ตอนที่แล้วบทที่ 29 โอสถหนึ่งลวดลาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 31 หัวใจแหลกสลาย

บทที่ 30 เจ้าเห็นข้าเป็นคนเช่นนั้นหรือ?


"ผู้อาวุโสเซียว ผู้น้อยศิษย์จางเทา!"

"ผู้น้อยศิษย์เซียวจาง!"

"พวกเราต้องการเข้าสู่ชั้นที่สองของหอคัมภีร์ นี่คือป้ายศิษย์ของพวกเรา!"

อีกด้านหนึ่ง ผู้อาวุโสเซียวมองศิษย์นอกสองคนตรงหน้า พลางตกอยู่ในภวังค์ความคิดชั่วครู่ หากเขาจำไม่ผิด เจ้าเด็กสองคนนี้เพิ่งเข้ามาในชั้นที่สองของหอคัมภีร์เมื่อไม่นานมานี้มิใช่หรือ?

ไม่สิ... หรือช่วงนี้ศิษย์นอกของสำนักต่างพากันร่ำรวยขึ้น? ถึงได้มีแต้มคะแนนเหลือเฟือกันหมด เริ่มใช้แต้มกันอย่างฟุ่มเฟือยแล้วหรือไร? ถ้ามีแต้มมากนัก ก็ไปที่ชั้นสามของหอคัมภีร์สิ! จะมัวแต่จ้องอยู่ที่ชั้นสองทำไม? หรือว่ามีสมบัติล้ำค่าซ่อนอยู่ในชั้นสองกัน? เหตุใดข้าถึงไม่เคยรู้มาก่อน!

แม้จะคิดเช่นนั้น แต่เขาก็ไม่ได้ถามเหตุผลว่าทำไมสองคนนี้จึงกลับมาอีกภายในไม่กี่วัน แค่คิดก็รู้แล้วว่า หากมีคนเอาแต้มคะแนนมาให้ เขาก็ไม่มีเหตุผลต้องไล่พวกมันออกไป

ยิ่งไปกว่านั้น ช่วงนี้เขาสังเกตเห็นว่าบรรยากาศในหมู่ศิษย์ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์เปลี่ยนไป แทนที่จะพากันฝึกฝนและขวนขวายหาแต้ม กลับเริ่มปล่อยตัวใช้ชีวิตอย่างสุขสำราญแทน ในฐานะผู้บำเพ็ญตน นี่เป็นพฤติกรรมที่ยอมรับไม่ได้โดยสิ้นเชิง

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ให้พวกมันใช้แต้มคะแนนให้หมดไปเสียเถิด พอแต้มหมดแล้วก็จะได้ตั้งใจกลับไปฝึกฝนหาแต้มใหม่

เมื่อคิดได้เช่นนี้ ผู้อาวุโสเซียวก็ตัดสินใจเด็ดขาด หักแต้มของพวกเขาไปคนละ 480 แต้ม

"ข้ามองดูแล้ว พวกเจ้าอยู่ห่างจากขอบเขตแสงวิญญาณเพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้น ชั้นสองไม่มีอะไรให้พวกเจ้าเรียนรู้อีกแล้ว ไปชั้นสามเสียเถิด!"

หลังจากกล่าวจบ เขาขว้างป้ายศิษย์กลับคืนให้ทั้งสองคน แล้วสะบัดมือเบา ๆ ประตูหอคัมภีร์พลันเปิดกว้าง ลมแรงพัดโหมจนสองคนถูกส่งเข้าไปด้านในโดยไม่ทันตั้งตัว

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันทำให้ทั้งสองคนถึงกับตะลึงงัน จนเมื่อพวกเขาเห็นแต้มคะแนนในป้ายศิษย์ของตนลดลงไป 480 แต้ม เซียวจางก็รู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบจนเจ็บปวด ใบหน้าเหยเกจนแทบจะบิดเบี้ยว

"ไม่ใช่นะ! ผู้อาวุโส ข้ายังอยู่เพียงขอบเขตสร้างรากฐานขั้นแปดเท่านั้น ข้ายังไม่ได้ถึงขั้นเก้าเลย!"

"แต้มของข้า~~~!"

"แต้มของข้าาา~~!"

เซียวจางมองดูป้ายศิษย์ที่เหลือแต้มคะแนนเพียงไม่ถึง 1,500 แต้ม ความรู้สึกคับแค้นใจพุ่งทะยานขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ในเวลาเพียงไม่กี่วัน แต้มของเขาหายไปกว่า 1,100 แต้ม!

ในขณะที่จางเทานั้น ถึงกับรู้สึกเหมือนความดันโลหิตพุ่งสูงขึ้นทันที ยามที่เขาฝึกวิชาพิฆาตหยินจนร่างกายเปลี่ยนไปจนไม่อาจแยกแยะเพศได้ เขายังไม่เคยหัวร้อนเท่านี้มาก่อน

480 แต้ม... ศิษย์รับใช้ต้องใช้เวลาหนึ่งปีจึงจะสะสมได้เพียง 12 แต้ม ส่วนศิษย์นอกจะได้รับเพียง 60 แต้มต่อปี แต้มเหล่านี้สำหรับศิษย์นอกธรรมดาคนหนึ่งต้องสะสมถึงแปดปี! แม้แต่เขาที่ขยันทำภารกิจเพื่อหาแต้ม ก็ยังต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งถึงสองปี หรืออย่างช้าสามถึงสี่ปีจึงจะได้แต้มเหล่านี้มา

คิดมาถึงตรงนี้ มือของจางเทากำแน่นด้วยความขุ่นเคือง ทว่าเมื่อคิดถึงพลังลึกล้ำที่ไม่อาจหยั่งถึงของผู้อาวุโสเซียว เขาก็ต้องค่อย ๆ คลายหมัดลงไปเอง

"หืม? โอ้สวรรค์! ศิษย์พี่เซียวจางกับศิษย์พี่จางเทาหรือ?"

"ทำไมถึงเป็นพวกเจ้าสองคน?"

ทางด้านฉินเฟิง หลังจากที่เขาหลอมโอสถสร้างรากฐานได้สำเร็จพร้อมกับปรากฏลวดลายโอสถ ก็รู้สึกพึงพอใจยิ่งนัก เขาวางแผนจะเก็บโอสถสร้างรากฐานไว้กับตนเองส่วนหนึ่ง ที่เหลือจะส่งมอบให้ผู้อาวุโสเซียวเพื่อช่วยขายต่อให้ ด้วยตำแหน่งผู้พิทักษ์หอของเขา ทำให้ไม่อาจออกจากหอคัมภีร์ได้โดยง่าย

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่เขาไปซื้อวัตถุดิบโอสถมาก่อนหน้านี้ ผู้อาวุโสเซียวเองก็ทราบเรื่องนี้ดี ดังนั้นการฝากโอสถให้ผู้อาวุโสเซียวช่วยขาย จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

อย่างไรเสีย ผู้อาวุโสใหญ่ของหอคัมภีร์ก็คงไม่คิดจะยักยอกโอสถของเขาหรอกกระมัง?

ทว่าไม่คาดคิดเลยว่า เพิ่งจะหลอมโอสถเสร็จหมาด ๆ ก็ได้รับข่าวจากผู้อาวุโสเซียวว่ามีศิษย์สองคนเข้ามาในหอคัมภีร์ เมื่อออกจากห้องมาก็พบว่าคนทั้งสองคือเซียวจางและจางเทา พอเห็นเช่นนี้ ฉินเฟิงก็รู้สึกใจคอไม่ดีขึ้นมาทันที คนสองคนนี้คงไม่ได้มาหาเรื่องเขาหรอกกระมัง?

ข้าเป็นผู้พิทักษ์หอคัมภีร์ พวกเขาจะกล้าหาเรื่องข้าได้อย่างนั้นหรือ?

เซียวจางเมื่อเห็นฉินเฟิงก็รีบกลั้นความเจ็บปวดจากการเสียแต้มคะแนนเอาไว้ แล้วกล่าวอย่างรวดเร็ว

"ศิษย์น้อง เราสองคนมาวันนี้ก็เพื่อขอความช่วยเหลือจากเจ้า"

"เจ้าพอจะช่วยหาวิชาฝึกฝนสักเล่มให้เราได้หรือไม่? ขอเป็นวิชาที่ทรงพลัง แต่มีจุดบกพร่อง ข้อผิดพลาด หรือผลกระทบร้ายแรงก็ได้ วิทยายุทธ์หรือทักษะลับก็ย่อมได้ทั้งนั้น"

"???"

ฉินเฟิงมองเซียวจางที่แสดงแววตาจริงใจอย่างผิดปกติ เขาถึงกับนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ

นี่มันคำขออะไรกัน เจ้าได้ยินตัวเองพูดบ้างหรือไม่?

ก่อนหน้านี้ที่ข้าหาวิชาเตาหลอมหยางและวิชาพิฆาตหยินให้พวกเจ้าสองคนก็ไม่ใช่ความตั้งใจแต่แรก!

แล้วนี่พวกเจ้าสองคนสมคบกันมาทดสอบข้าอย่างนั้นหรือ?

"ไม่ใช่ ข้าดูเหมือนคนเช่นนั้นหรือ?"

"ไม่ได้! เด็ดขาดไม่ได้!"

ฉินเฟิงปฏิเสธอย่างหนักแน่น ก่อนหน้านี้ทุกอย่างเป็นเพียงความผิดพลาดโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ถ้าคราวนี้เขาตอบตกลง เช่นนั้นก็ถือว่าเป็นความจงใจ หากผู้อาวุโสเซียวจับได้ งานของเขาคงไม่เหลือแน่

สองคำ: ยุติธรรม ซื่อตรง

ข้าไม่มีทางยอมรับได้!

"อย่านะ ศิษย์น้อง ข้าขอร้องเจ้าได้หรือไม่!"

"พวกเราทุ่มหมดตัวกับเรื่องนี้จริง ๆ!"

"ศิษย์น้องช่วยศิษย์พี่เถิด ข้ารับรองว่าจะไม่มีใครล่วงรู้เรื่องนี้!"

เซียวจางโผเข้ากอดขาฉินเฟิง ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นโดยไม่ยอมปล่อยแม้แต่น้อย

ฉินเฟิงถึงกับชะงัก เจ้าจะนึกภาพออกหรือไม่ว่าถูกชายร่างใหญ่กอดขาแน่นหนาขนาดนี้? จิตใจของเขาแทบระเบิดออกมาทันที

"ปล่อยข้า!"

"ข้าไม่ปล่อย!"

"ปล่อยข้า ข้าเป็นคนมีศักดิ์ศรี!"

"ข้าไม่ปล่อย ข้าไม่มีศักดิ์ศรี!"

โอ้สวรรค์! ฉินเฟิงเพิ่งเคยพบคนที่ดื้อด้านเช่นนี้เป็นครั้งแรก!

ด้านข้าง จางเทาเองก็ถึงกับอึ้งจนไม่อยากจะมอง แต่เพื่อให้ตนเองเป็นที่จดจำในสายตาผู้อาวุโสเซียว เขาก็ค่อย ๆ ขยับไปอีกฝั่งของฉินเฟิงอย่างสงบ แล้วเลียนแบบเซียวจาง กอดขาเขาอีกข้างไว้แน่น

"???"

"พอแล้ว ข้าตกลงก็ได้!"

ฉินเฟิงถอนหายใจยาว ก่อนจะมองทั้งสองคนแล้วกล่าวออกมา

"จริงหรือ?"

"จริง ตอนนี้ปล่อยข้าได้แล้วใช่หรือไม่?"

เมื่อได้รับคำตอบยืนยันจากฉินเฟิง สองคนก็รู้สึกเขินอายเล็กน้อย ก่อนจะรีบลุกขึ้นยืน

"พวกเจ้าจะไปชั้นสามของหอคัมภีร์ใช่หรือไม่? พอดีมีสองเคล็ดวิชาที่เหมาะกับพวกเจ้าคือวิชาใจน้ำแข็ง และ วิชาตะวันเพลิง"

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ความเจ็บปวดจากการเสียแต้มคะแนนของเซียวจางและจางเทาก็คลายลงไปบ้าง

หลังจากฉินเฟิงบอกตำแหน่งของเคล็ดวิชาให้ทั้งสองคน เขาก็หันกายกลับเข้าห้องไปทันที

วันนี้ออกจากห้องโดยไม่ได้ดูฤกษ์จริง ๆ! เจอสองคนนี้เข้าไป นับว่าซวยสุด ๆ! ต่อไปข้าจะไม่ก้าวออกจากห้องโดยไม่ดูฤกษ์อีกแล้ว!

"ขอบคุณศิษย์น้อง!"

"ศิษย์น้องมีพระคุณ ศิษย์พี่จะจดจำไว้ตลอดชีวิต!"

จากนั้นทั้งสองคนก็พุ่งตรงไปยังหอคัมภีร์ชั้นสาม โดยไม่ต้องให้ฉินเฟิงบอก พวกเขาก็รู้เองว่าผู้ใดควรได้วิชาใจน้ำแข็ง และผู้ใดควรได้วิชาตะวันเพลิง พวกเขารีบจดจำเคล็ดวิชาเหล่านี้อย่างรวดเร็วในเวลาที่เหลืออยู่ ก่อนจะออกจากหอคัมภีร์ไปด้วยความฮึกเหิม

ผู้อาวุโสเซียวมองดูพวกเขาจากด้านหลัง พลางเกิดความสงสัยขึ้นมา พวกเขาสองคนเข้าใจเจตนาดีของเขาจริง ๆ หรือ? จึงตั้งใจค้นหาเคล็ดวิชาวิทยายุทธ์ที่เหมาะสมเพื่อมุ่งมั่นฝึกฝน?

หากเป็นเช่นนั้นจริง ก็นับว่าไม่เลว พวกเจ้าทั้งสองยังมีจิตใจใฝ่ฝึกฝน

ขณะเดียวกัน ฉินเฟิงที่เพิ่งได้รับแต้มคะแนนสี่สิบแต้ม ก็ก้าวออกจากห้อง ตรงไปยังด้านหน้าหอคัมภีร์ และมุ่งหน้าไปหาผู้อาวุโสเซียว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด