บทที่ 170 ก็แค่เจราธุรกิจ ไม่ต้องห่วง ผมเข้าใจ! (ฟรี)
บทที่ 170 ก็แค่เจราธุรกิจ ไม่ต้องห่วง ผมเข้าใจ!
ฉินไคว่เอามือลูบผมไม่กี่เส้นที่เหลืออยู่ที่ด้านหลังศีรษะไปด้านหน้าโดยไม่รู้ตัว
เพื่อรักษาศักดิ์ศรีที่เหลืออยู่ของชายวัยกลางคน
เขาขมวดคิ้วก่อนจะมองไปที่แมวดำ
“นี่เธอคิดจะทำอะไร?”
แมวดำเลียอุ้งเท้าของมัน
ดวงตาของมันเปล่งประกายลึกลับ
"ตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิง อัลเลาะห์เป็นแมวในบ้าน ใครจะรู้สิ่งที่มันคิดได้ล่ะ???"
“ถ้าไม่เข้าใจ ก็หัดพูดภาษาชาวบ้านบ้างสิ”
“เจ้าโล้น นายยังพูดภาษาชาวบ้านได้เลย แล้วทำไมฉันจะพูดภาษาฉันบ้างไม่ได้?”
แมวดำมองฉินไคว่อย่างไม่พอใจ
จากนั้นมันก็พูดทวนอีกครั้งอย่างช่วยไม่ได้
“ฉันบอกว่า ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ฉันจะเป็นแมวบ้านของนาย เข้าใจมั้ย?”
“โอ้...” ฉินไคว่มองแมวดำก่อนจะมองไปที่กระป๋อง
พูดกับตัวเอง
“แต่สัตว์เลี้ยงของฉันมันกินง่าย มันกินของเหลือ...”
“เจ้าโล้น!!! เหมียว!!”
แมวดำที่ชื่อจิ่วทนไม่ไหวอีกต่อไป
มันพุ่งเข้าใส่หน้าของฉินไคว่...
สักพัก
ฉินไคว่ก็กลับมาที่ห้องจัดเลี้ยงอีกครั้ง
“คุณฉิน คุณ...ไม่เป็นไรนะครับ?” เย่เหรินมองฉินไคว่ก่อนจะถามด้วยความเป็นห่วง
ตอนนี้ฉินไคว่
มีรอยข่วนบนใบหน้า
ผมที่เหลืออยู่ก็บางลง
ชุดสูทราคาแพงก็ยับยู่ยี่
เหมือนกับไปต่อยกับใครมา...
“ไม่เป็นไร...ไม่เป็นไร...ฮ่าๆๆ อ่า ผมเผลอล้มน่ะ”
ฉินไคว่ยิ้มและลูบหลังศีรษะเพื่อปกปิดความอับอาย
“เหมียว~~”
แมวดำเหยียบอุ้งเท้าสีขาวที่ไร้ตำหนิ
เดินออกมาอย่างสง่างาม
ทุกคนมองแมวดำ
เพราะแมวดำตัวนี้มันสวยเกินไป
ไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง ท่าทาง หรือแววตา
มันดูสง่างาม
บางครั้ง ไม่ว่าคุณจะเป็นคนชั้นสูงหรือไม่ มันก็เป็นสิ่งที่อยู่ลึกๆ ในใจ
ไม่เกี่ยวกับสายพันธุ์หรือเสื้อผ้า
เช่นเดียวกับแมวดำตัวนี้ ถึงแม้ว่ามันจะเปลือยเปล่า แต่มันก็ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นแมวชั้นสูงในหมู่แมว
“นี่คือแมวบ้านของตระกูลอี๋ เรียกมันว่า...ท่านจิ่ว” ฉินไคว่แนะนำ
แมวดำกระโดดขึ้นไปบนไหล่ของฉินไคว่อย่างรวดเร็ว
มันนั่งยองๆ อยู่บนนั้นเหมือนกับนกฮูก...
“แมวนี่ดูดีจริงๆ...” ฉินหลางตกตะลึงก่อนจะชม
“พ่อ พ่อไปเอามันมาจากไหน?”
ฉินไคว่โบกมือ “เอาล่ะ เอาล่ะ ก็ในเมื่อนายไม่กลับมาสืบทอดมรดก ฉันจะเลี้ยงลูกคนที่สองเอาไว้ไม่ได้เลยเหรอไง?”
“ผม...” ฉินหลางพูดไม่ออก
แมวจะเป็นลูกคนที่สองได้ยังไง!!
แมวดำฟังฉินไคว่พูด
มันรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย แต่มันก็ยังคงซ่อนท่าทีของมันเอาไว้
ฉินไคว่แนะนำต่อไป
“แมวบ้านของเรามันขี้เกียจมาก มันเอาแต่กินกับนอนทั้งวัน แถมยังจับหนูไม่ได้ด้วย...เฮ้ เฮ้ เจ้าแมว คิดจะทำอะไร? เจ็บ เจ็บ!!”
ฉินไคว่ยังพูดไม่ทันจบ
ท่านจิ่วก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป
มันใช้กรงเล็บฟาดลงบนไหล่ของฉินไคว่
ฉินไคว่เจ็บจนต้องเอามือปิดไหล่ก่อนจะขยับไปมา....
แมวดำกระโดดลงมาอย่างเบามือ
มันเดินไปที่โต๊ะอาหาร
กระโดดขึ้นไป
มองผู้คนที่อยู่บนโต๊ะ
“สวัสดี เจ้าแมวน้อย” เจียงเสี่ยวหรูมองแมวดำที่สวยงามตรงหน้า
เธออดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปแตะแมวดำ
แมวดำหรี่ตาลงก่อนจะเงยหน้าขึ้นอย่างสบายใจ...
จากนั้นมันก็หันหัว
เดินไปหาเย่เหริน มันกลำังจ้องมองเย่เหริน
เย่เหรินจ้องมองแมวเช่นกัน
สักพัก
แมวดำก็กระโดดเข้าไปในอ้อมแขนของเย่เหริน
มันถูตัวอย่างสบายใจ
“อ่า ดูเหมือนว่าแมวตัวนี้จะชอบคุณมากนะครับ ครูเย่” ฉินไคว่เห็นแบบนั้น
เขาก็พูดกับเย่เหริน
เย่เหรินลูบแมวก่อนจะยิ้มออกมา
“บางทีผมอาจจะมีเสน่ห์ดึงดูดแมวก็ได้นะ...”
“ฮ่าๆๆ วันนี้ทุกคนกินอิ่มมั้ย? ถ้ายังไม่อิ่ม ผมจะให้เชฟของเราทำอาหารเพิ่มอีกแปดอย่าง!!”
“ไม่เป็นไรครับ คุณฉิน พวกเรากินอิ่มแล้ว ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้นะครับ”
เย่เหรินปฏิเสธอย่างสุภาพ และคนอื่นๆ ก็พยักหน้าเห็นด้วย
ฉินไคว่เห็นว่าทุกคนกินอิ่มแล้ว
“โอเค งั้นวันนี้ทุกคนพักที่บ้านของผมนะ ฉินหลาง เอาไป นี่กุญแจรถ! พาอาจารย์ไปเที่ยวรอบๆ บ้านได้เลย และอยากจะพักห้องไหนก็เลือกได้เลย”
ฉินไคว่โยนกุญแจให้ฉินหลาง
“ครับ!! พ่อ!!”
ฉินหลางกำลังจะพาเย่เหรินและคนอื่นๆ ไปที่รถ
เย่เหรินลุกขึ้นยืน
แมวดำก็กระโดดขึ้นไปบนไหล่ของเย่เหริน
ดูเหมือนว่ามันจะไม่ยอมไปไหน
“เจ้าแมวแสบ ลงมาเร็ว!!” ฉินไคว่ที่พูดเสร็จกำลังจะเข้าไปดึงมันลงมา
แมวดำจ้องมองฉินไคว่อย่างดุร้าย
แต่แสงเย็นยะเยือกจากอุ้งเท้าของมันทำให้ฉินไคว่ไม่กล้าเข้าไปใกล้...
