ตอนที่แล้วบทที่ 34 คำพูดของผู้เฒ่าไม่เคยหลอกลวง!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 36 นี่...จะไม่ยอดเยี่ยมไปหน่อยหรือ

บทที่ 35 ปิดใจตรึงรัก ตัดไฟแต่ต้นลม!


คัมภีร์สตรีวิสุทธิ์เป็นเคล็ดวิชาช่วยฝึกฝนขอสำนักสตรีเวิ่นเยว่ หนึ่งในสำนักโบราณ ซึ่งถือเป็นพื้นฐานสำคัญของสำนักแห่งนี้ ผู้ที่ฝึกฝนเคล็ดวิชานี้ไปเรื่อย ๆ จะมีบุคลิกที่เยือกเย็นขึ้นเรื่อย ๆ

สำนักสตรีเวิ่นเยว่เป็นหนึ่งในสำนักโบราณที่มีเพียงศิษย์หญิงเท่านั้น และในยุคโบราณ นับเป็นหนึ่งในสำนักที่แข็งแกร่งที่สุด ทุกคนในสำนัก ตั้งแต่เจ้าสำนัก ผู้อาวุโส ไปจนถึงศิษย์ ล้วนเป็นหญิงงามล้ำเลิศทั้งสิ้น

"พวกเราผู้บำเพ็ญเพียรควรตั้งมั่นในเส้นทางแห่งเซียน อย่าได้หลงเดินในทางแห่งกิเลสตัณหา"

"ศิษย์พี่ ท่านจะเข้าใจความหวังดีของข้าในภายหลังแน่นอน"

ในหอคัมภีร์ ฉินเฟิงเผยรอยยิ้มบางพลางส่ายศีรษะ เขารู้ดีว่าหลินโหยวที่เพิ่งเริ่มฝึกฝนคัมภีร์สตรีวิสุทธิ์ย่อมยังไม่รู้ถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น จนกว่าจะสายเกินไป

เดิมที เขาแค่อยากให้หลินโหยวยอมแพ้ไปเอง แต่สตรีนางนี้กลับไม่ยอมแพ้ ไม่เพียงแต่ดื้อดึง ยังคิดจะใช้เล่ห์เหลี่ยมกับเขา หวังจะได้สิทธิ์เข้าถึงตำราโดยไม่เสียแต้ม

เช่นนี้ ข้าคงต้องทำให้นางรู้สำนึก!

เคล็ดวิชานี้มีคำอธิบายที่ฟังดูดีว่า จะทำให้จิตใจสงบนิ่งขึ้น แต่แท้จริงแล้ว มันเป็นเคล็ดวิชาของสำนักนางชีที่จะปิดกั้นหัวใจมิให้รักใครได้อีก

ข้าจะดูว่านางยังจะใช้กลอุบายกับข้าได้อีกหรือไม่!

ข้าจะตัดปัญหานี้ให้หมดสิ้น!

ฉินเฟิงรู้สึกว่านี่เป็นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด อีกทั้ง ผู้อาวุโสเซียวก็ยังไม่ได้สังเกตเห็นเรื่องนี้ ทำให้เขารู้สึกโล่งใจมากขึ้น

"ไม่ได้การ หากข้าเจอศิษย์หญิงเช่นนี้อีก ข้าต้องระวังให้มากกว่านี้"

"มีคำกล่าวว่า ยืนใกล้น้ำย่อมเปียกเป็นธรรมดา หากถูกผู้อาวุโสเซียวจับได้ ข้าอาจถูกลงโทษก็เป็นได้"

แม้ว่าปัญหาหลินโหยวจะถูกจัดการแล้ว แต่ฉินเฟิงก็ไม่คิดว่าแผนนี้จะใช้ได้ตลอดไป เขาตัดสินใจว่าจะใช้มันเฉพาะในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น และหากต้องทำ ก็จะต้องตัดไฟแต่ต้นลม

"อืม... ตัดไฟตั้งแต่ต้นลม!"

"ข้าคือผู้พิทักษ์หอคัมภีร์ที่เที่ยงตรงและซื่อสัตย์!"

...

...

...

"ศิษย์พี่เดินช้า ๆ ศิษย์น้องจะไปเยี่ยมในวันหน้า"

เฉียนหงค้อมกายคารวะส่งศิษย์พี่ทั้งสองก่อนหันหลังกลับไปยังเรือนพักของตน

แตกต่างจากศิษย์รับใช้และศิษย์สำนักชั้นนอก ที่พักของศิษย์สองระดับนั้นเป็นเพียงห้องธรรมดา ต่างกันเพียงศิษย์นอกมีพื้นที่กว้างขวางกว่า แต่ศิษย์สำนักชั้นในสามารถครอบครองเรือนพักของตนเอง พร้อมห้องฝึกฝนแยกต่างหาก

เมื่อศิษย์สำนักชั้นในต้องการฝึกฝน สามารถเปิดใช้ค่ายกลป้องกันเพื่อป้องกันการรบกวนจากภายนอกได้อีกด้วย

"ศิษย์น้องเฉียนหงยุ่งมากจริง ๆ ช่วงนี้ข้าเห็นผู้คนเข้าออกเรือนพักของเจ้าตลอดเวลา"

ขณะที่เฉียนหงกำลังจะก้าวเข้าสู่เรือนของตนเอง เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้ร่างของเขาชะงัก

เมื่อครู่ไม่มีใครอยู่ใกล้ ๆ นี่นา!

แต่ชั่วพริบตากลับมีผู้ที่แข็งแกร่งกว่าตนเองมาถึงโดยที่เขาไม่รู้ตัว!

เฉียนหงสูดลมหายใจลึกก่อนหันกลับไป สายตาเผยความตกตะลึง

"ที่แท้ก็เป็นศิษย์พี่หวัง เชิญเข้ามาด้านในเถิด"

เฉียนหงระงับความตกใจ รีบเชิญแขกเข้ามาในเรือนของตน

หวังจ้าน ศิษย์สำนักนิกายชั้นใน ผู้มีพลังระดับขอบเขตแสงวิญญาณขั้นเก้าสูงสุด เป็นศิษย์อันดับสามของสำนัก

ไม่เพียงเท่านั้น ยังเคยมีผู้อาวุโสขอบเขตบูชาสวรรค์ต้องการรับเขาเป็นศิษย์ แต่เขากลับปฏิเสธ

ในสายตาของเขา มีเพียงผู้ที่อยู่เหนือขอบเขตบูชาสวรรค์อย่างกึ่งเซียนเท่านั้น ที่คู่ควรแก่การเป็นอาจารย์ของเขา

ความมั่นใจนี้ไม่ได้มาจากสิ่งอื่นใด นอกจากพลังของเขาเอง และฐานรากของเขาที่อยู่ในระดับดินบริสุทธิ์ ซึ่งสูงกว่าศิษย์ทั่วไป

การบรรลุขอบเขตสร้างรากฐานมีสามระดับ คือ รากฐานธรรมดา ที่ใช้โอสถสร้างรากฐาน รากฐานดิน ที่ใช้พลังหยวนปีศาจแห่งธาตุทั้งห้า และ รากฐานสวรรค์ ที่ใช้พลังหยวนแท้จากฟ้าดิน

ในระดับรากฐานดิน ยังมีการแบ่งแยกระดับเช่นกัน

เช่นเดียวกับหวังจ้านและโจวอวี้ ศิษย์ที่เพิ่งเลื่อนสู่ศิษย์สำนักนิกายชั้นนอก พวกเขาทั้งคู่มีฐานรากจากพลังหยวนปีศาจเพียงธาตุเดียว แม้จะเป็นรากฐานดิน แต่ก็ไม่แข็งแกร่งเท่ากับผู้ที่ใช้พลังหยวนปีศาจจากหลายธาตุรวมกัน

หวังจ้านที่ยืนอยู่เบื้องหน้าเขานั้น มีฐานรากที่แข็งแกร่งเหนือกว่าใคร เมื่อเข้าสู่ขอบเขตสร้างรากฐาน เขาสามารถรวมพลังหยวนปีศาจแห่งธาตุทั้งห้าครบถ้วน จนกลายเป็นรากฐานห้าธาตุ ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดของรากฐานดิน

ดังนั้น หากเขาฝึกฝนตามปกติ ย่อมสามารถก้าวขึ้นเป็นศิษย์หลัก หรือแม้กระทั่งศิษย์สายตรงได้อย่างง่ายดาย และยังมีโอกาสสูงที่จะได้รับตำแหน่งบุตรศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย

แต่เพียงตำแหน่งบุตรศักดิ์สิทธิ์ยังไม่ใช่จุดสูงสุด เหล่าผู้ที่อยู่ในลำดับศักดิ์สิทธิ์ต่างหาก ที่ถือเป็นยอดอัจฉริยะอันดับหนึ่งของเหล่าศิษย์ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ทุกคนล้วนเป็นที่เลื่องลือไปทั่วทั้งแผ่นดิน

คนเหล่านี้มีสถานะเทียบเท่าผู้อาวุโสสำนักชั้นใน นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมหวังจ้านจึงไม่คิดจะคารวะผู้อาวุโสสำนักชั้นในเป็นอาจารย์ของตน

"แม้ศิษย์น้องจะยังไม่ได้เข้าสู่สำนักชั้นใน แต่ชื่อเสียงของเจ้าก็ล่วงล้ำไปถึงหูข้าในสำนักชั้นในแล้ว"

หวังจ้านเดินเข้ามาในเรือนพักของเฉียนหง ก่อนจะนั่งลงบนแท่นหิน พลางชี้นิ้วไปยังที่นั่งฝั่งตรงข้าม เฉียนหงจึงนั่งลงตาม

"ศิษย์พี่ยกย่องข้ามากเกินไป ข้ามิได้อยากมีชื่อเสียง หากเลือกได้ ข้าคงไม่ต้องการให้ใครรู้จักข้าเลยด้วยซ้ำ"

เฉียนหงรู้สึกประหม่า เหงื่อเริ่มซึมออกจากฝ่ามือ เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดหวังจ้านจึงมาหาตน ทั้งที่แม้เขาจะมีศักยภาพเหนือกว่าศิษย์สำนักนอกทั่วไป แต่ก็ไม่น่าถึงกับให้ผู้ที่มีรากฐานห้าธาตุและกำลังจะเป็นศิษย์หลักของสำนักต้องมาพบด้วยตนเอง

"เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าไม่มีเจตนาอื่น เพียงแค่มาทำความรู้จักเท่านั้น"

"ศิษย์ใหม่ทุกคนที่เข้าสู่สำนักชั้นใน เรามักจะทำความรู้จักกันไว้ เพื่อวันข้างหน้าจะได้ช่วยเหลือกัน"

"การบำเพ็ญเพียร มิใช่เส้นทางที่ต้องเดินเพียงลำพัง แต่เป็นการเดินทางที่ต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน"

คำพูดของหวังจ้านทำให้เฉียนหงถึงกับตกตะลึง เขาไม่คาดคิดว่าผู้ที่มีพรสวรรค์ระดับสูงเช่นหวังจ้านจะกล่าวเช่นนี้ได้

"ศิษย์พี่กล่าวได้ถูกต้อง ข้าน้อมรับคำสั่งสอน"

"ดี เช่นนั้นข้าจะไปก่อน!"

หวังจ้านลุกขึ้น หัวเราะพลางตบไหล่เฉียนหงก่อนจะก้าวเดินออกจากเรือน แต่เมื่อก้าวออกไปเพียงสองก้าว เขากลับหยุดชะงัก

"ข้าได้ยินมาว่า คัมภีร์พลังแรกกำเนิดที่เจ้าฝึกอยู่นั้น ผู้พิทักษ์หอเป็นคนหาให้เจ้าหรือ?"

"อ่า... ใช่แล้ว แต่ข้าเป็นคนร้องขอเอง"

เฉียนหงไม่เข้าใจว่าหวังจ้านถามเช่นนี้เพราะเหตุใด จึงได้แต่ตอบตามตรง

"ผู้พิทักษ์หอคนใหม่ช่างน่าสนใจไม่น้อย"

หวังจ้านโบกมือไม่ให้เฉียนหงส่ง พลางก้าวออกจากเรือน ในชั่วพริบตา ร่างของเขาหายไปจากสายตา

เฉียนหงยังคงยืนอึ้งอยู่กับที่ แม้หวังจ้านจะอยู่เพียงขอบเขตแสงวิญญาณขั้นสูงสุด แต่พลังของเขานั้นไม่อาจวัดค่าได้เพียงแค่ขอบเขตนี้เท่านั้น

ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าเมฆาเป็นหนึ่งในห้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งทวีปตะวันออก ศิษย์ที่นี่ล้วนเป็นอัจฉริยะเหนือธรรมดา ไม่อาจเปรียบเทียบกับสำนักทั่วไปได้

...

...

...

ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าเมฆา

ภายในหนึ่งในสี่สถาบันหลัก หอโอสถ

"ลุงหลี่ ท่านมาที่นี่ทำไมกัน?"

"ก่อนหน้านี้ท่านยังบอกอยู่ว่า ถ้ายังไม่พบศิษย์ที่คู่ควรสืบทอดวิชาของท่าน ท่านจะไม่กลับมาที่หอโอสถอีกไม่ใช่หรือ?"

"หรือว่า... ท่านเจอศิษย์แล้ว?"

ภายในหอโอสถ หญิงสาวรูปร่างเย้ายวนเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อเห็นหลี่มู่

บัดซบ! ทำไมข้าต้องมาเจอนางเข้า! วันนี้คงเป็นวันโชคร้ายของข้าแน่แท้!

เมื่อเห็นหญิงสาวผู้นี้ สีหน้าของหลี่มู่กระตุกทันที เขากำหมัดแน่น ขบฟันจนเกือบแตกด้วยความไม่พอใจ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด