บทที่ 25 การทดสอบเข้าเรียน
บทที่ 25 การทดสอบเข้าเรียน
เช้าตรู่วันนั้น ณ ความสูง 1,500 เมตรเหนือพื้นดิน หน้าประตูโรงเรียนเต๋าตงฮว่า เมืองตงฮว่า มีผู้คนหลั่งไหลมารวมตัวกันจนแน่นขนัด
โจวไป๋ที่ยืนอยู่ในฝูงชนมองรอบๆ ด้วยสีหน้าอึดอัด
“ทำไมคนถึงมาสอบกันเยอะขนาดนี้? นี่ต้องสอบถึงเมื่อไหร่กันเนี่ย!”
หลังจากนั้นก็เป็นขั้นตอนการต่อแถว ลงทะเบียน และเดินตามคนอื่นเข้าสู่พื้นที่โรงเรียน
ขั้นตอนแรก คือการตรวจร่างกายพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นส่วนสูง น้ำหนัก อายุของกระดูก สุขภาพโดยรวม รวมถึงการตรวจสอบว่ามีการปนเปื้อนพลังแห่งวิญญาณหรือไม่
เมื่อเสร็จสิ้นการตรวจพื้นฐานแล้ว ก็เข้าสู่ การตรวจวัดค่าพลังแห่งวิญญาณ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการสอบ
โจวไป๋ยืนอยู่กลางแถว มองไปรอบๆ เห็นแถวต่างๆ เคลื่อนตัวไปยังเครื่องตรวจวัดค่าพลังแห่งวิญญาณทีละคน
มีบางคนที่ดูสีหน้าซีดเผือดเต็มไปด้วยความกังวล ขณะที่บางคนกลับดูสงบนิ่งมั่นใจ
ทันใดนั้น เสียงร้องไห้ก็ดังขึ้นในพื้นที่ใกล้ๆ หญิงสาวคนหนึ่งกอดครูผู้คุมสอบไว้แน่น ไม่ยอมออกจากเครื่องตรวจ
“ขอร้องค่ะ! ได้โปรดให้ฉันลองอีกครั้งเถอะ” เสียงสะอื้นของเธอเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
“เมื่อคืนนอนไม่หลับ ตอนนี้ก็แค่ตื่นเต้นเกินไป ถ้าได้โอกาสอีกครั้ง ฉันต้องทำได้แน่ๆ”
ผลการตรวจสอบของหญิงสาวปรากฏอยู่บนจอขนาดใหญ่ ซึ่งแสดงให้เห็นชัดเจนว่าค่าพลังแห่งวิญญาณของเธอคือ 29 ห่างจากเกณฑ์ผ่านที่ 30 เพียงแค่ 1 แต้ม
ครูผู้คุมสอบส่ายหน้าเบาๆ
“คุณใช้โอกาสครบสามครั้งแล้ว เจอกันใหม่ปีหน้าเถอะ”
หญิงสาวทรุดตัวลงกับพื้น ร้องขออย่างน่าเวทนา
“ไม่ได้ค่ะ! ฉันอายุ 20 แล้ว ถ้าปีหน้าก็ไม่มีโอกาสอีกแล้ว ได้โปรดเถอะ ขอฉันลองอีกครั้ง...”
ปัง!
ครูผู้คุมสอบตัดสินใจรวบรัดด้วยการทำให้หญิงสาวหมดสติ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ต้องพบกับผู้สมัครที่หมดหวังเช่นนี้ เพราะการสอบเข้าโรงเรียนเต๋าไม่ได้มีพื้นที่ให้สำหรับความอ่อนแอ
โรงเรียนเต๋าทั้งสี่แห่งนั้นเปรียบเสมือนศูนย์กลางแห่งพลังของมนุษยชาติ มันไม่ใช่แค่สถานที่สำหรับฝึกฝนพลังที่ดีที่สุด แต่ยังเป็นเส้นทางสำคัญในการต่อสู้กับปีศาจสวรรค์ เพื่อปกป้องแผ่นดิน และนำพามนุษยชาติคืนสู่ความรุ่งเรือง
โจวไป๋มองหญิงสาวที่ถูกพาออกไปด้วยความเห็นใจ
“ถ้าครั้งนี้เธอไม่ผ่าน ก็มีแค่สองทางเลือก คือไปเป็นทหาร หรือเข้าร่วมสำนักเล็กๆ หรือไม่ก็ให้สวรรค์จัดสรรงานให้ แต่มันก็ไม่มีทางเทียบเท่ากับการได้เป็นนักเรียนโรงเรียนเต๋าหรอก”
ไม่กี่นาทีต่อมา เสียงฮือฮาก็ดังขึ้นจากฝูงชนอีกครั้ง โจวไป๋หันไปมองและเห็นตัวเลข 99 บนจอใหญ่ เป็นค่าพลังแห่งวิญญาณของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าเครื่องตรวจ
โจวไป๋คิดในใจ
“โอ้โห เด็กอัจฉริยะ? เดี๋ยวก็ถึงตาฉันแสดงบ้างแล้ว”
หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีเสียงฮือฮาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่มีผู้เข้าสอบที่ได้ค่าพลัง 99 ปรากฏตัว
แต่ทันใดนั้น เสียงโห่ร้องอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนก็ดังก้องขึ้นทั่วบริเวณ ทุกสายตาจับจ้องไปที่จอใหญ่ ซึ่งแสดงตัวเลข 105
เสียงพูดคุยซุบซิบดังขึ้นทันที
“นี่มันอะไรกัน! มีคนได้ค่าพลัง 105 อย่างนั้นเหรอ?”
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน! ฉันได้ยินมาตลอดว่า 99 คือขีดจำกัดสูงสุด”
“คนคนนั้นเป็นใครกัน? หรือว่าเขาได้เริ่มฝึกเต๋าแล้ว และระดับการบรรลุเต๋าของเขาได้ทะลุเกณฑ์ 0% ไปแล้ว?”
เด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินลงจากเวทีอย่างไม่สนใจสายตาของผู้คน เขามีร่างผอมสูง ผมยาวสีดำ และสีหน้าขาวซีดเย็นชา เขาเพียงแค่เหลือบมองผลลัพธ์บนจอก่อนเดินจากไป
โจวไป๋มองเขาด้วยสีหน้าหงุดหงิด
“เฮ้อ ฉันคิดว่าค่าพลัง 99 ของตัวเองจะโดดเด่นที่สุดในรุ่นนี้แล้วแท้ๆ แต่นี่กลับมีคนได้ 105 โผล่มาอีก
“โจวไป๋!”
เสียงประกาศเรียกชื่อของเขาดังขึ้น
โจวไป๋เดินขึ้นไปที่เวที หยุดยืนตรงหน้าเครื่องตรวจวัด ก่อนจะรวมสมาธิและปล่อยพลังแห่งวิญญาณเข้าสู่ลูกบอลตรวจวัดที่ลอยอยู่เบื้องหน้า
99
ตัวเลขปรากฏขึ้นบนจอใหญ่ แต่ครั้งนี้ไม่มีเสียงฮือฮาใดๆ ทุกคนยังคงอยู่ในภวังค์ของความตกตะลึงจากค่าพลัง 105 ของเด็กหนุ่มก่อนหน้า...
“ชิ!” โจวไป๋สบถเบาๆ พร้อมเดินตามกลุ่มคนที่สอบเสร็จไปยังสนามสอบถัดไป
ในเวลาเดียวกันนั้น ในห้องทำงานแห่งหนึ่ง กลุ่มครูโรงเรียนเต๋าหลายคนกำลังจับตามองภาพจากการสอบผ่านจอมอนิเตอร์
“ปีนี้มีผู้ผ่านการทดสอบรอบแรกทั้งหมด 12,000 คน” ชายชราผมขาวถอนหายใจ
“เด็กที่มีพรสวรรค์ด้านเต๋านับวันยิ่งน้อยลง เป็นโชคร้ายของเผ่ามนุษย์เราเสียจริง”
“ถึงจำนวนจะน้อยลง แต่ปีนี้เรามีผู้ที่โดดเด่นมากขึ้น” หญิงสาวใบหน้าคม ผูกผมหางม้า สวมเสื้อหนังกล่าวขึ้น
“มีผู้เข้าสอบที่มีค่าพลังแห่งวิญญาณถึง 99 แต้มจำนวน 25 คน และหนึ่งในนั้นยังเข้าสู่เต๋าแล้ว ค่าพลังของเขาสูงถึง 105 แต้ม”
ครูหญิงอีกคนขบคิดก่อนกล่าว
“การบิดเบือนของสวรรค์ยิ่งทวีความรุนแรง ทำให้การฝึกเต๋ายากขึ้นสำหรับคนทั่วไป แต่สำหรับอัจฉริยะ กลับกลายเป็นว่าพวกเขาสามารถพัฒนาพลังได้อย่างรวดเร็ว”
ชายชราที่ถูกเรียกว่า "ผู้อำนวยการ" แต่แท้จริงเป็นรองผู้อำนวยการ เจาจิ่ว พยักหน้า
“ค่าพลังแห่งวิญญาณ 105 แต้ม? หรือว่าจะเป็น จั่วเต้า จากตระกูลจั่ว?”
หญิงสาวตอบพร้อมรอยยิ้มบาง
“ใช่ค่ะ เขาคนนั้นเอง ความสามารถของเขาเป็นสิ่งที่ไม่อาจวัดขีดจำกัดได้เลย และดูเหมือนว่าอันดับหนึ่งปีนี้น่าจะตกเป็นของเขา”
ในขณะเดียวกัน หลังจากจบการทดสอบรอบแรก ผู้เข้าสอบถูกลดจำนวนเหลือ 12,000 คน และถูกสุ่มกระจายไปยังสนามสอบต่างๆ เพื่อเข้าสู่การทดสอบรอบที่สอง
โจวไป๋และกลุ่มผู้เข้าสอบอื่นยืนรวมกันอยู่ในลานกว้างที่สว่างไสวด้วยแสงอาทิตย์เทียม แม้ว่าด้านบนจะยังคงเต็มไปด้วยอาคารลอยฟ้า แต่มันกลับให้ความรู้สึกโปร่งโล่งและสะอาดสะอ้าน แตกต่างจากพื้นที่พื้นล่างราวกับโลกคนละใบ
โจวไป๋มองรอบตัวพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงเปรียบเทียบ
“ที่นี่กับข้างล่างนี่เทียบกันไม่ได้เลยนะ เหมือนย่านคนรวยกับย่านสลัมชัดๆ”
ทันใดนั้น เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นข้างหูของเขา
“ข้างบนนี้แม้จะดูดี แต่ก็ต้องเผชิญหน้ากับการต่อสู้ที่อันตรายยิ่งกว่า”
โจวไป๋หันไปมอง พบหญิงสาวผมสั้น แต่งตัวด้วยชุดกีฬา ดูคล่องแคล่วและเต็มไปด้วยพลัง เธอยิ้มอย่างร่าเริงพลางกล่าว
“ฉันชื่อ จิ่งซิ่ว นายคือโจวไป๋ใช่ไหม?”
“เราเคยรู้จักกันหรือ?” โจวไป๋ถามด้วยความสงสัย
“เราเพิ่งอยู่ทีมเดียวกันในการตรวจวัดค่าพลังแห่งวิญญาณไงล่ะ พวกเราทั้งคู่มีค่าพลัง 99” จิ่งซิ่วยิ้มสดใส
“แม้ว่ายังมีการทดสอบรอบสองและรอบสาม แต่คนที่มีค่าพลัง 99 แทบไม่เคยถูกคัดออก นายเองก็น่าจะรู้ว่าการจะบรรลุถึงจุดนี้ก่อนอายุ 20 ต้องใช้ความมุ่งมั่นและสติปัญญาขนาดไหน”
โจวไป๋พยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“ใช่แล้ว”
“เพราะอย่างนั้น...” จิ่งซิ่วกล่าวพลางยื่นมือออกมา “ยินดีที่ได้รู้จัก เพื่อนร่วมชั้น”
“ยินดีที่ได้รู้จัก” โจวไป๋ยื่นมือไปจับตอบ...
..........