บทที่ 577: กฎ
ความคิดแรกของเฉียวซางคือ เรื่องที่พ่อของหมอนั่นถูกปราการเหล็กไร้พ่ายทำลายพันธสัญญา มันก็ยังไม่ได้ผ่านไปนานขนาดนั้นเลยนี่นา ยังเรียนมัธยมอยู่เลย ตอนแรกเธอนึกว่ามันเป็นเรื่องเก่าเก็บไปแล้วซะอีก
ความคิดต่อมาคือ ดูเหมือนหมอนี่จะมีอคติกับสายพันธุ์เหยี่ยวเกราะเหล็กเพราะเหตุการณ์ของพ่อเขาแน่ๆ จ้องอยู่นานขนาดนี้ไม่เหนื่อยบ้างรึไง?
ซูเลียสพูดต่อ:
“เขาชื่อซีริโล ทอมป์สัน เป็นนักเรียนของโรงเรียนซาเฮอร์ ได้ยินมาว่าเขาคิดว่าคนที่ทำสัญญากับเหยี่ยวเกราะเหล็กน่ะ เป็นพวกไร้สมอง”
เฉียวซางที่ได้ยินก็เผลอหลุดปากโพล่งออกมา
“เขาคิดว่าพ่อตัวเองไม่มีสมองงั้นเหรอ?”
ซูเลียสหัวเราะเบาๆ
“อันนี้ฉันก็ไม่รู้นะ”
เฉียวซางมองไปที่เขา ก่อนจะอดแซวไม่ได้ว่า
“ดูนายจะรู้เรื่องนี้ดีจังนะ”
ซูเลียสยิ้มตอบ
“พ่อเขาเคยเป็นผู้ฝึกสัตว์อสูรระดับมืออาชีพที่ดังมาก ตอนเกิดเรื่องนี้ขึ้น สื่อต่างก็เล่นข่าวกันสนั่นเลย ครอบครัวเขาโดนสัมภาษณ์ตามติดอยู่นานมาก ลูกชายเขาหน้าขึ้นจอข่าวบ่อยขนาดนั้น ถ้าไม่จำหน้าได้ก็แปลกแล้ว”
อย่างนี้นี่เอง… เฉียวซางหันไปมองกงเป่าที่อยู่เงียบๆข้างๆ ราวกับไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น แต่ก็ไม่ได้คิดจะเก็บมันกลับเข้าตำราอสูรแต่อย่างใด
คนอื่นไม่ชอบเหยี่ยวเกราะเหล็กมันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ?
ภายใต้การนำทางของอาสาสมัคร ทั้งหกคนเดินผ่านประตูหน้า ลัดเลาะอ่างน้ำพุ และเข้าสู่ตัวอาคารสีขาวที่มีสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกคลาสสิก
“ที่นี่คือสถานที่ที่จะใช้จัดการแข่งขันแลกเปลี่ยนต่อจากนี้ค่ะ” อาสาสมัครสาวพูดขณะพาพวกเขาไปยังที่นั่งแถวที่ 3 โซน C ก่อนจะชี้ไปยังที่นั่งซึ่งติดป้าย “โรงเรียนมัธยมปลายไซแนนท์” ว่า “ตรงนี้คือที่ของพวกคุณค่ะ”
เมื่อทั้งหกคนจับจองที่นั่งเรียบร้อยแล้ว อาสาสมัครสาวก็ไม่ได้จากไป แต่กลับนั่งลงข้างๆอาจารย์แมกกี้
มองไปรอบๆจะเห็นว่านักเรียนจากโรงเรียนซาเฮอร์ในชุดทางการต่างนั่งข้างตัวแทนโรงเรียนจากที่ต่างๆกันแทบทุกกลุ่ม
ระหว่างการแข่งขันแลกเปลี่ยน นักเรียนอาสาสมัครจากโรงเรียนซาเฮอร์จะรับหน้าที่เป็นผู้ช่วยตัวแทนโรงเรียนที่ได้รับเชิญ คอยให้บริการดูแลตลอดการแข่งขัน
“การแข่งขันจะเริ่มเมื่อไหร่เหรอ?” เฉียวซางหันไปถาม
อาสาสมัครที่ชื่ออัลวาดูนาฬิกาบนข้อมือแล้วตอบว่า
“อีก 32 นาทีจะเริ่มค่ะ”
ได้ยินดังนั้น เฉียวซางก็หยิบหนังสือเรียนออกมาจากกระเป๋าแล้วเปิดอ่านทันที
ครึ่งชั่วโมงอ่านหนังสือเก็บความรู้ได้ตั้งเยอะ!
อัลวามองดูการกระทำของเฉียวซางด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นความรู้สึกนับถือ ในสถานการณ์แบบนี้ยังอ่านหนังสือได้อีก สุดยอดไปเลย!
ระหว่างที่เฉียวซางกำลังตั้งใจอ่านหนังสือ เสียงพูดคุยในพื้นที่ผู้ชมก็ยังคงดังอย่างต่อเนื่อง
“นี่จะเริ่มแข่งเลยเหรอ? ฉันนึกว่าจะพาเราเดินชมสถานที่กันก่อนเสียอีก”
“นี่เป็นธรรมเนียมของโรงเรียนซาเฮอร์นะ ปกติจะให้แข่งสักสองสามรอบก่อนแล้วค่อยพาชม”
“ทำไมล่ะ?”
“ไม่รู้สิ แต่รอบแรกที่แข่งน่ะ ปกติเป็นนักเรียนของพวกเขาลงแข่ง คงอยากให้เราเห็นฝีมือของโรงเรียนนี้ก่อนมั้ง”
“ว่าแต่ โรงเรียนแมนนิคก็มาเหรอ?”
“มาก็ไม่แปลกนี่ รอบนี้โรงเรียนชั้นนำในสามเขตแรกโดนเชิญกันหมด”
“ไม่ใช่ หมายถึงเลวีน่าจากโรงเรียนแมนนิค ฉันได้ยินว่าเธอมาด้วย”
“นายหมายถึงเลวีน่าคนนั้นน่ะเหรอ? คนที่เพิ่งได้รองแชมป์การประสานงานระดับมัธยมปลายระดับประเทศ แล้วโดนมาดามดิเน่ชมต่อหน้าสาธารณชนคนนั้นน่ะเหรอ?”
“ใช่แล้วล่ะ”
“แต่เธอไม่ใช่สายประสานงานหรอกเหรอ? ทำไมถึงมาแข่งทีมได้ล่ะ?”
“ผู้ฝึกสัตว์อสูรที่เน้นด้านการประสานงานก็ใช่ว่าจะสู้ไม่เก่งนะ พวกเขาแค่เน้นความงดงามมากกว่า อีกอย่างสัตว์อสูรที่ได้รับการพัฒนาด้านนี้มักจะมีการประสานงานกันดีมาก แถมยังควบคุมตัวเองได้เก่งสุดๆอีกด้วย”
“มีเหตุผล!”
ท่ามกลางเสียงพูดคุยของผู้ชม ชายชราผมขาวคนหนึ่งก้าวเข้าสู่กลางเวที
เขาคือผู้อธิบดีของโรงเรียนซาเฮอร์
เขากวาดตามองไปรอบๆ ก่อนจะกล่าวขึ้น
“สวัสดีตอนเช้าทุกคน ยินดีต้อนรับพวกเธอทุกคนที่สละเวลามาร่วมการแข่งขันกระชับมิตรครั้งนี้”
ทันทีที่เขาพูดจบ เสียงพูดคุยก็เงียบลง
ชายชรายิ้มพร้อมกล่าวว่า
“ฉันเชื่อว่าทุกคนคงไม่อยากฟังคำพูดไร้สาระของฉันนักหรอก”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนก็หัวเราะขึ้นมา
ผู้นำที่มีความเข้าใจตัวเองแบบนี้ก็มีด้วย… เฉียวซางเงยหน้าขึ้นมามองด้วยความประหลาดใจ
ชายชรากล่าวต่อ
“ถ้าอย่างนั้นฉันจะเข้าเรื่องเลยแล้วกัน การแข่งขันกระชับมิตรครั้งนี้เรายึดหลัก ‘มิตรภาพมาก่อน การแลกเปลี่ยนสำคัญที่สุด’ โดยไม่มีการตั้งรางวัล ผู้เข้าแข่งขันทุกคนจะได้รับบัตร VIP สำหรับการแข่งขันทีมในลีกอาชีพระดับนานาชาติปีนี้คนละหนึ่งใบ”
หลังพูดจบ เขายิ้มแล้วกล่าวว่า
“ฉันพูดจบแล้ว”
เสียงเฮดังลั่นไปทั่วทั้งสนาม แต่ไม่ใช่เพราะบัตร VIP ที่เขาพูดถึง หากแต่เป็นเพราะอธิบดีคนนี้ไม่ได้พูดอะไรน้ำท่วมทุ่ง!
ถ้าผู้นำโรงเรียนในอนาคตของเธอเป็นแบบนี้ก็คงจะดี… เฉียวซางวางหนังสือลงพลางคิดในใจ พร้อมกับปรบมือ
“ย่าห์ ย่าห์!”
หยาเป่าเองก็ถูกบรรยากาศปลุกเร้าให้ปรบมือตาม
ส่วนกงเป่าที่อยู่ข้างๆ นั้นยังคงไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ยืนฝึกการกลั้นลมหายใจภายในต่อไป
ทันใดนั้น ไฟในสนามก็มืดลง
เมื่อไฟสว่างขึ้นอีกครั้ง ชายชราได้หายตัวไป และปรากฏเป็นนักเรียนชายผมดำในชุดยูนิฟอร์มของโรงเรียนซาเฮอร์
พร้อมกันนั้น ด้านบนปรากฏจอภาพเสมือนขนาดใหญ่
บนจอภาพเสมือนนั้นมีสัญลักษณ์ของโรงเรียนต่างๆ
ไม่กี่อึดใจต่อมา สัญลักษณ์ของโรงเรียนต่างๆก็เริ่มหมุน
ในที่สุด สัญลักษณ์สีแดงขาวที่มีลวดลายหนังสือก็ขยายใหญ่และลอยเด่นขึ้นกลางจอ
ทันใดนั้น เสียงผู้หญิงดังขึ้นผ่านลำโพงกระจายไปทั่วสนาม
"โรงเรียนมัธยมไจเกอร์ กรุณาส่งตัวแทนขึ้นมาแข่งขันค่ะ"
ไม่นานนัก เด็กหนุ่มผมหยักศกสีน้ำตาลก็ลุกขึ้นจากที่นั่งในกลุ่มผู้ชมแล้วเดินขึ้นไปบนเวที
เฉียวซางมองเหตุการณ์นั้นแล้วก็เกิดความสงสัยขึ้นมา ก่อนจะหันไปถามว่า
“กฎการแข่งขันนี่เป็นยังไง? พอหมุนสุ่มแล้วเป็นสัญลักษณ์โรงเรียนเรา ก็ให้เราเลือกคนขึ้นไปเองงั้นเหรอ?”
“อะไรนะ?” อัลวาที่กำลังจดจ่อกับสิ่งที่เกิดขึ้นบนเวทีเพิ่งหันกลับมา เธอได้ยินแค่ว่ามีคนจากโรงเรียนมัธยมปลายไซแนนท์ถาม แต่ไม่ได้ยินชัดเจน จึงถามซ้ำ
เฉียวซางไม่ได้ตอบ เพราะแมกกี้ซึ่งเป็นอาจารย์ผู้ดูแล ได้เริ่มอธิบายขึ้นแล้ว
“ใช่แล้วล่ะ ถ้าสัญลักษณ์บนจอเป็นของโรงเรียนเรา เราจะเลือกคนขึ้นไปเองได้ในรอบแรก แต่รอบสองกับรอบสาม คนที่จะขึ้นจะถูกเลือกโดยระบบแบบสุ่ม ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวก็ถึงตาเราแล้ว โรงเรียนที่มาแข่งครั้งนี้มีแค่ 24 โรงเรียนเอง”
เดี๋ยว! ทำไมมันรู้สึกแปลกๆ? เฉียวซางอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะถามว่า
“เรามากันห้าคนไม่ใช่เหรอ? แล้วสองรอบหลังนี่หมายความว่ารวมรอบแรก เราจะส่งขึ้นไปแค่สามคนงั้นเหรอคะ?”
แมกกี้เองก็ชะงักไปเล็กน้อย
“อาจารย์ประจำชั้นเธอไม่ได้บอกเหรอ?”
บอกเหรอ? เฉียวซางหันไปมองซูเลียสด้วยความมึนงง
ซูเลียสพยักหน้าพร้อมอธิบาย
“บอกสิ ตอนเลือกคนที่สองเสร็จแล้วอาจารย์ก็พูด แต่ตอนนั้นเธอไม่ได้อยู่ แถมในกลุ่มแชทก็ประกาศไว้แล้วนะ เธออาจไม่ได้อ่านเองมั้ง”
อะไรนะ!!!
เฉียวซางโวยวายในใจ ไม่คิดบ้างเหรอว่าเธออาจจะไม่ได้อ่านแชทน่ะ!
ซูเลียสยังคงพูดเสริมต่ออย่างไร้ความปรานี
“แถมในกลุ่มก็ยังแท็กชื่อเธอไว้ด้วยนะ”
… เฉียวซางถึงกับพูดอะไรไม่ออก
แมกกี้ฟังจนจบ ก่อนจะเข้าใจได้ว่าการแลกเปลี่ยนคนนี้ที่มาจากบลูสตาร์ยังไม่ได้รับข้อมูลอะไรเลย จึงกล่าวว่า
“กฎมีอยู่ว่าแต่ละโรงเรียนจะพานักเรียนมา 5 คน แต่จะส่งลงแข่งจริงแค่ 3 คนเท่านั้น การแข่งแต่ละรอบจะตัดสินแพ้ชนะเลย ทีมที่ชนะจะได้แข่งต่อในวันถัดไป”
เฉียวซางแสดงสีหน้าไม่เข้าใจอย่างมาก
“แล้วทำไมต้องพามาห้าคนด้วยล่ะ?”
แมกกี้ยิ้มพร้อมตอบ
“ก็เพราะนี่เป็นการแข่งขันกระชับมิตรไง จุดประสงค์คือการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างโรงเรียน ยิ่งมีคนมาเยอะก็ยิ่งดี”
คำพูดของแมกกี้ทำให้เฉียวซางแทบจะสบถออกมา แต่กลั้นไว้จนได้ อุตส่าห์ถ่อสังขารมาทั้งทีแล้ว แต่มันมีโอกาสที่จะไม่ได้ลงแข่งเนี่ยนะ?!