บทที่ 18 : พันคนพันหน้า
ใกล้มหาวิทยาลัยเจียงหลิงมีศูนย์การค้าอี้อู๋ ที่นี่ของถูกและคุ้มค่า มีทั้งร้านเน็ต โต๊ะพูล ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และโรงแรมเรียงรายเป็นแถว ตอบโจทย์ความต้องการแบบครบวงจรของนักศึกษาทั้งกิน เที่ยว และนอน
กลุ่มของเฉินฮั่นเซิงไม่ขึ้นรถ เดินคุยกันไปเรื่อยๆ จนถึงถนนร้านอาหารริมทาง พนักงานเสียงดังเรียกทันที "น้องๆ ร้านเรามีเบียร์ลดราคา ลองมาชิมไหม"
เพื่อนร่วมห้องทุกคนหันไปมองเฉินฮั่นเซิง เพราะเขาเป็นหัวหน้ากลุ่ม แต่เฉินฮั่นเซิงกลับมองไปที่กั๋วจงยวิ่น ผู้ที่สมควรได้รับการประจบมากที่สุด
กั๋วจงยวิ่นส่ายหน้า "ไก่ผัดพริกร้านนี้ไม่อร่อย กินแล้วท้องเสีย ไปร้านอื่นกันดีกว่า"
เฉินฮั่นเซิงหัวเราะในใจ กั๋วแก่เป็นอาจารย์ที่ปรึกษามาหลายปี ถูกรุ่นแล้วรุ่นเล่าชวนมากิจกรรม ร้านไหนอร่อยแถวมหา'ลัยนี่รู้หมด
พวกเขาตามกั๋วจงยวิ่นมาถึงร้านที่เลือกไว้ นักศึกษาชาย 27 คนนั่งเต็ม 3 โต๊ะพอดี เจ้าของร้านเดินมาทักทาย "อาจารย์กั๋ว นี่นักศึกษาใหม่ของอาจารย์เหรอคะ"
กั๋วจงยวิ่นพยักหน้า แล้วสั่งอาหารอย่างคล่องแคล่ว "อาหารเหมือนเดิม ระวังเรื่องความสะอาดด้วย"
"อาจารย์วางใจได้ค่ะ อาจารย์จะดื่มอะไรดีคะ?"
คำถามนี้ทำเอากั๋วแก่อึ้งไป เมื่อกี้เขาทำท่าว่าจะไม่ดื่ม แต่งานแบบนี้ไม่ดื่มก็ดูไม่เหมาะ ขณะที่กำลังลังเล เฉินฮั่นเซิงก็ตะโกนขึ้น "โต๊ะละลังเบียร์ เหลือคืนขาดเติม ไม่พอเอามาเพิ่ม เอาถั่วลิสงมาก่อนด้วย"
มีเฉินฮั่นเซิงช่วยกลบเกลื่อน กั๋วจงยวิ่นก็ยังรักษาศักดิ์ศรีความเป็นอาจารย์ได้ เขาพยักหน้า "งั้นฟังที่ฮั่นเซิงว่าแล้วกัน โต๊ะละลัง ห้ามเกินนี้เด็ดขาด"
บางคนจริงๆ ไม่อยากดื่ม แค่อยากมาเจออาจารย์กับเพื่อนร่วมห้อง แต่พอเห็นอาจารย์เห็นด้วยกับเฉินฮั่นเซิง ก็ไม่กล้าพูดอะไร
ตอนแรกแต่ละโต๊ะค่อนข้างเงียบ แต่พอเบียร์กับกับแกล้มมาเสิร์ฟ บรรยากาศก็เปลี่ยนไปทันที
นักศึกษาชายในมหาวิทยาลัยแข่งขันกันไม่กี่เรื่อง ฐานะครอบครัวก็นับเป็นหนึ่ง หน้าตารูปร่างก็นับเป็นหนึ่ง ความเร็วในการเปลี่ยนแฟนก็นับเป็นหนึ่ง และสุดท้ายคือฝีมือการดื่ม
ตอนนี้ยังดูฐานะกันไม่ออก หน้าตาก็ไม่มีใครหล่อระดับโกวโยบเส็ก เพิ่งเปิดเทอมก็ยังไม่มีใครมีแฟนให้เปลี่ยน
ดังนั้น ความสามารถในการดื่มจึงกลายเป็นมาตรฐานสำคัญในการวัดสถานะในหอพัก หลายคนจึงทุ่มสุดตัวดื่มกันเต็มที่
อาจารย์ที่ปรึกษากั๋วจงยวิ่นดื่มได้ไม่น้อย เขาเชื่อมั่นว่าดูนิสัยการดื่มก็รู้นิสัยคน เขานั่งกินไปพลางรอนักศึกษามาชน แล้วคอยสังเกตนักศึกษาในชั้นไปด้วย
บางคนดื่มไม่ได้จริงๆ อย่างหลี่เจิ้นหนานที่ดูก็รู้ว่าเป็นเด็กดี แค่สองแก้วก็ตาปรือคิดถึงบ้านแล้ว
บางคนพอดื่มได้บ้าง แต่ชอบเอาเปรียบ อย่างจินหยางหมิง ที่มีฝีมือครึ่งจิน แต่แกล้งทำเป็นแค่สามเหลา ใครมาชนก็ดื่มแค่ครึ่งเดียว ยังแอบเททิ้งอีกนิดด้วย
พวกที่ดื่มเก่งก็มีไม่น้อย หยางซื่อเชา กั๋วเสี่ยวเฉียง เฉินฮั่นเซิง อย่างน้อยก็ดื่มได้จินครึ่งขึ้น
แต่ในกลุ่มที่ดื่มเก่งพวกนี้ ก็ยังแสดงออกต่างกัน
หยางซื่อเชากับกั๋วเสี่ยวเฉียงสองไอ้บ้านี่ อาศัยที่ตัวเองดื่มเก่ง ไล่หาคนที่ดื่มไม่เป็นมาชนแก้ว ทุกครั้งที่มีคนอ้วกพวกมันก็ร้องเฮดังลั่น
พวกมันชอบใช้ข้ออ้าง "ไม่ดื่มเหรอ ดูถูกฉันเหรอ" บีบให้คนอื่นต้องดื่ม แม้แต่จินหยางหมิงกับหลี่เจิ้นหนานที่อยู่ห้องเดียวกันก็ไม่รอด คนหนึ่งอ้วก คนหนึ่งหลับ
เฉินฮั่นเซิงก็ชวนคนดื่ม แต่เวลาเขาชนแก้วกับคนที่ดื่มไม่เก่ง แค่แตะนิดเดียวก็จบ ไม่บังคับ เจอคนที่ไม่อยากดื่มจริงๆ เฉินฮั่นเซิงก็ใจกว้างยอมให้ดื่มน้ำชา
เขาเล็งเป้าไปที่พวกหยางซื่อเชาที่ดื่มเก่งและชอบวุ่นวาย
"ไอ้หยาง แกเป็นไรวะ บอกว่าชิงเต่าไม่ล้ม ฉันไม่ล้ม เสี่ยวเหยาไม่ปลิว ฉันไม่ปลิว แค่นี้เองหรอ?"
พอเฉินฮั่นเซิงยกแก้วที่ 6 หยางซื่อเชาก็ทนไม่ไหวแล้ว ลิ้นเริ่มพันกัน "ไอ้บ้าเฉินฮั่นเซิง ฉัน ฉันรู้แล้ว แกตั้งใจรุมฉันคนเดียวตั้งแต่แรก"
พูดจบ "ปัง!" หยางซื่อเชาก็ฟุบหน้าหลับไป
จัดการคนหนึ่งเสร็จ เฉินฮั่นเซิงก็หันไปหากั๋วเสี่ยวเฉียง "เสี่ยวเฉียง มาคุยเรื่องอุดมการณ์ในชีวิตกันหน่อย"
กั๋วเสี่ยวเฉียงมองแล้วใจสั่น เฉินฮั่นเซิงกำลังฮึดสู้ หลายคนที่ดื่มเก่งผลัดกันมาสู้ยังไม่ชนะเขา แถมตอนนี้เดินไม่โซเซ พูดจาชัดเจน ชัดเจนว่ายังไม่ถึงขีดจำกัด
กั๋วเสี่ยวเฉียงรีบยอมแพ้ทันที "พี่สี่ ผมว่าพอแล้วครับ อุดมการณ์ชีวิตคุยได้ทุกเมื่อ แต่พวกเราเมาหมดแล้วไม่มีคนดูแลเพื่อนนะครับ"
เฉินฮั่นเซิงมองนาฬิกาบนผนัง เกือบตีหนึ่งแล้ว คิดในใจว่าถ้าจัดการกั๋วเสี่ยวเฉียงด้วย จะไม่มีแรงงานช่วยแบกคนแล้ว
"คราวนี้จำไว้ก่อน คราวหน้าเอาคืนพร้อมกัน"
เฉินฮั่นเซิงจงใจทิ้งคำพูดไว้ข่มขู่กั๋วเสี่ยวเฉียง
กั๋วจงยวิ่นแอบสังเกตมาตลอด เขารู้สึกว่าวิธีดื่มของเฉินฮั่นเซิงดีมาก ทั้งรักษาบรรยากาศคึกคักบนโต๊ะได้ และไม่รังแกคนที่ดื่มไม่เก่ง
สำคัญที่สุดคือเขาดื่มอย่างมีสติ รู้ว่าเมื่อไหร่ควรหยุด
ตอนแรกกั๋วจงยวิ่นจะไปจ่ายเงิน แต่ไม่ทันเฉินฮั่นเซิงที่จ่ายไปก่อนแล้ว เพื่อนบางคนที่ไม่ได้เมามากเห็นแบบนี้ก็ลังเลว่าควรเก็บเงินตามหัวไหม
แต่สุดท้ายเฉินฮั่นเซิงไม่พูดถึง พวกเขาก็แกล้งทำเป็นไม่รู้
เฉินฮั่นเซิงออกไปเรียกแท็กซี่สองคัน ให้กั๋วเสี่ยวเฉียงพาเพื่อนที่เมาไป ส่วนตัวเองเดินกลับมหาวิทยาลัยกับอาจารย์กั๋วจงยวิ่น
แสงจันทร์สาดส่อง ถนนเงียบสงบราวกับถูกเคลือบผงเงินบางๆ สองคนคุยกันเรื่อยเปื่อย กั๋วจงยวิ่นเล่าว่ามีลูกสาวคนเล็ก เฉินฮั่นเซิงก็เล่าคร่าวๆ เกี่ยวกับครอบครัว ด้วยความสัมพันธ์ตอนนี้ยังไม่เหมาะจะคุยลึกซึ้ง
แต่ตอนจะแยกกันที่ประตูมหาวิทยาลัย กั๋วจงยวิ่นล้วงเงินสี่ร้อยหยวนออกมาพูดว่า "มื้อนี้ไม่มีเหตุผลที่จะให้นายเลี้ยง ฉันเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาก็ต้องรักษาหน้าหน่อย"
เฉินฮั่นเซิงปฏิเสธตอนแรก แต่สุดท้ายกั๋วจงยวิ่นก็ยัดเงินใส่มือเขาแล้วเดินกลับหอพักอาจารย์ไป
"อาจารย์กั๋วนี่ก็น่าสนใจดีนะ" เฉินฮั่นเซิงคิดในใจ เพื่อนร่วมห้องคนอื่นคงคิดว่ามื้อนี้เขาจ่าย เลยทำให้บุญคุณตกอยู่ที่เขาอย่างคลุมเครือ
"มีโอกาสเมื่อไหร่ ชวนอาจารย์กั๋วไปหาเงินกันดีกว่า"
เฉินฮั่นเซิงตั้งใจจะเดินเล่นในมหาวิทยาลัย แต่เหลือบไปเห็นในพุ่มไม้รกทึบมีคู่รักหลายคู่กอดจูบกันอย่างลืมตัว
"แม่ง ไปโรงแรมไม่ได้หรือไง"
ในหัวเฉินฮั่นเซิงแวบผ่านใบหน้าหลายคน แต่สุดท้ายกลับหยุดอยู่ที่เซียวหรงอวี้ นึกถึงร่างของเธอตอนวิ่งออกกำลังเช้านั้น รูปร่างดีจริงๆ
กลับถึงหอพัก คนอื่นหลับกันหมดแล้ว เฉินฮั่นเซิงอาบน้ำสบายๆ ก่อนจะเอนหัวนอนจมดิ่งสู่ความฝันพร้อมความทรงจำ
รุ่งเช้า เฉินฮั่นเซิงถูกเสียงโทรศัพท์มือถือปลุก "ฉันยอมให้เธอใจร้ายจนถึงที่สุด ให้ฉันสิ้นหวังจนลืมเธอ ฉันยอมให้เธอเย็นชาจนถึงที่สุด ให้ฉันเลิกราไปเลย"
"ขอโทษนะ รบกวนพวกนายแล้ว เสียงโทรศัพท์มันดังไป" จินหยางหมิงรีบขอโทษ แต่สีหน้าไม่มีทีท่าสำนึกผิดเลย
"ไอ้เวร อยากอวดว่ามีมือถือจนต้องตั้งเสียงดังขนาดนี้"
เฉินฮั่นเซิงส่ายหน้า ลุกจากเตียงไปต่อแถวล้างหน้าแปรงฟัน ตอนจะไปกินข้าวเช้า หลี่เจิ้นหนานเตือนว่า "พี่เฉิน วันนี้มีประชุมนักศึกษาใหม่ที่สนามกีฬา ต้องใส่ชุดฝึกนะครับ"
"เกือบลืมไปเลย เมื่อคืนอาจารย์กั๋วยังเตือนอยู่เลย"
เฉินฮั่นเซิงเปลี่ยนเป็นชุดฝึกที่ทั้งน่าเกลียดและหลวม นำหน้าเดินไปก่อน หลี่เจิ้นหนานรีบวิ่งตามติดๆ
ไต้เจิ้นโหย่วถูกมือถือของจินหยางหมิงดึงดูด ทำตัวไม่มีจุดยืนขอมาเล่นบ้าง หยางซื่อเชาที่เพิ่งหายโกรธ พอเห็นจินหยางหมิงทำตัวเด่นแบบนี้ก็เริ่มหงุดหงิดอีก กั๋วเสี่ยวเฉียงยังเมาค้าง เดินซึมๆ อยู่ท้ายแถว
พันคนพันหน้า แต่ละคนมีเสน่ห์ไปคนละแบบ
จริงๆ จินหยางหมิงรู้สึกเสียดายนิดหน่อย ในใจเขาคิดว่าไต้เจิ้นโหย่วแค่ตัวประกอบ ถ้าเฉินฮั่นเซิงมาขอเล่นมือถือ ความรู้สึกภูมิใจคงพุ่งพรวดจริงๆ
ทำไมต้องเป็นเฉินฮั่นเซิงด้วย จินหยางหมิงก็อธิบายไม่ถูก
"พี่เฉิน ทำไมเดินเร็วจัง" หลี่เจิ้นหนานตามแทบไม่ทัน
"รีบไปทักทายสาวๆ ในห้องเราไง" เฉินฮั่นเซิงยิ้มกว้าง
เพื่อนร่วมห้องที่เดินตามมาพอได้ยินก็เห็นด้วย คณะการเงินขึ้นชื่อเรื่องนักศึกษาสาวสวย ต้องดูซิว่าห้องเรามีใครน่าสนใจบ้าง
(จบบทที่ 18)