ตอนที่ 1032 อย่าจริงจังขนาดนั้นสิ
“หนิงซวง ในเมื่อคุณยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกใคร งั้นก็ให้พวกเธอทั้งสามคนมาพร้อมกันเลยสิ”
“การมีดาราหญิงแถวหน้าถึงสามคนมาเป็นพรีเซนเตอร์ในครั้งเดียว สำหรับบริษัท อี้เหมย คอสเมติกส์ของพวกคุณ นี่เป็นเรื่องที่ดีนะ ..จะช่วยเพิ่มทั้งชื่อเสียง และอิทธิพลให้กับแบรนด์ได้”
เย่เฉิน พูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ กับ ซู หนิงซวง
พวกเธอทั้งหมดเป็นศิลปินในสังกัดของบริษัทเขา เป็นพนักงานของเขาเอง แค่คำสั่งเดียวก็เรียกพวกเธอมาได้ ทำไมต้องคิดมากว่าจะเลือกใครอีกล่ะ?
แทนที่จะให้ หนิงซวง ลังเล และเสียเวลาไปจนถึงมื้อเย็น สู้ให้พวกเธอมาเป็นพรีเซนเตอร์พร้อมกันเลยจะดีกว่า แถมยังไม่ต้องเสียค่าจ้างอะไรอีก แค่ให้บริษัท เซิ่งไห่ เอนเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ปโอนย้ายทรัพยากรไปสนับสนุนพวกเธอหน่อยก็พอแล้ว
“อะไรนะ?!”
“ให้พวกเธอทั้งสามคนมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้บริษัท อี้เหมย คอสเมติกส์พร้อมกัน?!”
ซู หนิงซวง ปิดปากด้วยความตกใจ
ส่วนผู้บริหารบริษัทที่ยืนอยู่ข้างๆ ถึงกับตื่นเต้นจนตัวสั่น
“เอาเป็นแบบนี้แหละ”
เย่เฉิน ตัดสินใจแทน ซู หนิงซวง ทันที แล้วส่งข้อความไปยังผู้บริหารของบริษัท เซิ่งไห่ เอนเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ป
“ได้ครับ ท่านประธาน เว่ย เสวียนโหยว และหลิว รั่วซิน คาดว่าจะมาถึงเซี่ยงไฮ้พรุ่งนี้ ส่วน ติงซี เนื่องจากกำลังถ่ายทำละครอยู่ต่างเมือง อาจจะต้องมาถึงวันมะรืนนี้ครับ”
ผู้บริหารบริษัทตอบกลับพร้อมอธิบาย
“ได้”
เย่เฉิน พยักหน้า เพราะมีพรีเซนเตอร์ตั้งสามคน จะมาเร็ว หรือช้าคนหนึ่งก็ไม่เป็นไร
“มีเรื่องอะไรอีกไหม? ถ้าไม่มี เราไปกินข้าวกันเถอะ”
เย่เฉิน ก้มมองดูนาฬิกา Patek Philippe บนข้อมือ เวลานี้ก็เริ่มเย็นแล้ว เย่เฉิน เริ่มรู้สึกหิว
“ไม่มีแล้วค่ะ”
ซู หนิงซวง ส่ายหน้า
“ผู้จัดการหลี่ คุณมีอะไรอีกไหม?”
ซู หนิงซวง หันไปถามผู้บริหารคนนั้นอีกที
“ไม่มีอะไรแล้วครับ ท่านประธานซู”
ผู้บริหารของบริษัทส่ายหน้า
“ถ้าไม่มี งั้นเราไปกินข้าวกันเถอะ”
เย่เฉิน พา ซู หนิงซวง ออกจากบริษัท อี้เหมย คอสเมติกส์ไปหาอะไรทานด้วยกัน
ระหว่างมื้ออาหาร ซู หนิงซวง ได้รับโทรศัพท์สายหนึ่ง
“ได้คะ คุณแม่ค่ะ หนูเข้าใจแล้ว”
ซู หนิงซวง วางสายโทรศัพท์แล้วหันมาบอก เย่เฉิน ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความดีใจ
“เย่เฉิน คุณพ่อของฉันจะมาเซี่ยงไฮ้เพราะมีธุระเกี่ยวกับธุรกิจ คุณแม่เลยจะมาด้วย พวกท่านบอกว่าถือโอกาสมาดูพวกเราด้วย แล้วก็เตรียมของอร่อยๆ มาฝากเพียบเลย พวกท่านจะมาถึงบ่ายพรุ่งนี้ เราไปสนามบินรับพวกท่านด้วยกันนะคะ”
“พรุ่งนี้บ่าย โอเคได้เลย”
เย่เฉิน พยักหน้า
พ่อของ หนิงซวง เพิ่งจะรับตำแหน่งจาก คุณปู่ซู งานยุ่งมาก ช่วงนี้คงต้องเดินทางทั่วประเทศ
เวลาเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงบ่ายวันถัดมา เนื่องจากที่นั่งในรถ Bugatti ไม่เพียงพอ เย่เฉิน จึงขับรถ BMW 7 Series รุ่นกันกระสุนคันหรูของตัวเองพา ซู หนิงซวง ตรงไปยังสนามบินเซี่ยงไฮ้
เมื่อมาถึงสนามบิน ระหว่างที่ เย่เฉิน และซู หนิงซวง กำลังรอรับคุณพ่อคุณแม่ของ ซู หนิงซวง อยู่นั้นก็มีสุภาพสตรีวัยสามสิบปลายๆ ถึงสี่สิบคนหนึ่งที่มาพร้อมกับพนักงานกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาในสนามบิน
“อ๊ะ! ผู้จัดการทั่วไป นั่นใช่คุณซู หนิงซวง เจ้าของบริษัท อี้เหมย คอสเมติกส์หรือเปล่าคะ?”
พนักงานคนหนึ่งสังเกตเห็น ซู หนิงซวง ที่ยืนอยู่กับ เย่เฉิน แล้วอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ
“อยู่ตรงไหน?”
หญิงวัยกลางคนดูสนใจขึ้นมาทันที เธอถามด้วยความอยากรู้
“ผู้จัดการทั่วไป ดูสิคะ ตรงนั้น”
พนักงานคนนั้นยกมือชี้ไปที่ ซู หนิงซวง
หญิงวัยกลางคนมองตาม แล้วเผยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์
“บังเอิญจริงๆ”
“ไปกันเถอะ เราไปทักทายเธอสักหน่อย”
หลังจากว่าแล้ว เธอก็เดินนำพนักงานมุ่งหน้าไปหา ซู หนิงซวง และเย่เฉิน
“ช่างบังเอิญจริงๆ ประธานซูเองก็มารอรับใครอยู่หรือเปล่าคะ?”
หญิงวัยกลางคนเอ่ยขึ้นอย่าง ‘เป็นกันเอง’ หลังเดินเข้ามาใกล้
“คุณคือ?”
ซู หนิงซวง แสดงสีหน้าประหลาดใจ หญิงวัยกลางคนคนนี้รู้จักเธอได้อย่างไร เธอไม่เคยพบเจอมาก่อน
“นี่คือคุณเจียง ผู้จัดการทั่วไปของบริษัท ซูเปอร์ คอสเมติกส์คะ”
พนักงานที่อยู่ข้างๆ รีบแนะนำตัวตนของหญิงวัยกลางคนอย่างสุภาพ
“ผู้จัดการทั่วไปของบริษัท ซูเปอร์ คอสเมติกส์?”
สีหน้าของ ซู หนิงซวง เปลี่ยนเป็นจริงจังทันที เพราะบริษัท ซูเปอร์ คอสเมติกส์ เป็นคู่แข่งโดยตรงของบริษัท อี้เหมย คอสเมติกส์
“ประธานซูคะ อย่าจริงจังขนาดนั้นสิ ยิ้มหน่อยเถอะค่ะ”
เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว หญิงวัยกลางคนดูจะสบายๆ เป็นพิเศษ
“ยังไงซะ บริษัท อี้เหมย คอสเมติกส์ของพวกคุณก็ไม่ใช่คู่แข่งของเราอยู่แล้ว จะต้องจริงจังขนาดนี้ไปทำไม!”
เพราะบริษัท ซูเปอร์ คอสเมติกส์ที่มีความแข็งแกร่งกว่าจึงไม่เคยเห็นบริษัท อี้เหม่ย อยู่ในสายตาเลย และตอนนี้พวกเขาเพิ่งเชิญ เจิ้ง ชิงเยว่ ดาราชื่อดัง มาเป็นพรีเซนเตอร์ จึงยิ่งดูแคลนบริษัท อี้เหม่ย เข้าไปใหญ่
สำหรับคู่แข่งที่มีศักยภาพต่ำกว่ามาก จะไปรู้สึกถึงอันตรายอะไรได้อีกล่ะ?
การที่ไม่เคยมองบริษัท อี้เหมย คอสเมติกส์ หรือซู หนิงซวง อยู่ในสายตาเลย ทำให้หญิงวัยกลางคนคนนี้ดูนิ่ง และเต็มไปด้วยความมั่นใจแบบนี้
อะไรคือคู่แข่ง? บริษัท อี้เหม่ย? ไม่มีทางเทียบได้หรอก
“หึ! นี่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ใครแพ้ใครชนะยังไม่รู้เลยนะ!”
ซู หนิงซวง ตอบโต้ทันทีโดยไม่ลังเล
“เฮ้ออ.. สาวน้อย เธอยังอ่อนหัดนัก”
หญิงวัยกลางคนส่ายหน้า
ในขณะที่เธอกำลังพูด คนที่เธอรออยู่ก็มาถึงแล้ว
หญิงสาวคนหนึ่งที่สวมเสื้อผ้าหรูหรา และสวมแว่นกันแดดขนาดใหญ่ เดินเข้ามาพร้อมกับผู้ช่วยหลายคนที่ติดตามอยู่รอบตัว
“ท่านผู้จัดการ พวกเขามาถึงแล้วค่ะ”
พนักงานของหญิงวัยกลางคนพูดขึ้น
จริงดังว่า หญิงสาวที่สวมแว่นกันแดดเดินตรงเข้ามา ทักทายหญิงวัยกลางคนอย่างสุภาพ จากนั้นก็ถอดแว่นกันแดดออก เผยให้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคย
“เจิ้ง ชิงเยว่?!”
“ดาราชื่อดัง! ฉันเจอดาราตัวเป็นๆ เลย!”
“โอ๊ย พระเจ้า! ฉันเจอดาราดัง! ไม่อยากเชื่อเลย!”
เมื่อคนที่อยู่รอบๆ ได้เห็นใบหน้าของหญิงสาว ต่างก็ส่งเสียงตื่นเต้นกันใหญ่ หญิงสาวคนนี้คือพรีเซนเตอร์ที่บริษัท ซูเปอร์ คอสเมติกส์ เพิ่งเชิญมา และเธอก็เป็นดาราชื่อดังที่กำลังโด่งดังอย่างมาก – เจิ้ง ชิงเยว่
“อะไรนะ? เจิ้ง ชิงเยว่ อยู่ตรงนั้นเหรอ?”
“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เจอดารา ฉันต้องขอลายเซ็นเธอให้ได้!”
เมื่อข่าวการปรากฏตัวของ เจิ้ง ชิงเยว่ แพร่กระจายออกไป คนรอบข้างก็กรูเข้ามามากขึ้น บ้างก็ถ่ายรูป บ้างก็เข้ามาขอลายเซ็น
ไม่นานนัก เจิ้ง ชิงเยว่ ก็ถูกกลุ่มแฟนคลับล้อมรอบจนแน่น
เมื่อเห็นเช่นนั้น หญิงวัยกลางคนก็พอใจมาก เธอหันไปอวด ซู หนิงซวง ทันที :
“ประธานซู เห็นไหม นี่แหละคืออิทธิพลของ เจิ้ง ชิงเยว่ มีเธอมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้เรา บริษัท อี้เหมย คอสเมติกส์ของคุณคิดจะมาแข่งขันกับเรา? ..คุณก็ทำได้แค่ฝัน!”
การมาของเธอในครั้งนี้ ไม่เพียงเพื่อมารับ เจิ้ง ชิงเยว่ แต่ยังเพื่อสร้างกระแสอีกด้วย
และตอนนี้เมื่อได้เห็นอิทธิพลของ เจิ้ง ชิงเยว่ แล้ว หญิงวัยกลางคนก็มั่นใจในตัวพรีเซนเตอร์ของพวกเธอมาก ผลิตภัณฑ์ของบริษัทหลังจากนี้ไม่ต้องกลัวว่าจะขายไม่ออกอีกแล้ว
ส่วนบริษัท อี้เหมย คอสเมติกส์ของ ซู หนิงซวง บริษัทเล็กๆ แบบนั้นจะเชิญดาราชื่อดังระดับไหนกันได้? คงได้แค่ดาราเกรดสองที่พอมีชื่อเสียงเท่านั้นแหละ!
ด้วยเหตุนี้ ซู หนิงซวง จะมาแข่งขันอะไรกับพวกเธอได้อีก?!
หลังจากเย้ยหยัน ซู หนิงซวง หญิงวัยกลางคนก็เตรียมตัวพา เจิ้ง ชิงเยว่ กลับไปทันที
แต่แล้วปัญหาก็เกิดขึ้น แฟนคลับที่ล้อมรอบ เจิ้ง ชิงเยว่ อย่างแน่นหนานั้น ทำให้เธอออกมาไม่ได้ง่ายๆ หญิงวัยกลางคนจึงต้องหาวิธีแก้ปัญหา
อย่างไรก็ตามก่อนที่เธอจะทันคิดหาวิธีออกมาได้ แฟนคลับที่ล้อมรอบ เจิ้ง ชิงเยว่ ไว้กลับเริ่มแยกย้ายออกไป
ที่น่าประหลาดใจคือ แฟนคลับเหล่านี้ไม่ได้ออกจากสนามบิน แต่พวกเขากลับรีบรุดไปทางด้านหน้าอย่างรวดเร็ว
ไม่เพียงแค่แฟนคลับกลุ่มนี้เท่านั้น แต่ยังมีผู้คนอีกจำนวนมากในสนามบินต่างก็รีบกรูกันไปทางด้านหน้า
เกิดอะไรขึ้นกันแน่?!
ไม่เพียงแต่หญิงวัยกลางคน แม้แต่ เจิ้ง ชิงเยว่ เองก็งุนงงเช่นกัน มันไม่ถูกต้อง เธอยังเซ็นชื่อไม่หมดเลย ทำไมแฟนคลับถึงพากันวิ่งหนีไปหมด?
ด้วยความสงสัยอย่างมาก เจิ้ง ชิงเยว่ และหญิงวัยกลางคนต่างก็หันไปมองทางที่ผู้คนพากันวิ่งไป…
