ตอนที่แล้วบทที่ 44 จุดพลังดวงที่ห้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 46 โจวไป๋เอาจริง

บทที่ 45 ภาพลวงกระดาษ


บทที่ 45 ภาพลวงกระดาษ

เสียงดังลั่นที่เกิดขึ้นกะทันหันทำให้โจวไป๋รีบลุกขึ้นยืนทันที เขาหันมองไปยังทิศทางของเสียง แต่กำแพงกลับดูเหมือนไม่ได้รับความเสียหายเลยแม้แต่น้อย

แม้สถานการณ์ดูสงบ แต่โจวไป๋ไม่ลดการ์ดของตนลง เพราะพร้อมๆ กับเสียงนั้น กลิ่นเหม็นรุนแรงก็กระจายไปทั่วห้อง ทำให้เขารู้สึกระแวงอย่างที่สุด

แทนที่จะเตรียมพร้อมสู้ทันที โจวไป๋เลือกเดินไปที่ประตูหน้าห้อง ตั้งใจจะเปิดประตูออกไปขอความช่วยเหลือ

นี่คือโรงเรียนเต๋าตงฮว่า หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน การขอความช่วยเหลือย่อมเป็นการตอบโต้ที่มีประสิทธิภาพที่สุด

แต่เมื่อเขาเอื้อมมือไปจับลูกบิดประตู ความรู้สึกไม่ดีพลันเกิดขึ้น — ประตูถูกล็อก!

โจวไป๋ไม่รอช้า เขาปล่อยพลังแห่งวิญญาณที่สามารถพลิกรถยนต์ให้คว่ำลงได้ กระแทกเข้าใส่ประตูไม้อย่างเต็มแรง แต่ถึงจะมีเสียงกระแทกดังสนั่น ประตูกลับไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน

“เป็นไปไม่ได้! ประตูไม้ธรรมดาแค่นี้ พลังแห่งวิญญาณของฉันน่าจะพังมันได้ในพริบตา”

เขาขมวดคิ้ว ปลุกพลังทั้งร่าง กระดูกสั่นสะเทือน กล้ามเนื้อบิดตัว ร่างกายทั้งหมดของเขาพุ่งชนประตูอีกครั้งพร้อมพลังแห่งวิญญาณ

เสียงดัง โครม! กระแทกเต็มกำลัง แต่ประตูกลับยังคงไม่ไหวติง มีเพียงร่างของเขาที่แทบจะชาจากแรงสะท้อนกลับ

สิ่งที่น่าประหลาดยิ่งกว่าคือ เสียงดังขนาดนี้ แต่กลับไม่มีใครมาดูเหตุการณ์ ห้องทั้งห้องรวมถึงทางเดินด้านนอกยังคงเงียบสงัด เหมือนเขาถูกตัดขาดออกไปจากโลกภายนอก

โจวไป๋มองไปรอบๆ ห้องอย่างเคร่งเครียด

‘แย่แล้ว... พลังแบบนี้มันเกินกว่าที่ฉันจะรับมือได้’ เขาคิด ‘หลี่ซิ่วจู... หวังว่านายแค่สาย ไม่ใช่เบี้ยวนัดนะ’

ขณะเดียวกัน กลิ่นเหม็นในอากาศยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนไอชากระโดดหอนและเห่าใส่ประตูห้องน้ำ

โจวไป๋หันไปมองทันที ด้วยความที่เขาเป็นนักเรียนโรงเรียนเต๋าตงฮว่า ห้องพักของเขาจึงมีห้องน้ำในตัว แต่การที่ไอชาทำตัวผิดปกติแบบนี้ ทำให้เขาอดสงสัยไม่ได้ว่ามีอะไรบางอย่างซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำ

ในขณะที่ความคิดนั้นผุดขึ้นมา เสียง ปึง! ก็ดังจากประตูห้องน้ำ

“มีบางอย่างอยู่ในนั้น!” โจวไป๋ตกใจ เขาตะโกนเรียกแมวขาวในหัวของเขา “เฮ้ย คริสตินา! ตื่นเร็วเข้า! มีบางอย่างไม่ชอบมาพากลที่นี่!”

แต่คริสตินาไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง ยังนอนขดตัวเป็นก้อนกลมอยู่ในจิตของเขา

เสียงเคาะที่ประตูห้องน้ำเริ่มดังถี่ขึ้น แรงกระแทกมากขึ้นทุกที คล้ายกับว่ามีบางสิ่งกำลังพยายามพังประตูออกมา

โจวไป๋รีบคว้าตัวไอชาไปหลบด้านหลัง พลางคิดหาวิธีรับมือ

“ไม่ได้การ... การที่ทำให้ห้องนี้ถูกปิดตายแบบนี้ พลังของอีกฝ่ายมันเหนือชั้นเกินไป ฉันไม่สามารถต่อกรกับมันได้เลย…”

แต่แล้วเขาก็นึกขึ้นมาได้

“เดี๋ยวสิ... หากมันแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ การฆ่าฉันก็เหมือนฆ่าหมู ทำไมมันต้องเสียเวลาทำแบบนี้ด้วย? ทำไมไม่ใช้เวทมนตร์จัดการฉันให้จบๆ ไป?”

“หรือว่า... มันอาจจะไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่เห็น”

เมื่อเริ่มสงบสติอารมณ์ลง โจวไป๋ก็เริ่มไตร่ตรองเนื้อหาที่เขาเคยเรียนรู้

“ทุกศาสตร์แห่งเต๋าล้วนมีร่องรอยให้ติดตามได้เสมอ”

เขาเริ่มพยายามสัมผัสการเปลี่ยนแปลงของพลังงานวิญญาณในห้อง ตามหลักการพื้นฐานที่เขาเคยเรียน

สายตาของเขาเริ่มจับภาพบางอย่างได้ เมื่อมองอีกครั้ง ทุกสิ่งรอบตัวดูเหมือนถูกปกคลุมด้วยแสงสีหม่นจางๆ

“ไม่ถูกต้อง...” โจวไป๋หันมองไอชา แล้วพบว่ามันไม่มีร่องรอยของพลังวิญญาณเลย ดูเหมือนเป็นเพียงสุนัขธรรมดาตัวหนึ่งเท่านั้น

“มีบางอย่างผิดปกติ... หรือว่านี่จะเป็นภาพลวงตา?”

โจวไป๋นึกถึงภาพลวงตาที่เขาเคยพบเจอในการทดสอบรอบสองตอนเข้าเรียน เพื่อพิสูจน์ความคิดของตัวเอง เขาจึงนอนราบลงกับพื้น

“ตามหลักการ ตอนนี้ควรจะเลยเที่ยงคืนไปแล้ว ถ้าฉันนอนลง ค่าความขี้เกียจควรจะเพิ่มขึ้น... แต่…”

เขาจ้องมองไปที่ค่าความขี้เกียจบนหน้าจอ ซึ่งไม่มีการเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย

“จริงอย่างที่คิด... ทั้งหมดนี่คือภาพลวงตา ฉันถึงขั้นต้องใช้หน้าจอช่วยดูว่าตัวเองนอนลงหรือยัง ภาพลวงตานี่เก่งกว่าที่คิด”

โจวไป๋เลิกคิ้วขึ้น นึกถึงสิ่งที่เคยเรียนในหลักสูตรพื้นฐานเกี่ยวกับมายา

“ภาพลวงตาเกิดจากการใช้พลังงานแห่งวิญญาณรบกวนประสาทสัมผัสทั้งห้า”

“ลองตรวจสอบดูสิ มันต้องมีร่องรอยให้จับได้”

เขาเริ่มปล่อยพลังแห่งวิญญาณให้แผ่ขยายออกไปสัมผัสรอบๆ และทันใดนั้นก็รู้สึกถึงความแตกต่าง

พลังแห่งวิญญาณสามารถสัมผัสพลังงานในอากาศได้โดยตรง

เมื่อพลังของเขาสัมผัสกับสิ่งรอบตัว โจวไป๋พบว่าอากาศรอบๆ เต็มไปด้วยพลังงานแห่งวิญญาณที่เข้มข้นผิดปกติ หนาแน่นกว่าปกติในห้องของเขา และพลังงานนั้นยังบิดเบือนการรับรู้ของพลังวิญญาณอีกด้วย

“เป็นภาพลวงตาจริงๆ” เขาพูดพลางมองไปยังประตูห้องน้ำที่เสียงเริ่มเบาลงเรื่อยๆ

“ถ้าอย่างนั้น สิ่งทั้งหมดนี่ก็แค่กลลวงเพื่อขู่ฉัน?”

เมื่อคิดได้ โจวไป๋เริ่มสงบสติอารมณ์ เสียงเคาะประตูห้องน้ำก็ค่อยๆ ลดลงจนเงียบสนิทในที่สุด

เขาถอนหายใจเบาๆ “ดูเหมือนฉันจะคิดถูกแล้ว”

แต่ในวินาทีถัดมา โลกทั้งใบของเขาสั่นสะเทือนราวกับเกิดแผ่นดินไหว พร้อมกับแรงสั่นที่ทำให้เขาหลับตาโดยอัตโนมัติ

“โจวไป๋? ตื่นได้แล้วหรือยัง?”

เสียงของหลี่ซิ่วจูดังขึ้น ทำให้โจวไป๋ลืมตา และพบว่าหลี่ซิ่วจูกำลังยืนอยู่ตรงหน้า ใบหน้าเขาดูเคร่งขรึม ขมวดคิ้วจนเป็นร่อง

“นายมาแล้ว?” โจวไป๋พูด “เมื่อกี้ฉันถูกดึงเข้าไปในภาพลวงตา ฉัน…”

หลี่ซิ่วจูขัดจังหวะ  “ฉันรู้ ฉันขัดขวางอีกฝ่ายไว้ได้แล้ว นั่นทำให้ภาพลวงตาถูกทำลาย”

“อีกฝ่าย? หมายถึงคนที่อยู่ห้องข้างๆ ใช่ไหม?”

หลี่ซิ่วจูพยักหน้า “ประมาณนั้น ไปดูเองแล้วนายจะเข้าใจ”

โจวไป๋ชะงักเล็กน้อย ท่าทางของหลี่ซิ่วจูดูเหมือนมีบางอย่างผิดปกติ

เขาเดินออกจากห้องมองไปยังห้องข้างๆ ที่ประตูเปิดอ้า แสงสีแดงสดส่องออกมาท่วมจนร่างของโจวไป๋ดูเหมือนถูกย้อมไปด้วยสีเลือด

กลิ่นเหม็นรุนแรงกระแทกเข้าจมูกทันที ทำให้เขาเข้าใจในที่สุดว่าต้นตอของกลิ่นเหม็นก่อนหน้านี้มาจากที่นี่

เมื่อเข้าไปในห้อง โจวไป๋พบว่าผนังทุกด้านถูกปิดทับด้วยกระดาษยันต์สีแดง ซึ่งแผ่แสงสีเลือดระยิบระยับ มันเป็นต้นตอของแสงสีแดงในห้อง

แต่สิ่งที่ดึงดูดสายตาของเขามากที่สุดคือเด็กสาวที่ถูก "ติด" ไว้กับผนัง

เพียงได้เห็น เด็กสาวคนนั้น หัวใจของโจวไป๋ก็เต้นรัวแรง

ใบหน้าของเด็กสาวขาวซีดเหมือนกระดาษ จากลำคอไล่ลงไป สีผิวดูขาวขึ้นเรื่อยๆ จนผิดธรรมชาติ ราวกับร่างกายทั้งหมดของเธอถูกสร้างจากกระดาษ

ที่น่ากลัวไปกว่านั้น กลิ่นเหม็นรุนแรงก็ยังคงโชยออกมาจากร่างของเธอ คล้ายกับกลิ่นซากศพที่เน่าเปื่อยมาหลายเดือน...

..........

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด