ตอนที่ 145
ตอนที่ 145
[ติ๊ง ท่านฝึกฝนทักษะปรับลมหายใจมาทั้งคืน ค่าความชำนาญทักษะปรับลมหายใจเลเวล 4 +10!]
6 โมงเช้า หลี่เหิงตื่นตรงเวลา
หลี่เหิงสามารถควบคุมร่างกายตัวเองได้ในระดับหนึ่งแล้ว
ตอนนี้เขาสามารถตั้งนาฬิกาชีวิตได้ตามใจชอบ เช่น จะนอนกี่โมง ตื่นกี่โมง เขาควบคุมได้หมด
นี่เป็นผลลัพธ์ของการฝึกฝน
มองดูจางอิงอิงที่หลับอยู่ข้างๆ หลี่เหิงไม่ได้ปลุกเธอ ลุกจากเตียงเดินออกไปข้างนอก
100 กิโลเมตรจากเมืองใหญ่
เทือกเขา
นี่เป็นเทือกเขายาวหลายร้อยกิโลเมตร ยอดเขาสูงสุด 2,000 กว่าเมตร มีวัดวาอารามมากมาย นักท่องเที่ยวเยอะ มีชื่อเสียงไปทั่วประเทศ
หลี่เหิงไม่ได้เดินตามถนนใหญ่ แต่เดินเข้าไปในป่าลึกที่ไม่มีคน
ที่นี่ไม่มีถนน มีแต่ต้นไม้สูงใหญ่ กับหินดิน
ตอนนี้หลี่เหิงเหมือนภูตผี ใช้ทักษะวิ่งเร็ว วิ่งไปมาในป่าอย่างรวดเร็ว
พระอาทิตย์ค่อยๆ ขึ้นสูง แต่อุณหภูมิบนเขากลับไม่เปลี่ยนแปลง ยังคงหนาวเย็น
หลี่เหิงหยุดเดิน ยืนอยู่บนยอดเขา มองทะเลหมอกข้างล่าง
[ติ๊ง ท่านใช้วิธีหายใจพิเศษ วิ่งไปมาในป่า ค่าความชำนาญวิ่งเร็วเลเวล 1 +200 ค่าความชำนาญทักษะปรับลมหายใจเลเวล 4 +30!]
เสียงแจ้งเตือนของระบบดังขึ้นในหัว
แต่ตอนนี้หลี่เหิงไม่ได้สนใจ
เพราะเขากำลังยืนรับลม มองทะเลหมอกที่ไกลๆ รู้สึกว่าโลกนี้ช่างกว้างใหญ่ ความทุกข์ในโลกมนุษย์กลายเป็นเรื่องเล็กน้อย
“ต่อหน้าฟ้าดิน มนุษย์ก็แค่ธุลี”
หลี่เหิงลุกขึ้นยืน กำหมัด พูดอย่างมุ่งมั่น
“สักวันหนึ่ง ฉันจะต้องกว้างใหญ่กว่าฟ้าดิน ยิ่งใหญ่กว่าฟ้าดิน!”
หลี่เหิงสูดหายใจเข้าลึกๆ ในใจอยากจะเก่งขึ้น หันหลังเดินเข้าไปในป่า
เห็นความกว้างใหญ่ของโลก คิดถึงความเล็กจ้อยของมนุษย์ หลี่เหิงก็ยิ่งอยากเก่งขึ้น ครั้งนี้หลี่เหิงไม่ได้กลับบ้านทันที แต่จะฝึกฝนต่อ
ในภูเขา มีเทือกเขาลูกแล้วลูกเล่า ต้นไม้ขึ้นสลับซับซ้อน ภูมิประเทศซับซ้อนมาก
ผลลัพธ์ของการฝึกทักษะวิ่งเร็วที่นี่ ดีกว่าบนพื้นราบเป็นเท่าตัว
ฝึกฝนไปอีก 2 ชั่วโมง หลี่เหิงก็หยุด
เปลี่ยนไปอีกยอดเขา นั่งลงบนหินก้อนใหญ่ มองทะเลหมอกข้างล่าง ทะเลหมอกในช่วงเวลาต่างๆ ไม่เหมือนกัน หลี่เหิงอดไม่ได้ที่จะพูดว่า
“มิน่าล่ะคนโบราณถึงอยากเป็นเซียน ฉันยืนอยู่บนยอดเขามองทะเลหมอก ยังอยากจะกระโดดลงไป เหาะไปบนก้อนเมฆ”
“มนุษย์จินตนาการว่าอยากเหาะเหินเดินอากาศ เป็นเซียนที่อายุยืน ตั้งแต่โบราณ กษัตริย์ ขุนนาง ต่างก็ใฝ่ฝัน แต่ไม่มีใครทำได้สำเร็จ!”
“ตอนนี้ฉันได้รับโอกาสจากโชคชะตา อนาคตต้องเป็นเซียนได้ ยิ่งห้ามประมาท ห้ามหลงตัวเอง เพราะตอนนี้ฉันยังอ่อนแอมากเมื่อเทียบกับธรรมชาติ!”
หลี่เหิงถอนหายใจ
ลุกขึ้นยืน สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพ่นลมหายใจออกมา ลูกศรลมหายใจพุ่งออกไปไกลกว่า 3 เมตร
ยืนอยู่บนยอดเขา มองเทือกเขาลูกแล้วลูกเล่า
หลี่เหิงเกิดความรู้สึก ร้องเพลงออกมา
เพลงนี้เขาแต่งขึ้นเอง เนื้อเพลงเรียบง่าย ส่วนใหญ่พูดถึงความเล็กจ้อยของมนุษย์ ความยิ่งใหญ่ของโลก แต่ความตั้งใจที่จะเป็นเซียนนั้นแน่วแน่มาก สาบานว่าจะเอาชนะโลก เป็นเซียนให้ได้
พอใช้ทักษะเสียงสวรรค์ เสียงที่ออกมาจากปากหลี่เหิงก็เหมือนมีชีวิต
ในมุมมองที่หลี่เหิงเห็น เนื้อเพลงที่ออกมาจากปากเขา กลายเป็นตัวหนังสือสีทองเล็กๆ ลอยไปไกลๆ
ยอดเขามีตัวหนังสือสีทองมากมาย เหมือนหมอก ลอยไปไกลๆ
ตัวหนังสือสีทองพวกนี้มีแค่หลี่เหิงที่มองเห็น แต่มีพลังของทักษะเสียงสวรรค์
เสียงร้องเพลงของหลี่เหิงไม่ดัง แต่กลับกังวาน ดังไปไกลๆ
ตอนนี้ 9 โมงกว่าแล้ว คนที่มาปีนเขาก็เริ่มเยอะขึ้น
ถึงแม้หลี่เหิงจะอยู่ในป่าลึก อยู่ห่างจากจุดชมวิวหลายกิโลเมตร แต่ทักษะเสียงสวรรค์เป็นทักษะขั้นสูง สามารถส่งเสียงไปไกลหลายกิโลเมตร เข้าไปในหูนักท่องเที่ยว เหมือนอยู่ใกล้ๆ
ศาลาพักผ่อนกลางเขา นักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งกำลังพักผ่อน บางคนถ่ายรูป บางคนมองไปรอบๆ บางคนคุยกัน...
“บนเขาอากาศดีจัง” ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ อ้วนท้วน ถอนหายใจ
ชายหนุ่มร่างเล็กข้างๆ เขาพูดว่า “พอไปถึงยอดเขา ก็ไม่ใช่แค่เย็นสบาย แต่จะหนาว”
ชายหนุ่มอ้วนหัวเราะ “ฉันกลัวร้อน หนาวหน่อยไม่เป็นไร แต่ปีนเขามันเหนื่อยมาก ต่อไปฉันไม่ปีนแล้ว”
ชายหนุ่มร่างเล็กส่ายหัว กำลังจะพูดอะไร ก็มีเสียงเพลงดังมาจากที่ไกลๆ
พอได้ยินเสียงเพลง เขาก็อึ้งไปเลย ยืนอยู่ที่เดิม ไม่ขยับไปไหน เหมือนโดนสาป
ชายหนุ่มอ้วนเห็นเพื่อนไม่ขยับ กำลังจะถามว่าเป็นอะไร
ทันใดนั้น เขาก็ได้ยินเสียงเพลง แล้วก็เป็นเหมือนชายหนุ่มร่างเล็ก ไม่ขยับไปไหน
ไม่ใช่แค่เขา คนอื่นก็เหมือนกัน เหมือนโดนสะกด ยืนอยู่ที่เดิมด้วยสีหน้าเคลิบเคลิ้ม
เสียงเพลงลอยมา เข้าไปในหู ซึมซับเข้าสู่หัวใจ
เพลงจบหลังจากผ่านไป 10 กว่านาที
ทุกคนก็เหม่อลอยไป 10 กว่านาที
10 กว่านาทีนี้ไม่นาน แต่สำหรับพวกเขา เหมือนผ่านไปทั้งชีวิต
พอเพลงจบ พวกเขาก็ตั้งสติได้ ดวงตาเต็มไปด้วยความว่างเปล่า
ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมงกว่า พวกเขาถึงจะตั้งสติได้
เสียงถอนหายใจดังก้องไปทั่วภูเขา
“เฮ้อ! เมื่อกี้ฉันเห็นเซียน เซียนลูบหัวฉัน บอกฉันว่า จงฝึกฝน เจ้าจะมีอายุยืนยาว!”
“ฉันไม่เหมือนนาย ฉันเห็นชีวิตที่ทุกข์ยากของคนธรรมดา ตอนนั้น เหมือนฉันได้สัมผัสทุกอย่างในโลกมนุษย์”
“ฉันเห็นภูเขามีด ทะเลเพลิง นรก เห็นญาติตายต่อหน้า แต่ฉันไม่รู้สึกอะไร เพราะฉันรู้ว่านั่นเป็นแค่ภาพลวงตา”
“บนเขานี้มีเซียนจริงๆ เหรอ?”
“นี่มันเสียงเพลงอะไร? ทำให้คนเราเห็นภาพลวงตา เหมือนผ่านไปทั้งชีวิต”
“ที่นี่มันแปลกๆ แต่ฉันอยากฟังอีกครั้ง”
“........”
เสียงสวรรค์ ทำให้นักท่องเที่ยวมึนเมา!
10 กว่านาที เหมือนผ่านไปทั้งชีวิต
ประสบการณ์แบบนี้เหมือนฝัน ทำให้คนหลงใหล แต่ก็ไม่ใช่เรื่องจริง ถ้าคนอื่นไม่มีประสบการณ์แบบเดียวกัน พวกเขาคงคิดว่าทั้งหมดนี้เป็นแค่ความฝัน
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า พระอาทิตย์ยิ่งขึ้นสูง อุณหภูมิบนเขาก็สูงขึ้น แต่นักท่องเที่ยวก็ยังไม่ออกไป
ไม่ว่าจะเป็นคนที่ปีนขึ้นไปถึงยอดเขา หรือคนที่ปีนไปถึงกลางเขา หรือคนที่พึ่งเข้ามาในจุดชมวิว นักท่องเที่ยวที่ได้ยินเสียงสวรรค์ ก็ไม่อยากออกไป
พวกเขามองท้องฟ้า มองไปที่ป่าลึก หวังว่าจะได้ยินเสียงสวรรค์อีกครั้ง
ความรู้สึกที่เสียงเพลงนั้นมอบให้ มันมหัศจรรย์มาก ทุกคนต่างก็หลงใหล ประสบการณ์ที่เหมือนผ่านไปทั้งชีวิต ทำให้จิตใจของพวกเขาเปลี่ยนไป การเติบโตทางจิตใจแบบนี้ทำให้พวกเขาหยุดไม่ได้ เหมือนคนติดยา
ในใจรู้สึกว่าโลกนี้ช่างกว้างใหญ่ ชีวิตคนเรามีความทุกข์มากมาย มนุษย์ตัวเล็กจ้อยเหมือนฝุ่นผง แต่ฉันมีความมุ่งมั่น ในที่สุดก็ปีนบันไดขึ้นสู่สวรรค์
ในขณะเดียวกัน เพราะแต่ละคนมีความเข้าใจในเพลงไม่เหมือนกัน ก็เลยมีความรู้สึกที่แตกต่างกัน
ความรู้สึกแบบนี้ตรงกับใจ ทำให้คนรู้สึกชอบมาก ตัดใจไม่ได้
“ถ้าบนเขามีเซียนจริงๆ ได้โปรดประทานเสียงเซียนอีกครั้งเถอะ”
“ไม่ไหวแล้ว ฉันต้องฟังอีกครั้ง คันหัวใจมาก”
“บนเขานี้ต้องมีเซียนแน่ๆ ไม่งั้นก็อธิบายเรื่องเมื่อกี้ไม่ได้”
“หรือว่าเป็นเซียนจากศาลเจ้าที่ไหนร้องเพลง?”
“เสียงเพลงนี้ช่างมหัศจรรย์ น่าหลงใหลมาก”
“............”