ตอนที่แล้วบทที่ 74 คุกวิญญาณ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 76 สระโอสถ

บทที่ 75 เจตนากระบี่


หกปีก่อน หมู่บ้านดอกท้อ

เซี่ยคั่นฮวาดื่มจนเมามายอีกครั้ง นอนพิงต้นดอกท้อ กึ่งหลับกึ่งตื่น

ใต้ต้นดอกท้อ เด็กหนุ่มในชุดขาวยังคงฝึกชักกระบี่อย่างไม่หยุดหย่อน

พวกเขาอยู่ร่วมกันมาหลายวันแล้ว เด็กหนุ่มผู้นี้คล้ายเซี่ยคั่นฮวาในวัยเยาว์มาก เปิดเผย มองโลกในแง่ดี และชาญฉลาด

แม้ว่าช่วงก่อนหน้านี้ พ่อแม่บุญธรรมของเขาไม่ได้สอนหนังสือหรือวิชาความรู้ใดๆ ให้ แต่บัดนี้เขาสามารถเขียนอักษรได้อย่างงดงาม และท่องบทกวีเก่าแก่ได้อย่างคล่องแคล่ว

ทว่ามีบางครั้งที่เด็กหนุ่มไม่เหมือนเขา โดยเฉพาะตอนที่ฝึกกระบี่

เด็กหนุ่มคนนี้…

ช่างงุ่มง่ามเกินไป

ช่างยึดติดเกินไป

“เจ้าก็เคยเห็นวิชากระบี่ของข้าแล้ว” เซี่ยคั่นฮวาหาวเสียงยาว

“ยอดเยี่ยมมาก” เด็กหนุ่มตอบกลับ

“แต่ข้าให้เจ้าแค่ฝึกชักกระบี่ซ้ำไปซ้ำมา ข้าไม่ได้สอนวิชากระบี่ของข้าให้เจ้าเลย” เซี่ยคั่นฮวากล่าว พลางสะอึกเบาๆ

“อาจารย์ย่อมมีเหตุผล” เด็กหนุ่มพูดพลางวาดกระบี่ออกอีกครั้ง ปลายกระบี่ฟาดฟันกลีบดอกท้อที่ร่วงหล่นจนขาดสะบั้น

เซี่ยคั่นฮวาถอนหายใจ ก่อนจะกระโดดลงจากต้นดอกท้อ ฝุ่นดอกท้อฟุ้งกระจายไปทั่ว เขาคว้ากระบี่จากมือเด็กหนุ่ม แกว่งเพียงครั้งเดียว ดอกท้อทั้งหมดที่ปลิวว่อนไปในอากาศถูกบดขยี้จนกลายเป็นผุยผงในพริบตา

เขากล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“ข้าคือเจตนากระบี่อันดับหนึ่งในบนยุทธภพ เจ้าจำได้หรือไม่ว่าข้าเคยพูดว่าอะไรคือเจตนากระบี่?”

“เจตนากระบี่คือหัวใจที่ปรารถนาฆ่าคน” เด็กหนุ่มตอบเสียงเข้ม

“ถูกต้อง เจตนากระบี่คือหัวใจที่ปรารถนาฆ่าคน” เซี่ยคั่นฮวากล่าว พร้อมสะบัดแขนเสื้อด้วยท่วงท่าสง่างาม “แต่เจ้าเห็นข้าตอนนี้ มีท่าทางเหมือนคนอยากฆ่าคนสักนิดหรือไม่?”

เด็กหนุ่มมองเซี่ยคั่นฮวาที่อยู่ตรงหน้า รอยยิ้มบนใบหน้าของเขา แววตาอ่อนโยน เครื่องแต่งกายขาวสะอาดเหมือนบัณฑิตผู้สง่างาม ดูอย่างไรก็ไม่เหมือนมือกระบี่ที่มุ่งฆ่าฟัน

“ไม่” เด็กหนุ่มส่ายหน้า

“แล้วตอนนี้ล่ะ?”

ทันใดนั้น เซี่ยคั่นฮวายกกระบี่ขึ้นชี้ตรงไปที่เด็กหนุ่ม ในชั่วขณะนั้น เด็กหนุ่มรู้สึกว่าต้นดอกท้อสั่นสะเทือนจนเข่าเกือบทรุด แต่เพียงพริบตาเดียว เซี่ยคั่นฮวาก็เสียบกระบี่กลับลงพื้น เขาย่อตัวลง ลูบศีรษะเด็กหนุ่มด้วยรอยยิ้มอบอุ่น

“เวลาจับกระบี่ จงคิดถึงสิ่งที่ทำให้เจ้ามีความสุข และเก็บหัวใจที่อยากฆ่าไว้สำหรับตอนที่ต้องฆ่าจริงๆ เมื่อนั้นเจ้าจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น”

“อาจารย์ ท่านเองก็มีคนที่อยากฆ่าใช่ไหม?” เด็กหนุ่มถาม

“มีสิ หลายคนเลย” เซี่ยคั่นฮวากล่าวพร้อมหันหลังกลับ “แต่ตอนนี้ข้าทำอะไรไม่ได้ ต้องรอให้เจ้ามีฝีมือก่อน แล้วเราค่อยไปหาพวกนั้นและให้พวกเขาชดใช้ในสิ่งที่ทำ”

“พวกนั้นคือศัตรูของข้าด้วยหรือ?” เด็กหนุ่มถามด้วยความจริงจัง

“ใช่ พวกมันเป็นคนที่ทำให้พ่อแม่ของเจ้าต้องตาย” เซี่ยคั่นฮวาแหงนหน้ามองฟ้า

“มีบางแค้นที่ต้องชำระไม่วันใดก็วันหนึ่ง”

เด็กหนุ่มชะงัก ก่อนจะเอ่ยถาม

“ในหมู่พวกนั้น มีคนที่หน้าผากมีปานดำเล็กๆ ไม่ค่อยเห็นชัด ที่หลังมือซ้ายมีรอยแผลเป็นจากคมดาบ และที่หางตาขวามีไฝหรือไม่?”

เซี่ยคั่นฮวาขมวดคิ้ว

“คนๆ นั้นเป็นใคร?”

“คนที่ฆ่าลุงเฉินในวันนั้น” เด็กหนุ่มตอบ “ลุงเฉินปล่อยกระบี่สุดท้ายออกไปจนทำให้เขาบาดเจ็บ แต่เขาไม่ตาย จากนั้นเขาตามเรามาและฆ่าป้าเฉียน”

“ลุงเฉิน…ป้าเฉียน…” เซี่ยคั่นฮวาพึมพำ

“ลุงเฉินเป็นพ่อบุญธรรมของข้า เขาไม่ให้ข้าเรียกเขาว่าพ่อ ให้เรียกเขาว่าลุง ส่วนป้าเฉียนก็เหมือนกัน แต่ในใจข้า พวกเขาคือพ่อแม่ของข้า” เด็กหนุ่มกล่าวหนักแน่น “คนที่ท่านกำจัดในวันนั้น ไม่มีเขาอยู่ในกลุ่มนั้น”

เซี่ยคั่นฮวาเข้าใจในที่สุด เด็กหนุ่มที่ดูเหมือนไร้กังวลนี้ แท้จริงแล้วไม่เคยลืมวันที่มืดมนที่สุดในชีวิต เขาฝึกชักกระบี่ครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อจินตนาการถึงศัตรูในวันนั้น

เซี่ยคั่นฮวาหัวเราะเบาๆ

“ลืมสิ่งเหล่านี้ไปก่อน ซ่อนไว้ในใจ รอจนถึงวันที่เจ้าต้องการปล่อยหัวใจที่อยากฆ่าออกมา เมื่อนั้นเจตนากระบี่ของเจ้าจะน่ากลัวที่สุด”

“ขอรับ” เด็กหนุ่มยิ้ม

“วันหนึ่งข้าอาจจะจากเจ้าไปอย่างกะทันหัน เมื่อถึงเวลานั้น เจ้าจงตามหาศัตรูของเจ้าให้จบ แล้วเมื่อเราพบกันอีกครั้ง เราจะไปสะสางเรื่องของเราด้วยกัน” เซี่ยคั่นฮวากล่าวพร้อมหันหลัง

“ตกลงไหม?”

“ตกลง!” เด็กหนุ่มพยักหน้าหนักแน่น

เซี่ยคั่นฮวาเอนกายจิบสุรา ในใจระลึกถึงบทสนทนาที่เขามีกับซูไป๋อีเมื่อหกปีก่อน หลังจากวันนั้น ซูไป๋อีก็ไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องแก้แค้นอีกเลย เวลาหกปีผ่านไป ราวกับเหตุการณ์เลวร้ายในวันนั้นไม่เคยเกิดขึ้น

“เขาคงเข้าใจแล้วว่าทำไมข้าถึงต้องจากเขาไปอย่างกระทันหัน” เซี่ยคั่นฮวาจิบสุราอีกคำ

“เขาไปที่ อาณาจักรต้าเจ๋อ” เหอเหลียนซีเยว่กล่าว

“ถ้าเช่นนั้น เขาคงได้พบเซียนปราชญ์แล้ว และคงรู้แล้วว่าคัมภีร์เซียนกระจัดกระจายอยู่ที่ใดบ้าง อาณาจักรต้าเจ๋อคือที่ที่เขาจำเป็นต้องไป” เซี่ยคั่นฮวาพูดขณะโยนถั่วลิสงเข้าปาก

“ลูกสาวของเจ้าก็อยู่ที่นั่น” เหอเหลียนซีเยว่กล่าวต่อ

มือของเซี่ยคั่นฮวาชะงักเล็กน้อย แต่ไม่นานนักเขาก็หยิบถั่วลิสงขึ้นมาอีกเม็ด พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงลึกซึ้ง

“ไม่เป็นไร เราต้องได้พบกันอีกครั้ง”

เหอเหลียนซีเยว่หัวเราะเบาๆ ก่อนจิบสุราอีกคำ

จากความมืดลึกในคุกวิญญาณ เสียงชายลึกลับดังขึ้น ขว้างไหสุรากลับมา

“ไม่มีใครที่เจ้าจะได้พบแน่นอนหรอก ถ้าอยากพบก็ไปพบเอง”

อาณาจักรต้าเจ๋อ เมฆาสางสวรรค์

เฟิงอวี่หานจ้องมองซูไป๋อีอยู่นาน ก่อนถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“เจ้ารู้หรือไม่ว่าคำพูดของเจ้าอาจนำพาภัยมาสู่ตัวเจ้าได้เพียงใด?”

ซูไป๋อียิ้มบางๆ

“คนที่อยากฆ่าข้ามีเท่าไร? ข้าคิดว่าคนที่อยากจับตัวข้าคงมีมากกว่า อีกอย่าง ผู้ฝึกคัมภีร์เซียนก็ไม่ได้มีแค่ข้าคนเดียว ท่านเจ้าสำนักเฟิงเองก็คงเคยฝึกเช่นกัน”

เฟิงอวี่หานไม่ได้ตอบ เพียงหันหลังเปิดช่องลับข้างเตียงก่อนเดินลงไป ซูไป๋อีรีบตาม แต่ถูกเฟิงหว่านเอ๋อร์ยื่นมือขวางไว้ นางถาม

“เจ้ารู้ตั้งแต่แรกแล้วหรือว่าข้าเชิญเจ้ามาเพราะมีจุดประสงค์อื่น?”

“แน่นอน! ท่านป้าเฟิงสายตาแหลมคมยิ่ง ต่อให้ท่านมองข้าเป็นสารถี แต่ไม่มีทางมองศิษย์พี่ข้าซึ่งงดงามและมีฝีมือขนาดนั้นเป็นสาวใช้แน่ ท่านป้าเฟิงไม่ได้เปิดโปงพวกเรา ยังช่วยให้เราหลุดเข้ามาในตระกูลเฟิงได้สำเร็จ ข้าคิดว่าท่านป้าต้องอยู่ฝ่ายเดียวกับเจ้าสำนักเฟิงแน่นอน” ซูไป๋อีตอบด้วยรอยยิ้ม

“ที่แท้เจ้าก็คิดได้ลึกซึ้งนัก จากท่าทีบนรถม้าข้าคิดว่าเจ้าเป็นเพียงเด็กหนุ่มซื่อๆ เสียอีก” เฟิงหว่านเอ๋อร์ยื่นมือมาแตะปลายคางของเขา

ซูไป๋อีหน้าแดงเล็กน้อย

“ไม่นึกว่าท่านป้าจะแสดงละครได้แนบเนียนถึงเพียงนี้…”

“ข้ามิได้แสดงละคร” เฟิงหว่านเอ๋อร์ยิ้มหวาน “ทุกอย่างที่ข้าทำล้วนมาจากใจจริง”

“ข้าขอลา!” ซูไป๋อีรีบหันหลังเดินตามเฟิงอวี่หานเข้าสู่ช่องลับโดยไม่หันกลับมาอีก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด