ตอนที่ 712 จ้าวสมุทร (ฟรีลงตอนข้าม)
ตุบๆ
ภายในโถงทางเดินในตำหนัก มู่เหลียงกำลังเดินกลับไปห้องทำงานของเขา พร้อมด้วยกลุ่มสาวๆ ที่อยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับไข่ที่ฮู่เตียนนำมา
เมื่อมาถึงหน้าประตูห้องทุกคนก็เริ่มแสดงท่าทางที่ตื่นเต้นมากขึ้น
มู่เหลียงวามมือจับที่ประตู และพูดขึ้นอย่างขี้เล่น
“ทุกคน ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นก็ได้”
“มู่เหลียงเร็วสิ เปิดเร็ว”
มินโฮพูดขึ้นด้วยแก้มที่พองขึ้น
หยู่ฉินหลานเองก็แสดงแววตาที่แรงกล้าเหมือนกัน เธออยากจะเห็นไข่ที่ฮู่เตียนนำกลับมา
มู่เหลียงยิ้ม และออกแรงเปิดประตูอย่างแผ่วเบา
เมื่อประตูห้องทำงานเปิดออก มู่เหลียงก็เห็นวัถตุทรงรีวางอยู่บนโต๊ะของเขา
มันเป็นไข่ที่มีขนาดครึ่งเมตรได้ เปลือกมีสีฟ้าอ่อน และลายเส้นสีน้ำเงินเข้มบนผิวเป็นขีดๆ
มู่เหลียงเดินเข้าไปดูอย่างสนใจ และได้กลิ่นเค็มนิดๆ ออกมาจากไข่ใบนี้
“มีไข่ใบใหญ่ขนาดนี้ด้วยหรอ”
มินโฮกระพริบตามองอย่างสนใจ
ทุกคนได้เข้ามามุงดูไข่ลึกลับที่วางอยู่บนโต๊ะมู่เหลียง
แล้วหยู่เฟ่ยหยานก็พูดขึ้น
“ไม่เห็นมีอะไรแปลกเลย”
“เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันได้เห็นไข่ใบใหญ่ขนาดนี้”
ชาหลัวพูดด้วยน้ำเสียงใส
“ไข่ของสัตว์อสูรบางตัวใหญ่กว่านี้อีก”
โหย่วเฟ่ยพูดขึ้นต่อ
สัตว์อสูรมีขนาดตัวที่ต่างกัน ทำให้ไข่ของพวกมันเองก็มีหลายขนาดด้วย
“ฉันเคยเห็นไข่ที่ใหญ่เกือบ 5 เมตรได้”
ฮูซินพูดขึ้น
หยู่ฉินหลานจึงได้หันไปถาม
“ใหญ่ขนาดนั้น น่าจะเป็นไข่ของสัตว์อสูรโบราณใช่ไหม”
“ถูกต้อง”
ฮูซินพยักหน้าตอบ
ในตอนที่เธอออกเดินทางนั้น ได้เข้าไปในถ้ำแห่งหนึ่งซึ่งเป็นถ้ำของสัตว์อสูรโบราณ และในนั้นก็มีไข่หลายใบวางอยู่
แต่ด้วยขนาดที่ใหญ่เกินไป กับพละกำลังของเธอทำให้เธอเก็บไข่ของสัตว์อสูรโบราณออกมาไม่ได้
“ฮู่เตียนนี้มันเป็นไข่ของอะไรกัน”
มู่เหลียงหันไปมองฮู่เตียนด้วยความสงสัย
มินโฮเข้าไปจับมือฮู่เตียนและพูดเสียงเล็กเสียงน้อยใส่
“พี่ฮู่เตียนบอกพวกเราเถอะนะ”
ฮู่เตียนยิ้มที่มุมปาก และพูดขึ้น
“มันเป็นไข่ของสัตว์อสูรที่มาจากพื้นที่น้ำเค็ม”
“ไข่สัตว์อสูรน้ำเค็ม?”
ทุกคนถึงกับตกตะลึงเล็กน้อย และมองไข่ที่มีสีฟ้าอ่อน
ฮู่เตียนพยักหน้า และตอบด้วยน้ำเสียงน่าฟัง
“ใช่ มันคือสิ่งที่คนเอามาแลกบอกเอาไว้”
“ใครเป็นคนเอามาแลก”
มู่เหลียงถามกลับไปทันที
ฮู่เตียนส่ายหัวและตอบกลับไป
“เป็นผู้หญิงที่สวยมาก อีกทั้งยังระวังตัวแจ ไม่บอกข้อมูลอะไรเลย”
มู่เหลียงเลิกคิ้ว และถามต่ออีก
“จะเป็นไปได้ไงที่ไข่อสูรน้ำเค็มจะมาอยู่แถวนี้ได้”
“เรื่องนั้นฉันเองก็ไม่รู้”
ฮู่เตียนตอบพร้อมกับยักไหล่
ฮูซินเอียงคอและพูดขึ้น
“พื้นที่น้ำเค็มอยู่ห่างจากนี้ไปไกลมาก ต่อให้บินก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 8 9 วัน”
“ให้คนของเราไปตรวจสอบเรื่องนี้หน่อย”
มู่เหลียงพูดด้วยน้ำเสียงใจเย็น
“รับทราบ”
ฮูซินพยักหน้าและตอบอย่างจริงจัง
เธอเป็นคนดูแลเรื่องข่าวกรอง เพราะงั้นเป็นหน้าที่ของเธอ
มู่เหลียงเอื้อมมือไปยกไข่ขึ้น และมองดูอย่างละเอียด
“ฝึก”
มู่เหลียงสั่งในใจ
-การฝึกล้มเหลว-
เสียงตอบกลับมาจากระบบทำให้มู่เหลียงประหลาดใจ
ทำไมสิ่งนี้ถึงยังฝึกไม่ได้ หรือว่าต้องรอมันฟักก่อนถึงจะฝึกได้กัน?
หรืออีกความเป็นไปได้สิ่งที่อยู่ในไข่นี้ตายแล้ว
มู่เหลียงยกมืออีกข้างขึ้น และใช้พลังสร้างแสงสว่างขึ้น และฉายเข้าไปที่ไข่ฟองนี้
เหล่าสาวๆ ในห้องที่เจอแสงสว่างจ้าอย่างฉับพลันก็รีบหรี่ตาหลบแสงทันที
มู่เหลียงเอามือทาบไปที่ไข่ ให้แสงผ่านทะลุเปลือกไข่เพื่อมองเงาสิ่งที่อยู่ข้างใน
สิ่งที่มู่เหลียงเห็นคือสิ่งมีชีวิตที่คล้ายกับสัตว์เลื้อยคลาน
“ยังไม่ตาย”
มู่เหลียงพูดขึ้น
เพราะเขาเห็นว่าสิ่งที่อยู่ในไข่กำลังขยับไปมา แม้จะเบาๆ ก็ตาม
หยู่เฟ่ยหยานและซิไป่ฉีพร้อมด้วยคนอื่นๆ ก็มองสิ่งที่อยู่ข้างในไข่ด้วยความประหลาดใจ
“ด้วยวิธีแบบนี้เราจะเห็นสิ่งที่อยู่ข้างในได้…”
พวกเธอพยายามหรี่ตามองเพื่อเพ่งดูว่าสิ่งที่อยู่ข้างในหน้าตาเป็นเช่นไร
และเห็นว่าสิ่งที่อยู่ในไข่กำลังขยับ และพอที่จะเป็นเหมือนเกล็ดได้ลางๆ
“ดูเหมือนว่ามันยังมีชีวิตอยู่”
ลี่ลี่พูดขึ้นพร้อมกับขยับเข้าไปดูใกล้ๆ
“น่าจะฟักออกมาในอีกไม่กี่วัน”
มู่เหลียงพูดพร้อมกับกำมือแสงทุกอย่างก็หายไป
สัตว์อะไรก็ตามที่อยู่ในไข่ มันเติบโตเต็มที่พร้อมที่จะฟักแล้ว เพราะของเหลวที่เป็นอาหารอยู่ข้างในเหลือน้อยมาก
“ปล่อยไว้แบบนี้งั้นหรอ…”
มินโฮพูดขึ้นพร้อมกับใช้นิ้วจิ้มไปเบาๆ ที่ผิวเปลือกไข่
แคร็ก!
มีเสียงแตกดังขึ้งที่เปลือกไข่
“มันแตกแล้ว!”
มินโฮร้องออกมาด้วยความตกใจ
แคร็ก
หลังจากมีเสียงแตกขึ้น ก็เกิดเป็นรอยร้าวขึ้นบนเปลือกไข่ลุกลามอย่างรวดเร็ว
แล้วเปลือกไข่ก็แตกออกเป็นชิ้นๆ เผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ข้างใน
“มู่เหลียง…ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
มินโฮพูดอย่างหวาดกลัว
“ไม่เป็นไร มันยังไม่ตาย”
มู่เหลียงปลอบใจมินโฮอย่างอ่อนโยน
ที่บนโต๊ะของเขามีสัตว์อสูรลำตัวยาวกล่าวครึ่งเมตรโผล่ออกมาจากเศษเปลือกไข่ที่แตก และมันได้มองมู่เหลียงด้วยแววตาที่กลมโต
มันมีรูปร่างยาวและมีสีน้ำเงิน อีกทั้งที่ลำตัวของมันก็มีปีกน้อยๆ คู่หนึ่ง
ไอสิ่งที่เรียกว่าปีกนั้นหากดูดีๆ มันดูเหมือนครีบฉลามมากกว่า และปีกนี้ยังดูโปร่งใสอยู่
ตัวของมันปกคลุมไปด้วยเกล็ดแต่กลับไม่สะท้อนแสง
มันมีขาเล็กๆ แต่กลับมีกรงเล็บสามอัน
“มีปีกมีหางแบบนี้ใช้สัตว์อสูรน้ำจริงๆ งั้นหรอ”
หยู่เฟ่ยหยานพูดขึ้นอย่างสงสัย
“แต่ดูๆ ไปมันก็น่ารักดีนะ”
ซิไป่ฉีก้าวเข้าไปใกล้สัตว์อสูรตัวน้อย
“ระวัง…”
หยู่เฟ่ยหยานดึงแขนของซิไป่ฉีเอาไว้ก่อนที่เธอจะลูบหัวของมัน
“มันเป็นตัวอะไรก็ไม่รู้ หากผิวหนังของมันมีพิษขึ้นมาจะไม่แย่เอางั้นหรอ”
“ให้โหย่วเฟ่ยลองสัมผัสดูก่อน พิษทำอะไรเธอไม่ได้”
ซิไป่ฉีพูดขึ้นพร้อมกับทำหน้าหงุดหงิดเล็กน้อย
โหย่วเฟ่ยสามารถต้านทานพิษได้ เพราะงั้นเธอจึงไม่ต้องกลัวเรื่องพิษ
“ได้”
โหย่วเฟ่ยได้ยินก็ขานรับ และจะเดินเข้าไปสัมผัสตัวมันดู แต่ก็ถูกมู่เหลียงห้ามเอาไว้
“ไม่ต้อง ฉันเอง”
มู่เหลียงยื่นมือออกไปวางบนหัวของสัตว์อสูรอย่างอ่อนโยน
สัตว์อสูรก็ไม่ได้ต่อต้านมันยอมให้มู่เหลียงสัมผัสหัวมัน
เหยา เหยา
มันส่งเสียงร้องออกมา
เสียงร้องของมันประหลาดจัง”
ฮู่เตียนรู้สึกประหลาดใจนี้เป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินเสียงสัตว์อสูร้องแบบนี้
-ตรวจพบ มังกรทะเลระดับ 3 ต้องการฝึกหรือไม่-
ได้มีเสียงเตือนดังขึ้นในหัวของมู่เหลียง
“ฝึก”
มู่เหลียงพูดเบาๆ
-ทำการฝึก-
-ฝึกมังกรทะเลระดับ 3 สำเร็จใช้แต้มฝึกฝน 10 แต้ม-
แล้วผิวของมังกรทะเลก็เปล่งแสงขึ้น แสดงถึงว่ามันถูกรับเลี้ยงแล้ว
-ต้องการสืบทอดความสามารถของมังกรทะเล : พลังจ้าวสมุทร หรือไม่-
พลังจ้าวสมุทร?
นัยน์ตาของมู่เหลียงเป็นประกาย และรู้สึกว่าชื่อนี้ดูน่าเกรงขามอย่างมาก
“รับ”
-ทำการถ่ายทอดความสามารถสู่ร่างเจ้านาย…ปรับปรุง…สำเร็จ-