ตอนที่ 435 กลยุทธ์ของเหล่าราชา! (ฟรี)
ตอนที่ 435 กลยุทธ์ของเหล่าราชา!
เพื่อที่จะฉวยโอกาสในช่วงที่เกิดความวุ่นวาย ไป๋จื่ออันจึงไม่ได้วิ่งไปไหนมาไหน เขารอคอยอย่างเงียบๆ ในกลุ่มคน
แต่ไป๋จื่ออันยังไม่ทันได้ลงมือ ทีมที่มีสมาชิกมากกว่าสิบคนก็มุ่งหน้ามาทางนี้
ชายชราที่เป็นผู้นำคืออธิการบดีโจวหยางซู
เห็นได้ชัดว่าอธิการบดีโจวหยางซูก็เป็นหนึ่งในผู้นำของทีมเหล่านี้
ไป๋จื่ออันไม่ได้รู้สึกประหลาดใจอะไร
เพราะตอนที่เขาถามข้อมูลเมื่อกี้ เขาก็รู้เรื่องนี้แล้ว
สาเหตุที่อธิการบดีโจวหยางซูจากไป เป็นเพราะเขาต้องพานักศึกษาที่ออกไปฝึกฝนกลับมา
ยังไงซะโลกหนามโลหิตก็เปลี่ยนไปแล้ว มันไม่เหมาะที่จะฝึกฝนต่อไป
ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ตอนที่นักศึกษาฝึกฝนคนเดียว เขาบอกว่าให้นักศึกษารับผิดชอบความปลอดภัยของตัวเองก็จริง
แต่ถ้าหากสามารถพานักศึกษากลับมามากขึ้น เขาก็ต้องพยายามอย่างเต็มที่
ยังไงซะเขาก็เป็นถึงอธิการบดีของมหาวิทยาภูตเร้นลับ
แต่เมื่อคนของมหาวิทยาภูตเร้นลับมาถึงแล้ว ไป๋จื่ออันก็ไม่จำเป็นต้องปะปนอยู่กับผู้ใช้สัตว์วิญญาณเหล่านี้
เมื่อคิดได้แบบนั้น ไป๋จื่ออันก็เดินมาที่นักศึกษาของมหาวิทยาภูตเร้นลับโดยตรง รวมกลุ่มกับพวกเขา
“ไป๋จื่ออัน นายหายไปไหนมา?!”
“พวกเราตามหานายตั้งนาน แต่ก็หาไม่เจอ โชคดีที่นายกลับมาปลอดภัย!”
“ฉันบอกนายให้นะ โลกมิติลับนี้ดูเหมือนกับว่าจะเปลี่ยนไปแล้ว สัตว์วิญญาณกำลังอาละวาด แม้แต่สัตว์วิญญาณระดับราชายังออกอาละวาด อันตรายมาก!”
เมื่อเห็นไป๋จื่ออัน จื่อเยียนเหยียนกับหลินชิงถังก็รีบพูดขึ้นมาทันที
พูดตามตรงว่าสาเหตุที่สำคัญที่ทำให้อธิการบดีโจวหยางซูออกไปตามหานักศึกษา เป็นเพราะเขาอยากจะปกป้องนักศึกษาคนสำคัญ
ยังไงซะนักศึกษาคนสำคัญของมหาวิทยาภูตเร้นลับก็คือรากฐานและอนาคตของมหาวิทยาภูตเร้นลับ
ไป๋จื่ออันเองก็เป็นหนึ่งในนั้น
แต่ไม่ว่าพวกเขาจะตามหายังไง พวกเขาก็หาไป๋จื่ออันไม่เจอ
แต่พอพวกเขากลับไปยังจุดรวมพล พวกเขาก็พบว่าไป๋จื่ออันอยู่ที่นี่
“ฉันฝึกฝนอยู่แถวนี้นั่นแหละ ฉันเพิ่งจะเจอจุดรวมพล ฉันก็เลยพึ่งมารวมตัว”
“ว่าแต่อธิการบดีโจวหยางซูรู้เรื่องการเปลี่ยนแปลงของโลกนี้รึเปล่า?”
ไป๋จื่ออันยิ้มแห้ง เขากำลังหาข้ออ้าง
จากนั้นไป๋จื่ออันก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ เขาเลือกที่จะเปลี่ยนเรื่องแทน
ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ความจริงแล้วก็จริง แต่เขาก็อยากจะรู้ความคิดของผู้ใช้สัตว์วิญญาณระดับราชาเหล่านั้น
อธิการบดีโจวหยางซูไม่ใช่ผู้ใช้สัตว์วิญญาณระดับราชา
แต่ในการสำรวจโลกหนามโลหิตครั้งนี้ เขาเป็นผู้นำของมหาวิทยาภูตเร้นลับ เขาต้องเป็นตัวแทนของมหาวิทยาภูตเร้นลับเข้าร่วมเรื่องนี้
ดังนั้นไป๋จื่ออันจึงอยากจะลองทำความเข้าใจสถานการณ์ของผู้ใช้สัตว์วิญญาณระดับราชาผ่านจื่อเยียนเหยียนและคนอื่นๆ
“ฉันได้ยินอาจารย์ใหญ่บอกว่าผู้แข็งแกร่งเหล่านั้นดูเหมือนกับว่าจะวางแผนที่จะร่วมมือกัน กำจัดสัตว์วิญญาณระดับราชาทั้งหมด!”
หลินชิงถังพูดขึ้นมา
จับโจรต้องจับหัวหน้า นี่เป็นเรื่องง่ายๆ
ดังนั้นผู้ใช้สัตว์วิญญาณระดับราชาเหล่านั้นจึงคิดที่จะจัดการกับสัตว์วิญญาณระดับราชา
ยังไงซะในความคิดของพวกเขา สัตว์วิญญาณระดับราชาเหล่านั้นอาจจะเป็นตัวการสำคัญ
การกำจัดสัตว์วิญญาณระดับราชาทั้งหมดน่าจะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้
นี่คือความคิดของผู้ใช้สัตว์วิญญาณระดับราชาเหล่านั้น
จริงๆ แล้วความคิดแบบนี้ถูกต้อง
แต่พวกเขากลับทำผิดพลาดอย่างร้ายแรง
นั่นก็คือสัตว์วิญญาณระดับราชาเหล่านั้นมีคนบงการอยู่
สัตว์วิญญาณหนามโลหิตที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดคือศัตรูที่แท้จริง
ถ้าหากพวกเขาทำแบบนี้ พวกเขาก็อาจจะต้องแพ้
“ดูเหมือนกับว่าต้องเตือนพวกเขาแล้ว!”
ไป๋จื่ออันครุ่นคิด เขากำลังคิดถึงเรื่องนี้
พูดตามตรงว่าในตอนแรก ไป๋จื่ออันไม่ได้คิดที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการตัดสินใจของผู้ใช้สัตว์วิญญาณระดับราชา
ยังไงซะในบรรดาผู้ใช้สัตว์วิญญาณระดับราชาหลายคน เกือบครึ่งหนึ่งถูกไป๋จื่ออันปล้น
การที่ติดต่อกับพวกเขามันก็อาจจะทำให้ตัวตนของไป๋จื่ออันถูกเปิดเผย
ถึงแม้ว่าความเป็นไปได้นี้จะน้อยมากก็จริง แต่มันไม่ใช่ผลลัพธ์ที่ไป๋จื่ออันต้องการ
แต่ถ้าหากพวกเขายังทำตามแผนนี้ พวกเขาก็คงจะต้องติดกับของสัตว์วิญญาณหนามโลหิต
พวกเขาอาจจะต้องสูญเสียอย่างหนัก
แน่นอนว่าไม่ว่าผู้ใช้สัตว์วิญญาณระดับราชาจะสูญเสียรึเปล่า ไป๋จื่ออันก็ไม่ได้สนใจ
แต่ถ้าหากพวกเขาถูกสัตว์วิญญาณหนามโลหิตกำจัด ไป๋จื่ออันก็ยากที่จะฉวยโอกาส
จากความคิดของไป๋จื่ออันแล้ว ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดก็คือผู้ใช้สัตว์วิญญาณระดับราชากับสัตว์วิญญาณหนามโลหิตต่างก็พ่ายแพ้ ทำให้ไป๋จื่ออันสามารถฉวยโอกาสได้
นั่นเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
แบบนี้ไป๋จื่ออันจะไม่มีทางปล่อยให้พวกเขาติดกับของสัตว์วิญญาณหนามโลหิต
ดูเหมือนกับว่าเขาจะต้องลงมือแล้ว
เมื่อคิดได้แบบนั้น ไป๋จื่ออันก็ตรงไปหาอธิการบดีโจวหยางซู
ไม่นานไป๋จื่ออันก็เจอกับอธิการบดีโจวหยางซู
“นักศึกษาไป๋จื่ออัน เธอบอกว่าเธอค้นพบความลับสำคัญงั้นเหรอ?”
อธิการบดีโจวหยางซูมองไป๋จื่ออัน ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย
เขาอยากรู้ว่าไป๋จื่ออันรู้อะไรมา
พูดตามตรงว่าถ้าหากไม่ใช่เพราะคุณสมบัติที่น่าทึ่งของไป๋จื่ออัน เขาก็คงจะไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากนัก
“อาจารย์โจว ระหว่างที่ฝึกฝน ผมบังเอิญพบความลับเข้า!”
“เบื้องหลังสัตว์วิญญาณหนามโลหิตพวกนั้นมีใครบางคนคอยบงการ!”
“แม้แต่สัตว์วิญญาณระดับราชายังต้องเชื่อฟังคำสั่งของมัน!”
ไป๋จื่ออันเล่าเรื่องทุกอย่างอย่างช้าๆ เขากำลังบอกเรื่องของสัตว์วิญญาณหนามโลหิต
พูดตามตรงว่าด้วยนิสัยของไป๋จื่ออัน ถ้าหากเขาสามารถเก็บเรื่องนี้เอาไว้ได้ เขาจะไม่มีทางบอกเรื่องนี้กับใคร
ทางเลือกที่ดีที่สุดก็คือการลงมือคนเดียว คิดหาวิธีกำจัดสัตว์วิญญาณหนามโลหิต
แบบนี้ผลประโยชน์ทั้งหมดก็จะเป็นของไป๋จื่ออัน
แต่ไป๋จื่ออันพบว่านี่ไม่ใช่เรื่องง่าย
อย่างแรกก็คือสัตว์วิญญาณหนามโลหิตตัวจริง
ในฐานะที่เป็นราชาของโลกหนามโลหิต พลังของสัตว์วิญญาณหนามโลหิตจะต้องแข็งแกร่งมาก
สัตว์วิญญาณหนามโลหิตเตรียมที่จะทำลายพันธนาการของโลก มันอยากจะเลื่อนขั้นเป็นระดับมหากาพย์
หรือพูดอีกอย่างก็คือ สัตว์วิญญาณหนามโลหิตเป็นสัตว์วิญญาณระดับราชาขั้นสูงสุด
แต่พลังต่อสู้ที่แท้จริงของสัตว์วิญญาณหนามโลหิตจะต้องไม่ใช่แค่ระดับราชาขั้นสูงสุด
สัตว์วิญญาณระดับนี้ คุณสมบัติและพรสวรรค์ของมันจะต้องน่าทึ่งมาก
ถ้าหากไป๋จื่ออันเดาไม่ผิด คุณสมบัติของสัตว์วิญญาณหนามโลหิตน่าจะเหนือกว่าระดับราชา ไปถึงระดับมหากาพย์แล้ว
ยังไงซะการที่สามารถยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลก กลายเป็นราชาของสัตว์วิญญาณทั้งหมดได้ ก็ต้องแข็งแกร่งเป็นธรรมดา
คุณสมบัติและพรสวรรค์ที่น่าทึ่งจะต้องทำให้พลังต่อสู้ที่แท้จริงของสัตว์วิญญาณหนามโลหิตเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
หรือพูดอีกอย่างก็คือ ถึงแม้ว่าสัตว์วิญญาณหนามโลหิตจะเป็นระดับราชาขั้นสูงสุดก็จริง แต่พลังต่อสู้ที่แท้จริงของมันอย่างน้อยก็ต้องเป็นระดับมหากาพย์ แถมยังเป็นระดับมหากาพย์ขั้นสูงด้วย
มันค่อนข้างยากสำหรับไป๋จื่ออัน