ตอนที่แล้วบทที่ 1 ปฏิทินโบราณ 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 3 เฝิงอวี้ซู่ 

บทที่ 2 จางหยางสวี่ 


ขณะที่เคลื่อนย้ายศพ หนิงเจ๋อได้หยิบโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋าของชายในเสื้อกล้ามมาด้วย เคสโทรศัพท์สีดำมีธนบัตรร้อยหยวนสอดอยู่หนึ่งใบ แต่ไม่มีเอกสารยืนยันตัวตน เช่น บัตรประชาชนหรือใบขับขี่

หนิงเจ๋อไม่รู้รหัสปลดล็อกหน้าจอของชายเสื้อกล้าม แต่เขาใช้ลายนิ้วมือของศพปลดล็อกแทน หลังจากปลดล็อกสำเร็จ สิ่งแรกที่หนิงเจ๋อทำคือเข้าไปในการตั้งค่าของระบบและตั้งค่าล็อกหน้าจอเป็น “ไม่ล็อกอัตโนมัติ” ก่อนจะเริ่มตรวจสอบข้อมูลต่างๆในโทรศัพท์

ประมาณสามชั่วโมงหลังการเสียชีวิต ไฟฟ้าชีวภาพที่อ่อนแรงในเซลล์ของร่างกายจะหมดไปโดยสมบูรณ์ ซึ่งหมายความว่าในตอนนั้นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จะไม่สามารถจดจำลายนิ้วมือของศพได้อีก

ชื่อเล่นใน WeChat ของชายในเสื้อกล้ามคือ “AAA สโมสรกีฬาเฉียวเกาลี่ - โค้ชจื้อหยวน” และชื่อที่ผ่านการยืนยันตัวตนคือ “หลินหยวน”

บัญชี WeChat ของหลินจื้อหยวนมีเพื่อนอยู่มาก ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงที่มีการบันทึกชื่อว่า “ลูกค้า” หรือ “ผู้เรียน” ในการสนทนาล่าสุดกับลูกค้าหญิงที่มีนามสกุลไช่ หลินจื้อหยวนได้พูดถึงการกลับบ้านเพื่อไปเยี่ยมพ่อแม่สักพักและให้เพื่อนร่วมงานมาแทนที่ในช่วงนี้

ฝ่ายหญิงตอบกลับด้วยสติกเกอร์ที่มีข้อความว่า “คิดถึง”

เมื่อเลื่อนดูโพสต์ใน Moments ของหลินจื้อหยวน โพสต์สุดท้ายถูกลงเมื่อเช้าวานนี้ เนื้อหาคือ “อาหารที่สถานีบริการแพงเกินไป ทั้งแพงทั้งมันกินมื้อนี้ต้องลดน้ำหนักเป็นเดือนถึงจะกลับมาได้” พร้อมกับรูปภาพรถยนต์ N1 ที่จอดอยู่ข้างแท่นชาร์จไฟ

“เมื่อวานตอนเช้า หลินจื้อหยวนยังบ่นเรื่องอาหารที่สถานีบริการบนทางด่วน นั่นหมายความว่าเขาเข้ามาในหมู่บ้านหลังจากนั้น” หนิงเจ๋อนึกย้อนถึงช่วงที่ตัวเองถูกพัดเข้ามาในหมู่บ้านเหอเจีย เขาเข้ามาตั้งแต่เวลา 7 โมงเช้าซึ่งเร็วกว่าหลินจื้อหยวนไม่กี่ชั่วโมง

เมื่อยืนยันว่าโทรศัพท์ยังมีสัญญาณอินเทอร์เน็ต หนิงเจ๋อได้ส่งข้อความหาไช่ ลูกค้าหญิงของหลินจื้อหยวนว่า

“คุณอยู่ไหม?”

ข้อความแสดงเครื่องหมายอัศเจรีย์สีแดงทางด้านซ้าย พร้อมกับสถานะส่งไม่สำเร็จ

“ผลลัพธ์ก็เป็นไปตามคาด” หนิงเจ๋อไม่แปลกใจ

เมื่อเช็กประวัติการโทรและการสนทนา พบว่าหลินจื้อหยวนพยายามโทรหาคนที่ถูกบันทึกไว้ว่าเป็นพ่อแม่และแฟนสาวหลายครั้ง รวมถึงใช้ฟังก์ชันขอความช่วยเหลือฉุกเฉินของผู้ให้บริการโทรศัพท์ แต่ความพยายามทั้งหมดล้มเหลว

หนิงเจ๋อไม่แปลกใจ เพราะเขาเองก็ประสบกับสถานการณ์เดียวกัน ตั้งแต่เข้าสู่หมู่บ้านเหอเจีย เขาสูญเสียการติดต่อกับโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง แม้ว่า 4G จะมีสัญญาณเต็ม แต่กลับไม่สามารถส่งหรือรับข้อความได้เลย

สำหรับคนทั่วไป อาจรู้สึกหมดกำลังใจในสถานการณ์แบบนี้ แต่หนิงเจ๋อไม่ใช่คนธรรมดา ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาออกจากแอป WeChat และใช้โทรศัพท์ของหลินจื้อหยวนโทรหาเบอร์ของตัวเอง

บรื๋น—บรื๋น—

โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของเขาสั่น เขาสามารถโทรหาตัวเองได้สำเร็จ

ในขณะนั้นเสียงฝีเท้าดังขึ้นนอกศาลเจ้า

หนิงเจ๋อวางสายและเก็บโทรศัพท์ของหลินจื้อหยวนไว้ในกระเป๋าเสื้ออย่างระมัดระวัง จากนั้นตั้งสมาธิฟังเสียงฝีเท้าข้างนอก

เมื่อหลินจื้อหยวนเข้ามาในศาลเจ้า เสียงรองเท้าผ้าใบของเขาที่กระทบกับพื้นดินและแผ่นหินฟังดูหนักแน่น แต่คราวนี้เสียงฝีเท้ากลับดังชัดเจนและก้องกังวาน เสียงส้นรองเท้าแข็งกระทบพื้นดังก้อง แตะ—แตะ— และไม่ได้มาคนเดียว แต่มีสองคน

สายตาของหนิงเจ๋อจับจ้องไปที่ประตูทันที ชายวัยกลางคนที่แต่งกายด้วยชุดสูทและหญิงสาวผมยาวที่สวมชุดทำงานออฟฟิศเดินเข้ามา รองเท้าหนังและรองเท้าส้นสูงที่ดูประณีตของพวกเขามีคราบโคลนสีเหลืองติดอยู่เล็กน้อย

“ทำไมถึงเป็นเขากัน?” หนิงเจ๋อประหลาดใจ

เขารู้จักชายวัยกลางคนคนนี้ แม้ว่าฝ่ายนั้นอาจไม่รู้จักเขา

หนิงเจ๋อรู้จักชายคนนี้จากข่าว ชื่อของเขาคือ จางหยางซวี่ ผู้บริหารสูงสุดของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในชิงโจว นามว่า ซินซื่อเจี้ยกรุ๊ป”

เหตุผลที่หนิงเจ๋อกลับจากโรงเรียนมายังบ้านเกิดในชนบทก็เพราะบริษัทของจางหยางซวี่กำลังวางแผนจะซื้อที่ดินในเขตตำบลบ้านเกิดของเขา“กู่เปยเจิ้น”เพื่อพัฒนาโครงการใหม่ ซึ่งบ้านของหนิงเจ๋อถูกระบุอยู่ในรายชื่อที่ดินที่จะต้องเวนคืน

ในบ้านเกิดของหนิงเจ๋อ ปู่ย่าตายายของเขาไม่สามารถอ่านออกเขียนได้ นั่นเป็นเหตุผลที่เขาซึ่งยังเป็นเพียงนักเรียนมัธยมปลายต้องขอลางานเรียนไม่กี่วันเพื่อกลับมาบ้าน

“จางหยางซวี่ก็ถูกพัดเข้ามาที่นี่ด้วย... ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้ฉันเห็นข่าวในสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นว่าผู้บริหารระดับสูงของ ‘ซินซื่อเจี้ยกรุ๊ป’ จะมาที่ตำบลกู่เปยเพื่อสำรวจพื้นที่ และสรุปข้อตกลงเรื่องที่ดิน ใครจะคิดว่าประธานใหญ่จะมาด้วยตัวเอง ผู้หญิงข้างๆนั้นน่าจะเป็นเลขาหรือผู้ช่วยของเขา”

ด้วยข้อมูลที่กระจัดกระจาย หนิงเจ๋อพอจะคาดเดาสถานการณ์ได้

“หลินจื้อหยวนถูกพัดเข้ามาที่นี่ตอนกลับบ้านเยี่ยมครอบครัว ส่วนฉันถูกพัดเข้ามาระหว่างเดินทางกลับบ้านเพื่อช่วยปู่ย่าตรวจสอบสัญญาเวนคืนที่ดิน แล้วจางหยางซวี่กับผู้หญิงคนนั้นก็น่าจะถูกพัดเข้ามาระหว่างเดินทางสำรวจพื้นที่ในตำบลกู่เปย…”

หมู่บ้านประหลาดชื่อ เหอเจีย แห่งนี้มีความเชื่อมโยงอะไรกับบ้านเกิดของเขาที่ตำบลกู่เปยหรือไม่?

ท่ามกลางความสงสัย หนิงเจ๋อเฝ้ามองจางหยางซวี่และหญิงสาวในชุดทำงานเดินไปยังแท่นบูชาที่ประดิษฐานรูปสลักเทพอสรพิษ

จางหยางซวี่ใช้มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์มือถือเปิดไฟฉายและอีกมือกดหน้ากระดาษของปฏิทินโบราณที่ปลิวไปมาตามลม พร้อมทั้งพินิจข้อความบนหน้ากระดาษนั้น ไม่นานเขาก็แสดงสีหน้าสงสัยเหมือนกับที่หลินจื้อหยวนเคยแสดงมาก่อน เนื้อหาในปฏิทินไม่ตรงกับข้อห้ามที่เขาเคยละเมิดเมื่อวานนี้

เขาเหลือบมองหน้าจอโทรศัพท์ด้วยคิ้วขมวดทันที

“วันที่ยี่สิบสาม เดือนสี่ตามปฏิทินจันทรคติ แสดงว่านี่คือเนื้อหาของวันนี้ ปฏิทินถูกเปิดไปแล้ว”

เสียงของจางหยางซวี่แผ่วต่ำแหบเล็กน้อยและฟังดูสุขุมจริงจัง

“ที่นี่มีคนมามาก่อนเรา”

หญิงสาวข้างๆเอ่ยถามด้วยเสียงเบา

“เป็นชาวบ้านหรือคะ?”

จางหยางซวี่ส่ายหน้า

“ตอนเรามาที่นี่ ฉันสังเกตแล้วว่าประตูบ้านทุกหลังบนถนนถูกล็อกจากด้านใน คืนนี้ไม่มีชาวบ้านคนไหนออกจากบ้านเลย”

“ไม่ใช่ชาวบ้าน? ถ้าอย่างนั้น…?” หญิงสาวถามด้วยเสียงสงสัย และไม่แน่ใจ

“หรือว่านอกจากเราจะมีคนอื่นที่ถูกพัดเข้ามาที่นี่อีก?”

“มีความเป็นไปได้” จางหยางซวี่ไม่ได้ปฏิเสธ

“พวกเขาพูดถึงการตรวจสอบประตูบ้านบนถนนทั้งหมดว่าถูกล็อกจากด้านใน ถ้าเป็นแบบนั้น...” หนิงเจ๋อคิดคำนวณเวลาเล็กน้อย และรู้สึกโล่งใจขึ้น

“ดูเหมือนว่า หากแค่ออกจากบ้านแล้วเดินอยู่บนถนนในหมู่บ้านจะไม่ถือเป็นการละเมิดข้อห้ามเรื่อง ‘ห้ามเดินทาง’”

ข้อห้ามเรื่องการเดินทางคงหมายถึงอย่างอื่น

เมื่อมั่นใจเกี่ยวกับคำพยากรณ์ประจำวันแล้ว หนิงเจ๋อไม่ได้ต้องการติดต่อกับจางหยางซวี่และหญิงสาวเพิ่มเติม ในสถานการณ์แบบนี้ไม่มีใครที่สามารถไว้วางใจได้ เสาด้านหลังที่เขาหลบอยู่มีประตูด้านข้างของศาลเจ้าอยู่ใกล้ๆ ได้เวลาที่เขาควรจะจากไป

หนิงเจ๋อจ้องมองจางหยางซวี่และหญิงสาวที่ยืนสนทนาอยู่หน้ารูปสลักเทพอสรพิษด้วยความระแวดระวังก่อนค่อยๆก้าวถอยหลังไปยังประตูด้านข้างอย่างเงียบเชียบ ลมหนาวเย็นพัดผ่านเข้ามาจากภายนอกทำให้หลังของเขารู้สึกเย็นเฉียบ

ยังไม่ทันที่จะถอยออกไปด้านนอก จู่ๆก็มีเสียงร้องโหยหวนปนสะอื้นดังมาจากด้านหลังของเขา

“คุณเป็นใคร...”

(จบบท)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด