ตอนที่แล้วบทที่ 34 น้ำใจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน

บทที่ 35 ชาติกำเนิด


"ไม่คิดเลยว่าตอนบ่ายอาจารย์ฮีเลียดจะไปถามข่าวจากไซนานและคนอื่นๆ..."

หลังโบกมือลาไซนานและชาวประมงคนอื่นพร้อมรอยยิ้ม เอียนเตรียมจะกลับบ้านพร้อมของขวัญที่ไม่คาดคิด

การสอบถามชาวประมง ดูเหมือนเป้าหมายของอาจารย์จะอยู่ในทะเล แต่เอียนไม่รู้และไม่อยากถามว่าฮีเลียดจะทำอะไร เชื่อว่าถึงเวลาอีกฝ่ายคงบอกเอง

ส่วนตอนนี้ ต้องเตรียมอาหารเย็นแล้ว

ปลาแซลมอนที่แผ่ไอสีฟ้านี้มีเกรดเทียบเท่าเนื้อปลาไหล ด้อยกว่าปลาทูน่าเล็กน้อย แต่ไม่ได้แช่แข็ง ถ้ากลับไปทำอาหารตอนนี้ ไม่ว่าจะย่างเกลือ ซาชิมิ หรือนึ่ง ก็ยังสด และเขาก็หิวพอดี

ส่วนไอสีฟ้าอื่นๆ...

เอียนมองออกว่า ท่าแฮริสันจับสัตว์น้ำหายากได้ทุกวัน แต่พวกเขาไม่มีวิธีประเมินที่ดีพอ สัตว์น้ำหายากหลายตัวจึงถูกขายเป็นปลาธรรมดา กลายเป็นโชคดีของคนซื้อที่ไม่รู้ตัว

แต่เอียนไม่เหมือนกัน ดูเหมือนลิขิตเวทของเขาจะเหมาะกับการประเมินและหาของถูกโดยเฉพาะ

"ได้ปลามาฟรีๆ ต้องจำบุญคุณครั้งนี้ไว้"

เอียนไม่รู้สึกอึดอัดที่รับของจากคนอื่น แต่ไซนานเป็นคนดีจริงๆ "ถ้ามีโอกาส จะช่วยให้พวกเขารู้มูลค่าที่แท้จริงของสัตว์น้ำที่จับได้ ว่าหายากแค่ไหน"

เขาอาจได้เปรียบ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องได้เปรียบตลอดไป

แต่ตอนที่เอียนกำลังจะออกจากตลาดปลา

เขาพบว่าบนถนนที่มืดแล้ว ท่ามกลางสายฝนพรำ มีกลุ่มคนยืนอยู่ข้างทาง

ตรงกลางกลุ่มคน ชายชราผมขาวร่างกำยำแต่เตี้ยคนหนึ่งกำลังมองเขา

"ผู้เฒ่าพูเด?"

เงยหน้าขึ้น เอียนแสดงความประหลาดใจ นี่ไม่ใช่การแสร้ง เขาไม่คิดจริงๆ "ท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร..."

"สมแล้วที่เป็นลูกของเอเนสโต้"

ผู้เฒ่าพูเดไม่ได้ตอบความสงสัยของเอียน เพียงถอนหายใจอย่างมีความหมาย "หลอกคนเก่งจริง"

จากนั้นเขาก็เดินเข้ามา ยื่นกล่องไม้เคลือบสีน้ำตาลแดงที่ปิดสนิทให้เด็กชาย "เอาไว้ ข้างในเป็นสมุนไพรที่ช่วยบรรเทาผลกระทบต่อจิตใจ หญ้าเบอร์เลียสงบจิต"

"กลับบ้านแล้วต้มน้ำเดือด ล้างฟองทิ้ง ตั้งทิ้งไว้หนึ่งวัน เอาน้ำใสส่วนบนมาดื่ม ใช้กากที่อยู่ก้นทาขมับและหางตา ทำต่อเนื่องเจ็ดวัน จะช่วยบรรเทาผลของยาสลบและพิษที่มีผลต่อประสาทส่วนใหญ่... อาเลนยังเล็ก ใช้น้อยหน่อย ส่วนเจ้าก็ต้องใช้สักครั้ง เผื่อมีผลข้างเคียง"

