บทที่ 31 การเปลี่ยนแปลง
บทที่ 31 การเปลี่ยนแปลง
“หา? ไม่ใช่สิ? เขาก็ดูปกติดีไม่ใช่เหรอ?”
หลินเซียวอวี่พูดขึ้นด้วยความประหลาดใจอย่างมาก จนแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
“อาการยังไม่แสดงออกมาก็แน่นอนว่าดูปกติอยู่แล้วล่ะ”
เหลี่ยวขายพูดพร้อมหยิบซองบุหรี่ออกมาจากกระเป๋า เขาหยิบบุหรี่ออกมามวนหนึ่ง คาบไว้ที่ปาก จุดไฟสูบแล้วพูดต่อ
“ไร้สาระ! เสิ่นชิวแข็งแรงดีจะตาย จะไปมีอาการเจ็บป่วยอะไรได้ล่ะ?”
หวังปัวพูดขึ้นอย่างไม่เกรงใจหลังจากได้ยิน
“แค่กๆ คุณป้าครับ นี่เป็นข้อมูลที่บันทึกไว้ในระบบการแพทย์ ไม่มีทางผิดพลาดหรอก”
เหลี่ยวขายอธิบายอย่างจนใจ
“ฉันไม่ฟังอะไรทั้งนั้น! ฉันรู้ดีอยู่แก่ใจว่าเสิ่นชิวไม่มีปัญหาอะไร ฉันว่าไอ้พวกหน่วยงานวุ่นวายนั่นมันแค่กุเรื่องขึ้นมา จะได้หาเงินเพิ่มล่ะสิ คิดว่าฉันไม่รู้งั้นเหรอ? พวกเธอนี่ช่างไร้จิตสำนึก เด็กหนุ่มที่ดีๆ กลับถูกป้ายสีแบบนี้ แล้วเขาจะไปทำงานหรือหาผู้หญิงได้ยังไง พวกเธอรู้ไหมว่ามันลำบากขนาดไหน?”
หวังปัวพูดด้วยน้ำเสียงกราดเกรี้ยวขึ้นเรื่อยๆ
เสิ่นชิวเห็นท่าทางของป้าหวังก็รีบเข้ามาพูดปลอบทันที
“ป้าหวังครับ ช่างมันเถอะครับ เรื่องนี้ไม่เป็นไรจริงๆ”
แม้ว่าคนอื่นจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เสิ่นชิวกลับรู้สถานการณ์ของตัวเองดี
เมื่อเห็นเสิ่นชิวพูดเช่นนั้น ป้าหวังก็ยอมสงบลงและหยุดบ่น
เหลี่ยวขายที่รู้สึกอับอายก็รีบเปลี่ยนเรื่องพูดว่า “ฮ่าฮ่า พอเถอะ เรามาจัดการเรื่องสำคัญกันก่อนดีกว่า”
สายตาของทุกคนกลับมาจับจ้องไปที่ยุงยักษ์ที่ถูกจัดการ หัวของมันถูกผ่าเกือบขาดเป็นสองส่วน เลือดสีแดงสดกระจายเปรอะพื้นไปทั่ว
“ให้ตายสิ! นี่ยังไม่ถึงเดือนเมษายนเลย แต่ยุงมันตัวใหญ่ขนาดนี้แล้วเหรอ?”
“แกนี่เลอะเลือนแล้ว ไม่ว่าเดือนอะไรยุงก็ไม่ควรโตขนาดนี้ มันทำลายสถิติโลกได้เลยนะ”
“แล้วถ้าคนโดนมันกัดเข้า จะไม่เจ็บจนสะท้านหรือ?”
“ไปๆ อย่ามาล้อเล่นกัน จริงจังหน่อย”
เหล่าเพื่อนบ้านที่มุงดูกันอยู่พากันชี้ไปที่ศพยุงและแสดงความคิดเห็น
บางคนถึงกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพูดด้วยความตื่นเต้นว่า “มาถ่ายรูปเก็บไว้หน่อย”
เมื่อเหลี่ยวขายเห็นคนเริ่มถ่ายรูป เขาก็รีบห้ามทันที
“ห้ามถ่ายรูปเด็ดขาด”
“ทำไมถึงถ่ายไม่ได้ล่ะ?”
บางคนในกลุ่มเริ่มแสดงความไม่เข้าใจ
“ห้ามก็คือห้าม ใครไม่เชื่อฟังและถ่ายรูป จะถูกยึดมือถือหรือปรับเงิน หากตั้งใจเผยแพร่ข้อมูลให้เกิดความตื่นตระหนก จะต้องโดนลงโทษตามกฎหมาย”
เสียงที่เข้มงวดและเย็นชา ดังมาพร้อมกับเสียงฝีเท้า
เสิ่นชิวขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะหันไปมอง เห็นชายสามคนในชุดเครื่องแบบลายดำสลับที่หน้าอกติดสัญลักษณ์ KPI เด่นชัด พร้อมอาวุธปืน G36 ในมือและสายตาที่แหลมคม
ผู้คนที่อยู่รอบๆ ถึงกับเงียบกริบด้วยความเกรงขาม
เหลี่ยวขายรีบทำความเคารพทันที “หัวหน้า!”
หัวหน้าหน่วยมองเหลี่ยวขายก่อนจะพูดขึ้นว่า
“เจ้าหน้าที่ KPI ดำเนินการอยู่ ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกลับบ้านไปให้หมด ห้ามพูดหรือเผยแพร่เรื่องในคืนนี้อย่างเด็ดขาด”
คนที่อยู่ในเหตุการณ์พากันแยกย้ายกลับบ้าน เสิ่นชิวเองก็ไม่คิดจะอยู่นานและตรงกลับบ้านของตัวเองทันที
เมื่อปิดประตู เขาเข้าไปในห้องนอน เปิดคอมพิวเตอร์ขึ้น
เสิ่นชิวเปิดเบราว์เซอร์ ใส่คำค้นหาต่างๆ ที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
แต่ผลการค้นหาทั้งหมดกลับไม่พบอะไรเลย
แม้กระทั่งโพสต์ที่เคยมีคนพูดถึงหัวกะโหลกสีแดงบนแพลตฟอร์มไห่อิน ก็หายไปจนสิ้น...
ในเครือข่ายเสมือน ทุกอย่างดูสงบสุข
แต่ภายใต้ความสงบนั้น เสิ่นชิวกลับรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล
เขาใช้เวลาหลายสิบนาทีไตร่ตรอง ก่อนจะเปิดซอฟต์แวร์ที่ซ่อนอยู่ในคอมพิวเตอร์
“กำลังเลือกบริการเครือข่าย...”
“เลือกสำเร็จ กำลังสร้างช่องทางเครือข่ายใหม่...”
“การเชื่อมต่อเครือข่ายที่สองสำเร็จ”
จากนั้นเสิ่นชิวพิมพ์ชุดตัวอักษรและตัวเลขที่ซับซ้อนลงไป ไม่นานหน้าจอก็ปรากฏข้อความใหม่
“ยินดีต้อนรับสู่ เว็บไซต์อั้นถง จงมองผ่านดวงตาที่มืดมนเพื่อค้นพบโลกที่ไม่เคยมีใครรู้”
เว็บไซต์อั้นถงเป็นพื้นที่ลับที่ไม่เหมาะให้ใครเห็น เสิ่นชิวเคยใช้มันในอดีตเพื่อรวบรวมข้อมูลสำหรับการเดินทางไปยังเขตต้องห้ามเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมเอ็กซ์ตรีม แม้จะไม่แน่ใจว่าข้อมูลที่ต้องการจะมีอยู่ในนี้หรือไม่ แต่ในยามไม่มีทางเลือก เขาจำต้องลองดู
ทันทีที่เสิ่นชิวเริ่มเลื่อนดูเนื้อหาในเว็บไซต์ สีหน้าของเขาก็ตึงเครียด
เขาอ่านข้อมูลฟรีที่เปิดเผยอย่างรวดเร็ว ขณะที่ข้อมูลบางส่วนยังต้องจ่ายเงินเพื่อเข้าถึง ซึ่งข้อมูลฟรีก็เพียงพอสำหรับตอนนี้
เสียงนาฬิกาเก่าแก่บนผนังดังก้องในห้อง เงียบสงบแต่ชวนให้กดดัน
เวลาเดินไปเรื่อยๆ กว่าชั่วโมง เสิ่นชิวเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความวิตก
จากข้อมูลในเว็บไซต์อั้นถง เขาเริ่มเห็นภาพสถานการณ์ปัจจุบัน
โลกทั้งใบกำลังประสบปรากฏการณ์ประหลาด มีคนจำนวนมากหายตัวไปโดยไร้ร่องรอย จากการคำนวณเบื้องต้น ตัวเลขการหายตัวของผู้คนทั่วโลกน่าจะเกิน สิบล้านคน
กรณีแรกที่มีการบันทึกไว้คือในพื้นที่ของพันธมิตรน้ำเงิน มีผู้สูญหายที่กลับมาแล้วชื่อ คาร์ติง อดีตนายทหารที่ปลดประจำการ
คาร์ติงเล่าว่า วันนั้นเขานั่งกินอาหารในร้านอย่างสงบ แต่จู่ๆ เขาก็ถูกพาไปยังป่าดงดิบที่มืดครึ้มและกว้างใหญ่ เขาได้เห็นพืชพรรณและสัตว์ประหลาดที่ไม่เคยพบมาก่อน ก่อนที่จะกลับออกมาได้โดยไม่ทราบวิธีการ
ระยะเวลาหายตัวไปคือ 1 ชั่วโมง 21 นาที
จากนั้นก็เริ่มมีผู้สูญหายกลับมาเป็นจำนวนมาก แต่สิ่งที่น่าประหลาดคือ พวกเขาแต่ละคนให้คำบรรยายถึงสถานที่ที่พวกเขาไปแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง มีเพียงบางส่วนเท่านั้นที่เหมือนกัน
หลังจากวิเคราะห์ข้อมูลอย่างละเอียด พบว่าเวลาที่คนเหล่านี้หายตัวไปจะอยู่ระหว่าง 6 โมงเย็นถึง 6 โมงเช้า และเวลาที่พวกเขากลับมาก็อยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน
ที่สำคัญกว่านั้น บางคนที่กลับมามีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย บางคนได้รับความสามารถพิเศษใหม่ และถูกเรียกว่า ผู้ตื่นรู้
แต่ในขณะเดียวกัน มีบางส่วนที่ควบคุมตัวเองไม่ได้และกลายเป็นสัตว์ประหลาดดุร้าย คนเหล่านี้ถูกเรียกว่า ผู้สูญเสียความควบคุม
เสิ่นชิวพึมพำกับตัวเองเบาๆ คำว่า “การเปลี่ยนแปลง” ดังก้องในหัวเขาซ้ำไปมา
ตามข้อมูลในเว็บไซต์อั้นถง คนที่เปลี่ยนแปลงล้วนแต่เคยไปยังโลกที่แตกต่าง และตัวเขาเองก็เคยไปมาแล้ว
“หรือว่าฉันเองก็เปลี่ยนแปลงไปแล้ว?”
ความคิดนี้ทำให้เสิ่นชิวเริ่มรู้สึกไม่สบายในร่างกายโดยไม่รู้สาเหตุ เขารู้สึกปวดท้องอย่างรุนแรง
เขาถอดเสื้อออกและตรวจดูตัวเอง หวังว่าจะพบสัญญาณผิดปกติบนผิวหนัง
แต่ไม่ว่าเขาจะตรวจดูอย่างไร ก็ไม่พบสิ่งใดผิดปกติ
ท้องของเขากลับปวดหนักขึ้นเรื่อยๆ จนเขาต้องกุมท้องแน่น คิ้วขมวดเป็นปม ก่อนที่จะทนไม่ไหวต้องวิ่งเข้าห้องน้ำ
เสียงน้ำไหลสะท้อนในความมืดยามค่ำคืน
จากภายนอก ห้องของเสิ่นชิวมีแสงไฟสว่างลอดผ่านหน้าต่างมาตลอดทั้งคืน
เช้าตรู่ประตูถูกเปิดออก เสิ่นชิวเดินออกมาอย่างเชื่องช้า ร่างกายเขางอไปข้างหน้า มือกุมท้องแน่น ใบหน้าซีดขาวและขาอ่อนแรง
เขาเดินอย่างยากลำบากออกจากชุมชน มุ่งหน้าไปยัง คลินิก 24 ชั่วโมง ที่อยู่ใกล้ถนน…
..........