ตอนที่แล้วบทที่ 33 การสอบสวน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 35 กองทัพเทียนฉิง

บทที่ 34 ดอกไม้แห่งดวงดาว


บทที่ 34 ดอกไม้แห่งดวงดาว

สายตาของเกาลี่พลันสะดุดเข้ากับใบมีดกลไกที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง เขาไม่อาจห้ามใจเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ

เสิ่นชิวเห็นดังนั้น คิ้วของเขาขมวดเล็กน้อย ใจเต้นตึกๆ ความคิดหนึ่งแล่นเข้ามา “ไม่ดีแล้ว...”

“คุณเสิ่นชิว นี่คืออะไรหรือ?” เกาลี่เอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม

“เป็นอุปกรณ์ประกอบฉากสำหรับคอสเพลย์” เสิ่นชิวตอบกลับอย่างใจเย็น

“อุปกรณ์ที่ทำได้ประณีตขนาดนี้ หาดูได้ยากจริง ๆ” เกาลี่พูดพลางเอื้อมมือไปจับใบมีดกลไก

ริมฝีปากของเสิ่นชิวกระตุกเล็กน้อย “ลำบากแล้วล่ะ!” ถึงจะอ้างว่าเป็นอุปกรณ์ประกอบฉาก แต่ความคมของมันบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นอาวุธที่ผิดกฎหมาย

ในจังหวะที่เกาลี่กำลังจะสัมผัสใบมีดนั้น เสียงกระแทกแปลก ๆ ดังมาจากมุมของเจิ้งตัว ทั้งเสิ่นชิวและเกาลี่หันไปตามเสียงพร้อมกัน

เจิ้งตัวกำลังยืนอยู่หน้าชั้นหนังสือ มือเอื้อมไปคว้ากล่องของขวัญที่วางไว้อย่างสวยงามบนชั้นสูงสุด

“หยุดนะ!” เสิ่นชิวตะโกนห้ามเสียงดัง

เจิ้งตัวชะงักเล็กน้อย เขาไม่ได้หยิบกล่องนั้น แต่ดึงมือกลับมาแทน แล้วหันไปพูดกับเสิ่นชิว

“คุณเสิ่น กล่องนี้ ให้พวกเราดูหน่อยได้ไหม?”

“ไม่ได้! นี่เป็นของส่วนตัวของผม” เสิ่นชิวตอบกลับทันทีโดยไม่ลังเล

“คุณเสิ่น หากเป็นสถานการณ์ปกติ เราคงไม่ละเมิดสิทธิ์ของคุณแบบนี้ แต่ในช่วงเวลาวิกฤติ เราต้องตรวจสอบทุกแหล่งที่อาจเป็นอันตราย ขอให้คุณร่วมมือด้วยเถอะ” เจิ้งตัวกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดูเหมือนจะขอร้อง แต่แฝงไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่เปิดโอกาสให้ปฏิเสธ

“ใช่ครับ คุณเสิ่น พวกเราไม่ได้ตั้งใจจะหาเรื่องคุณ เราเพียงต้องการความปลอดภัยของประชาชน” เกาลี่ช่วยเสริมอย่างสุภาพ

เสิ่นชิวแสดงสีหน้าลังเล สุดท้ายเขาถอนหายใจและพูดด้วยน้ำเสียงยอมแพ้

“ตกลง ผมจะให้พวกคุณดู แต่ผมต้องเป็นคนเปิดเอง”

“ได้เลย” เจิ้งตัวตอบกลับอย่างเข้าใจ

เสิ่นชิวเดินไปหยิบกล่องของขวัญลงมาอย่างระมัดระวัง เขาค่อย ๆ เปิดกล่องออกช้า ๆ

ภายในกล่องปรากฏดอกไม้สีฟ้าประกายใส ชวนให้รู้สึกถึงความลึกลับ ดอกไม้ถูกประดิษฐ์ขึ้นอย่างงดงามจนยากจะละสายตา

“นี่มันอะไรกัน? ช่างสวยเหลือเกิน!” เจิ้งตัวอุทานด้วยความชื่นชม

“เครื่องประดับที่ทำจากดอกไม้แห่งดวงดาว” เสิ่นชิวตอบเรียบ ๆ

สายตาของเกาลี่จับจ้องดอกไม้นั้นนานขึ้นเรื่อย ๆ ความคุ้นเคยทำให้เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย

เจิ้งตัวยังคงถามต่อด้วยความสนใจ “คุณเสิ่น แล้วเครื่องประดับนี้...”

ไม่ทันที่เขาจะพูดจบ เกาลี่พลันขัดจังหวะขึ้นมาด้วยเสียงจริงจัง

“พอแล้ว ขอบคุณคุณเสิ่นสำหรับความร่วมมือ เจิ้งตัว เราควรไปที่บ้านหลังต่อไปแล้ว”

“เอ่อ... ก็ได้” เจิ้งตัวตอบกลับ แม้จะสงสัยว่าเกาลี่ทำไมจู่ ๆ ถึงรีบร้อน แต่เขาก็ไม่ได้ซักไซ้ต่อ

เสิ่นชิวมองดูทั้งสองเตรียมตัวจะออกไป ย่อมไม่มีเหตุผลใดที่เขาจะรั้งพวกเขาไว้

“เดินทางดี ๆ ไม่ต้องส่ง” เขากล่าวพร้อมยิ้มบาง ๆ

“ขอโทษที่รบกวน และขอบคุณสำหรับความร่วมมือครับ” ทั้งสองคนโค้งให้เสิ่นชิวก่อนจะออกไป

เมื่อเดินออกจากชุมชน เจิ้งตัวถามเกาลี่ด้วยความอยากรู้

“ทำไมคุณถึงรีบร้อนขนาดนี้ล่ะ? ดอกไม้นั่นสวยมากจริง ๆ!”

“รู้ว่าสวยก็รีบออกมาเถอะ”

“ทำไมล่ะ? หรือดอกไม้นั้นมีปัญหา?”

“ดอกไม้นั้นมีมูลค่าสูงลิบ เพราะมันทำมาจากดอกไม้แห่งดวงดาว ผ่านกระบวนการที่ซับซ้อนจนไม่เหมือนใคร คนทั่วไปไม่มีวันได้สัมผัสมันหรอก”

“คุณหมายความว่า เขาเป็นคนระดับสูงงั้นหรือ? ไม่น่าเป็นไปได้เลยนะ!”

“ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นหรือไม่ แต่ในเมื่อเราไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน ก็อย่าไปหาเรื่องให้ตัวเองลำบากดีกว่า”

“เข้าใจแล้วครับ” เจิ้งตัวรีบพยักหน้ารับ

ในบ้าน เสิ่นชิวมองดูดอกไม้แห่งดวงดาวในกล่องนั้นด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย

เขาปิดกล่องอย่างเบามือ แล้ววางมันกลับไปยังที่เดิมอย่างระมัดระวัง...

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในขณะที่เสิ่นชิวนั่งอยู่ในห้อง เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู พบว่าคนที่โทรมาคือ พ่อค้าเจ้าเล่ห์ หวงล่าง เขาตัดสินใจรับสายทันที

“เสิ่นชิว มีเวลาเมื่อไหร่ ไปกินข้าวกันหน่อยไหม?” หวงล่างกล่าวด้วยน้ำเสียงอบอุ่น แต่แฝงความเจ้าเล่ห์

“เลิกลองเชิงได้แล้ว คนพวกนั้นไปหมดแล้ว แต่ต้องยอมรับว่านายไวใช้ได้” เสิ่นชิวพูดพลางเอนตัวลงบนเก้าอี้

“ฮ่าๆ ไม่เสียทีที่เป็นนายจริงๆ หายไปตั้งนานยังรอดกลับมาได้อีก” หวงล่างตอบอย่างตื่นเต้น

“อยากให้ฉันตายรึไง?” เสิ่นชิวพูดติดตลก แต่แฝงน้ำเสียงไม่สบอารมณ์

“ใครจะกล้าล่ะ คนอื่นหายตัวไปก็ใช่ว่าจะรอด แต่กับนาย ฉันเชื่อมั่นเสมอ” หวงล่างหัวเราะ พลางพูดประโยคที่ไม่รู้จริงแค่ไหน

“พอเถอะ ไม่อยากเถียงกับนายแล้ว ตกลงที่คลองเทียนฉิงมีคนหายไปกี่คน? แล้วมีกี่คนที่กลับมา?” เสิ่นชิวถามตรงประเด็น เพราะเขารู้ดีว่าหวงล่างต้องเก็บข้อมูลเรื่องนี้อย่างละเอียด ไม่เช่นนั้นคงไม่รู้ว่าเขากลับมาก่อนกำหนด

“รวมแล้วหายไป 3,121 คน จนถึงตอนนี้ นอกจากนายแล้ว ไม่มีใครกลับมาเลย แต่มีอยู่คนหนึ่งที่ไม่แน่ชัด นั่นก็คือถังเข่อซิน ตอนแรกเธอถูกแจ้งหายไป แต่ภายหลังกลับมีข่าวว่ามีการแจ้งผิด” หวงล่างพูดด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดี

ข้อมูลนี้ทำให้เสิ่นชิวรู้สึกสะเทือนใจ แม้ว่าเขาจะคาดการณ์ว่าความรอดต่ำ แต่ไม่คิดเลยว่าจะมีเพียงเขาและถังเข่อซินเท่านั้นที่รอดชีวิต

ขณะที่เสิ่นชิวกำลังครุ่นคิด หวงล่างถามด้วยเสียงแฝงความอยากรู้อยากเห็น

“นี่ นายบอกฉันมาหน่อยสิ ไปอีกโลกแล้วกลับมาได้ นายเอาอะไรดี ๆ ติดมาบ้างไหม?”

“มี” เสิ่นชิวตอบเรียบ ๆ หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง

“จริงเหรอ? โอ๊ย! นายนี่แหละสุดยอด! เอามาขายให้ฉันสักหน่อยสิ” หวงล่างตื่นเต้นจนแทบจะกระโดด เพราะอะไรก็ตามที่มาจากโลกนั้น แม้แต่เศษกระดาษ ก็มีค่ามหาศาล

“ได้” เสิ่นชิวตอบตกลงหลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เขาตัดสินใจว่าจะขายเพียงแค่เครื่องประดับที่นำกลับมา เพราะสิ่งที่มีค่าที่สุด เช่น แผนผัง ชิป หรือหนังสือ เขาจะไม่ขายให้หวงล่างแน่นอน

หวงล่างคนนี้ เสิ่นชิวรู้จักดี ด้วยนิสัยรักเงินเป็นชีวิตจิตใจ เขาจะต้องขายสิ่งเหล่านี้ไปต่างประเทศเพื่อแลกเงินจำนวนมหาศาล ซึ่งเสิ่นชิวไม่ต้องการให้เกิดขึ้น

ในเมื่อสถานการณ์ตอนนี้เริ่มวุ่นวายขึ้นทุกวัน เครื่องประดับที่ดูเหมือนมีค่าสูงในวันนี้ อาจกลายเป็นสิ่งไร้ค่าหากโลกเข้าสู่ภาวะวิกฤติ เขาคิดว่าควรขายออกไปในช่วงที่ยังทำเงินได้ดี

“งั้นฉันจะไปหานายเดี๋ยวนี้เลย!” หวงล่างตอบด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น

“ไม่ต้องรีบ ฉันกำลังเป็นเป้าสายตา อาจมีคนจากหน่วย KPI จับตาดูอยู่ รอให้สถานการณ์เงียบลงก่อนแล้วค่อยนัดเจอ” เสิ่นชิวตอบกลับอย่างสุขุม

“ก็จริงของนาย งั้นฉันจะรออีกหน่อย” แม้ว่าหวงล่างจะใจร้อน แต่เขาก็เห็นด้วยกับคำแนะนำของเสิ่นชิว

“ว่าแต่ ฉันขอให้นายช่วยเรื่องหนึ่งได้ไหม?” เสิ่นชิวถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“พูดมาเลย เราสองคนเป็นอะไรกัน ถ้าฉันทำได้ ฉันไม่มีวันปฏิเสธ!” หวงล่างตอบกลับอย่างหนักแน่น

“ช่วยหาปืนพร้อมกระสุนมาให้ฉันหน่อย”

“หา? เรื่องนี้...” หวงล่างอึ้งไปครู่หนึ่ง

“อย่ามาเล่นมุกกับฉันเลย นายทำได้นี่ แต่บอกไว้ก่อนนะ ฉันต้องการไว้ป้องกันตัว ไม่ใช่ไปก่อเรื่อง”

เสิ่นชิวพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“นายเข้าใจฉันผิดแล้ว! ถ้าเป็นเมื่อก่อน มันคงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่ว่าตอนนี้ เมืองฉิงคงเข้าสู่สถานะเฝ้าระวังขั้นสูงสุด การลาดตระเวนและการตรวจค้นอยู่ทุกที่ ต่อให้นายได้ปืนมา ก็อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้”

“จริงเหรอ? ไม่มีทางช่วยเลยเหรอ?” เสิ่นชิวถอนหายใจ

“ตอนนี้ยังไม่มีทาง” หวงล่างตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ

“เข้าใจแล้ว งั้นเอาไว้ก่อนก็ได้” เสิ่นชิววางสายลงพร้อมกับปล่อยลมหายใจยาว...

..........

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด