บทที่ 580 การปฏิเสธข้อเสนอ

【แปลโดยฝีมือ...ยักษาแปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ】

【แค่ คอมเมนต์ ก็เหมือนการให้กำลังใจแล้วนะครับ รบกวน comment กันหน่อยน๊า ;-;】

【Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย】

บทที่ 580 การปฏิเสธข้อเสนอ

“……”

เจมส์ ภายใน ‘วอร์แมชชีน’ นิ่งสงบเยือกเย็นอย่างน่าประหลาดใจ แม้จะเผชิญกับถ้อยคำเยาะเย้ยจากพลเอกก็ตาม

ในฐานะทหาร เขาเข้าใจความรู้สึกของพลเอกดี

ไม่ว่ายุคสมัยใด การปกป้องประเทศชาติคือหน้าที่ของทหาร และสิ่งที่ทหารรับไม่ได้ที่สุด คือการที่กองทัพต่างชาติเข้ามาในประเทศตน ถึงแม้จะใช้คำขวัญสวยหรูอย่าง ‘ปกป้องโลก’ ก็ตาม

อย่างไรก็ดี เจมส์จะไม่หวั่นไหวต่อภารกิจเพราะอารมณ์ส่วนตัว

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การกระทำของเขาในครั้งนี้ เป็นตัวแทนของกองทัพสหรัฐฯ ซึ่งพลเอกกำลังไม่พอใจอยู่

“ผมหวังว่าพลเอกจะเข้าใจนะครับ สิ่งที่กองทัพสหรัฐฯ ทำทั้งหมด เพื่อปกป้องสันติภาพโลก และเพื่อปกป้องแคนาดาในฐานะพันธมิตรด้วย”

ภายใน ‘วอร์แมชชีน’ เจมส์กล่าวตามที่กองทัพสหรัฐฯ กำหนด

“อย่างนั้นเหรอ งั้นผมต้องขอบคุณกองทัพสหรัฐฯ สำหรับความห่วงใยต่อพันธมิตรสินะ ผู้พันเจมส์”

เมื่อเจมส์ให้เหตุผลยิ่งใหญ่เช่นนี้ สีหน้าของพลเอกยิ่งเย็นชาลง

คำแก้ตัวเรื่องสันติภาพโลกฟังดูตลก แต่เป็นคำแก้ตัวที่สหรัฐฯ ใช้บ่อยที่สุดในการส่งทหารไปทั่วโลก ในอดีต แคนาดาในฐานะพันธมิตร ก็ได้รับประโยชน์ ถึงจะไม่เท่าสหรัฐฯ แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้พอใจ

แต่บัดนี้ แคนาดาเปลี่ยนจากพันธมิตรมาเป็นฝ่ายที่ได้รับการช่วยเหลือ พลเอกกลับไม่มีความรู้สึกยินดีเลย

เพราะเวทีโลกได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วอย่างชัดเจน…

ความช่วยเหลือจากอเมริกานั้นไม่สูงส่งอย่างที่ได้ยินมา และชะตากรรมของประเทศที่ได้รับความช่วยเหลือเหล่านั้นก็โหดร้ายกว่าที่เห็นหลายเท่า

“ไม่เป็นไรครับ ท่านนายพล นี่เป็นหน้าที่ที่เราควรทำในฐานะพันธมิตร”

ถึงแม้คำพูดของนายพลจะดูเยาะเย้ยอย่างชัดเจน แต่ผู้พันเจมส์ก็ยังตอบกลับไปราวกับไม่ทันสังเกต

ภายใน ‘วอร์แมชชีน’ ระบบปัญญาประดิษฐ์เวอร์ชันง่าย ๆ ที่โทนี่ติดตั้งไว้ในชุดเกราะเหล็กกำลังสแกนสถานการณ์ภายในค่ายทหาร จากการวิเคราะห์ของระบบ เจมส์เข้าใจว่านี่เป็นเพียงค่ายทหารชั่วคราวที่สร้างแบบง่าย ๆ ไม่มีอะไรผิดปกติ

“งั้นดูเหมือนปัญหาทั้งหมดจะอยู่ที่ฐานทัพสินะ?”

เมื่อนึกอะไรบางอย่างออก เจมส์ที่อยู่ในชุดเกราะเหล็กจึงหันไปมองฐานทัพที่อยู่ไม่ไกลจากค่ายทหาร

หมอกขาวหนาแน่นปกคลุมฐานทัพไว้หมด แต่ด้วยการสแกนของ ‘วอร์แมชชีน’ เจมส์ก็ยังพอจะมองเห็นกำแพงสูงใหญ่ที่ซ่อนอยู่ใต้หมอก กำแพงแบบนี้หาได้ยากในสงครามสมัยใหม่ และข้อมูลเกี่ยวกับโครงสร้างฐานทัพที่เขามีอยู่ก็ไม่ได้กล่าวถึงกำแพงนี้เลย

“หรือว่ากำแพงนี้สร้างขึ้นหลังจากที่สถาบันเข้ายึดครอง?”

ผู้พันเจมส์ไม่ได้ไม่รู้จักสถาบัน SCP องค์กรลึกลับนี้เลย

ในฐานะเพื่อนสนิทของโทนี่และผู้ควบคุมชุดเกราะเหล็ก ‘วอร์แมชชีน’ ผู้พันเจมส์บางครั้งก็ร่วมปฏิบัติการกับเหล่าอเวนเจอร์สในฐานะสมาชิกชั่วคราว ทำให้เขาได้รับรู้ข้อมูลบางอย่างที่แม้แต่เหล่าอเวนเจอร์สเองก็เพิ่งทราบไม่นานมานี้

และแน่นอน ข้อมูลเหล่านั้นรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับสถาบัน SCP ด้วย

แม้ข้อมูลที่เจมส์ได้รับจะไม่ครบถ้วน แต่เขาก็เข้าใจแล้วว่าสถาบัน SCP คือองค์กรลับที่ดำรงอยู่เบื้องหลังโลก มีหน้าที่กักกันสิ่งผิดปกติ

ก่อนหน้านี้ ตัวตนของสถาบัน SCP เป็นเพียงข่าวลือที่เจมส์ได้ยินมาจากเหล่าอเวนเจอร์ส แต่ตอนนี้หมอกหนาผิดปกติที่ปกคลุมฐานทัพและโครงสร้างอาคารที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด กลับเป็นสัญญาณเตือนว่าเขาอาจต้องเผชิญหน้ากับสถาบัน SCP อย่างเต็มรูปแบบในไม่ช้า

“หวังว่าทุกอย่างจะราบรื่นนะ”

ภายใน ‘วอร์แมชชีน’ ผู้พันเจมส์สูดหายใจเข้าลึก ๆ กระซิบเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่แน่ใจ

เมื่อตัดสินใจแล้ว เจมส์ไม่ลังเลอีกต่อไป

บูม——

เขาควบคุมชุดเกราะเหล็ก ‘วอร์แมชชีน’ พ่นเปลวไฟจากด้านหลังและมือเท้า จากนั้นก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว ภายใต้สายตาของนายพล มุ่งหน้าไปยังฐานทัพที่อยู่ไม่ไกลนัก

ในฐานะเพื่อนสนิทของโทนี่ พันเอกเจมส์ เจ้าของ ‘วอร์แมชชีน’ แม้จะไม่ได้อัปเกรดบ่อยเท่าชุดมาร์ค แต่ก็ได้รับการปรับปรุงจากฝีมือโทนี่มาหลายต่อหลายครั้ง โดยเฉพาะการอัปเกรดล่าสุดที่เปลี่ยนแปลงระบบอาวุธของ ‘วอร์แมชชีน’ ให้ทรงประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทำให้ชุดเกราะนี้มีพลังทำลายล้างสมชื่อ กลายเป็น ‘วอร์แมชชีน’ อย่างแท้จริงเสียที

“เตรียมตัวเจอเรื่องแย่ ๆ ไว้เลยนะ ผู้พันเจมส์!”

ตั้งแต่เจมส์ปรากฏตัว พลเอกก็ไม่เคยถูกชะตา ‘วอร์แมชชีน’ ของกองทัพสหรัฐฯ คนนี้เลย

ดังนั้น เมื่อเห็นเจมส์บินตรงไปยังฐานที่สถาบัน SCP ยึดครองโดยไม่รวบรวมข้อมูลใด ๆ พลเอกจึงนั่งมองด้วยสีหน้าสมน้ำหน้า

……

“ท่านครับ มีการติดต่อจาก…ท่านโทนี่ สตาร์ค…”

ค่ายพักชั่วคราวอยู่ไม่ไกลจากฐานทัพที่สถาบัน SCP ยึดครอง และระยะทางแค่นี้ก็เร็วมากสำหรับพันเอกเจมส์ที่บังคับการบินด้วยชุดเกราะเหล็ก

เมื่อควบคุม ‘วอร์แมชชีน’ ลงจอดภายในฐานที่ปกคลุมด้วยหมอกหนาทึบ สิ่งแรกที่เจมส์รู้สึกได้คือสัญญาณติดต่อภายในชุดเกราะเริ่มมีปัญหา

“ยังไม่ต้องรับสาย”

เจมส์เหลือบมองข้อความแจ้งเตือนการติดต่อจากโทนี่ที่ปรากฏบนหน้ากาก เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนตัดสินใจไม่รับสาย

“เจมส์ ตอนนี้นายอยู่ไหน?”

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้พันเอกเจมส์จะสั่งตัดการติดต่อผ่าน ‘วอร์แมชชีน’ ไปแล้ว เสียงคุ้นเคยของโทนี่ก็ยังคงดังก้องอยู่ในหูฟัง

“โทนี่?”

พันเอกเจมส์เบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ เมื่อเห็นใบหน้าคุ้นเคยของโทนี่โผล่ขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัว “ได้ไง...ฉันตัดสายนายไว้แล้วนะ?!”

“อย่าลืมสิ เจมส์ ใครกันที่ดัดแปลง ‘วอร์แมชชีน’ ให้กับนาย”

บนหน้าจอ โทนี่เลิกคิ้วตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย เผชิญหน้ากับสีหน้าตกตะลึงของเจมส์ “เรื่องโครงสร้างภายในและระบบของชุดเกราะนี่ ฉันรู้มากกว่านายเยอะ”

โทนี่พูดเพียงไม่กี่คำ ก็ตัดบทเรื่องการฝังโปรแกรมลับใน ‘วอร์แมชชีน’ จากนั้นในมาร์ค 50 เขาก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งด่วน “อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลย เจมส์ บอกพิกัดของนายมา ฉันใช้ระบบระบุตำแหน่งหาตำแหน่งกองทัพเจอแล้ว แต่หาตัวนายไม่เจอ”

ถึงแม้จะไม่พอใจที่โทนี่แอบติดตั้งโปรแกรมไว้ใน ‘วอร์แมชชีน’ แต่เจมส์ก็รู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาเคลียร์กับเขา ดังนั้นหลังจากได้ยินคำถามของโทนี่ พันเอกที่สวมชุดเกราะเหล็กจึงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเล่าสถานการณ์ของตัวเองให้ฟัง

“ฉันมาถึงแคนาดาตามภารกิจแล้ว”

“อะไรนะ?!”

ภายในเวลาไม่ถึง 50 วินาที โทนี่ได้ยินคำตอบจากเพื่อนสนิท ใบหน้าเปลี่ยนสีทันควัน รีบพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรนว่า “เชื่อฉันเถอะ เจมส์ อเวนเจอร์สกำลังมุ่งหน้าไปแคนาดา ถึงแม้จะมีภารกิจสำคัญ ก็ขอให้หยุดไว้ก่อน ทุกอย่างรอจนกว่าฉันจะไปถึงค่อยว่ากัน อย่าเด็ดขาด! อย่าเข้าไปในฐานทัพทหารคนเดียวเด็ดขาด!”

“ถ้าหมายถึงฐานทัพทหารในแคนาดา ขอโทษนะ โทนี่…”

บนหน้าจอที่ฉายจากหมวกกันน็อค โทนี่แสดงสีหน้าเคร่งเครียด เตือนอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตาม เจมส์ที่ควบคุม ‘วอร์แมชชีน’ อยู่ มองไปรอบ ๆ ภายในชุดเกราะเหล็ก ก่อนจะขอโทษโทนี่ “ฉันเข้าไปข้างในแล้ว”

“รีบออกมา เจมส์ รีบออกมาจาก…”

บนหน้าจอ เมื่อรู้เรื่องจากเพื่อน โทนี่ไม่ลังเลที่จะสั่งพันเอกเจมส์ออกจากฐานทัพทหาร แต่ยังไม่ทันที่โทนี่จะพูดจบ ภาพของเขาบนหน้าจอในหมวกกันน็อคก็เริ่มเบลอ เสียงของโทนี่ที่เคยชัดเจนก็เริ่มพร่ามัวเป็นพัก ๆ

“นี่มันอะไรกัน?”

เมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงในหมวก พันเอกเจมส์ในฐานะทหารก็รับรู้ถึงความผิดปกติได้ทันที

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะได้มีปฏิกิริยาใด ๆ ภายใน ‘วอร์แมชชีน’ หมอกที่ปกคลุมตัวเขาก็ค่อย ๆ จางลง ฉับพลันนั้นเอง เขาก็เห็นชายรูปร่างสูงใหญ่ ผิวขาวซีด ผมสีขาวราวหิมะ ดวงตาสีฟ้าสดใส สวมหมวกขนสัตว์สีขาวทรงแบนประดับเขาสั้น ๆ สองข้างด้านหน้า เสื้อคลุมสีน้ำเงินเข้ม มีช่องเปิดแปดช่อง คาดเข็มขัดทองคำรูปตัว ‘W’ กำลังก้าวเท้าอย่างสง่างาม ปลายเท้าแตะพื้นเบา ๆ เดินออกมาจากฐานทัพ

【โดเมนิโก้·พุชชี่】ควบคุมสแตนด์【เวธเธอร์รีพอร์ต】กระจายหมอกรอบ ๆ เมื่อเห็น ‘วอร์แมชชีน’ ปรากฏตัวตรงหน้าฐานทัพ เขาก็ถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

“คุณคือใคร? มาที่นี่ทำไม?”

“ผมคือเจมส์·โรดส์ พันเอกแห่งกองทัพสหรัฐฯ”

การปรากฏตัวของ【โดเมนิโก้·พุชชี่】และหมอกที่ค่อย ๆ จางหาย ทำให้เจมส์เข้าใจว่าชายผู้นี้อาจเป็นผู้สร้างหมอกหนาทึบที่ปกคลุมฐานทัพอยู่

ภายใน ‘วอร์แมชชีน’ เจมส์พยายามกลั้นความประหลาดใจเอาไว้ แล้วบอกชื่อและยศของตนเอง

“พันเอกของกองทัพเรือสหรัฐฯ?”

เมื่อได้ยินเจมส์บอกชื่อและยศ 【โดเมนิโก้·พุชชี่】ก็เลิกคิ้วเล็กน้อย ดูเหมือนจะประหลาดใจที่พบเห็นทหารอเมริกันอยู่ในฐานทัพของแคนาดา

แม้ใจจะแปลกใจอยู่บ้าง แต่ใบหน้าของโดเมนิโก้·พุชชี่ก็ยังคงสงบนิ่ง “บอกผมมาเถอะ คุณมาที่นี่ด้วยวัตถุประสงค์อะไร ผู้พัน?”

ถ้ามองแค่สภาพของทั้งสองฝ่ายที่หน้าฐานทัพ เจมส์ที่สวมเกราะเหล็ก ‘วอร์แมชชีน’ ดูเหมือนจะมีความได้เปรียบกว่าอย่างเห็นได้ชัด

แต่ความจริงแล้ว แม้จะมีเกราะหนา ๆ ป้องกันอยู่ เจมส์ก็ยังรู้สึกไม่ปลอดภัยนัก

เมื่อเจอคำถามจากโดเมนิโก้·พุชชี่ เจมส์ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจบอกความจริง “สัตว์ประหลาดขนาดมหึมา ทางเพนตากอนประเมินแล้วว่า สัตว์ประหลาดที่ปรากฏตัวในแคนาดามีโอกาสจะคุกคามดินแดนสหรัฐฯ จึงตัดสินใจส่งกองทัพไปจัดการภัยคุกคามนี้ เพื่อไม่ให้มันเข้ามาถึงสหรัฐฯ”

“นี่มันสุดยอดจริง ๆ สมกับเป็นสหรัฐฯเลย”

ในร้านขายของเก่า ไรอันกระตุกมุมปากเล็กน้อย ใบหน้าแสดงออกถึงความรู้สึกอึดอัด เมื่อได้ยินเหตุผลที่เจมส์ให้มา พูดตามตรง แม้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นจะเป็นฝีมือของเขาเอง แต่ปฏิกิริยาของสหรัฐฯก็ยังเกินความคาดหมายไปหน่อย ไรอันไม่คิดว่า เมื่อเผชิญกับภัยคุกคามจาก【จ้าวศักดิ์สิทธิ์】 ทำเนียบขาวจะแสดงท่าทีเด็ดขาดขนาดนี้ ไม่แคร์หน้าตาของแคนาดาซึ่งเป็นพันธมิตร ส่งทหารไปจัดการ【จ้าวศักดิ์สิทธิ์】ซะอย่างนั้น

แม้สถานการณ์จะพลิกผันเกินคาด แต่เมื่อฝ่ายอเมริกาแสดงเจตจำนงเข้าร่วมสงครามแล้ว ไรอันซึ่งเป็นผู้ออกแบบแผนการก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ

เพราะไม่ว่าอย่างไร เป้าหมายของเขาก็คือค่าชื่อเสียง เมื่ออเมริกาเข้ามาช่วยเหลือโดยตรง เขาจึงยินดีอย่างสุดหัวใจ

ตัวเขาเองนั้น ยกมือต้อนรับการเข้าร่วมของอเมริกาอย่างเต็มที่

หน้าฐานทัพแคนาดา 【โดเมนิโก้·พุชชี่】ยังคงรักษาความสุขุมเยือกเย็นไว้เช่นเดิม

“ความจริงแล้ว อเมริกาไม่ได้ตั้งใจจะปะทะกับสถาบัน SCP ถ้าหากสถาบัน SCP ยอมให้กองทัพอเมริกาเข้าไปในฐานทัพ เราขอรับประกันว่าจะไม่ทำร้ายบุคลากรภายใน เป้าหมายของการส่งกองทัพอเมริกาเข้าไปมีเพียงอย่างเดียว คือสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์”

เจมส์อธิบายสถานการณ์ของกองทัพอเมริกา แล้วหันไปมอง【โดเมนิโก้·พุชชี่】ก่อนจะพูดต่อ

ดังที่เจมส์กล่าวไว้ เป้าหมายของการส่งกองทัพสหรัฐฯ ครั้งนี้ก็เพื่อรับมือกับภัยคุกคามมหึมาอย่าง【จ้าวศักดิ์สิทธิ์】นั่นเอง

ถึงแม้ว่าจากท่าทีแล้ว กองทัพอเมริกาอาจไม่เป็นมิตรกับสถาบัน SCP อย่างที่เจมส์พูด แต่ถ้าสถาบัน SCP ยอมลดความขัดแย้ง ยอมให้กองทัพอเมริกาเข้าไปในฐานทัพ เจมส์ก็มั่นใจว่าเขาสามารถโน้มน้าวผู้บัญชาการให้ไม่ใช้กำลังกับสถาบัน SCP ได้

ภายใน ‘วอร์แมชชีน’ เจมส์เชื่อว่าเขาได้ลดโอกาสที่จะเกิดความขัดแย้งลงไปได้มากที่สุดแล้ว

แต่โดเมนิโก้·พุชชี่ หรือ ไรอัน ตัวแทนสถาบัน SCP เข้าใจผิดอย่างสิ้นเชิง เพราะสิ่งที่เขาต้องการคือการสร้างความขัดแย้งระหว่างสถาบัน SCP กับกองทัพสหรัฐฯ ต่างหาก

ดังนั้น เมื่อเจมส์เสนอข้อตกลงต่อหน้า ‘วอร์แมชชีน’ โดเมนิโก้·พุชชี่จึงโน้มใบหน้าซีดเผือดเข้าใกล้หมวกเหล็กของชุดเกราะ แล้วตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “สถาบัน SCP ไม่ยอมรับการแทรกแซงใด ๆ จากอำนาจตุลาการ การอนุญาต และการมอบหมายจากรัฐบาลประเทศใด ๆ รวมถึงรัฐบาลแคนาดาที่อยู่ตรงหน้าคุณ และแน่นอน รวมถึงกองทัพสหรัฐฯ ที่ผู้พันเจมส์เอ่ยถึงด้วย”

(จบตอน)

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร ผู้แปลลงแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับผม หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;_