บทที่ 395 การปะทะกัน(ฟรี)

บทที่ 395 การปะทะกัน(ฟรี)

ในห้องถ่ายทอดสดของประเทศเทพ ข้อความที่ไหลผ่านหน้าจอหยุดชะงักไปชั่วครู่

เมื่อปะทุขึ้นอีกครั้ง ก็เป็นเสียงอุทานไม่หยุด

"เป็นไปได้ยังไง!"

"เซไร จอมเวทย์มิติ ตายแบบนี้เลยหรอ?"

"ฉันดูผิดไปหรือเปล่า?"

"สังหารจอมเวทย์มิติในคราวเดียว ไอ้หมอนั่นเป็นใครกันแน่!"

"มนุษย์สัตว์ช่างต่ำช้า นี่มันการจู่โจมชัดๆ!"

"พวกนี้ ไม่มีความคิดที่จะเจรจากันเลยจริงๆ มาที่นี่ด้วยจุดประสงค์ฆ่าคนอย่างเดียว!"

ประเทศเทพยังคงใช้ดาวเทียมถ่ายทอดสดการต่อสู้ในทะเล ผู้ชมนับไม่ถ้วนได้เห็นการจู่โจมที่น่าตกตะลึงครั้งนี้

ดาบยักษ์ที่พุ่งไปข้างหน้าอย่างรุนแรง ราวกับแสงสว่างที่ฟันขาด

ส่วนจอมเวทย์มิติ กลับไม่มีแม้แต่การต่อต้านแม้แต่น้อย ก็ถูกสังหารจนสิ้น ภาพเหตุการณ์นี้นอกจากจะสร้างความสะเทือนใจแล้ว ยังทำให้พวกเขารู้สึกสิ้นหวังอย่างลึกซึ้ง สังหารผู้เหนือธรรมชาติของมนุษย์ในคราวเดียว มนุษย์สัตว์คนนี้มีพลังระดับไหนกัน? การรุกรานที่นำโดยมนุษย์สัตว์ที่มีพลังระดับนี้ มนุษย์จะต้านทานได้จริงหรือ?

ในศาลเจ้าโตเกียวของประเทศเทนโช

เทพเพลิงกำจัดมนุษย์สัตว์ระดับจักรพรรดิแล้วกลับมา เมื่อเห็นภาพในจอก็แสดงสีหน้าตกตะลึง

ผู้เหนือธรรมชาติของดาวน้ำเงินมีทั้งหมดเจ็ดสิบกว่าคน พลังของผู้เหนือธรรมชาติแต่ละคน ต่างก็รู้กันดีในใจ

จอมเวทย์มิติเซไร แม้จะนับไม่ได้ว่าเป็นผู้เหนือธรรมชาติระดับสูงสุด แต่ก็ไม่ใช่ระดับที่จะเทียบกับพวก อย่างฮาหมาน เทพวานร

แม้พลังของเขาจะอ่อนแอ ก็ไม่ใช่ผู้ที่อ่อนแอที่สุด

แต่แม้แต่พลังระดับนี้ ก็ยังถูกสังหารในคราวเดียว

มนุษย์สัตว์วัยกลางคนคนนี้ มีพลังที่น่ากลัวเหลือเกิน!

โชคดีที่ข้าไม่ได้ไป!

เทพเพลิงรู้สึกโล่งใจอยู่ในใจ

ไม่ต้องพูดถึงว่าประเทศต่างๆ บนดาวน้ำเงินจะมีปฏิกิริยาอย่างไร

ตอนนี้บนผิวทะเล บรรยากาศตึงเครียดถึงขีดสุด

หลังจากเซไร เสียชีวิต ทุกอย่างก็ไม่เป็นเรื่องง่ายอีกต่อไป

สายตาของเหล่าผู้เหนือธรรมชาติ จ้องมองมนุษย์สัตว์ที่ล้อมรอบอยู่อย่างเขม็ง

"ทุกท่าน ไม่จำเป็นต้องยั้งมืออีกต่อไป"

ท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบงัน อาจารย์อิ่นจ้องมองยาเหรินที่เข้าใจกฎเกณฑ์เช่นเดียวกับตน เอ่ยเสียงทุ้ม

เบื้องหลังของเขา ยืนอยู่ทั้งเทพสุริยะราอี แอชลีย์ทายาทแห่งอาเธอร์ เทพมังกรแห่งทะเลเอ้าจูหลง เทพแห่งการหลอมสร้างฟอร์แกน วิญญาณแห่งคลื่นอีชิอุส...

พวกเขาล้วนเป็นผู้เหนือธรรมชาติของโลก และเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดของมนุษย์

เพราะวิกฤตแห่งความว่างเปล่า จึงร่วมมือกันมาที่นี่

บางทีในอดีตอาจมีความขัดแย้งนานัปการ เพื่อป้องกันการปะทะในอนาคต ต่างก็เก็บงำความระแวงไว้

แต่ตอนนี้ ไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว

ความหวังทั้งหมดได้สลายไปพร้อมกับการตายของเซไร

ความตายที่มาโดยไร้สัญญาณ ทำให้พวกเขารู้ว่าฝ่ายตรงข้ามไม่มีความปรารถนาดีใดๆ แม้แต่น้อย ไม่ได้คิดจะถือว่ามนุษย์เป็นคู่ต่อสู้ด้วยซ้ำ การเจรจายิ่งเป็นเรื่องเพ้อฝัน

เมื่อเทียบกับเรื่องนี้ ความขัดแย้งระหว่างผู้เหนือธรรมชาติก็กลายเป็นเรื่องไม่สำคัญ

หากสามารถร่วมมือกันเอาชนะศัตรูจากความว่างเปล่าได้ ความขัดแย้งทั้งหมดก็จะคลี่คลาย

แต่ถ้าพ่ายแพ้ ไม่มีใครบนโลกจะรอดพ้น และจะไม่มีความขัดแย้งใดๆ อีกต่อไป

ตอนนี้ ทางเลือกเดียวมีเพียงการต่อสู้!

เบื้องหลังอาจารย์อิ่น ผู้เหนือธรรมชาติสิบกว่าคนพยักหน้าพร้อมกัน พลังเทพทั่วร่างระเบิดออกทันที ลมหายใจแข็งแกร่งถึงขีดสุด

เห็นดังนั้น ไทร่าบนแท่นบูชาก็แสดงสีหน้าตกตะลึง "พวกโง่พวกนี้ไม่กลัวตายหรือไง?"

เขาจะมองไม่ออกท่าทีของคนพวกนี้ได้อย่างไร

ชัดเจนว่าตั้งใจจะสู้จนตาย

แต่พวกเขามีแค่สิบกว่าคน ฝ่ายเราต่างหากที่มีนักรบเหนือธรรมชาติหลายสิบคน

และหลังจากได้เห็นความแข็งแกร่งของท่านยาเหรินแล้ว ยังจะต่อต้านจนตายอีกหรือ?

เขาย่อมไม่อาจเข้าใจได้

ยิ่งไม่มีทางรู้ว่า อาจารย์อิ่นและคนอื่นๆ เตรียมพร้อมที่จะตายตั้งแต่ก่อนมาที่นี่แล้ว

ไม่เสียดายชีวิตรีบมาที่นี่ ไม่ใช่เพื่อผลักดันความว่างเปล่าด้วยซ้ำ แต่เพื่อพิสูจน์ข้อสันนิษฐาน

ข้อสันนิษฐานที่ว่าแท่นบูชามีความสำคัญต่อมิติสัตว์ร้าย

และตอนนี้ มนุษย์สัตว์ยอมสู้ตายเพื่อปกป้อง แม้แต่ผู้เหนือธรรมชาติหลายสิบคนก็มารวมตัวกันที่นี่ ความจริงได้รับการพิสูจน์แล้ว

"เพียงทำลายแท่นบูชา การรุกรานของพวกเขาก็จะพังทลายเอง ขอทุกท่านช่วยข้าด้วย!"

กลางอากาศ อาจารย์อิ่นจ้องมองยาเหรินพลางเอ่ยเสียงทุ้ม

เบื้องหลังของเขา พลังเทพมหาศาลระเบิดออกตามคำพูด แสงสว่างจ้าของเทพสุริยะ พุ่งกระหน่ำใส่ยาเหริน

แสงที่แฝงพลังเทพอันน่าสะพรึงกลัว ทำให้ยาเหรินยกมือป้องกันโดยสัญชาตญาณ

คว้าโอกาสนั้น ร่างของอาจารย์อิ่นพุ่งออกจากที่เดิมอย่างรุนแรง พลังทั้งร่างรวมตัวที่ปลายคมดาบ แทงเข้าใส่แท่นบูชาอย่างดุดัน

ถ้าแม้แต่มนุษย์สัตว์เหนือธรรมดาหลายสิบคนตรงหน้านี้ ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้สุดท้าย เช่นนั้นสิ่งที่พวกเขาปกป้องอยู่ คือแท่นบูชาที่ปล่อยสิ่งมีชีวิตออกมา จะต้องน่ากลัวที่สุดแน่นอน

วันนี้แม้ต้องเอาชีวิตเข้าแลก ก็ต้องทำลายมันให้ได้!

ขณะที่คิดเช่นนั้น ร่างของอาจารย์อิ่นก็พุ่งผ่านระยะทางหลายสิบเมตร

เห็นว่าใกล้แท่นบูชาเข้าไปทุกที แต่กลับมีเสียงตวาดโกรธเกรี้ยวดังมาจากเบื้องล่าง

"ไอ้แก่ อยากตายนักหรือ!"

ไทร่าดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธและความเดือดดาล ยกดาบกระดูกฟันขึ้นมาอย่างรุนแรง

การเคลื่อนไหวของอาจารย์อิ่น เหมือนจุดชนวนระเบิด

ในพริบตา มนุษย์สัตว์เหนือธรรมดาหลายสิบคนกลางอากาศ พลังทั่วร่างระเบิดออกอย่างรุนแรง

ราวกับภูเขาไฟที่เคลื่อนที่ได้ พาความระเบิดและเสียงดังสนั่น แยกย้ายพุ่งเข้าใส่อาจารย์อิ่นและเทพแห่งทะเลและคนอื่นๆ

ในพริบตา สถานการณ์ในที่นั้นก็กลายเป็นหนึ่งคนต่อสู้กับคนหลายสิบคน

"โครม!"

ไทร่าที่อยู่บนแท่นบูชาอยู่แล้ว สกัดกั้นอาจารย์อิ่นกลางอากาศด้วยความเร็วสูงสุด

ดาบกระดูกในมือของเขา ปะทะกับดาบยาวที่ก่อตัวจากผลึกน้ำแข็งของอาจารย์อิ่น

พลังมหาศาลระเบิดออกอย่างรุนแรง

ตอนนี้ สีหน้าของไทร่าหม่นหมองไปทั้งหน้า

เขาเทพลังทั้งหมดออกมาในคราวเดียวด้วยความโกรธเกรี้ยว

เขาต้องการให้คนตรงหน้ารู้ถึงผลลัพธ์ของการลอบโจมตีตัวเอง!

และในเวลาเดียวกัน ที่อื่นๆ ก็มีเสียงระเบิดดังสนั่น

การปะทะของพลังมหาศาล ระเบิดขึ้นเหนือแท่นบูชา

พลังเทพมหาศาลรวมตัวกันเป็นทะเล ปกคลุมพื้นที่นับร้อยลี้

เปลวไฟเผาฟ้า น้ำขุ่นท่วมโลก

คมดาบเย็นเยียบปกคลุมอวกาศกว้างใหญ่ สั่นสะเทือนลมและเมฆ

พร้อมกันนั้น เสียงฟ้าร้องฟ้าแลบ พลังเทพและพลังจิตอันบ้าคลั่ง คลุกเคล้าในทะเลพลังงานนี้

ในห้องถ่ายทอดสด ภาพที่เห็นได้เพียงอย่างเดียว คือทะเลใหม่ที่ก่อตัวจากพลังมหาศาล

เพราะพลังเทพเข้มข้นเกินไป กล้องดาวเทียมไม่สามารถทะลุผ่านผิวทะเลนี้ได้

ภาพที่สั่นสะเทือนฟ้าดินนี้ ทำให้ผู้ชมทั้งหมดขนลุกซู่

การต่อสู้ของผู้เหนือธรรมชาติ น่าสะพรึงกลัวถึงที่สุด

นี่ยังเป็นแค่ผู้เหนือธรรมชาติสู้กับผู้เหนือธรรมชาติ ถ้าไม่มีผู้เหนือธรรมชาติขัดขวาง ปล่อยให้มนุษย์สัตว์พวกนี้เข้ามาในเมือง การโจมตีครั้งเดียวของพวกเขาจะน่ากลัวขนาดไหน?

ภายใต้การโจมตีแบบนี้ จะมีคนรอดชีวิตได้สักกี่คน?

คิดถึงตรงนี้ ความหวาดกลัวในใจผู้คนก็ยิ่งมากขึ้น

"น่ากลัวเหลือเกิน!"

"ใช่ คู่ต่อสู้แบบนี้อาละวาดบนโลก พวกเราจะมีชีวิตรอดได้อย่างไร?"

"พวกนี้ฆ่าคนไม่กะพริบตา ถ้าอาจารย์อิ่นและคนอื่นๆ ตาย พวกเราก็หนีไม่พ้นสักคน"

"ไม่ต้องพูดถึงมนุษย์สัตว์เหนือธรรมชาติพวกนี้หรอก แค่สัตว์ร้ายในเมืองอาละวาด ก็แทบจะทนไม่ไหวแล้ว"

"ตอนนี้ยังมีผู้แข็งแกร่งของมนุษย์ต้านอยู่ แต่สิบกว่าคนสู้กับมนุษย์สัตว์เหนือธรรมดาหลายสิบคน จะต้านทานได้นานแค่ไหนกัน"

"พอผู้เหนือธรรมชาติตาย พวกเราก็คงใกล้ตายแล้วล่ะ"

"คนที่จะช่วยพวกเราได้ก็มีแต่ผู้เหนือธรรมชาติแล้วใช่ไหม?"

"เลิกฝันไปเถอะ การต่อสู้มาถึงขั้นนี้แล้ว ผู้เหนือธรรมชาติจะอยู่ที่ไหนกัน"

"ฉันว่านอกจากอาจารย์อิ่น เทพสมุทร และเทพสุริยะแล้ว ผู้เหนือธรรมชาติที่เหลือล้วนเห็นแก่ตัว!"

"เวลาแบบนี้ยังจะรอดูท่าทีอีกหรือ?"

"ควรจะออกโรงได้แล้วนะ!"

ข้อความทยอยไหลผ่าน ล้วนเป็นความคาดหวังของผู้คนที่มีต่อผู้เหนือธรรมชาติ…

ถ้าพูดถึงจำนวนผู้เหนือธรรมชาติ ถ้าผู้เหนือธรรมชาติของดาวน้ำเงินออกมาทั้งหมด ย่อมเทียบชั้นกับคนพวกนี้ได้แน่นอน

แต่ตอนนี้มีเพียงสิบกว่าคนบนผิวทะเล ที่เหลือไม่เห็นแม้แต่เงา

ความรู้สึกถูกทอดทิ้งนี้ ทำให้ผู้คนที่จมอยู่ในความสิ้นหวัง อดใจไม่ไหวส่งข้อความมาระบายความโกรธ

ในศาลเจ้าของประเทศเทนโช เทพเพลิงนั่งสงบในศาลเจ้า มองข้อความที่ไหลผ่านบนจอฉายภาพตรงหน้า ขมวดคิ้วแน่น

เขาไม่ได้สนใจการประเมินของประชาชนทั่วไปที่มีต่อตัวเอง

แต่กำลังคิดถึงผลลัพธ์อย่างหนึ่งที่กล่าวถึงในข้อความ

ถ้าหากอาจารย์อิ่นและเทพสมุทรพวกนั้นตายจริง ตอนนั้นตัวเองจะหนีรอดได้จริงหรือ?

ไม่ต้องพูดก็เห็นได้ว่า มนุษย์สัตว์พวกนี้มาเพื่อสังหารมนุษย์ แม้ตัวเองจะเป็นผู้เหนือธรรมชาติ แต่ก็เป็นสมาชิกของมนุษย์

มนุษย์สัตว์ระดับจักรพรรดิธรรมชาติทำอะไรตัวเองไม่ได้ แต่ถ้าเป็นมนุษย์สัตว์เหนือธรรมชาติหลายสิบคนมาพร้อมกันล่ะ?

หลักการที่ว่าริมฝีปากหายไปฟันก็หนาวนั้น เขาก็เข้าใจดี

เพียงแต่ในใจ ยังลังเลอยู่บ้าง

ถ้าหากไปแล้วกลับตายเสียเอง จะทำอย่างไร?

ประเทศโอลิมปัส

ในวิหารเทพแห่งความตาย เทพแห่งความตายแห่งแม่น้ำสติกซ์จ้องมองจอที่เงาผีถือไว้ ขมวดคิ้วครุ่นคิด

"ตอนนี้ ควรจะออกโรงได้หรือยัง?"

เขาพึมพำกับตัวเอง สายตามองไปยังสนามรบ

ในฐานะผู้เหนือธรรมชาติ พวกเขาล้วนมองเห็นความเร่งด่วนในตอนนี้ แต่กับการจะออกโรงหรือไม่ ยังคงมีท่าทีลังเล

ในจังหวะนั้น มีเสียงหนึ่งดังมาจากในจอ

"ทุกท่าน ข้ามาสาย!"

นี่เป็นเสียงที่ฟังดูปลดปล่อย มาจากแสงหลายสิบสายที่พุ่งมาแต่ไกล

รอจนแสงมาใกล้ ก็เผยโฉมที่แท้จริง

ผู้เหนือธรรมชาติแห่งประเทศเทพ

เมื่อเขาปรากฏตัว สิ่งที่ปรากฏพร้อมกัน คือหุ่นยนต์ขนาดหนึ่งกิโลเมตรสิบเอ็ดตัวที่มีรูปลักษณ์แตกต่างกันเบื้องหลัง

ประเทศดาวให้เขาประหลาดใจจริงๆ ระหว่างทางมาเจอหุ่นยนต์สังหารเทพที่ประเทศดาวส่งมา ครบทั้งชุด

แต่ละตัวสามารถเทียบชั้นกับนักรบเหนือธรรมชาติได้

พลังรบเช่นนี้ หากอยู่บนโลกในอดีต สามารถครอบครองอำนาจการพูดได้อย่างเด็ดขาด

เขารีบพาหุ่นยนต์ของประเทศดาวมา เพื่อมาสนับสนุนการต่อสู้

เห็นภาพนี้ สายตาของเทพแห่งความตายแห่งแม่น้ำสติกซ์ชะงัก

"ไอ้หมอนี่ ทำไมถึงได้เข้าไปยุ่งกับการต่อสู้?" เขาสงสัยในใจ

ประเทศเทพไม่เคยเข้าร่วมความขัดแย้ง แต่ครั้งนี้กลับเข้าร่วมเองโดยสมัครใจ

และยังเป็นการต่อสู้ที่อันตรายเช่นนี้

นี่ถือเป็นการแสดงจุดยืนหรือ?

เทพแห่งความตายแห่งแม่น้ำสติกซ์ครุ่นคิด สีหน้าเปลี่ยนไปมาไม่หยุด

"ผู้เหนือธรรมชาติแห่งประเทศเทพมาแล้ว!"

"หุ่นยนต์เยอะจัง!"

"ในที่สุดก็มีผู้เหนือธรรมชาติเข้าร่วม!"

"อย่างนี้ น่าจะต้านทานได้แล้วใช่ไหม?"

ในห้องถ่ายทอดสด ผู้ชมเห็นผู้เหนือธรรมชาติแห่งประเทศเทพที่ปรากฏขึ้นกะทันหัน และหุ่นยนต์อีกสิบกว่าตัวนั้น ต่างรู้สึกฮึกเหิม

มีการสนับสนุน การต่อสู้ก็มีโอกาสชนะ

โดยเฉพาะหุ่นยนต์เหล่านั้น พวกเขาได้เห็นพลังในการต่อสู้ก่อนหน้านี้แล้ว

อย่างน้อยก็มีพลังระดับผู้เหนือธรรมชาติ

เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็เท่ากับมีพลังรบเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว

แม้จะยังสู้มนุษย์สัตว์ไม่ได้ แต่ก็ไม่น้อยแล้ว

หัวใจที่สิ้นหวังของผู้ชม พลันมีความหวังผุดขึ้นมา

"ช่วยข้าต้านพวกเขาไว้!"

ผู้เหนือธรรมชาติแห่งประเทศเทพพาหุ่นยนต์ของประเทศดาวมาถึง ก็ได้ยินเสียงเร่งร้อนของอาจารย์อิ่น

ได้ยินดังนั้น ผู้เหนือธรรมชาติแห่งประเทศเทพยิ้มบางๆ แล้วนำหุ่นยนต์เข้าร่วมการต่อสู้

เขาก็ดูการถ่ายทอดสดมา รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ และรู้ชัดว่าตัวเองควรทำอะไร