ตอนที่แล้วบทที่ 195 ไป๋ซูซู
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 197 ความเงียบโดยพลัน

บทที่ 196 โดนดูถูก, หยิ่งยโส


ก่อนที่เฟิ่งชิงหยาจะทันได้ตอบสนอง ไป๋ซูซูก็จ้องมองนางด้วยสีหน้าเคร่งขรึมทันที

"เจ้าหานักหลอมโอสถที่มีฝีมือดีๆไม่ได้จริงๆหรือ?"

เฟิ่งชิงหยาตะลึงกับคำพูดนั้น "เจ้าหมายความว่าอย่างไรกัน ซูซู?"

นางตั้งสติรับคำถามนั้นไม่ทันจริงๆ.

นางตอบออกไปโดยไม่คิดว่า "วิชาการหลอมโอสถของท่านซูกับเสวี่ยหนิงล้วนยอดเยี่ยม คราวนี้ไม่น่าจะมีปัญหาใหญ่"

ไป๋ซูซูยังคงสีหน้าเรียบเฉย จ้องมองซูจิ้งเจิน "แต่ข้าแทบจะไม่เชื่อว่าคนอย่างเขาจะมากำหนดชะตาชีวิตของเจ้าได้"

"บางทีเจ้าควรทดสอบเขาอีกครั้งอย่างละเอียด"

ทันทีที่ไป๋ซูซูเอ่ยจบ ห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ

แม้แต่เฒ่ามู่ที่ปกติเงียบขรึมยังเปลี่ยนสีหน้า ส่วนเสวี่ยหนิงก็มองไป๋ซูซูด้วยความงุนงง

ตัวซูจิ้งเจินเองก็สับสน ไม่รู้ว่าตนได้ทำอะไรไปจึงทำให้นางไม่พอใจ

นัยของคำพูดนางชัดเจนเกินไป

เขาคิดในใจ "ข้าเพิ่งเคยพบนางครั้งเดียว ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางใดๆ เหตุใดจู่ๆ จึงแสดงท่าทีเป็นศัตรูเช่นนี้?"

ทั้งๆ ที่เขาคิดว่าตนไม่ได้พูดอะไรที่น่าจะทำให้นางขุ่นเคืองเลยก่อนหน้านี้

"แม่นาง ข้าได้ทำสิ่งใดให้ท่านไม่พอใจหรือ?"

"หากซูผู้นี้ ได้ล่วงเกินท่านโดยไม่ตั้งใจ ก็ขออภัยด้วย"

ซูจิ้งเจินมองไป๋ซูซูด้วยท่าทีจริงใจ

แม้ปกติเขาจะทำตัวอ่อนน้อม แต่ในสถานการณ์ที่ถูกกล่าวหาอย่างไร้เหตุผลเช่นนี้ เขาก็อดรู้สึกเคืองไม่ได้

ไป๋ซูซูตอบกลับ "ไม่มีอะไร ข้าแค่ไม่ไว้ใจในความสามารถของเจ้า บางทีเฟิ่งชิงหยาอาจจนตรอกถึงได้ต้องหาเจ้ามา แต่ข้าไม่เชื่อว่าคนที่แยกสมุนไพรยังไม่ออกจะหลอมยาลูกกลอนดีๆ ได้"

น้ำเสียงนางเต็มไปด้วยการดูแคลน

ทุกคนพลันเข้าใจทันทีว่าเหตุใดไป๋ซูซูจึงจงใจหาเรื่องซูจิ้งเจิน

แม้แต่ซูจิ้งเจินเองก็ยิ้มมุมปากอีกครั้ง

เขาไม่คิดว่าปัญหาจะอยู่ตรงนี้

ในตอนนี้ เขาก็ไม่คิดจะอธิบายอะไรกับไป๋ซูซูเช่นกัน

เฟิ่งชิงหยาหัวเราะเบาๆ "ซูซู เจ้าเข้าใจท่านซูผิดแล้ว หากยาลูกกลอนคืนชีพไม่ติดสิบอันดับในสองรอบแรก พวกเราคงต้องพึ่งยาลูกกลอนฝ่าอุปสรรคแทน"

สีหน้าของไป๋ซูซูพลันเปลี่ยนไป

คำพูดของเฟิ่งชิงหยาทำให้นางงุนงงจริงๆ

"ซูซู เจ้าคิดว่า ยาลูกกลอนระดับสามคุณภาพสูงมีค่ามากกว่า หรือยาลูกกลอนระดับสองคุณภาพเหนือชั้นมีค่ามากกว่าล่ะ?"

เฟิ่งชิงหยาถามด้วยรอยยิ้ม

ทันทีที่นางเอ่ยจบ มุมปากของไป๋ซูซูก็ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็นชา

นางตอบทันทีโดยไม่ลังเล "จำเป็นต้องถามคำถามที่ชัดเจนขนาดนี้ด้วยหรือ? แน่นอนว่าต้องเป็นระดับสาม..."

"เดี๋ยว เจ้าว่าอะไรนะ? ยาลูกกลอนระดับสองอะไรนะ? เหนือ... เหนือชั้น?"

หลังจากที่สติกลับมา สีหน้าของไป๋ซูซูก็เปลี่ยนเป็นตกตะลึง

สายตานางจับจ้องที่ซูจิ้งเจินและเสวี่ยหนิงอีกครั้ง

"เจ้ากำลังบอกว่าพวกเขาสามารถหลอมยาลูกกลอนฝ่าอุปสรรคระดับเหนือชั้นได้งั้นรึ?"

ใบหน้าของไป๋ซูซูเต็มไปด้วยความตกใจ และในใจนางก็ได้คำตอบแล้ว

เพียงแต่นางยังไม่อยากเชื่อ

"ถูกต้อง! พวกเขามีความสามารถถึงเพียงนั้นจริงๆ!"

เฟิ่งชิงหยาพูดต่อ "ดังนั้น ซูซู เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องงานประชันนักหลอมโอสถ เจ้าแค่จัดหายาตามที่เสวี่ยหนิงกับท่านซูต้องการก็พอ"

ตอนนี้น้ำเสียงของเฟิ่งชิงหยาจริงจังมาก

ไป๋ซูซูข่มความตกตะลึงในใจไว้ เชื่อว่าเฟิ่งชิงหยาคงไม่หลอกนางในยามนี้

สายตาของไป๋ซูซูหันไปทางซูจิ้งเจินอีกครั้ง

"หากท่านต้องการสมุนไพรใด เชิญระบุมา ข้าจะพยายามจัดหาให้เต็มที่ เรื่องก่อนหน้านี้ หากท่านทำได้จริงอย่างที่ว่า ข้าจะขอขมาท่าน!"

คำพูดของนางจริงใจอย่างยิ่ง

ซูจิ้งเจินยิ้มและไม่พูดอะไรมาก

กับคนประเภทหยิ่งยโสและเสแสร้งเช่นนี้ เขาไม่คิดจะสนิทสนมด้วย

แค่อีกฝ่ายสามารถจัดหาสมุนไพรให้เฟิ่งชิงหยาได้ก็พอแล้ว

ไม่นานนัก เสวี่ยหนิงก็เขียนรายการสมุนไพรที่ต้องใช้สำหรับยาลูกกลอนสงบใจ ยาลูกกลอนคืนชีพ และยาลูกกลอนฝ่าอุปสรรคเสร็จ แล้วส่งให้ไป๋ซูซู

"หากเป็นไปได้ ขอสมุนไพรแต่ละชนิดอย่างละสิบชุดได้หรือไม่?"

ไป๋ซูซูรีบกวาดตามองรายการ แต่คิ้วของนางพลันขมวดเข้าหากัน

"แค่นี้เองหรือ?"

เสวี่ยหนิงพยักหน้าอย่างมั่นใจ "ใช่ แค่นี้"

ยาลูกกลอนสงบใจและยาลูกกลอนคืนชีพล้วนเป็นยาระดับสาม ซึ่งต้านไท่หมิงจิงได้คัดเลือกมาอย่างระมัดระวังก่อนหน้านี้

สมุนไพรสำหรับยาระดับสามทั้งสองนี้ล้วนธรรมดามาก

บางทีตอนนั้นเขาคงคำนึงถึงสถานการณ์ยากลำบากของเฟิ่งชิงหยา จึงเลือกวัตถุดิบที่ง่ายกว่า

"ซูซู สมุนไพรพวกนี้หายากสำหรับเจ้าหรือ? ไม่น่าจะใช่นะ"

เฟิ่งชิงหยาถามอีกครั้ง น้ำเสียงค่อนข้างจริงจัง

ไป๋ซูซูส่ายหน้า "ไม่ใช่อย่างนั้น หากแต่สมุนไพรพวกนี้ ข้าสามารถมอบให้เจ้าได้ทันทีเลย"

ขณะที่นางพูด แหวนเก็บของสีขาวดุจหิมะบนมือนางก็เปล่งแสงวาบ

กองสมุนไพรปรากฏขึ้นบนพื้นทันที

เป็นวัตถุดิบทั้งหมดที่ต้องใช้ในการหลอมโอสถทั้งสามชนิด

ความจริงแล้ว ไป๋ซูซูหยิบออกมาถึงชนิดละยี่สิบชุด

เมื่อเห็นเช่นนั้น ซูจิ้งเจินก็ตกตะลึงอย่างยิ่ง

เขาสงสัยอีกครั้งถึงตัวตนที่แท้จริงของไป๋ซูซู

นางไม่ใช่นักหลอมโอสถ แล้วเหตุใดจึงพกพาสมุนไพรมากมายเช่นนี้ติดตัว?

นางเป็นคลังสมบัติเคลื่อนที่หรืออย่างไร?

ซูจิ้งเจินคิดในใจ "คนที่ข้าได้พบเจอช่วงนี้ล้วนร่ำรวยมหาศาลทั้งนั้น"

เมื่อเทียบกับพวกเขาแล้ว เสวี่ยหนิงที่มีฐานะเป็นผู้สืบทอดของต้านไท่หมิงจิงกลับดูธรรมดาไปเสียนี่กระไร

หลังจากหยิบสมุนไพรออกมา ไป๋ซูซูก็มองเฟิ่งชิงหยา "ข้านึกวาเจ้าจะต้องการสมุนไพรล้ำค่ามากมายในครั้งนี้"

"โชคดีที่ข้าเตรียมไว้เผื่อและนำสมุนไพรธรรมดามาด้วย"

"ถ้าแค่นี้ ถือว่าเป็นของกำนันจากข้า ไม่ต้องตอบแทนหรอก"

พูดจบ ไป๋ซูซูก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้

นางพยักหน้าให้เฒ่ามู่ที่นิ่งเงียบมาตลอด แล้วก็จากไป

ตั้งแต่ต้นจนจบ ไป๋ซูซูยังคงรักษาท่าทีหยิ่งผยองและเอาแต่ใจไว้

จนกระทั่งนางลับสายตาไป ซูจิ้งเจินก็อดสบถในใจไม่ได้

"พวกคนรวยนี่น่ารำคาญจริงๆ!"

เฟิ่งชิงหยาเอ่ย "ท่านซู เสวี่ยหนิง อย่าถือสาไปเลย ซูซูเป็นแบบนี้มาตลอด"

ซูจิ้งเจินยิ้มและโบกมือ

"เรื่องแค่นี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับพวกเรา ต่อไปก็คงไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับนางมากนัก"

"ตอนนี้คนนอกไปแล้ว มากินอาหารกันเถอะ ถ้ารออีกนานอาหารอาจไม่อร่อยแล้ว"

ทันทีที่เขาพูดจบ ใบหน้าของเฟิ่งชิงหยาก็แสดงความงุนงง

ก่อนที่นางจะทันถาม ซูจิ้งเจินก็หยิบกล่องอาหารประณีตกว่าสิบกล่องออกมาจากแหวนเก็บของทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด