้อย่างง่ายดาย นี่มันน่ากลัวเกินไปจริงๆ..
แม้แต่มหาเศรษฐีที่มีทรัพย์สินกว่าหมื่นล้านหยวน ส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะความมั่งคั่งของพวกเขามักกระจุกอยู่ในสินทรัพย์ถาวร เช่น อสังหาริมทรัพย์ หรือหุ้นบริษัท
เงินสดที่พร้อมใช้งานจริงๆ อาจมีแค่ไม่กี่ร้อยล้านหยวน หรือบางครั้งน้อยกว่านั้นด้วยซ้ำ
แน่นอนว่าหากเป็นการขายหุ้นบริษัท หรือสินทรัพย์ถาวรแล้วนำไปเปลี่ยนเป็นเงินสด อันนั้นถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
อย่างเช่นกรณีของกลุ่มทุนอย่าง หุ่ยไท่ อินเวสเมนท์ กรุ๊ป ที่เธอ และสามีซึ่งเป็นประธานบริษัทอยู่ การจะรวบรวมเงินสด 1 พันล้านหยวนได้ก็คงเป็นขีดจำกัดสูงสุดของพวกเธอแล้ว
และถึงแม้จะเป็นเงินสดหมุนเวียนที่ต้องการ พวกเธอก็ต้องพยายามอย่างหนัก รวบรวมจากที่ต่างๆ จนต้องจัดการประชุมบอร์ดบริหารเพื่อปรึกษาหารือร่วมกัน
ไม่ว่าจะเธอ หรือสามีซึ่งเป็นประธานบริษัท ต่างก็ไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง
หญิงสาว Hermès ไม่เชื่อเด็ดขาดว่าชายหนุ่มแซ่เย่ตรงหน้าคนนี้จะมีความสามารถควักเงินสด 1 พันล้านหยวนออกมาได้อย่างง่ายดาย
เพราะนี่มันเรื่องเพ้อฝันชัดๆ!!!
เขายังหนุ่มขนาดนี้ จะไปมีทรัพย์สินน่าสะพรึงกลัวขนาดนั้นได้อย่างไร?
หรือเขาคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่กว่ามหาเศรษฐีหมื่นล้าน หรือยิ่งใหญ่กว่ากลุ่มทุน หุ่ยไท่ อินเวสเมนท์ กรุ๊ป อันเกรียงไกรของเธอกันล่ะ?
หลังจากที่ หญิงสาว Hermès พูดจบ เย่เฉิน ไม่ได้ตอบโต้คำพูดของเธอเลยแม้แต่น้อย
แต่เขากลับหยิบ ‘สมุดเล่มพิเศษ’ ออกมาจากกระเป๋าเสื้อซึ่งมันก็คือ – สมุดเช็ค
เย่เฉิน หยิบปากกาของสองสาวฝั่งตรงข้ามขึ้นมา จากนั้นเริ่มเขียนอย่างคล่องแคล่ว
หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีต่อมา เขาวางปากกาลง แล้วมองไปยังสองสาว :
“ก่อนหน้านี้ ผมลงทุนไป 30 ล้านหยวนสำหรับพัฒนาตัวโปรแกรมนี้จนเสร็จสิ้น แต่ในอนาคต การพัฒนาแอปพลิเคชันเพิ่มเติมต่อจากนี้ รวมไปถึงการขยายตัวไปในวงกว้างจะต้องใช้เงินเพิ่มขึ้น”
“ถ้าจำไม่ผิด พวกคุณเคยบอกไว้ว่านี่เป็นแค่จุดเริ่มต้น ต่อจากนี้จะมุ่งหน้าพัฒนาแอป และขยายธุรกิจให้เต็มที่ ใช่ไหม?”
การพัฒนาแอปพลิเคชัน และการขยายธุรกิจจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก
“ใช่ค่ะ ท่านประธานเย่”
หญิงสาวที่ดูเรียบร้อยตอบพลางพยักหน้า
“ถ้าอย่างนั้น วันนี้ผมขอเพิ่มเงินลงทุนครั้งที่สองให้กับพวกคุณ”
เย่เฉิน พูดพลางดันเช็คที่เพิ่งเขียนเสร็จไปตรงหน้าสองสาว
หญิงสาวที่ดูเรียบร้อยก้มลงมองแวบหนึ่ง ก่อนที่สีหน้าจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เธอช็อกจนตัวแข็งทื่อไปแล้ว
ขณะที่หญิงสาวผู้หยิ่งทะนงด้านข้างก็รีบก้มลงมองตามไปในเวลาเดียวกัน
“กรี๊ด!!”
หญิงสาวผู้หยิ่งทะนงถึงกับกรีดร้องออกมาเสียงดัง เธอไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตื่นเต้นของตัวเองได้
นี่มันเกินกว่าที่เธอจะเชื่อสายตาตัวเองได้!
“แหม จะมากขนาดไหนกันเชียว?”
หญิงสาว Hermès หัวเราะเยาะเย้ย แต่ก็อดไม่ได้ที่จะชะโงกหน้าลงไปมองดู
ทว่า...เพียงแค่เธอก้มลงมองเช็คในมือสองสาว ร่างกายของเธอก็พลันแข็งทื่อ
เธอเหมือนถูกฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ!!!
นี่... นี่... นี่…
1,500,000,000
ตัวเลข 0 เรียงกันเป็นแถว
สิบ...ร้อย...พัน...หมื่น...
เธอเริ่มนับตัวเลขไปทีละหลัก
หนึ่งพันห้าร้อยล้านหยวน!!!
ให้ตาย ให้ตาย ให้ตาย!!!
หญิงสาว Hermès รีบยกมือปิดปากตัวเองด้วยความตกใจสุดขีด
ก่อนหน้านี้เธอเพิ่งพูดจาดูถูกชายหนุ่มแซ่เย่คนนี้ไปว่าไม่มีปัญญาควักเงินสด 1 พันล้านหยวนได้
แต่สิ่งที่เธอเห็นตอนนี้คือชายหนุ่มแซ่เย่คนนี้เขียนเช็คมูลค่า 1.5 พันล้านหยวนให้กับสองสาวนักพัฒนาในโปรเจกต์นี้อย่างง่ายดาย ในฐานะเงินลงทุนครั้งที่สอง
นี่มันอะไรกัน?!
ในชั่วพริบตา สีหน้าของหญิงสาว Hermès ก็เปลี่ยนเป็นแดงก่ำเหมือนก้นลิง
แม้ไม่มีใครตบหน้าเธอ แต่เธอกลับรู้สึกเหมือนถูกตบซ้ำๆ ด้วยตัวเลขมหาศาลนี้ มันทั้งแสบ ทั้งร้อนกว่าการถูกตบจริงๆ เสียอีก
ไม่จริง...มันไม่จริง!
ทันใดนั้นเอง หญิงสาว Hermès ก็สังเกตเห็นรายละเอียดที่น่าสะพรึงกลัวอย่างหนึ่ง!!!