ตอนที่ 1730 กำจัดคนทรยศ (1)
ตอนที่ 1730 กำจัดคนทรยศ (1)
เจียงอาเฉียนไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างสูญเปล่ามาหลายปี เขาเคยตายมาแล้วครั้งหนึ่ง เขามีวิธีการเอาชีวิตรอด เขาเกิดและเติบโตในวังหลวงแห่งดินแดนหยาน สถานที่ๆ ผู้แข็งแกร่งมักจะเอาเปรียบผู้อ่อนแอ ดังนั้นไม่มีใครรู้จักกฎการเอาชีวิตรอดได้ดีไปกว่าเขา เขานั้นเชี่ยวชาญในการจัดการกับปัญหาที่ซับซ้อนมากมาย ตราบใดที่เขาไม่ประมาท การที่ใครจะฆ่าเขานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
เจียงอาเฉียนรู้จักผลกระทบของนาฬิกาทรายแห่งกาลเวลา ด้วยความช่วยเหลือจากไป๋เจาจุ้ย การที่เขาจะเปิดใช้งานนาฬิกาทรายแห่งกาลเวลานั้นไม่ใช่เรื่องยาก และมันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะจัดการกับปัญหาตรงหน้าเขา แต่เขาไม่คิดเลยว่านาฬิกาทรายแห่งกาลเวลาจะหลุดจากการควบคุม มันแตกต่างจากตอนที่เขาใช้มันก่อนหน้านี้ พลังที่ตอนนี้ปกคลุมนาฬิกาทรายแห่งกาลเวลานั้นไม่ใช่ของเขา
เจียงอาเฉียนที่เงยหน้าขึ้นมองโดยสัญชาตญาณ สายฟ้าสีฟ้าจางๆ แผ่ขยายออกไปทุกทิศทุกทางอย่างรวดเร็ว เขาเห็นร่างหนึ่งปรากฏตัวขึ้นเหนือหัวทุกคนก่อนที่ทุกอย่างจะ...หยุดนิ่ง เขารู้สึกเหมือนกับว่ามีใครบางคนได้เข้ามาควบคุมทุกอย่างก่อนที่เขาจะถูกแช่แข็ง
น้ำทะเลหยุดนิ่ง
ฮัวเจิงหง ซีจง และอัศวินวิหารสิบคน หยุดนิ่ง
ไป๋เจาจุ้ย ผู้ที่มีพลังฝึกฝนสูงสุดกำลังต่อต้านพลังอันทรงพลังของสายฟ้า
กฎแห่งเวลานั้นทรงพลังอย่างไม่ต้องสงสัย
ร่างที่อยู่บนฟ้าร่อนลงมาอย่างช้าๆ นาฬิกาทรายแห่งกาลเวลาบินเข้าไปในมือของเขา
จากนั้นสายฟ้าสีฟ้าขนาดใหญ่ก็พุ่งลงมา ทุกคนถูกตรึงเอาไว้
ร่างนั้นปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งตรงหน้าฮัวเจิงหง เขาปลดปล่อยผนึกฝ่ามือที่โจมตีหน้าอกของนางอย่างแม่นยำ
ปัง!
หากฮัวเจิงหงมีสติ บางทีนางคงจะต้องรู้สึกเหมือนกับว่าวิญญาณของนางกำลังจะถูกดึงออกมาจากร่างกาย
ลู่โจวเก็บนาฬิกาทรายแห่งกาลเวลากลับไป มันไม่สามารถใช้ได้ตลอด และมันไม่สามารถใช้จัดการกับคนพวกนี้ได้
เวลากลับมาเป็นปกติ
ฮัวเจิงหงที่ตกลงไปในทะเล
ไป๋เจาจุ้ย เจียงอาเฉียน ซีจง และอัศวินวิหาร มองลงไปที่ทะเลด้วยความตกใจและสับสน
ไม่นานนัก ผิวน้ำทะเลก็ยังคงกลายเป็นสีแดงเพราะเลือด
‘ข้าอยู่บนฟ้า แล้วทำไมข้าถึงได้ตกลงไปในทะเลที่หนาวเหน็บได้?’ ฮัวเจิงหงที่จิตใจว่างเปล่ากล่าวอย่างไม่เข้าใจ ความเจ็บปวดที่รุนแรงทำร้ายนาง นางไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น? ก่อนหน้านี้นางอยู่บนฟ้า แล้วทำไมตอนนี้นางถึงได้ตกลงไปในทะเลที่หนาวเหน็บได้? นางไม่รู้ว่าตัวเองจมลงไปลึกแค่ไหนแล้ว? นางมองดูแสงสว่างที่ตอนนี้ยิ่งห่างไกลออกไปมากขึ้นเรื่อยๆ นางแสดงดอกบัวออกมา
วู้!
“ใครกัน? ที่บังอาจทำร้ายคนของวิหารศักดิ์สิทธิ์?!” ฮัวเจิงหงที่ตอนนี้โกรธมากสร้างพลังงานป้องกันรูปกรวยขึ้นมารอบๆ ตัวเอง นางพุ่งขึ้นไปและโผล่ขึ้นมาจากน้ำ
ฮัวเจิงหงที่กลับขึ้นไปบนฟ้าอีกครั้งโกรธมาก นางยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ แต่นางก็ยังแสดงแอสโตรแลบออกมาและโจมตีก่อนที่น้ำจะตกลงไปในทะเล
ลำแสงมากมายพุ่งออกมาจากแอสโตรแลบของฮัวเจิงหง
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
ลู่โจวที่หายตัวไปหลบการโจมตีอย่างง่ายดาย
‘หืม?’
“เจ้าแห่งศาลาปีศาจลอยฟ้า?!” ฮัวเจิงหงที่ตอนนี้มองเห็นได้ชัดเจนขึ้นเหลือบมองเงาข้างๆ นางจากหางตา นางหันไปมองและเห็นผนึกฝ่ามือขนาดใหญ่ที่ตอนนี้เหมือนกับภูเขากำลังตกลงมา
ตูม!
ฮัวเจิงหงที่ไม่ทันได้ตั้งตัวถูกผนึกฝ่ามือที่โจมตีไหล่ของนางกระแทกกระเด็นถอยหลังไป นางรู้สึกเหมือนกับว่าจุดพลังลมปราณทั้งแปดของนางถูกปิดกั้น นางถูกโจมตีสองครั้งติดต่อกัน ตอนนี้นางเพิ่งจะได้เห็นอีกฝ่ายอย่างชัดเจนในขณะที่กำลังกระเด็นถอยหลังไป
ฮัวเจิงหงที่หัวใจเต้นแรงเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“แม่นางฮัว!”
ซีจงที่บินเข้ามารับฮัวเจิงหง
ในเวลาเดียวกัน อัศวินวิหารสิบคนก็ยังคงบินเข้ามารวมตัวกัน พวกเขาล้อมรอบลู่โจว
ลู่โจวที่ยืนเอามือไขว้หลังมองไปรอบๆ ด้วยสีหน้าที่สงบนิ่ง เขาดูไม่กังวลอะไรเลย เขามองดูฮัวเจิงหงด้วยแววตาที่ลึกล้ำ “เจ้ากล้าทำร้ายคนของข้างั้นเหรอ?” เขาถาม
ไป๋เจาจุ้ยกับเจียงอาเฉียนที่ยืนอยู่ข้างหลังลู่โจวยินดีเป็นอย่างยิ่ง
“ผู้อาวุโสจี! ท่านนี่มัน...ข้าตกใจหมดเลย!” เจียงอาเฉียนกล่าว
“ท่านมาได้ทันเวลาพอดี” ไป๋เจาจุ้ยรีบกล่าวทักทาย
“ท่านเป็นถึงเจ้าแห่งศาลาปีศาจลอยฟ้า แต่เขาไม่ใช่ฉีเชิง แล้วเขาจะเป็นคนของท่านได้ยังไง?” ฮัวเจิงหงที่ชี้นิ้วไปที่เจียงอาเฉียนกล่าว
“หากข้าบอกว่าเขาเป็นคนของข้า เขาก็คือคนของข้า” ลู่โจวกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ
“...”
‘เจ้าแห่งศาลาปีศาจลอยฟ้าค่อนข้างคล้ายคลึงกับคนคนนั้น’ ฮัวเจิงหงที่นึกถึงการโจมตีสามครั้งของลู่โจวที่ดินแดนเมฆาไม่อยากจะเผชิญหน้ากับยอดฝีมือแบบนี้ ออร่าของนางนั้นอ่อนแอลงมาก แต่สุดท้ายแล้วนางก็ยังรวบรวมความกล้าได้ “เจ้าศาลาลู่ คนฉลาดย่อมรู้จักที่จะปรับตัว ท่านเพิ่งจะเข้ามาในดินแดนแห่งความว่างเปล่า ท่านคงจะยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับกฎ...”
“หุบปากซะ” ลู่โจวที่ยกมือขึ้นห้ามฮัวเจิงหงกล่าว
ฮัวเจิงหงตกตะลึง
“เจ้าคิดจะลงมือเอง หรือจะให้ข้าลงมืองั้นเหรอ?” ลู่โจวที่มองดูฮัวเจิงหงถาม
“หืม?” ฮัวเจิงหงกล่าวอย่างไม่เข้าใจ
“ทำลายจานแสงสว่างสองอัน แล้วข้าจะไม่เอาผิดเจ้า เรื่องบาดหมางระหว่างพวกเรานั้นเอาไว้ค่อยสะสางกันในอนาคต...” ลู่โจวกล่าว
มีเพียงแค่ไป๋เจาจุ้ยกับเจียงอาเฉียนเท่านั้นที่เข้าใจความหมายของลู่โจว พวกเขารู้ว่าฮัวเจิงหงเคยเป็นถึงศิษย์เอกของผู้มีมลทิน ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในอดีต บางทีการที่ผู้มีมลทินจะต้องกลับมานั้นอาจจะทำให้พวกเขารู้ความจริงก็ได้
“ข้าคิดว่าท่านมีความสามารถ ข้ายังเคยแนะนำท่านให้กับจักรพรรดิ ในเมื่อเจ้าไม่รู้จักบุญคุณ ข้าก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจท่าน” ฮัวเจิงหงที่ตอนแรกยังคงพยายามที่จะใจเย็นกล่าวอย่างเย็นชาเมื่อได้ยินคำพูดพวกนี้ นางไม่สนใจอะไรอีกต่อไปแล้ว