ตอนที่ 71 : นำสู่สงคราม
.
.
เฉินหลิงอยู่ข้างๆ เฝ้าดูเหยียนซีไฉดูดซับออร่าจิตสังหารจากผู้คุมกฎ ดวงตาของเขาพลันลุกโชนราวกับคบเพลิง
.
สามารถทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอ?
เฉินหลิงรู้สึกประหลาดใจมาก
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นทักษะของเส้นทางเทพเจ้าวิถีตำรา เพียงแค่คำๆ เดียวก็สามารถตรึงร่างกายและปล้นออร่าจิตสังหารได้...แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าคำว่า "กลืน" สามารถนำไปใช้กับสิ่งอื่นได้หรือไม่ แต่จากที่อีกฝ่ายแสดงให้เห็นจนถึงตอนนี้ เมื่อดูจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงมันก็ไม่น้อยไปกว่า "ไร้รูป" เลย
ไม่รู้ว่าผูเหวินคนนี้อยู่ระดับไหนแล้ว?
ด้านหนึ่งเฉินหลิงดูละคร ในขณะที่หลายคนให้ความสนใจกับเหยียนซีไฉ ในมุมเงียบๆ เฉินหลิงก็กลายเป็นแมงมุมและคลานออกจากหุบเหว...
ดูดซับออร่าจิตสังหารจากผู้คุมกฎในช่วงสั้นๆ เหยียนซีไฉรู้สึกว่าระดับของเขาเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มันเป็นความรู้สึกโล่งใจและเต็มไปด้วยความมั่นใจที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน เขาเดินไปที่ผู้คุมกฎคนที่สองทันทีและเริ่มดูดซับมันอีกครั้ง
ออร่าจิตสังหารสิบเส้น
ออร่าจิตสังหารยี่สิบสองเส้น
ออร่าจิตสังหารสามสิบห้าเส้น...
หลังผู้คุมกฎสูญเสียออร่าจิตสังหารก็ล้มลงกับพื้นอย่างช่วยไม่ได้ ดวงตาของเหยียนซีไฉเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด และมีรัศมีดุร้ายอย่างอธิบายไม่ได้ไหลออกมาจากร่างกายของเขา!
ออร่าจิตสังหารถูกรวบรวมอยู่ในร่างกายของเขามากขึ้นเรื่อยๆ แต่เส้นทางเทพเจ้าวิถีทหารก็ยังคงไม่ตอบสนอง ดังนั้นความรู้สึกหงุดหงิดรุนแรงก็แล่นเข้ามาในหัวใจของเขา
"ยังไม่พอ ยังไม่พอ!"
เหยียนซีไฉดูดกลืนออร่าจิตสังหารอีกครั้ง เขาผลักผู้คุมกฎที่เพิ่งดูดกลืนลงไปที่พื้น จากนั้นก็คว้าไหล่ผู้คุมกฎคนต่อไป
“เหลือกี่เส้นบนตัวของนาย?”
“สิบ...สิบห้าเส้น” เห็นได้ชัดว่าผู้คุมกฎตกใจกลัวและพูดตะกุกตะกัก
เหยียนซีไฉกดฝ่ามือลงบนหน้าอกโดยไม่พูดอะไรสักคำ และออร่าจิตสังหารก็ไหลเข้าสู่ร่างกายของเขาผ่านกระแสน้ำวนระหว่างฝ่ามือของเขา
เสี่ยวเจี่ยนซึ่งถูกมีดกรีดแก้มเป็นคนที่มีออร่าจิตสังหารน้อยที่สุดและอยู่ในอันดับสุดท้ายในบรรดาคนอื่นๆ เขาเฝ้าดูเหยียนซีไฉค่อยๆ เข้ามาด้วยตาของเขาเอง หัวใจเต้นกระหน่ำ
“ยังไม่พอ! เหลืออีกอันสุดท้าย...เหลืออันสุดท้าย!”
เหยียนซีไฉดูดกลืนจิตสังหารของผู้คุมกฎคนที่เจ็ดเสร็จ แต่เส้นทางเทพเจ้าวิถีทหารก็ยังไม่ตอบสนอง เขาก้มหน้าลงแล้วรีบไปหาเสี่ยวเจี่ยนด้วยตาสีแดงก่ำ
“นายมีกี่เส้น!”
“เจ็ด...เจ็ดเส้น”
“มีเจ็ดเส้นแค่นั้นเหรอ?” ใบหน้าที่ดุร้ายของเหยียนซีไฉเกือบจะสัมผัสใบหน้าของเสี่ยวเจี่ยน
"ขยะ!"
เขากระถืบเสี่ยวเจี่ยนลงบนพื้น ฝ่ายหลังรู้สึกเพียงฝ่ามือที่กดด้วยความรุนแรงบนหน้าอกของเขา และมีแรงดูดที่มาจากฝ่ามือ!
"ดูดกลืนไม่ได้“ทันใดนั้นเสียงของผูเหวินก็ดังขึ้น”เขาไม่เปิดใจและเห็นด้วยกับคำว่า [กลืน]”
รูม่านตาของเหยียนซีไฉหดลงเล็กน้อย เขาเหยียบหน้าอกของเสี่ยวเจี่ยนอย่างแรง และคำราม
“อะไรนะ นายกำลังทำอะไรอยู่ ! คายออร่าจิตสังหารของนายออกมา! !”
เสี่ยวเจี่ยนตกตะลึงกับลูกเตะของเหยียนซีไฉ จิตใจของเขาว่างเปล่าไปชั่วขณะ
"นายไม่อยากเป็นผู้คุมกฎแล้วใช่มั้ย นายเชื่อมั้ยว่าฉันสามารถฆ่าทั้งครอบครัวของนายได้ด้วยคำพูดแค่คำเดียว?” เสียงคำรามของเหยียนซีไฉ กลับมาอีกครั้งราวกับสัตว์ป่าคำรามในหูของเสี่ยวเจี่ยน
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา รูม่านตาของเสี่ยวเจี่ยนก็หดตัวลงทันที
การต่อสู้ดิ้นรนปรากฏทั่วใบหน้าของเขา แต่ในที่สุดเขาก็ผ่อนคลายร่างกายและปล่อยให้คำว่า "กลืน" ดูดกลืนออร่าจิตสังหารออกจากร่างกายของเขา
ด้วยการสูญเสียออร่าจิตสังหารอย่างรวดเร็ว ความมั่นใจในตนเองและศักดิ์ศรีของเขาก็พลันหายไป และความว่างเปล่าอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนก็เข้ามาในใจของเขา แม้กระทั่ง...
เขาไม่แม้แต่อยากขยับนิ้ว เขาทรุดตัวลงกับพื้นอย่างอิดโรย
เหยียนซีไฉเพิ่งดูดกลืนออร่าจิตสังหารครั้งสุดท้ายไป ดวงตาของเขาแดงก่ำราวกับเลือด ในตอนนี้เขาเป็นเหมือนคนขายเนื้อที่เพิ่งก้าวออกจากทะเลเลือด การมองเพียงครั้งเดียวของเขาอาจทำให้ทารกหยุดร้องไห้ได้
เขาถ่มน้ำลายใส่เสี่ยวเจี่ยนที่นิ่งเหมือนศพอย่างแรง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรุนแรงและความขุ่นเคือง
หลังจากใช้คำว่า "กลืน" หลายครั้งในคราวเดียว ผูเหวินมองไปยังเหยียนซีไฉซีไฉตรงหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า สภาพอารมณ์เหยีนนซีไฉเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ผูเหวินขมวดคิ้วแน่น...
เขาหมกมุ่นอยู่กับออร่าจิตสังหาร แต่เขายังไม่สามารถดึงดูดเส้นเทพเจ้าวิถีทหารเลยเหรอ?
ด้วยการปล้นออร่าแบบนี้ เหยียนซีไฉต้องมีออร่าจิตสังหารมากที่สุดในบรรดาคนที่เข้าในคลังโบราณทั้งหมดสิ ดูจากผู้คุมกฎก่อนหน้านี้ทั้งหมดแล้ว ก็อาจมีไม่มากที่สามารถสะสมออร่าจิตสังหารได้เกือบร้อย ภายใน 24 ชั่วโมง... แต่ถึงอย่างนั้น เส้นทางเทพเจ้าวิถีทหารก็ยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆ
มันลอยสูงเหนือเมฆราวกับจักรพรรดิ์แห่งการสังหารที่ภาคภูมิใจในตนเอง จู้จี้จุกจิก และไม่เห็นเหยียนซีไฉอยู่ในสายตา
"เหยียนซีไฉ คุณโอเคมั้ย” ผูเหวินถาม
“ฉันเหรอ ฉันรู้สึกดีมาก!” ดวงตาของเหยียนซีไฉเป็นสีแดงเลือด เขาหายใจเข้าลึก ๆ และมองดูทับทิมสีเข้มเหนือเมฆ “แต่ฉันสะสมออร่าจิตสังหารได้จะเกือบร้อยแล้ว! ทำไมยังดึงดูดเส้นทางเทพเจ้าไม่ได้อีก!”
"บางที...จำนวนออร่ายังไม่เพียงพอ" ผูเหวินหยุดครู่หนึ่ง "หรือบางที คุณอาจไม่เหมาะกับวิถีทหารจริงๆ"
"นายพูดเพ้อเจ้ออะไร!!”
เหยียนซีไฉเบิกตากว้าง “ฉันถูกเลือกโดยเส้นทางเทพเจ้าวิถีทหาร มันจะไม่เหมาะสมได้ยังไง นั่นเพราะเส้นทางเทพเจ้าวิถีทหารมีความต้องการสูงเกินไป มันต้องเป็นแบบนั้น!”
เขาจ้องมองไปที่พื้นที่ว่างเปล่าสองสามวินาที ก่อนที่จะคลำหาของบนพื้น
“เดี๋ยวก่อน ป้ายคำสั่งของฉันอยู่ที่ไหน!”
เหยียนซีไฉจำได้ชัดเจนว่าก่อนที่เขาจะดูดกลืนออร่าจิตสังหาร เขาวางป้ายคำสั่งลงบนพื้นอย่างระมัดระวัง...ทำไมมันถึงหายไปในพริบตา?
“มีคนอยู่ตรงนั้น!” มีคนตะโกน และทุกคนก็เงยหน้าขึ้นมอง
บนเนินเขาที่อยู่ไม่ไกล เขาเห็นร่างที่คุ้นเคยกำลังถือป้ายคำสั่งอยู่ในมือ เขามองย้อนกลับไปที่เหยียนซีไฉด้วยรอยยิ้มดูถูก...
ผู้ช่วงชิงเปลวไฟหมายเลข 8
ครู่ต่อมา ร่างของเขาก็หายไปจากจุดนั้น
ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าในความว่างเปล่าด้านหลังเขา ใบหน้าที่แทบไม่มีความหนาลอยไปที่พื้นอย่างเงียบ ๆ
.
[ความคาดหวังของผู้ชม +5]
.
ลมหายใจของเหยียนซีไฉเริ่มหนักหน่วงขึ้นทันที!
"ผู้ช่วงชิงเปลวไฟ?!!!" เขากัดฟันและคำราม "แกกำลังรนหาที่ตาย!!"
เหยียนซีไฉดูดกลืนออร่าจิตสังหารไปเกือบร้อย แต่ก็ยังไม่ได้รับความสนใจจากเส้นทางเทพเจ้า เขาไม่มีความสุขอย่างมาก แต่โชคดีที่เขายังมีป้ายคำสั่ง แม้ว่าคราวนี้เขาไม่สามารถก้าวเข้าสู่เส้นทางเทพเจ้าวิถีทหารได้ แต่เขายังสามารถพึ่งพาสถานะของเขาในฐานะ "บุคคลที่เส้นทางเทพเจ้าวิถีทหารเลือก" เมื่อเขานำมันกลับไปที่เมืองออโรร่า มันคือทุกสิ่งทุกอย่างของเขา
แต่ตอนนี้ โอกาสเดียวของเขามันวางอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว แต่กลับถูกแย่งชิงไปโดยผู้ช่วงชิงเปลวไฟคนหนึ่ง
อะไรคือความแตกต่างระหว่างสิ่งนี้กับการขโมยชีวิตของเขาโดยตรง?
“แย่แล้ว พวกมันเล็งเป้ามาที่พวกเราตั้งแต่เมื่อไหร่?” ผูเหวินนิ่งครุ่นคิด “เป้าหมายของพวกเขาคือป้ายคำสั่งงั้นเหรอ?”
“ไอ้พวกผู้ช่วงชิงเปลวไฟเวร!” เหยียนซีไฉเหมือนดังแก๊สที่กำลังจะระเบิด เขาโกรธมาก "คิดว่าฉันกลัวเขาจริงๆ เหรอ บิดาจะ*ไล่ล่ามัน!"
"ใจเย็นๆ เราไม่ใข่คู่ต่อสู้ของพวกเขา"
"เมื่อก่อนอาจใช่ แต่ตอนนี้ไม่จำเป็นแล้ว มีผู้คุมกฎตั้งเยอะที่เข้ามาในคลังโบราณ หรือฉันไม่สามารถควบคุมพวกเขาได้!” เหยียนซีไฉพูดอย่างดุร้าย
“มีเงินก็ใช้ผีโม่แป้งได้**...ถ้าผู้ช่วงชิงเปลวไฟกล้าเอาป้ายคำสั่งของฉันไป บิดาก็จะเอาชีวิตพวกมัน!”
.
.
.
*คำเรียกตัวเองอย่างภาคภูมิ (คำหยาบเช่น กู มึง) หรือคำเรียกแทนตัวเองของชายผู้สูงอายุ
**มีเงินใช้ผีโม่แป้งได้ เป็นสำนวนจีนเชิงลบ ใช้เงินทำเรื่องไม่ดี