ตอนที่ 255
ตอนที่ 255
เพราะอีกเดี๋ยวประตูเมืองก็จะปิด
ทางการมีกฎว่า หลังจากห้าโมงครึ่ง ประตูเมืองจะให้เข้าอย่างเดียว ไม่ให้ออก
แน่นอนว่า กฎก็มีไว้แหกกฎ
ลู่คังที่มีภารกิจ หรือมีตัวตนพิเศษ ก็เข้าออกได้อิสระ
แต่ถ้าเกินหกโมงครึ่งยังไม่กลับมา ก็จะโดนขังไว้ข้างนอก
อันตราย รับผิดชอบตัวเอง
ลู่คังทักทายเสร็จ ทุกคนก็ออกจากเมืองนิรันดร์ เดินไปนอกเมือง
ตอนนั้น นักสู้หลายคนที่เก็บเลเวลอยู่นอกเมืองก็ทยอยกลับมา
เห็นพวกเขาเดินสวนทางออกไป ก็นอกจากจะสงสัยแล้ว ยังอิจฉา
“ปกติพวกนายเก็บเลเวลที่ไหน?” ระหว่างเดิน เทียนเต๋าก็เปิดประเด็น
“ในทุ่งหมูป่า”
ลู่คังตอบอย่างรวดเร็ว
“ข้างในมีทางเข้าดันเจี้ยน ปลอดภัย
ถ้าเจอมอนสเตอร์รัตติกาลที่สู้ไม่ได้ ก็เข้าไปรอฟ้าสาง”
“อ๋อ นายก็รู้จักวิธีนี้ด้วย?”
เทียนเต๋ามองเขาอย่างแปลกใจ
ตอนที่เขาหลงเข้าไปในรัตติกาลครั้งแรก ก็ใช้วิธีนี้หลบมอนสเตอร์รัตติกาล
ไม่คิดว่าลู่คังจะรู้จักวิธีนี้
“แน่นอนสิ”
ลู่คังพูดอย่างใจเย็น
“ในคู่มือของหน่วยภาคสนามก็มี นายไม่เคยอ่าน?”
เทียนเต๋า : “...” พูดตามตรง เขาไม่เคยอ่าน
“งั้นคืนนี้ก็ไปที่นั่น” เทียนเต๋าครุ่นคิด
“ไม่ต้อง คืนนี้ผมจะเข้าไปลึกๆ หน่อย”
ลู่คังส่ายหน้า
“สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยเกินไป จะทำให้คนเราไม่พัฒนา
เอาแต่หลบอยู่แถวๆ เซฟโซน ไม่มีทางเจอมอนสเตอร์เยอะๆ หรอก”
“นายอยากเสี่ยงสินะ?”
เทียนเต๋ายิ้มถาม
“แน่นอน”
ลู่คังเชิดหน้า
“ดีมาก” เทียนเต๋าครุ่นคิด “งั้นนายก็ตามฉันมา บางทีอาจจะมีโอกาส”
“ตกลง”
ลู่คังรับปาก
“พวกนายจะไปไหน?” หลี่เม่ยเม่ยกับคนอื่นๆ ได้ยินทั้งสองคุยกันก็ขมวดคิ้ว
“ไม่ฆ่ามอนสเตอร์กับพวกเราเหรอ?”
“พวกเธอเก็บเวลกันเองเถอะ” เทียนเต๋ายังไม่ทันพูด ลู่คังก็พูดขึ้น โบกมือ
“พวกเธอไม่มีฉายา ก็อยู่แถวๆ หน้าดันเจี้ยน จะได้ไม่อันตราย”
“ไม่มีฉายาแล้วไง!” เหลียงเมี่ยวหลิงที่อยู่ข้างๆ ได้ยินดังนั้นก็ไม่พอใจ รีบแย้ง
“นายนี่ดูถูกคนอื่น ถึงพวกเราจะไม่มีฉายา ก็ไม่ได้อ่อนแอกว่านาย
ยิ่งอยู่ในรัตติกาล ใครจะเป็นตัวถ่วง ใครจะเป็นที่พึ่ง ยังไม่รู้เลย”
“ไม่มีฉายาก็เป็นไอ้ขี้แพ้”
ลู่คังพูดความคิดของตัวเองออกมา
พอโดน debuff รัตติกาล คนที่ไม่มีฉายา ค่าสถานะจะลดลง 80%
ต่อให้เป็นหัวหน้าหลี่ที่เลเวล 60 กว่าๆ ก็จะกลายเป็นขยะ
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหลี่เม่ยเม่ยกับคนอื่นๆ ที่เลเวลแค่ 20 กว่าๆ
เรียกพวกเธอว่าไอ้ขี้แพ้ก็สุภาพแล้ว
แต่ถึงแม้ลู่คังจะคิดว่าตัวเองพูดความจริง
แต่หลี่เม่ยเม่ยกับคนอื่นๆ ไม่ได้คิดแบบนั้น
พอเขาพูดจบ หลี่เม่ยเม่ยกับคนอื่นๆ ก็โกรธ
เหลียงเมี่ยวหลิงยิ่งท้าทายเสียงดัง
“นายว่าใครเป็นไอ้ขี้แพ้ มีปัญหาก็มา duel กัน!”
“ใช่!”
ลั่วชิงฮวนก็ไม่พอใจ พูดตาม
“มีปัญหาก็มาสู้กับพวกเราคืนนี้ ใครแพ้คนนั้นก็เป็นไอ้ขี้แพ้!”
“สู้ก็สู้!” ลู่คังไม่กลัว รับปากทันที
ในรัตติกาล เด็กใหม่เลเวล 20 กว่าๆ พวกนี้ คงสู้มือใหม่ที่เพิ่งเปลี่ยนอาชีพไม่ได้ด้วยซ้ำ
ไม่ต้องพูดถึงสี่คน สี่สิบคนเขาก็ไม่กลัว
แต่พึ่งจะรับปาก ก็ได้ยินเสียงไอของเทียนเต๋า
“อะแฮ่ม อย่าสร้างปัญหากันสิ!”
เทียนเต๋าเห็นท่าไม่ดีก็รีบพูด
“คืนนี้พวกเรามาฆ่ามอนสเตอร์ เก็บเลเวล ไม่ได้มา duel กัน
อยู่ดีๆ จะ duel กันทำไม เสียเวลา”
“แน่นอน ถ้าพวกเธออยากจะ duel กัน ผมก็ไม่ว่า
แต่จะ duel กันเฉยๆ ไม่ได้ใช่ไหม?”
พูดจบน้ำเสียงเขาก็เปลี่ยนไป
“ผมว่าพนันกันสนุกๆ ดีกว่า”
พอพูดแบบนี้ ทุกคนก็ยิ้ม
ตอนแรกหลี่เม่ยเม่ยกับคนอื่นๆ นึกว่าเทียนเต๋าออกมาห้าม จะเข้าข้าง
แต่พอฟังเขาพูดจบก็เข้าใจ ก็เข้าข้างจริงๆ...
แต่เข้าข้างพวกเธอ
บังเอิญที่ลู่คังก็คิดแบบนั้น
ทุกคนก็เลยมองหน้ากัน แล้วตกลง
“ได้”
“พนันอะไร?”
“อุปกรณ์ระดับเทพสักชิ้นเป็นไง?”
หลี่เม่ยเม่ยเสนอ
“เธอมีรึไง?”
ลู่คังมองเธออย่างดูถูก
“…” หลี่เม่ยเม่ยพูดไม่ออก เพราะเธอไม่มี
ตอนนั้น เหลียงเมี่ยวหลิงก็พูดขึ้น
“งั้นก็ชุดเซ็ตระดับมหากาพย์”
พูดจบก็โชว์ชุดเซ็ตระดับมหากาพย์ของตัวเอง อันนี้เธอมี
“นี่...” ลู่คังลังเล
เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าเอาของแพงๆ มาพนัน
ชุดเซ็ตระดับมหากาพย์ ขายในตลาดก็ได้ เป็นล้าน แถมยังหายาก
แต่อีกฝ่ายกลับไม่สนใจ เอามาพนัน
ถึงแม้ที่บ้านเขาจะมีเงิน ซื้อได้ทั้งชุด แต่เขาก็เสียดาย
เพราะชุดที่เขาใส่อยู่ตอนนี้เหมาะกับเขามาก
ถ้าแพ้ ต่อไปก็คงหาอุปกรณ์ดีๆ แบบนี้ไม่ได้แล้ว
“อ๊ะ เพ้ย! คิดอะไรเนี่ย!”
ลู่คังตบหน้าตัวเอง ด่าตัวเองในใจ
“ยังไม่ได้สู้ก็คิดถึงเรื่องแพ้แล้ว นี่ฉันกลัวเหรอ...”
“ทำไม นายกลัวแล้วเหรอ?”
ทันใดนั้น เหลียงเมี่ยวหลิงก็พูดประชด
“ถ้ากลัวก็เลิกก็ได้ แค่นายขอโทษก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
“พนันก็พนัน ใครกลัว!”
ลู่คังเงยหน้า จ้องเธอ
“แล้วของที่นายจะพนันล่ะ อย่าบอกนะว่าไม่มี?”
เหลียงเมี่ยวหลิงยิ้ม
“นี่!”
ลู่คังสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วแชร์ค่าสถานะของอุปกรณ์ที่ใส่อยู่
“ชุดเซ็ตตามล่าวิญญาณ ... โห ชื่อเท่จัง”
เทียนเต๋ายืนดู
พอเห็นค่าสถานะของชุดเซ็ตระดับมหากาพย์ของอีกฝ่าย ก็อุทาน
ชุดเซ็ตระดับมหากาพย์นี้ ไม่เพียงแต่ชื่อจะเท่ ค่าสถานะก็สูงมาก
ที่สำคัญคือเลเวลของมัน... เป็นเลเวล 30!
แต่ลู่คังเลเวลแค่ 27
เลเวล 27 แต่ใส่อุปกรณ์เลเวล 30 ได้...
แสดงว่าเขามีสมบัติที่ลดเลเวลอุปกรณ์!
หมอนี่... สมกับเป็นลูกรักของตระกูลลู่
อัจฉริยะอันดับหนึ่งของเมืองนิรันดร์!
ขณะเดียวกัน หลี่เม่ยเม่ยกับคนอื่นๆ ก็ตกใจกับอุปกรณ์ของลู่คัง
ไม่มีใครคิดว่าชุดเซ็ตของลู่คังจะสุดยอดขนาดนี้
มิน่าล่ะเขาถึงลังเล...
“ฉันเพิ่มอีกชุด!”
ทันใดนั้น ลั่วชิงฮว
นก็พูดขึ้น
โชว์ชุดเซ็ตระดับมหากาพย์ของตัวเอง
แล้วอธิบายว่า
“ชุดของนายดีกว่าพวกเรามาก ฉันต้องเพิ่มอีกชุดถึงจะยุติธรรม!”