ผู้เฒ่าพูดสั้นๆ แล้วตบหัวเอียนเบาๆ สั่ง "ส่วนตอนนี้ ตามข้ามา เดินเล่นกับคนแก่คนนี้หน่อย"

พูดแล้ว ผู้เฒ่าพูเดก็ยื่นมือ ให้เอียนจับ

น้ำเสียงของเขานุ่มนวล แต่ไม่เปิดช่องให้ปฏิเสธ และเอียนก็ไม่ได้แสดงความลังเลใดๆ เขาพยักหน้าอย่างว่าง่าย จับมือผู้เฒ่า แล้วก็เดินตามชายชราไปช้าๆ บนถนน

ถนนที่ตลาดปลาและท่าเรือตั้งอยู่ เดินออกไปก็จะเป็นถนนกลางที่เชื่อมกับถนนหลวง เกือบทุกสมาคมการค้าตั้งสำนักงานและร้านค้าที่นั่น และจากที่นั่นเดินไปทางตะวันตก ก็จะเป็นที่ตั้งของกองรักษาการณ์และสำนักงานนายตำรวจ

ออกไปอีกก็จะเป็นกำแพงเมืองและแม่น้ำอีโวค์

ผู้คนบนถนนส่วนใหญ่เดินอย่างรีบร้อน บางส่วนเป็นชนขาวบริสุทธิ์ พอเห็นผู้เฒ่าพูเด ก็หยุดทักทายชายชราที่เห็นทุกคนเติบโตมาคนนี้

"พ่อของเจ้าเอเนสโต้ เคยเป็นหัวหน้าหน่วยพิทักษ์ท่าเรือ เป็นผู้ยกระดับระดับหนึ่ง"

ขณะยิ้มพยักหน้าให้ชนขาวบริสุทธิ์ที่หยุดทักทาย ผู้เฒ่าพูเดก็คุยเบาๆ กับเอียน "เจ้าอาจจำเขาไม่ได้ แต่แม่ของเจ้าน่าจะเคยพูดถึงชื่อเขา"

มือของชายชราหยาบกร้านแข็งแรง ราวกับมีหินเคลือบอยู่ชั้นหนึ่ง เขาจับมือเอียนเบาๆ เสียงทุ้มชัดเจน "เขาเคยมีโอกาสรับตำแหน่งนายตำรวจต่อจากอัศวินยัมเมื่อเกษียณ และเป็นหนึ่งในผู้สมัครตำแหน่งผู้เฒ่าหลังจากข้าออก เป็นคนหนุ่มที่ซื่อตรง เข้มแข็ง และมีความรับผิดชอบสูง"

ชายชราร้อยเรียงความทรงจำ แฝงความคิดถึงและเสียดาย "ส่วนแม่ของเจ้าอีฟลิน ฉลาดและเข้มแข็ง สามารถเลี้ยงดูพี่น้องสองคนคนเดียวได้"

เอียนเงียบ ตั้งใจฟังทุกคำพูดของผู้เฒ่าพูเด

ที่อีกฝ่ายมาหาเขากะทันหัน เริ่มเล่าเรื่องพ่อแม่ในอดีต ชัดเจนว่าไม่ได้อยากรำลึกความหลังกับเด็กแปดขวบอย่างเขา... ไม่ต้องพูดถึงว่า พ่อชาตินี้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางทะเลพร้อมเพื่อนร่วมงานในหน่วยพิทักษ์ท่าเรือก่อนเขาเกิด พูดเรื่องนี้เขาก็ไม่เข้าใจ

พายุเมื่อแปดปีก่อนทำให้ทั้งเมืองไว้ทุกข์ ทำลายครอบครัวไปมากมาย ตอนนั้นผู้เฒ่าพูเดยุ่งจนหัวปั่น จะมีเวลามาสนใจปัญหาครอบครัวเดียวได้อย่างไร?

เป็นอย่างที่คิด ผู้เฒ่าพูเดพูดต่อ "หลายปีมานี้ เผ่าเราทำให้ครอบครัวเจ้าผิดหวังจริงๆ ครั้งนี้ที่ชนพื้นเมืองบุกถึงได้ตื่นตัว โชคดีที่บรรพบุรุษคุ้มครอง พวกเจ้าไม่เป็นอะไร ไม่งั้นเมื่อข้าตายไปพบพ่อแม่เจ้า จะไม่รู้ว่าต้องเผชิญหน้าพวกเขาอย่างไร"

หยุดเล็กน้อย ชายชราพูดเรียบๆ "ข้าสั่งคนไปบอกออสมันด์แล้ว บ้านริมทะเลหลังนั้น ให้พวกเจ้าอยู่ฟรี ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม ส่วนสมุนไพรพวกนั้นก็ไม่ต้องกังวล เป็นของพระคุณท่านบารอนแกรนต์ประทานให้ คุณภาพดี ไม่ต้องเกรงใจเขา"

—เขาน่าจะ... ไม่สิ ต้องเห็นอะไรบางอย่างแน่!

แม้จะได้แต่ข่าวดี แต่ความระแวดระวังในใจเอียนพุ่งสูงสุด

แต่เขากลับไม่รู้สึกตึงเครียด

ไม่จำเป็นต้องใช้การมองเห็นล่วงหน้า เอียนรู้ดีว่าแม้ตนจะเผยว่าปลุกลิขิตเวทได้แล้ว ก็จะไม่เกิดปัญหาอะไร

ดูสิ แค่ผู้เฒ่าพูเดสงสัย ก็มอบน้ำใจมากมายขนาดนี้แล้ว

ถ้าอีกฝ่ายรู้แน่ว่าเขาปลุกลิขิตเวทได้แล้ว ในฐานะผู้เฒ่าของชนขาวบริสุทธิ์ จะกดขี่เด็กแปดขวบอย่างเขาหรือ? คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนั้นคงเป็นโรคจิตหวาดระแวงระดับหนัก

อีกฝ่ายต้องทุ่มเทสอนเขาแน่นอน และจากนัยในคำพูดของผู้เฒ่าพูเด อาจกล่าวได้ว่าอีกฝ่ายจะช่วยให้เขาก้าวสู่เส้นทางการยกระดับ จนถึงขั้นเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้เฒ่าในอนาคต

นี่คือการปฏิบัติที่ผู้ใช้ลิขิตเวทควรได้รับ

หากเอียนไม่ใช่...

ผู้เฒ่าพูเดก็ไม่เสียอะไร

เด็กชายผมขาวที่เงียบกับชายชราเดินผ่านถนนกลางที่คึกคัก ผ่านโบสถ์เซนต์ไลต์ที่มีหอระฆังยอดแหลมสูงทำจากหิน ไม่ไกลก็เป็นคฤหาสน์บารอนที่หรูหราที่สุด ตั้งอยู่บนพื้นที่สูง สามารถมองเห็นท่าแฮริสันได้เกือบครึ่ง

ระหว่างทาง พวกเขายังเจอกองคาราวานการค้าจากนอมัน เมืองหลวงของมณฑลทางใต้ ม้าสูงใหญ่ที่แขวนระฆังไล่ผีถูกนำทางโดยนายตำรวจไปยังย่านโกดังฝั่งตะวันออก—การขนถ่ายและขนส่งสินค้าทั้งหมดเกิดขึ้นที่นั่น

แต่พวกเขาไม่ได้หยุด ผู้เฒ่าพูเดพาเอียนเดินผ่านครึ่งเมือง จนฟ้ามืด และตะเกียงน้ำมันสาหร่ายตามถนนส่องแสงเหลืองสลัว วูบไหวไม่คงที่

พวกเขามาถึงกำแพงเมืองฝั่งตะวันตก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด