บทที่ 592 การกักกัน
【แปลโดยฝีมือ...ยักษาแปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ】
【แค่ คอมเมนต์ ก็เหมือนการให้กำลังใจแล้วนะครับ รบกวน comment กันหน่อยน๊า ;-;】
【Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย】
บทที่ 592 การกักกัน
อัลตรอน ในฐานะปัญญาประดิษฐ์นั้น ถือเป็นสิ่งมีชีวิตพิเศษสุดยอดในจักรวาลอเวนเจอร์ส
ความสามารถในการคำนวณอันทรงพลังของมัน ช่วยเหล่าอเวนเจอร์สสืบหาข่าวกรองและระบุเป้าหมายได้เร็วกว่าจาร์วิสเสียอีก
อย่างไรก็ตาม ในฐานะแกนหลักของ ‘โครงการสันติภาพ’ ของโทนี่ อัลตรอนมีบทบาทสำคัญยิ่งกว่านั้นมากมายนัก
ความสามารถในการคำนวณอันทรงพลังทำให้มันพัฒนาและปรับปรุงร่างกายตัวเองได้ไม่หยุดยั้ง ปัจจุบัน อัลตรอนใช้ร่างหุ่นยนต์รุ่นที่สี่ ซึ่งผ่านการพัฒนาและปรับปรุงมาอย่างดีเยี่ยม สร้างจากไวเบรเนียมจำนวนมหาศาล ทำให้มีเกราะป้องกันแข็งแกร่งยิ่งขึ้น พร้อมทั้งผสานเทคโนโลยีของชิทอรี่และ ‘แปซิฟิสต้า’ เข้าไว้ด้วยกัน จึงมีพลังทำลายล้างในยามต่อสู้ที่เหนือกว่าใคร
กล่าวได้ว่า อัลตรอนเวอร์ชันอัปเกรดแล้วนั้น มีความสามารถเปิดฉากสงครามใหญ่ได้อย่างสบาย ๆ เมื่อรวมกับการควบคุมกองทัพเหล็กของมันแล้ว แม้แต่เหล่าอเวนเจอร์สเองก็ยังยากที่จะเอาชนะ
แน่นอนว่า การอัปเกรดครั้งใหม่ของอัลตรอนนี้ เหล่าอเวนเจอร์สไม่ได้เห็นด้วยกันทั้งหมด
แบนเนอร์แสดงความกังวลว่า พวกเขายังไม่มีกลไกควบคุมอัลตรอน หากอัลตรอนเกิดปัญหาขึ้นมา อาจกลายเป็นหายนะได้
แต่โทนี่กลับไม่ค่อยใส่ใจเรื่องนี้สักเท่าไหร่
ในฐานะผู้ออกแบบโครงการ ‘สันติภาพ’ โทนี่เชื่อมั่นในปัญญาประดิษฐ์อย่างสุดซึ้ง และการกระทำของอัลตรอนนับตั้งแต่ถือกำเนิด ก็เป็นเครื่องพิสูจน์แนวคิดของเขาอย่างชัดเจน การมีอยู่ของปัญญาประดิษฐ์ช่วยเหลือเหล่าอเวนเจอร์สอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะในยามสู้รบหรือแม้แต่การรักษาฮิวแมนทอร์ช หรือวิชั่นในปัจจุบัน
ถึงแม้ศัตรูที่แข็งแกร่งจะปรากฏตัวบ่อยครั้ง ทำให้ความสามารถของอัลตรอนดูไม่โดดเด่นเท่าไร
แต่โทนี่เชื่อมั่นว่าด้วยการเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สักวันหนึ่งอัลตรอนจะบรรลุเป้าหมายตามที่เขาหวังไว้ใน ‘แผนสันติภาพ’ และจะเข้ามาทำหน้าที่แทนที่อเวนเจอร์สและซูเปอร์ฮีโร่อื่น ๆ กลายเป็นอเวนเจอร์ส
ในฐานะอัจฉริยะผู้ยิ่งใหญ่ แม้โทนี่จะไม่หยิ่งยโสเหมือนก่อนแล้ว แต่ความมานะของอัจฉริยะยังคงอยู่ โดยเฉพาะกับปัญญาประดิษฐ์ที่เขาสร้างขึ้นด้วยตัวเอง
เขาไม่เห็นด้วยกับความเป็นไปได้ที่แบนเนอร์ได้กล่าวถึง
ความสามารถในการคำนวณและการแก้ไขตัวเองอย่างทรงพลังของอัลตรอน เป็นหลักประกันว่ามันไม่มีทางเกิดความผิดพลาดจนเสียการควบคุมอย่างที่แบนเนอร์กล่าวอ้างแน่นอน
อัลตรอนจ้องมอง【โดเมนิโก้·พุชชี่】ตรงหน้า ดวงตาสีฟ้าอ่อนอมเขียวเปล่งประกาย ด้วยพลังการมองเห็นอันทรงประสิทธิภาพของดวงตาจักรกลและความสามารถในการประมวลผลอันรวดเร็ว ถึงแม้จะมองไม่เห็นร่างของสแตนด์【เวธเธอร์รีพอร์ต】ชัดเจนเหมือนใช้พลังวิเศษ แต่ก็วิเคราะห์รูปร่างที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงนั้นได้อย่างคลุมเครือ และสำหรับการต่อสู้ แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
มันก้าวเท้าลงบนพื้น ทิ้งรอยเท้าชัดเจนไว้เบื้องหลัง ด้วยพลังขับเคลื่อนอันมหาศาลภายในตัว อัลตรอนพุ่งไปยังหน้า【โดเมนิโก้·พุชชี่】ด้วยความเร็วเหนือมนุษย์ ยกแขนขึ้น พลังงานมหาศาลก่อตัวที่ฝ่ามือ
“【เวธเธอร์รีพอร์ต】!”
เมื่อเทียบกับมนุษย์ อัลตรอนซึ่งเป็นปัญญาประดิษฐ์นั้นมีการเริ่มต้นทำงานที่รวดเร็วกว่ามาก และหลังจากการอัปเกรดแล้ว ความเร็วในการทำงานของร่างกายก็ราบรื่นอย่างที่สุด ไม่มีความล่าช้าเลย
จนกระทั่ง【โดเมนิโก้·พุชชี่】ตั้งตัวได้ อัลตรอนก็อยู่ห่างจากเขาไม่ถึงครึ่งเมตรแล้ว
โชคดีที่การใช้พลังสแตนด์นั้นไม่มีความล่าช้า สแตนด์ทำงานทันทีเมื่อได้ยินเสียงตะโกนเบา ๆ ของ【โดเมนิโก้·พุชชี่】
【เวธเธอร์รีพอร์ต】เปลี่ยนเป็นหมอกสีม่วงเข้ม ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าอัลตรอนในทันที สแตนด์ใช้ดวงตาสีม่วงจ้องมองหุ่นยนต์สีเงินตรงหน้า
โดยทั่วไปพลังของสแตนด์นั้นเป็นเพียงการขยายพลังจิตของผู้ใช้เท่านั้น ฉะนั้นตามหลักการแล้วมันจึงไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง และจะไม่มีอารมณ์อย่างความกลัวเกิดขึ้น ยกเว้นสแตนด์ประเภทพิเศษบางชนิดเท่านั้น
ขณะที่พลังงานคลื่นกระแทกที่อัลตรอนรวมไว้ที่ฝ่ามือพุ่งเข้าใส่ 【เวธเธอร์รีพอร์ต】ก็ยกมือทั้งสองข้างขึ้นไขว้กันในทันที สายฟ้าจำนวนมหาศาลจึงรวมตัวกันท่ามกลางฟ้าแลบและเสียงคำราม
ตู้มมม……
ปัง……
เมื่อสายฟ้าและคลื่นกระแทกปะทะกัน แรงกระแทกอันน่าหวาดเสียวก็ปะทุออกมาจากมือของอัลตรอนและ【เวธเธอร์รีพอร์ต】
ด้วยแรงกระแทกอย่างรุนแรง 【เวธเธอร์รีพอร์ต】ถอยหลังไปหลายเมตร พร้อมกับรอยไหม้สีดำหลายแห่งปรากฏขึ้นที่แขน ควันดำลอยขึ้นเป็นกลุ่ม
ขณะเดียวกัน แขนของ【โดเมนิโก้·พุชชี่】ที่อยู่ข้าง ๆ ดูเหมือนจะแตกเป็นรอยแผลลึกหลายแห่งจากแรงกระแทกที่มองไม่เห็น เลือดสีแดงสดไหลออกมาตามรอยแผลและหยดลงพื้น
แผลที่แขนทำให้【โดเมนิโก้·พุชชี่】ได้แต่ขมวดคิ้ว
“หืม แผลงั้นเหรอ?”
เนื่องจากการระเบิดก่อนหน้านี้ วิชั่นในตอนนี้ดูอ่อนล้า
แต่เขาก็ไม่ละสายตาจาก【โดเมนิโก้·พุชชี่】แม้แต่วินาทีเดียว
เมื่อเห็นบาดแผลฉับพลันบนแขนของโดเมนิโก้·พุชชี่ วิชั่นหรี่ตาลงเล็กน้อย เหลือบมองไปยังแขนของสแตนด์เวธเธอร์รีพอร์ตที่อยู่ใกล้ ๆ บาดแผลนั้นแทบจะอยู่ในตำแหน่งเดียวกันกับของโดเมนิโก้·พุชชี่ ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว
“อัลตรอน โจมตีสแตนด์ซะ บาดแผลที่สแตนด์ได้รับ จะปรากฏบนตัวโดเมนิโก้·พุชชี่ ซึ่งเป็นตัวจริงด้วย”
พอรู้เช่นนั้น สีหน้าของวิชั่นก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขารีบเตือนอัลตรอนที่กำลังสู้ทันที
อัลตรอนในฐานะปัญญาประดิษฐ์ มีพลังสังเกตการณ์ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าวิชั่นเลย
แม้พลังของอัญมณีแห่งจิตใจจะช่วยให้วิชั่นมองเห็นความเชื่อมโยงระหว่างสแตนด์เวธเธอร์รีพอร์ตกับโดเมนิโก้·พุชชี่ได้ชัดเจนกว่า
แต่ถึงไม่มีคำเตือนจากวิชั่น หากการต่อสู้ดำเนินต่อไป ไม่ช้าก็เร็วอัลตรอนก็ต้องสังเกตเห็นจุดนี้เช่นกัน
อัลตรอนก้มลงมองตำแหน่งที่ถูกฟ้าผ่า ด้วยคุณสมบัติของไวเบรเนียม ร่างกายของอัลตรอนตอนนี้แทบจะทำลายไม่ได้ ถึงฟ้าผ่าจากเวธเธอร์รีพอร์ตจะทรงพลังเพียงใด แต่เมื่อกระทบอัลตรอนแล้ว ก็ไม่ทิ้งร่องรอยความเสียหายที่เห็นได้ชัดนัก
ร่างกายที่แข็งแกร่งของอัลตรอนหาสิ่งใดมาทำลายไม่ได้ จึงสามารถเพิกเฉยต่อภัยคุกคามส่วนใหญ่จาก【เวธเธอร์รีพอร์ต】ได้ ตามคำเตือนของวิชั่น สายตาของอัลตรอนจับจ้องไปยังเงาพร่ามัวของสแตนด์ ทันทีที่เห็น มันก็เริ่มโจมตีโดยไม่ลังเล
……
ปัง—
แรงกระแทกมหาศาลจากสแตนด์ ทำให้【โดเมนิโก้·พุชชี่】ยกมือปิดปากโดยไม่รู้ตัว แต่ก็หยุดเลือดที่ไหลออกมาจากปากไม่ได้
โดยทั่วไปแล้ว ยกเว้นการต่อสู้ระหว่างผู้ใช้สแตนด์ สแตนด์ซึ่งเป็นพลังงานจะไม่สามารถถูกทำร้ายทางกายภาพได้ ก่อนหน้านี้ การต่อสู้ระหว่าง【เวธเธอร์รีพอร์ต】และวิชั่น อาศัยการที่วิชั่นเปลี่ยนความหนาแน่นของร่างกาย กลายเป็นสิ่งที่มีลักษณะคล้ายกับสแตนด์
ลักษณะเฉพาะของสแตนด์ นั่นเองที่การันตีความได้เปรียบในการต่อสู้
แต่ในสถานการณ์นี้มีวิชั่นอยู่ และบนหน้าผากของวิชั่นนั้นมีอัญมณีแห่งอนันต์ที่เรียกว่า อัญมณีแห่งจิตใจ ประดับอยู่
ด้วยพลังของอัญมณีแห่งจิตใจ วิชั่นทำให้ตัว【โดเมนิโก้·พุชชี่】และสแตนด์【เวธเธอร์รีพอร์ต】ปรากฏเป็นเงาสีเหลืองอ่อนพร่ามัวในโลกแห่งความจริง
และเงาที่ปรากฏตัวขึ้นนี้เอง ทำให้【เวธเธอร์รีพอร์ต】ได้รับความเสียหายจากการโจมตีของอัลตรอนได้
แตกต่างจากสแตนด์ส่วนใหญ่ 【โดเมนิโก้·พุชชี่】และ【เวธเธอร์รีพอร์ต】ของเขามีพลังทำลายล้างสูงมาก โดยเฉพาะการควบคุมชั้นบรรยากาศเพื่อสร้างสภาพอากาศสุดขั้ว 【เวธเธอร์รีพอร์ต】จึงเป็นภัยคุกคามที่น่าหวั่นเกรงอย่างยิ่งสำหรับศัตรูส่วนใหญ่
แต่ทว่า อัลตรอนกลับไม่ใช่หนึ่งในนั้น
แม้จะเป็นปัญญาประดิษฐ์อัจฉริยะแค่ไหน อัลตรอนก็ยังคงเป็นหุ่นยนต์อยู่ดี
การโจมตีส่วนใหญ่ของ【โดเมนิโก้·พุชชี่】เมื่อเผชิญหน้ากับหุ่นยนต์ จึงลดประสิทธิภาพลงอย่างเลี่ยงไม่ได้
เขาสามารถใช้【เวธเธอร์รีพอร์ต】ดูดออกซิเจนออกจากบริเวณนั้น สร้างสุญญากาศที่น่าสะพรึงกลัวสำหรับสิ่งมีชีวิต
แต่ปรากฏว่า อัลตรอนในฐานะปัญญาประดิษฐ์ ไม่จำเป็นต้องหายใจ
และไม่ว่าจะเป็นความร้อนจัดหรือความหนาวเย็นจัดต่ำกว่าศูนย์องศา ก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายอย่างเห็นได้ชัดต่ออัลตรอนซึ่งเป็นหุ่นยนต์
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ร่างกายที่ถูกดัดแปลงด้วยไวเบรเนียมโลหะมีค่าอันหายาก ทำให้ความแข็งแกร่งของอัลตรอนน่าทึ่งมาก แม้แต่ฟ้าผ่าก่อนหน้านี้ก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายร้ายแรงให้มันได้
ส่วนที่เหลือ พายุไฟฟ้าที่เปลี่ยนคนให้กลายเป็นหอยทาก รวมถึงวิธีการสร้างฝนกบพิษ ซึ่งเป็นวิธีการสร้างปรากฏการณ์ทางธรรมชาติแปลกประหลาดที่โดเมนิโก้·พุชชี่ยังไม่เคยใช้มาก่อน ก็ดูเหมือนจะทำให้อัลตรอนเสียหายไม่มากนัก
พูดได้เลยว่า อัลตรอนปัญญาประดิษฐ์ตัวนี้ เป็นหนึ่งในไม่กี่ตัวในบรรดาอเวนเจอร์ส ที่ไม่หวั่นไหวต่อวิธีการของโดเมนิโก้·พุชชี่
แน่นอน สถานการณ์แบบนี้ก็เป็นเรื่องปกติ
ลองมองอีกมุมดู โทนี่ออกแบบ ‘แผนสันติภาพ’ สร้างปัญญาประดิษฐ์ขึ้นมา ก็เพื่อรับมือกับสถานการณ์แบบนี้โดยเฉพาะ
แต่ทั้งหมดนี้ก็จะได้เปรียบต่อเมื่อเจอกับพลังของสแตนด์ เวธเธอร์รีพอร์ต ของโดเมนิโก้·พุชชี่เท่านั้นแหละ
พลังในการสร้างสภาพอากาศดูเหมือนจะทรงพลังมหาศาล แต่ก็ต้องดูด้วยว่าใช้กับเป้าหมายอะไร
ภัยพิบัติทางธรรมชาติ เป็นการโจมตีที่ถึงตาย ยากจะต้านทาน สำหรับสิ่งมีชีวิตบนโลกถึงร้อยละเก้าสิบห้าไม่มีทางรอด
ทว่า อัลตรอนกลับเป็นหนึ่งในร้อยละห้าที่เป็นข้อยกเว้น
ถ้าหากการต่อสู้ครั้งนี้เปลี่ยนเป็นบูจาราตี้ที่มีสแตนด์ สติ๊กกี้ฟิงเกอร์ละก็ อาจเป็นอีกสถานการณ์หนึ่งไปเลย เพราะด้วยพลังที่มีลักษณะแปลกประหลาด แม้จะไม่สามารถสร้างพายุเฮอริเคนหรือการโจมตีด้วยสภาพอากาศสุดขั้วได้อย่างอลังการเหมือนโดเมนิโก้·พุชชี่
แต่ว่า 【สติ๊กกี้ฟิงเกอร์】นั้นชนะอัลตรอนได้แน่นอน เพราะมันเอาชนะปัญญาประดิษฐ์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ด้วยความสามารถสร้างซิปได้ตามใจชอบบนพื้นผิวอะไรก็ได้ 【บูจาราตี้】เลยไม่ต้องสนใจความแข็งแกร่งของอัลตรอนที่ทำจากไวเบรเนียมเลย เขาแค่สร้างซิปบนตัวอัลตรอน แบ่งแยกมันออกเป็นหลายส่วน หรือแม้แต่เข้าไปในตัวอัลตรอนได้เลย ถึงตัวมันอาจอาจสร้างเกราะไวเบรเนียมแข็งแค่ไหน แต่ข้างในก็ยังเป็นเครื่องจักรเปราะบางอยู่ดี แค่สร้างความเสียหายเล็กน้อย อัลตรอนที่เคยแข็งแกร่งก็ล้มลงได้
พูดมาซะยาว แต่เหตุผลก็แค่นี้เอง
นั่นก็คือ ไม่ใช่ว่า【โดเมนิโก้·พุชชี่】ไม่เก่ง แต่เพราะอัลตรอนรับมือกับพลังของเขาได้ดีเกินไป เลยดูเหมือนเขาถูกอัลตรอนเล่นงานอยู่ฝ่ายเดียว
……
ปัง!
เสียงดังสนั่นอีกครั้ง หมัดนี้พุ่งเข้าใส่【เวธเธอร์รีพอร์ต】 จนร่างแยกกระเด็นไป
อีกด้านหนึ่ง 【โดเมนิโก้·พุชชี่】ก็รู้สึกเจ็บปวดที่【เวธเธอร์รีพอร์ต】ได้รับ ราวกับเขารู้สึกไปพร้อมกัน
ในรายการความสามารถของสแตนด์ 【เวธเธอร์รีพอร์ต】จัดอยู่ในระดับสูงสุด แม้แต่ก่อนหน้านี้ที่เคยปะทะกับวิชั่น ก็ยังเคยสร้างความเสียหายให้วิชั่นอย่างหนักหน่วง
แต่พลังระดับนั้นก็ขึ้นอยู่กับคู่ต่อสู้ อัลตรอนในฐานะหุ่นยนต์ จุดแข็งคือพลังดิบ ๆ ถึงแม้จะไม่มีอาวุธเลเซอร์ที่ทรงพลัง แต่แค่พลังล้วน ๆ อัลตรอนก็ยกยานเกราะหนักอย่าง แพทริออท ขึ้นได้สบาย ๆ
สแตนด์จึงทำร้ายอัลตรอนไม่ได้ ด้านพลังก็เป็นรองเช่นกัน
ผลคือ 【เวธเธอร์รีพอร์ต】โดนปัญญาประดิษฐ์เล่นงานอยู่ฝ่ายเดียวตลอด
ถูกกระแทกจนลอยขึ้นไปกลางอากาศอีกครั้ง คราวนี้ 【เวธเธอร์รีพอร์ต】ไม่บุกเข้าไปต่อสู้แบบหุนหันพลันแล่นเหมือนเดิมแล้ว แต่ภายใต้การควบคุมของ【โดเมนิโก้·พุชชี่】 มันกลายเป็นกลุ่มควันสีขาวล่องลอยไปรอบ ๆ ตัวอัลตรอน
“อัลตรอน ระวังรอบ ๆ ตัว!”
เห็นการเปลี่ยนแปลงของ【เวธเธอร์รีพอร์ต】 วิชั่นที่กำลังควบคุมพลังของอัญมณีแห่งจิตใจอยู่ข้าง ๆ รีบตะโกนเตือนทันที
แต่เห็นได้ชัดว่าวิธีการของ【โดเมนิโก้·พุชชี่】ได้ผล เพราะอัลตรอนสามารถหาสแตนด์เจอและต่อสู้ได้ ก็เพราะได้รับความช่วยเหลือจากวิชั่นนั่นเอง
แต่แล้ว เมื่อตัว【เวธเธอร์รีพอร์ต】กลายเป็นภาพคล้ายกลุ่มหมอกลาง ๆ จับต้องไม่ได้ วิชั่นจึงไม่สามารถบอกได้ว่าร่างสแตนด์อยู่ที่ไหน
การใช้พลังอัญมณีแห่งจิตใจบ่อยครั้ง กำลังทำให้วิชั่นใกล้ถึงขีดจำกัดแล้ว จริง ๆ แล้ว แม้【โดเมนิโก้·พุชชี่】จะไม่ทำเช่นนั้น ไม่นานวิชั่นก็คงไม่สามารถใช้พลังของตัวเองมองร่างสแตนด์ได้อีกต่อไป
“แค่ก… แค่ก…”
อัลตรอนตรวจจับร่างสแตนด์ไม่ได้ 【โดเมนิโก้·พุชชี่】จึงได้โอกาสพักหายใจ
แต่บาดแผลที่อัลตรอนสร้างไว้ร้ายแรงมากอยู่แล้ว ยิ่งโดนพายุไฟฟ้าดูดพลังไปอีก ตอนนี้【โดเมนิโก้·พุชชี่】ดูเหมือนจะหมดแรงเหลือเกิน
เขาพยายามทรงตัวอย่างยากลำบาก ใบหน้าที่ซีดอยู่แล้ว ยิ่งซีดเผือด เลือดไหลนองพื้นจนกลายเป็นสีแดงฉาน
“ยอมแพ้เถอะ 【โดเมนิโก้·พุชชี่】 คุณไม่มีทางสู้แล้ว”
วิชั่นเห็นสภาพ【โดเมนิโก้·พุชชี่】เช่นนั้น จึงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“หากคุณสู้ต่อไป คุณอาจตายได้ ถึงแม้จะมีพลังสแตนด์ก็คงไม่ช่วย”
“ไม่ ผมยังไม่แพ้ ภารกิจของสถาบัน SCP ผมจะยอมแพ้ก็ต่อเมื่อตายเท่านั้น”
โดเมนิโก้ พุชชี่ ไม่หวั่นไหวแม้ถูกวิชั่นกล่าวเช่นนั้น เขายกหัวขึ้นอย่างยากลำบาก กระซิบเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยินว่า “เวธเธอร์รีพอร์ต……”
“จบแล้วล่ะ!”
อัลตรอนเห็นโดเมนิโก้ พุชชี่ดื้อดึงต่อต้าน แสงสีฟ้าอ่อน ๆ ในดวงตาของมันสั่นไหวเล็กน้อย แต่ก็ไม่ลังเลที่จะยกมือชี้ไปยังเป้าหมาย
ในฐานะปัญญาประดิษฐ์ มันไม่มีจุดอ่อนอย่าง ‘ความเมตตา’ อยู่เลยสักนิด
(จบตอน)
ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร ผู้แปลลงแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับผม หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;_