บทที่ 66 ผู้เล่นตัวฉกาจ
หลินเซียงตกใจ!
ที่นี่ใกล้กับตึกสำนักงาน! ถ้ามีคนเห็นจะทำยังไง?
ใบหน้าของหลินเซียงแดงก่ำ เธอพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง “นายบ้าไปแล้วหรือ! มาทำอะไรแบบนี้ที่นี่ ถ้ามีคนเห็น ฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน!”
“เมื่อกี้คำพูดที่เธอปกป้องฉัน ฉันได้ยินหมดแล้ว ฉันก็แค่อยากจูบเธอ! ขอบคุณนะ!” เฉินเสี่ยวเป่ยพูดพลางจุ๊บเบา ๆ ที่แก้มแดงของหลินเซียงอีกครั้ง
หลินเซียงก้มหน้าอย่างเขินอาย แม้ในใจจะรู้สึกหวานชื่น แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้าเล็กน้อย “แต่สุดท้ายแล้ว ฉันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ถ้าเป็นแฟนสาวอีกสองคนของนายออกมา เรื่องนี้คงจัดการได้ง่ายกว่านี้แน่ ๆ”
“เอ่อ……”
เฉินเสี่ยวเป่ยเกาหัวจมูกด้วยความเขิน ก่อนจะอธิบาย “โพสต์นั้นมันไม่ใช่เรื่องจริง หลานเมิ่งเฉินไม่ใช่แฟนฉัน ส่วนเหวินหยวน เธอเป็นแฟนจริง แต่มีเหตุผลพิเศษบางอย่าง ไว้ถึงเวลาฉันจะบอกเธอ”
หลินเซียงส่ายศีรษะพร้อมถอนหายใจเบา ๆ “นายไม่ต้องอธิบายก็ได้ ฉันรู้ว่าฐานะของฉันต่ำต้อย ไม่สามารถเทียบกับคุณหนูผู้สูงศักดิ์สองคนนั้นได้……”
“นี่ไม่เกี่ยวกับฐานะเลย!”
เฉินเสี่ยวเป่ยพูดด้วยความจริงใจ “เธอคอยช่วยฉันในเวลาที่ยากลำบาก ความอบอุ่นที่ได้รับเหมือนแสงอาทิตย์ในหน้าหนาว มันมีค่ามากกว่าอะไรทั้งหมด! สำหรับฉัน เธอคือสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว!”
หัวใจที่อ่อนโยนของหลินเซียงถูกคำพูดนี้กระทบจนละลาย เธอรู้สึกประทับใจจนพูดไม่ออก
“ขอโทษนะ……” หลินเซียงพูดขึ้นมา
“อยู่ดี ๆ พูดขอโทษทำไม?” เฉินเสี่ยวเป่ยถามด้วยความสงสัย
“จริง ๆ แล้วคืนนั้น ฉันไม่ได้มีรอบเดือนหรอก…… แต่ในใจฉันยังมีความกังวลอยู่……” หลินเซียงกัดริมฝีปากพูด
เมื่อได้ยิน เฉินเสี่ยวเป่ยเกือบสำลักเลือด
คืนนั้นเขาเกือบจะได้ครอบครองครูสาวสวยแล้ว! แต่อดเพราะความลังเลของเธอ ทำให้เหมือนห่างไกลถึงหมื่นลี้!
“เธอกังวลเรื่องอะไร?” เฉินเสี่ยวเป่ยถาม
หลินเซียงกัดริมฝีปากก่อนพูดเบา ๆ “ฉันกับหลินหนานต่างก็ออกมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า โตมาในสลัม ไม่มีฐานะอะไรเลย…… ฉันไม่เหมาะสมกับนาย……”
“พูดอะไรน่ะ! ถ้าเรื่องฐานะ ฉันก็แค่ลูกชาวนาธรรมดา นี่มันไม่สำคัญเลย! ขอแค่เธอมีฉันอยู่ในใจ ทุกอย่างก็ไม่มีปัญหา!” เฉินเสี่ยวเป่ยพูดอย่างจริงจัง
“ไม่ใช่… ตอนนี้นายไม่ใช่ชาวนาธรรมดาอีกแล้ว! รถหรู ทรัพย์สมบัติ ความสามารถพิเศษ ชีวิตที่เปลี่ยนไป…… ทุกอย่างที่นายมีตอนนี้มันต่างจากอดีตอย่างสิ้นเชิง!”
ดวงตาของหลินเซียงเปี่ยมไปด้วยความสับสน เธอพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า “หลินหนานเคยเตือนฉันไว้ เขาบอกว่านายไม่ใช่คนธรรมดา นายต้องกลายเป็นมังกรในตำนาน ส่องแสงเปล่งประกายบนฟากฟ้า! แม้แต่นายจะอยากหยุดที่ใครสักคน แต่ก็จะมีผู้หญิงมากมายเข้ามาหานายเอง!”
“นี่……”
เฉินเสี่ยวเป่ยชะงักไปครู่หนึ่ง
เขาไม่คิดเลยว่าหลินหนานจะพูดอะไรที่ลึกซึ้งเช่นนี้
หลังจากเงียบไปสักพัก เฉินเสี่ยวเป่ยก็ถามเสียงเบา “แล้วเธอคิดยังไง?”
“ฉันคิดได้แล้ว… ฉันไม่ถือสาที่นายจะมีผู้หญิงคนอื่น และฉันก็ไม่มีสิทธิ์จะถือสาด้วย… ด้วยฐานะต่ำต้อยของฉัน แค่ได้เป็นคนรักของนาย ฉันก็พอใจแล้ว” หลินเซียงเม้มปากเล็ก ๆ และสายตาของเธอค่อย ๆ มั่นคงขึ้น
เฉินเสี่ยวเป่ยได้ยินดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกปวดใจ
ถึงแม้ว่าหลินเซียงจะมีรูปลักษณ์ที่งดงามหายาก แต่ในใจของเธอกลับเต็มไปด้วยความกลัวและความไม่มั่นใจ
คำกล่าวที่ว่า “สันดอนขุดง่าย สันดานแก้ยาก” ดูจะเหมาะสมที่สุดในกรณีนี้
เฉินเสี่ยวเป่ยไม่อาจทำให้หลินเซียงมั่นใจขึ้นได้ในทันที แต่เขาตัดสินใจแล้วว่า ไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร เขาจะดูแลหลินเซียงเหมือนคนรักของเขา
“หากเธอไม่ทิ้งฉัน ฉันก็จะไม่ทอดทิ้งเธอ!”
เฉินเสี่ยวเป่ยมองลึกเข้าไปในดวงตาของหลินเซียง คำพูดสั้น ๆ แต่เต็มไปด้วยความจริงใจ
หัวใจของหลินเซียงเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง เธอเงยหน้าขึ้นอย่างไม่รู้ตัว และยื่นริมฝีปากชมพูให้เฉินเสี่ยวเป่ยจูบ
“มีคนมา!”
เฉินเสี่ยวเป่ยขมวดคิ้ว รีบปล่อยหลินเซียงออก
การถูกขัดจังหวะทำให้เฉินเสี่ยวเป่ยรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก
หลินเซียงเองก็เม้มริมฝีปาก รู้สึกเศร้าเล็กน้อย
“โอ้! นั่นครูหลินเซียงไม่ใช่หรือ?”
ไม่นานนัก ชายสองคนก็เดินออกมาจากมุมถนน
ชายที่พูดเป็นคนแรกมีอายุราวสามสิบปี เขาชื่อหลัวปิง ซึ่งเป็นที่ปรึกษาชั้นปีสามเหมือนหลินเซียง
ข้างกายเขามีชายหนุ่มวัยยี่สิบต้น ๆ คนหนึ่ง
ชายหนุ่มคนนี้ตัวสูง แข็งแรง และดูหล่อเหลา แต่ใบหน้าของเขาเย็นชาเหมือนคนที่มีความเครียดค้างคาใจ
จนกระทั่งเขาเห็นหลินเซียง แววตาเย็นชาของเขาก็อ่อนลงเล็กน้อย และสายตาแสดงถึงความโลภที่ซ่อนอยู่
“สวัสดีค่ะครูหลัว”
หลินเซียงพยักหน้าเล็กน้อย สีหน้าดูไม่เป็นธรรมชาติ
เพราะหลัวปิงเคยจีบเธอ แต่ถูกปฏิเสธ หลังจากนั้นเขาก็หาเรื่องกลั่นแกล้งเธอ ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาไม่ราบรื่น
แต่ในฐานะครูรุ่นน้อง หลินเซียงยังคงแสดงความเคารพต่อเขา
“สวัสดีครับ”
หลัวปิงยิ้มเยาะและพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “ครูหลินมาเพื่อส่งรายชื่อนักกีฬาเข้าร่วมงานกีฬาหรือครับ?”
หลินเซียงชะงักและส่ายหัว “ยังไม่ได้ค่ะ รายชื่อของห้องเรายังไม่สรุป”
“ยังไม่สรุป? หรือว่าไม่มีใครสมัครเลย?”
หลัวปิงยกคิ้วและพูดประชดประชัน “ครูใหม่แบบคุณก็อย่างนี้ ขาดประสบการณ์และไม่สามารถกระตุ้นนักเรียนให้มีส่วนร่วมได้ ก็น่าจะโดนตำหนินะ”
“ฉัน……” หลินเซียงขมวดคิ้วและรู้สึกเสียใจมาก
เธอพยายามอย่างหนักในการจัดการงานกีฬา และนักเรียนในชั้นก็ตอบสนองดีมาก ไม่เหมือนที่หลัวปิงพูดเลย
“คุณไม่ต้องแก้ตัว”
หลัวปิงตั้งใจกลั่นแกล้งเธอและพูดต่อ “แม้ว่าคุณจะสามารถรวบรวมรายชื่อได้ แต่ห้องคุณไม่มีทางชนะได้หรอก! มีแต่นักเรียนที่ไร้ประโยชน์ จะไปสู้ใครได้?”
หลินเซียงกำหมัดเล็ก ๆ ด้วยความโกรธและรู้สึกเสียใจมากขึ้น
“ดูเหมือนว่าห้องของคุณต้องได้คะแนนดีแน่ ๆ ใช่ไหมครับ?”
ในตอนนั้นเอง เฉินเสี่ยวเป่ยก็ก้าวออกมายืนขวางหน้าหลินเซียง
“แน่นอน! เห็นนักเรียนคนนี้ไหม?”
หลัวปิงชี้ไปที่ชายหนุ่มข้างกายเขาและพูดอย่างภาคภูมิใจ “นี่คือตงฟางหยางเหว่ย นักเรียนตัวเก่งของห้องเรา เขาจะคว้าเหรียญทองสิบเหรียญจากงานกีฬา และห้องเราจะได้คะแนนรวมอันดับหนึ่งแน่นอน! ไม่เหมือนบางห้องที่ได้แต่รั้งท้าย!”
“หยางเหว่ย?”
เฉินเสี่ยวเป่ยหรี่ตาเล็กน้อยมองตงฟางหยางเหว่ย ก่อนจะยิ้มเยาะ “ชื่อดีนะครับ พ่อคุณนี่ช่างตั้งชื่อได้มีพรสวรรค์จริง ๆ ผมขอคารวะ!”
“แกเป็นใคร? กล้าล้อเลียนชื่อของฉัน หาเรื่องตายหรือเปล่า!” ตงฟางหยางเหว่ยพูดด้วยน้ำเสียงโกรธ
“อ้อ เมื่อกี้ลืมแนะนำตัว ฉันเป็นนักเรียนของครูหลินเซียง และฉันคือนักเรียนตัวเก่งของห้องเรา งานกีฬาในครั้งนี้ ฉันจะคว้าเหรียญทองจากทุกประเภท!”
เฉินเสี่ยวเป่ยยักไหล่อย่างสบาย ๆ ราวกับทุกอย่างอยู่ในกำมือของเขา
…..
ตงฟางหยางเหว่ย (东方阳伟) คำว่าหยางเหว่ย (阳伟) พ้องเสียงกับคำว่า หยางเหว่ย (阳萎) ที่แปลว่า เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