ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป
บทที่ 2 ตระกูลหลี่


บทที่ 1 การเริ่มต้น 


หลู่เจียงเซียนฝันยาวนานเหลือเกิน ในฝันนั้นเขาเห็นตัวเองกำลังปลูกข้าวในท้องนา เห็นประกายดาบและเงากระบี่ เห็นสำนักเซียน หญิงสาว และทะเลสาบขนาดใหญ่

“มอบเคล็ดวิชา ‘พลังไท่อิน’ และ ‘คัมภีร์บันทึกจันทรา’ ออกมา แล้วพวกเราจะเพียงแค่ทำลายพลังบำเพ็ญของเจ้าเท่านั้น”

เสียงผู้หญิงอันไพเราะแต่เย็นชาแว่วเข้ามาข้างหู หลู่เจียงเซียนมองเห็นใบหน้าที่เลือนลางรางๆ แต่ก็ไม่อาจเห็นได้ชัดเจน

“ครืนน!”

ความสั่นสะเทือนรุนแรงปลุกหลู่เจียงเซียนจากความฝัน

สีสันหลากหลายประหลาดผุดขึ้นในสมอง หลู่เจียงเซียนพยายามลืมตาและลุกขึ้น แต่ร่างกายกลับเหมือนถูกกดทับด้วยความฝันร้ายจนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย

ในขณะนั้นแสงขาวเจิดจ้าส่องผ่านความมืดดำที่หนาแน่น แม้ความมืดจะพยายามไหลเข้ามาอย่างไร แต่เสาแสงนั้นยังคงตั้งตระหง่านอยู่เสมอราวกับดวงอาทิตย์ที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา

อักขระสีทองอันหนาแน่นพวยพุ่งออกมาจากแสงนั้น พวกมันคลี่ตัวในความมืดและกระจายราวกับดวงดาวทั่วท้องฟ้า

“ช่างงดงามเหลือเกิน” หลู่เจียงเซียนคิดอย่างเหม่อลอย

เมื่ออักขระปรากฏมากขึ้นจนถึงจุดหนึ่ง เขาก็ได้ยินเสียงเหมือนกระจกแตก

โลกสว่างขึ้น

หลู่เจียงเซียนมองเห็นท้องฟ้ากว้างใหญ่ดั่งท้องทะเล เห็นป่าโบราณหนาทึบสุดลูกหูลูกตา ไม่ไกลนักมีทะเลสาบขนาดเล็กที่มีรูปร่างคล้ายพระจันทร์เสี้ยวและในทิศทางนั้นแสงสีขาวสายหนึ่งพุ่งลงสู่ทะเลสาบที่ระยิบระยับ

ด้านล่างนั้นมีบ้านหลังเล็กๆที่ทำจากฟางข้าวและทุ่งนากว้างใหญ่

สายตาที่หมุนเวียนอย่างรุนแรงทำให้หลู่เจียงเซียนรู้สึกราวกับนกน้อยที่บินผ่านหมู่บ้านเล็กๆสีเหลืองน้ำตาลบินผ่านหมอกควันและลำธารใสสะอาด

ในชั่วพริบตาหลู่เจียงเซียนมองเห็นเงาของตัวเองในลำธาร

“ดูเหมือนจะเป็นสิ่งกลมๆที่เปล่งแสง” เขาคิดอย่างสับสน ความรู้สึกบางอย่างผุดขึ้นมาในใจ

“ฉันไม่ได้เป็นมนุษย์แล้ว?”

“ซ่า!”

การสั่นสะเทือนรุนแรงอีกครั้งทำให้หลู่เจียงเซียนตกลงไปในน้ำ ลำธารที่ตื้นเกินไปไม่อาจรองรับแรงกระแทกได้ทั้งหมดทำให้เขากระแทกลงบนก้อนหินที่ก้นลำธารเบาๆ

การกระแทกครั้งนี้ทำให้หลู่เจียงเซียนรู้สึกราวกับมีใครต่อยที่หน้าอก อึดอัดหายใจไม่ออก แต่ร่างกายของเขากลับหมุนพลิกอย่างมั่นคงด้วยแรงปะทะของน้ำ กลายเป็นนอนหงายขึ้นเผชิญหน้ากับดวงอาทิตย์ที่สะท้อนอยู่บนผิวน้ำ

“ฉันไม่ได้กำลังทำงานล่วงเวลาแก้แบบที่ห้องเช่าอยู่หรอกหรือ?”

หลู่เจียงเซียนมองดวงอาทิตย์ที่สะท้อนบนผิวน้ำอย่างนิ่งเงียบ สายน้ำที่เชี่ยวกรากทำให้ลวดลายของแสงที่ก้นน้ำบิดเบี้ยวไปมา

เขาค่อยๆหวนคิดถึงความทรงจำในอดีตอย่างเงียบงัน หลู่เจียงเซียนรู้สึกปวดศีรษะ จำได้แค่ว่าตัวเองล้มลงบนเตียงด้วยความอ่อนล้า ควันบุหรี่และแสงนีออนจากห้องเช่ารอบตัวทำให้เขารู้สึกสับสน

เขาเปิดเบียร์ขวดหนึ่งนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ที่มืดสลัว พร้อมกับความรู้สึกเวียนหัวที่เหมือนโลกหมุน ใจเต้นรัว หายใจลำบากขึ้นเรื่อยๆ

“เหมือนฉันจะ…ตายแล้ว?”

“ก็ดีเหมือนกันนะ ไม่ต้องกังวลเรื่องอนาคต ไม่ต้องคิดถึงชีวิตอีก”

บางทีอาจเพราะอัดอั้นมานาน ความคิดเช่นนี้จึงผุดขึ้นในใจของหลู่เจียงเซียน ทำให้เขารู้สึกปลอดโปร่งอย่างประหลาด

เขามองไปรอบๆ เห็นยอดไม้สีเขียวเข้ม ปลาเล็กที่ว่ายน้ำอย่างรวดเร็วอยู่ใกล้ผิวน้ำและได้ยินเสียงน้ำกระทบกันเบาๆคล้ายเสียงดนตรี

หลู่เจียงเซียนถอนหายใจยาว

“ถ้าต้องอยู่แบบนี้ต่อไปคงน่าเบื่อจนแทบบ้าแน่”

เขามองดูดวงอาทิตย์ค่อยๆเลื่อนจากกลางศีรษะลงต่ำ แสงอาทิตย์ยามเย็นสาดส่องเต็มท้องฟ้า ผืนน้ำใต้ยอดไม้ค่อยๆมืดลงทีละน้อย

ระหว่างนั้นมีปลาสองตัวว่ายเวียนรอบตัวเขาอย่างอยากรู้อยากเห็น แม้แต่ปูตัวหนึ่งก็พยายามพลิกร่างของเขา

จนกระทั่งดวงจันทร์เลื่อนขึ้นสู่ยอดไม้ แสงจันทร์สว่างใสทอดแสงอ่อนโยนลงบนผิวน้ำ หลู่เจียงเซียนรู้สึกประหลาดใจที่สัมผัสได้ถึงลมหายใจเย็นสดชื่นซึมผ่านไปยังก้นแม่น้ำ มอบความรู้สึกสบายบางอย่างอย่างชัดเจน

เขาเห็นแสงจันทร์ค่อยๆรวมตัวกันเหนือร่างกายของเขา และแสงนั้นก่อตัวเป็นแสงจันทร์สีขาวบางๆ ราวกับสิ่งมีชีวิตหลุดพ้นจากความตาย หลู่เจียงเซียนรู้สึกตกใจจนอารมณ์ภายในเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง

“นี่มันอะไร ดูดกลืนพลังแห่งดวงอาทิตย์และดวงจันทร์หรือ? โลกนี้มีเซียน มีวิชามหัศจรรย์ มีอสูร และภูตผีจริงๆหรือ?” เขาคิดอย่างตกตะลึง

“ถ้าอย่างนั้นเรากลายเป็นอะไรไปแล้ว…วัตถุแห่งวิญญาณหรือ?”

ความอยากรู้อยากเห็นและความยินดีพลันผุดขึ้นในใจของหลู่เจียงเซียน แสงจันทร์ที่บางเบานั้นค่อยๆสะสมพลังจนมากพอและลอยลงมาบนร่างของเขา

เขารู้สึกถึงความเย็นสบายไปทั่วร่างกายและเข้าสู่สภาวะเหมือนหลับเหมือนไม่หลับราวกับเข้าสู่สมาธิ

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร กระแสพลังเริ่มเบาบางลง หลู่เจียงเซียนสะดุ้งตื่น ดวงจันทร์เสี้ยวได้ลับหายไปจากฟากฟ้า ดวงอาทิตย์สาดแสงอบอุ่นบนผืนน้ำยามรุ่งเช้า

“เร็วเหลือเกิน”

หลู่เจียงเซียนยิ้มด้วยความปิติ เมื่อสำรวจดูอย่างละเอียด เขาพบว่าภายในร่างกายของเขามีกระแสพลังบางๆไหลวนอยู่รอบขอบร่างกายในลักษณะหมุนวน

เมื่อหลู่เจียงเซียนรวบรวมสมาธิและพินิจดู เขาเห็นกระจกสีเทาอมเขียวนอนอยู่เงียบๆที่ก้นแม่น้ำ เบื้องล่าง กระจกมีกรวดหลากสีเรียงราย ปลาสองสามตัวกำลังหาอาหารและปูตัวหนึ่งกำลังกัดแซะดิน

เขามองเห็นทุกสิ่งในรัศมีหนึ่งเมตรรอบตัวได้ไม่ชัดเจนมากนัก ภาพที่ปรากฏราวกับทีวีจอหนาในวัยเด็ก

“นี่คือสิ่งที่เราเป็นในตอนนี้สินะ” หลู่เจียงเซียนยิ้มเจื่อนๆก่อนจะควบคุมกระแสพลังให้หยุดนิ่งตรงกลางกระจก กระจกสีเทาอมเขียวเปล่งแสงอ่อนๆออกมา

“นอกจากแสงที่เปล่งออกมาก็ยังไม่เห็นว่าจะมีประโยชน์อะไร”

“เริ่มต้นด้วยการดูดกลืนพลังแสงจันทร์ไปก่อน บางทีอาจมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้น” เขาคิดเงียบๆ

“ไม่รู้ว่าวัสดุของกระจกนี้คืออะไรและโลกภายนอกจะมองว่าวัตถุที่มีสติปัญญาแบบนี้เป็นอย่างไร ขออย่าให้ผู้บำเพ็ญใดมาพบแล้วทำลายจิตสำนึกของฉันเลย”

ในความสงบขณะที่กระจกตั้งตรงอยู่ น้ำรอบๆไหลราวกับเรือที่ล่องอยู่กลางฟ้า

(จบบท)

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด