บทที่ 11 ครีษมายัน
“ครีษมายันหยดฝนนั้นมีค่าดั่งทองคำ”
เม็ดฝนโปรยปรายลงบนผืนดินเปียกชื้นมีกลิ่นหอมของดินลอยคลุ้งในอากาศ ข้าวสาลีในแถบใต้ซึ่งสุกก่อนกำหนดถูกเก็บเกี่ยวแล้วมัดเป็นกองและปักอยู่กลางทุ่งนา
เหล่าชาวบ้านในหมู่บ้านต่างทักทายกันบนคันนา พวกเขาเตรียมหว่านเมล็ดพืช เช่น เมล็ดน้ำมัน ผักไม้เลื้อยและผักกาดใหญ่เพื่อรอการเก็บเกี่ยวในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง
ตระกูลหลี่
หลี่ทงหยาและหลี่จางหูร่วมกับหลี่เซี่ยงผิง ต่างรอคอยวันนี้มานานจนแทบจะนับวันคอยด้วยความกระตือรือร้น
ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง เมื่อฟ้ายังไม่ทันสว่างดีทั้งสามก็นำโต๊ะเครื่องบูชาออกมาตั้งพร้อมกับคุกเข่าลงตรงหน้าโต๊ะ
กระจกบูชาที่มีลวดลายมังกรเฉียงตั้งอยู่บนแท่นบูชาบนโต๊ะมีข้าวสาลีที่เพิ่งเก็บเกี่ยวในฤดูครีษมายัน ผลไม้หลากชนิดและชาใสที่ชงด้วยน้ำฝนจากครีษมายันสามถ้วย
ทั้งสามสบตากันก่อนกล่าวพร้อมเพรียง
“ศิษย์ตระกูลหลี่ หลี่จางหู/หลี่ทงหยา/หลี่เซี่ยงผิง ขอคารวะปรัชญาแห่งความล้ำลึก ขออำนาจให้ดูแลชีวิตและจิตวิญญาณเพื่อฝึกฝนในหนทางแห่งเซียน”
“ด้วยความตั้งใจที่มั่นคงขอไม่ละทิ้งความเชื่อและขอฝากตนไว้กับแสงจันทร์”
ลำแสงสีขาวปรากฏบนกระจกพร้อมหมุนวนก่อนที่แสงสีขาวจะก่อตัวขึ้นเป็นไข่มุกขาวสามลูกลอยตรงมายังทั้งสามคน
ทั้งสามรีบตั้งสมาธิและนั่งขัดสมาธิพร้อมใช้เคล็ดวิชา "วิธีเชื่อมโยง" นำพาสัญลักษณ์ไข่มุกขาวเข้าสู่ร่างกาย
เมื่อไข่มุกขาวตกลงสู่จุดตันเถียนของทั้งสาม หลี่ชื่อจิ้งถอนสายตากลับและนั่งขัดสมาธิเข้าสู่สมาธิ พร้อมทั้งเพ่งพลังลมปราณที่ทะเลพลังบริเวณจุดตันเถียนซึ่งเต็มไปด้วยแสงจันทร์สีขาวใสคิดในใจว่า
“ด้วยการหลอมรวมจากกระจกบูชา พลังแสงจันทร์แปดสิบเอ็ดสายได้หลอมรวมเป็นหนึ่ง วันนี้เป็นวันที่เหมาะสมที่สุดในการก้าวข้ามขั้น”
ด้วยใจที่มุ่งมั่น หลี่ชื่อจิ้งเริ่มร่ายเคล็ดวิชา มือทั้งสองประสานกันเป็นรูปสัญลักษณ์ พลังลมปราณในทะเลพลังพลันปั่นป่วน สายแสงจันทร์ทั้งแปดสิบเอ็ดสายเริ่มรวมตัวกันเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
“ผ่านสิบสองขั้นสู่ตำหนักจันทร์ฉายทะลุขึ้นยังยอดสิบสองชั้นจากจุดใต้ลิ้นสู่ช่องลมปราณในร่าง…”
เขาท่องตามคัมภีร์ “ตำราการบำเพ็ญพลังแห่งแสงจันทร์” ขณะรวบรวมพลังและหลอมรวมแสงจันทร์เป็นวงล้อแห่งความล้ำลึก
แสงจันทร์ทะลุผ่านสิบสองขั้นก่อนจะหลอมรวมกลายเป็นของเหลวโปร่งใสซึ่งไหลลงสู่ทะเลพลังจนก่อตัวเป็นแอ่งน้ำบริสุทธิ์
“ปรากฏ!”
เขากล่าวเบาๆลำแสงเงินโค้งสว่างไสวปรากฏขึ้นจากแอ่งน้ำบริสุทธิ์ในทะเลพลัง ลำแสงนั้นโปร่งใสและงดงามดั่งแสงจันทร์ในน้ำ
“สิบสองขั้นทะลุทะเลพลัง วงล้อแห่งความล้ำลึกปรากฏ”
หลี่ชื่อจิ้งมองภาพนั้นด้วยความชื่นชมก่อนจะรีบรวบรวมพลังเพื่อควบคุมรูปร่างของวงล้อแห่งความล้ำลึก
อย่างไรก็ตามเวลาผ่านไปวงล้อแห่งความล้ำลึกยังไม่สามารถคงรูปร่างได้ ลำแสงจันทร์โปร่งใสลอยอยู่ในแอ่งน้ำและแกว่งไกวไปมาคล้ายจะเลือนหายไปในทุกขณะ
หลี่ชื่อจิ้งเหงื่อโซมหน้าขณะพยายามรักษารูปทรงของวงล้อแห่งความล้ำลึก เหงื่อเม็ดโตไหลลงบนใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาจนชุ่มเสื้อคลุมสีฟ้าอ่อน
ในขณะที่เขากำลังลำบาก วงล้อแห่งความล้ำลึกในทะเลพลังพลันสั่นสะเทือนก่อนที่ไข่มุกขาวอีกลูกจะลอยขึ้นมา
ไข่มุกขาวกลมโตส่องแสงจ้า เมื่อมันตกลงบนวงล้อแห่งความล้ำลึก ลำแสงจันทร์ที่โปร่งใสก็มั่นคงขึ้น พลังในแอ่งน้ำบริสุทธิ์ก็เริ่มเข้าสู่สภาวะเสถียร หลี่ชื่อจิ้งถอนหายใจยาวก่อนจะเริ่มเก็บพลัง
เมื่อวงล้อแห่งความล้ำลึกสำเร็จ แสงจันทร์ในร่างก็ถูกแปรเปลี่ยนเป็นพลังวิญญาณ หลี่ชื่อจิ้งได้ก้าวเข้าสู่ระดับฝึกพลัง
เขาลืมตาขึ้นช้าๆและมองไปยังกระจกบูชาที่ปรากฏอยู่ในแสงจันทร์ก่อนจะคารวะด้วยความเคารพ
“ขอบคุณที่ประทานคัมภีร์และช่วยหลอมรวมพลังแสงจันทร์วงล้อแห่งความล้ำลึกสำเร็จ ตระกูลหลี่ขอซาบซึ้งและจะถวายการบูชาต่อไป”
เสียงของหลี่ชื่อจิ้งยังฟังดูเด็ก แต่กลับเต็มไปด้วยความหนักแน่น ในเวลานี้เด็กหนุ่มที่เคยอยู่ใต้ปีกของพี่ชายกลายเป็นผู้ใหญ่ในที่สุด
“ชื่อจิ้ง”
หลี่มู่เถียนยืนอยู่ใต้แสงจันทร์มองบุตรชายด้วยสายตาอบอุ่น
“ท่านพ่อ ข้าหลอมรวมวงล้อแห่งความล้ำลึกสำเร็จแล้ว”
หลี่ชื่อจิ้งลุกขึ้นยืนพร้อมรอยยิ้มก่อนจะเผยให้เห็นพลังสีขาวนวลที่ลอยอยู่บนฝ่ามือ
“ขั้นตอนแรกของการบำเพ็ญเรียกว่าลมหายใจ ในขั้นลมหายใจนี้จำเป็นต้องรวบรวมหกวงล้อแห่งพลัง ได้แก่ วงล้อแห่งความล้ำลึก 、วงล้อแห่งแสงเชื่อมโยง 、วงล้อแห่งการหมุนเวียน 、วงล้อแห่งพลังบริสุทธิ์ 、วงล้อแห่งหยกอันสูงส่ง และวงล้อแห่งจิตวิญญาณเบื้องต้น...วงล้อแห่งความล้ำลึกนี้้ถือเป็นประตูแรกสู่วิถีแห่งการเข้าสู่การบำเพ็ญ”
“ดี…ดีมาก” หลี่มู่เถียนพยักหน้าและยิ้มด้วยความภูมิใจ
เมื่อพลังในมือสลายไปหลี่ชื่อจิ้งกลับมานั่งสมาธิเพื่อเสริมสร้างพลังและฝึกฝนต่อไป
.....
“คัมภีร์ช่างยอดเยี่ยม!”
หลี่เซี่ยงผิงลืมตาขึ้นเป็นคนแรกก่อนจะยืดตัวบิดขี้เกียจพลางลุกขึ้นหยิบกาใบชาแล้วดื่มอึกใหญ่
“ข้าได้รับคัมภีร์แห่งการบำเพ็ญและเคล็ดวิชา ‘หลบหลีกน้ำ’”
ทันทีที่เขาพูดจบหลี่ทงหยาก็ถอนตัวออกจากสมาธิพร้อมกับยกคิ้วด้วยความพอใจและกล่าวว่า
“ข้าได้รับเคล็ดวิชา ‘ไล่ปีศาจ’”
ทั้งสองพูดคุยกันพักหนึ่งก่อนที่หลี่จางหูจะลืมตาขึ้นมองน้องชายทั้งสองที่มองมาด้วยความคาดหวัง ก่อนจะพูดอย่างจนใจว่า
“ข้าได้เคล็ดวิชา ‘วิชาทำความสะอาดเสื้อผ้า’”
เมื่อทั้งสามพี่ชายลืมตาตื่นขึ้น หลี่ชื่อจิ้งที่อดทนมานานก็กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น
“ข้าหลอมรวมวงล้อแห่งความล้ำลึกได้สำเร็จแล้ว!”
“สำเร็จแล้วหรือ?!”
หลี่เซี่ยงผิงอุทานด้วยความตกใจพลางเอียงศีรษะด้วยความสงสัย
“ทั้งหมดนี้เป็นเพราะพลังจากกระจกบูชา”
หลี่ชื่อจิ้งมองไปยังกระจกบูชาที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ กล่าวด้วยความซาบซึ้งใจว่า
“กระจกนี้สามารถรวบรวมแสงจันทร์และหลอมรวมพลังได้อย่างยอดเยี่ยมทำให้การบำเพ็ญพลังเป็นไปอย่างรวดเร็ว”
เมื่อได้ฟังหลี่ทงหยาและคนอื่นๆก็ตระหนักถึงความมหัศจรรย์ หลี่จางหูลูบศีรษะของหลี่ชื่อจิ้งพลางกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า
“เคยได้ยินว่าในร่างมนุษย์มีช่องลมปราณ หากพลังไหลผ่านก็จะสามารถรับรู้ตำแหน่งได้ ชื่อจิ้งลองช่วยตรวจสอบให้พี่ดูได้หรือไม่?”
หลี่จางหูรู้สึกว่าตนเองเชื่อมโยงพลังได้อย่างยากลำบากแตกต่างจากน้องชายทั้งสองจึงเริ่มสงสัยถึงพรสวรรค์ของตนเอง
หลี่ชื่อจิ้งกวาดตามองพี่ชายทั้งสามก่อนจะวางมือซ้ายลงบนไหล่ของหลี่เซี่ยงผิงซึ่งอยู่ใกล้ที่สุด หลับตาลงเพื่อค้นหาช่องลมปราณ
“พลังลอยขึ้นลง ลมหายใจคงอยู่ คล้ายดั่งปลากระโดดโลดเต้น…”
หลี่ชื่อจิ้งท่องคำในคัมภีร์ “ตำราการบำเพ็ญพลังแห่งแสงจันทร์” ขณะสำรวจพลังในเส้นลมปราณของหลี่เซี่ยงผิง
ผ่านไปหนึ่งธูปหลี่ชื่อจิ้งลืมตาขึ้นด้วยความตกใจพึมพำกับตัวเองว่า
“ไม่มี…”
เขาชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะรีบวางมือลงบนไหล่ของหลี่ทงหยาและหลี่จางหูเพื่อสำรวจอีกครั้ง
“ไม่มีเลย…เป็นไปได้อย่างไร?!”
สีหน้าของหลี่ชื่อจิ้งซีดลง เขานั่งลงขัดสมาธิหลับตาและใช้พลังตรวจสอบทั้งร่างของตนเอง ทว่าก็ยังไม่พบช่องลมปราณดังที่คัมภีร์กล่าวไว้
“ในตำราระบุไว้ชัดเจนว่าช่องลมปราณคือรากฐานแห่งการบำเพ็ญ หากไม่มีช่องลมปราณ แม้จะมีเคล็ดวิชาอันล้ำเลิศก็ไม่อาจใช้ได้…”
“นี่มัน…นี่มัน…”
จิตใจของหลี่ชื่อจิ้งปั่นป่วนจนไม่สามารถสงบจิตได้ เขากลืนน้ำลายและกล่าวด้วยเสียงสั่นเทาขณะมองหลี่มู่เถียนซึ่งกำลังเล่นกับใบชา
“ท่านพ่อ!”
“ท่านพูดถูก กระจกบูชานี้คือหายนะของตระกูลเรา…”
“หากผู้บำเพ็ญที่แท้จริงรู้ถึงการมีอยู่ของมัน ไม่เพียงแค่เราจะต้องพบจุดจบ แม้แต่หมู่บ้านหลี่จิ้งและหมู่บ้านอื่นๆในเส้นทางนี้ก็อาจถูกลบสิ้น…”
“ข้าได้หลอมรวมวงล้อแห่งความล้ำลึกและพลังไหลเวียนทั่วร่าง หากไม่ลบล้างการบำเพ็ญของข้า ผู้บำเพ็ญคนอื่นจะไม่สามารถตรวจพบช่องลมปราณของข้าได้…”
หลี่ชื่อจิ้งลุกขึ้นยืนด้วยความหวาดระแวงก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า
“สำหรับศิษย์ตระกูลหลี่ หากยังไม่หลอมรวมวงล้อแห่งความล้ำลึกสำเร็จห้ามแสดงตนอย่างเปิดเผยเด็ดขาด!”
“ถูกต้องแล้ว”
หลี่มู่เถียนจิบชาและพยักหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง
“ตอนที่ชื่อจิ้งสามารถบำเพ็ญได้ ข้าเคยคิดว่าเป็นเพราะพรสวรรค์อันหาได้ยาก หานเหวินสวี่เคยกล่าวไว้ว่าผู้ที่มีช่องลมปราณนั้นโอกาสพบเจอได้หนึ่งในพัน อาจเป็นเพราะชื่อจิ้งมีพรสวรรค์นั้น”
เขาหัวเราะเบาๆด้วยความขมขื่นก่อนจะกล่าวต่อ
“ตอนนี้เห็นได้ชัดว่ากระจกบูชานี้ไม่ใช่ของธรรมดามันสามารถเปลี่ยนความธรรมดาให้กลายเป็นอัศจรรย์ได้ ผู้ครอบครองกระจกนี้แม้แต่คนธรรมดาก็สามารถก้าวสู่เส้นทางแห่งการบำเพ็ญได้…”
ทุกคนรู้สึกทั้งดีใจและหวาดกลัวในเวลาเดียวกันขณะจ้องมองหลี่มู่เถียน
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งหลี่มู่เถียนกล่าวว่า
“ไปเถอะ ไปฝึกฝนกันต่อ ข้าจะออกไปดูที่นา”
“ขอรับ”
ทุกคนก้มศีรษะรับคำก่อนจะแยกย้ายกันกลับห้องเพื่อฝึกฝน
หลี่มู่เถียนเก็บกระจกบูชาอย่างระมัดระวังพร้อมทั้งจัดเก็บโต๊ะเครื่องบูชาก่อนจะเดินไปยังทุ่งนาอย่างเงียบๆ
(จบบท)