ตอนที่ 275
ตอนที่ 275
ออกจากสมาคมนักเล่นแร่แปรธาตุแล้ว เทียนเต๋าก็กลับบ้านไปนอน จนกระทั่งสี่โมงเย็นถึงได้ตื่น ความเหนื่อยล้าจากการฆ่ามอนสเตอร์ทั้งคืนก็หายไป
สำหรับคนอายุเท่าเขาแล้ว การอดนอนก็ง่ายเหมือนกินข้าวดื่มน้ำ ชาติที่แล้วหลังจากสอบเข้ามหาวิทยาลัยเสร็จ เขาก็ไปเล่นเกมที่ร้านอินเทอร์เน็ต วันเดียว สองคืน กลับบ้านไปนอนก็หายแล้ว อายุยังน้อย จะทำอะไรก็ได้
ยิ่งสภาพร่างกายในโลกนี้เป็นข้อมูล แค่ค่าความแข็งแกร่งกับความแข็งแรงสูง จะทำอะไรก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องพูดถึงการฆ่ามอนสเตอร์ทั้งคืน ต่อให้สู้สามวันสามคืนก็ไม่ใช่เรื่องยาก
ตอนนี้เทียนเต๋าเลเวล 30 แล้ว ค่าสถานะพื้นฐานต่างๆ ก็เพิ่มขึ้นหลายเท่า ค่าสถานะพวกนี้ไม่เพียงแต่จะเพิ่มความสามารถในการต่อสู้ ยังเพิ่มสมรรถภาพร่างกาย พลังมีผลกับกล้ามเนื้อกับแรงระเบิด ความว่องไวมีผลกับความยืดหยุ่นกับปฏิกิริยา ความแข็งแกร่งทำให้ร่างกายแข็งแรง... เทียบกับตอนที่เพิ่งจบแล้ว สมรรถภาพร่างกายของเขาก็ต่างกัน ต่อให้ไม่ใช้ทักษะ เขาก็ฆ่าเทียนเต๋าเมื่อก่อนได้ห้าสิบคน
“นี่แหละ ประโยชน์ของการเลเวลอัพ” บ่นหน้ากระจกในห้องน้ำ เทียนเต๋าก็ล้างหน้าแปรงฟัน เตรียมออกไปข้างนอก
ที่แรกที่ไปก็คือร้านอาหารของอู๋อี้ ตอนนี้ร้านของอู๋อี้ก็มีชื่อเสียงแล้ว เขาก็หาเงินได้เยอะจากร้านนี้ ช่วงนี้กำลังเตรียมเปิดโรงแรม แต่อู๋อี้ไม่ได้กะจะเลิกร้านนี้ ยังเปิดร้านต่อไป เพราะนี่เป็นร้านแรกของเขา ลูกค้าทุกคนที่เคยมากินข้าวที่นี่ ก็เป็นผู้มีพระคุณของเขา ถึงจะมีโรงแรมใหม่แล้วก็ลืมรากเหง้าไม่ได้
เทียนเต๋าก็เป็นลูกค้าประจำของร้านนี้ มากินข้าวทุกวัน พอได้ยินความคิดที่เขาจะเก็บร้านนี้ไว้ ก็สนับสนุนทันที
“พอเปิดโรงแรมแล้ว ที่นั่นก็จะเป็นที่รวมตัวใหม่ของพวกเรา” เทียนเต๋ายิ้ม
“แล้วยังมีที่เดิมด้วย” อู๋อี้พูดเสริม
“ใช่ ที่เดิมก็ลืมไม่ได้” เทียนเต๋าหัวเราะ กินอย่างมีความสุข พอกินมื้อเช้าที่สายเสร็จ เทียนเต๋าก็ตรงไปที่ศูนย์บัญชาการหน่วยภาคสนาม ถึงเวลาที่หัวหน้าหลี่จะทำตามสัญญาแล้ว
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ในห้องทำงานหัวหน้าทีมของหน่วยภาคสนาม
“อะไรนะ? นายบอกว่านายเลเวล 30 แล้ว!” หัวหน้าหลี่มองเทียนเต๋าตาค้าง อ้าปากกว้าง ในขณะที่นักเรียนส่วนใหญ่ที่จบปีนี้เลเวลแค่ 25 แม้แต่ลู่คังที่เก่งที่สุดก็แค่เลเวล 27 เทียนเต๋ากลับพุ่งไปถึงเลเวล 30 ความเร็วระดับนี้ ไม่เคยมีมาก่อน! หัวหน้าหลี่ถึงกับไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
“ใช่ครับ” เทียนเต๋ายืนยัน “ถ้าหัวหน้าไม่เชื่อ ผมให้ดูแถบสถานะก็ได้”
“ไม่ต้อง” หัวหน้าหลี่ยื่นมือออกมาปฏิเสธ “ขอเวลาฉันแปป...” พูดจบก็ก้มหน้า เหมือนกำลังดูอะไรบางอย่าง ไม่นาน เขาก็มองเทียนเต๋า ถอนหายใจ “ไม่ผิดจริงๆ ด้วย!”
“นายนี่ ติดอันดับแล้ว”
“ติดอันดับ?” เทียนเต๋างง ไม่เคยได้ยิน
“อันดับอะไรครับ?”
“อันดับดาวรุ่ง หรือ อันดับมังกร น่ะ” หัวหน้าหลี่ถอนหายใจ อธิบายว่า “อันดับนี้รวมคนทั้งประเทศ แต่มีแค่เด็กใหม่เลเวล 30 ขึ้นไปถึงจะติดอันดับได้... นายเป็นคนเดียวในนั้น”
“หา?” เทียนเต๋าอึ้งไป เกาหัว
“อันดับที่มีคนเดียว ยังเรียกว่าอันดับได้อีกเหรอครับ?” แต่อันดับนี้ก็เรื่องมาก ต้องเป็นเด็กใหม่ แถมยังต้องเลเวล 30 ขึ้นไป คนที่เลเวลไม่ถึง 30 ก็ไม่มีสิทธิ์ติดอันดับ
“ได้สิ” หัวหน้าหลี่พูดอย่างจริงจัง “เพราะเงื่อนไขมันเรื่องมาก อันดับนี้ก็เลยสุดยอด ถึงได้ชื่อว่าอันดับมังกรไง”
“ในประวัติศาสตร์ คนที่ติดอันดับนี้ได้ ล้วนเป็นอัจฉริยะ อนาคตไม่มีขีดจำกัด”
“นายรู้ไหมว่าใครเป็นคนแรกที่ติดอันดับนี้?”
“ใคร... อ๋อ เป็นเทพเจ้าแห่งสงคราม หลี่เสี่ยวป้า!” เทียนเต๋าอึ้งไป นึกถึงวีรกรรมของคนๆ นั้น คนที่คนทั้งประเทศเรียกว่าเทพเจ้าแห่งสงคราม! การติดอันดับมังกรเป็นแค่ส่วนเล็กๆ ในประวัติอันรุ่งโรจน์ของเขา แต่เพราะเขาเคยติดอันดับ อันดับนี้ก็เลยสุดยอด
“ใช่!” หัวหน้าหลี่พยักหน้า ถามต่อ “แล้วนายรู้ไหมว่าในเมืองนิรันดร์มีใครเคยติดอันดับบ้าง?”
“นายพลปา?” พูดถึงเมืองนิรันดร์ เทียนเต๋าก็นึกถึงนายพลปา เหมือนว่าสิบแปดปีมานี้ นายพลปาจะเป็นคนเก่งคนเดียวที่เมืองนิรันดร์ สร้างชื่อให้เมืองนิรันดร์
“ไม่ใช่” หัวหน้าหลี่ส่ายหน้า
“หา?” เทียนเต๋าอึ้งไป แม้แต่นายพลปาก็ยังไม่เคยติดอันดับมังกรเหรอ? แต่พอคิดดู ตั้งแต่เด็กจนโต เขาก็ไม่เคยได้ยินว่านายพลปาติดอันดับนี้ ถ้ามี ก็คงจะเขียนไว้ในเรื่องราวของนายพลปา และเขาก็คงไม่มีทางไม่รู้จักอันดับนี้
“แล้วเป็นใครครับ?” เขาอยากรู้ หรือว่าในประวัติศาสตร์ของเมืองนิรันดร์ จะมีอัจฉริยะที่เก่งกว่านายพลปา? แล้วทำไมอัจฉริยะคนนั้นถึงไม่ประสบความสำเร็จ? เมื่อกี้หัวหน้าหลี่ยังบอกเลยว่า คนที่เข้าอันดับนี้ได้ ล้วนเป็นอัจฉริยะ อนาคตไม่มีขีดจำกัด ถ้างั้นทำไมไม่เคยได้ยิน งั้นจะเรียกประสบความสำเร็จได้ยังไง?
“เขาชื่อลู่ฮ่าวหรัน” หัวหน้าหลี่ลังเล แล้วก็พูดชื่อนี้ออกมา แต่พอเทียนเต๋าได้ยินคำตอบ เขาก็ยิ่งสงสัย
“ไม่เคยได้ยินเลย”
“เขาแซ่ลู่ หรือว่าจะเกี่ยวกับลู่คัง?”
“ใช่” หัวหน้าหลี่พยักหน้า “เขาเป็นลุงของลู่คัง”
“หา?” เทียนเต๋าตกใจอีกครั้ง ตระกูลลู่มีอัจฉริยะแบบนี้อยู่ด้วย? ที่สำคัญคือ ตระกูลลู่มีอัจฉริยะระดับนี้ สองรุ่นติดกัน สุดยอดไปเลย “แต่เขาก็เป็นคนทรยศ” หัวหน้าหลี่พูดเสริม
“นี่...” คำว่า “คนทรยศ” ทำให้เทียนเต๋างง เขาไม่คิดว่าอัจฉริยะแบบนี้จะเป็นคนทรยศ ...
“แถมยังเป็นคนทรยศของประเทศมังกร” หัวหน้าหลี่พูดต่อ “ไม่นานหลังจากที่เขาติดอันดับมังกร เขาก็ทรยศประเทศมังกร ไปอยู่ที่ประเทศซากุระ”
“ทำไม?” เทียนเต๋าไม่เข้าใจเลย อัจฉริยะที่มีอนาคตไกลขนาดนี้ กลับทรยศประเทศไปอยู่ต่างประเทศ อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาตัดสินใจเด็ดขาดขนาดนั้น?