เย่เหรินยิ้มและลูบแมว
“คุณฉิน ดูเหมือนว่าท่านจิ่วจะถูกชะตากับผมมาก ถ้ามันไม่อยากไป ก็ปล่อยมันไปเถอะ”
เย่เหรินลูบท่านจิ่ว
แมวดำถูมือของเย่เหรินอย่างสบายใจ
มันจ้องมองฉินไคว่
ดูเหมือนว่ามันจะพูดว่า
ดูคนอื่นเขาสิ แล้วดูนาย
ฉินไคว่โกรธจนหน้าแดง เขาโบกมือ
“ถ้าคุณเย่ชอบแมวตัวนี้ ก็เอาไปเถอะ ถ้ารำคาญก็โยนมันทิ้งไป หรือจะโยนมันลงถังขยะก็ได้”
“เมี๊ยว!!!”
ท่านจิ่วตะโกนใส่ฉินไคว่
ฉินไคว่เอามือปิดหน้าโดยไม่รู้ตัว
“แมวดำตัวนี้มัน...” เจียงเสี่ยวหรูมองแมวดำด้วยความตกใจ
“ปิ๊น! ปิ๊น!”
รถบัสแล่นมาจอดที่หน้าห้องจัดเลี้ยง
“ครูเย่ ไปกันเถอะ!! ผมจะพาไปเลือกห้องเอง!!”
เจียงเสี่ยวหรูมองทิวทัศน์ที่สวยงามในคฤหาสน์ด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เธอไม่เคยเห็นบ้านหลังไหนใหญ่โตขนาดนี้มาก่อน...
ฉินหลางที่นั่งอยู่บนเบาะคนขับแนะนำอย่างละเอียด
“นี่คือใจกลางทะเลสาบ ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 1,000 ตารางเมตร
บ้านทั้งหลังทำจากวัสดุอย่างดี ไม่ใช้กาว ไม่ใช้สี ไม่มีฟอร์มาลดีไฮด์
มีระบบหมุนเวียนคริสตัลน้ำแข็งและไฟในตัว อุณหภูมิภายในอาคารคงที่
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการเชิญปรมาจารย์ด้านอวกาศมาปรับแต่งอากาศบริสุทธิ์โดยเฉพาะ
ถึงแม้ว่าตัวบ้านจะอยู่ใต้ทะเลสาบ แต่มันก็รับประกันได้ว่าอากาศที่คุณหายใจจะเหมือนกับอากาศภายนอก”
“ที่นี่ ทุกวินาทีคือความสุขของคนชั้นสูง”
ฉินหลางพูดไม่หยุด
“ฉินหลาง นายไม่ไปขายอสังหาริมทรัพย์นี่ต่อ คงจะน่าเสียดายแย่” เย่เหรินมองฉินหลาง
ฉินหลางเกาหัวอย่างเขินอาย “ผมเคยทำงานขายอสังหาริมทรัพย์ให้พ่อ...มันเลยติดเป็นนิสัยมาน่ะ”
ไม่นาน เย่เหรินและคนอื่นๆ ก็ถูกพาไปยังใจกลางทะเลสาบ
“ครูเย่ พรุ่งนี้เราจะไปไหนกันดีครับ? เดี๋ยวผมจะจัดเตรียมตารางเวลาให้”
“พรุ่งนี้ฉันจะไปไนต์คลับ TACC”
“โอ้~~โอเค เดี๋ยวผมจะจัดการเดี๋ยวนี้เลย รับรองว่าคุณจะต้องพอใจ!!”
“ฉินหลาง พวกเราไม่ได้ไปเที่ยวเล่น...”
“ก็แค่เจราธุรกิจ ไม่ต้องห่วง ผมเข้าใจ!!”
ฉินหลางยิ้มอย่างมีเลศนัย
เขาก็ออกจากห้องไป...