บทที่ 553: ตลาดแร่
เฉียวซางหันศีรษะไปตามเสียงและจำได้ว่าผู้ที่พูดอยู่ตอนนี้คือพนักงานที่เคยช่วยให้เธอได้ขึ้นแข่งขันด้วยวิธีพิเศษก่อนหน้านี้
“เงิน?” เฉียวซางพูดขึ้นด้วยความสงสัย
หญิงสาวยิ้มบางๆแล้วตอบว่า “ใช่ค่ะ เงิน ทุกคนที่ชนะในการแข่งขันจะได้รับเงินรางวัลค่ะ”
“เท่าไหร่เหรอคะ?” เฉียวซางถามออกไปแบบไม่ได้ใส่ใจนัก
ตอนนี้เธออยู่ในช่วงที่มีเงินมากที่สุดในชีวิต จึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับเงินที่ไม่ได้มาจากการพัฒนาที่ยั่งยืนมากนัก
“ครั้งละ 500 เหรียญพันธมิตรค่ะ” หญิงสาวยิ้มพร้อมเสริมว่า “แต่ถ้ารวมส่วนแบ่งจากเงินเดิมพัน คุณจะได้รับทั้งหมด 130,000 เหรียญพันธมิตรค่ะ”
เฉียวซางนิ่งไปชั่วขณะ รู้สึกเหมือนตัวเองฟังผิด “เท่าไหร่นะคะ?”
ก็แค่ชนะผู้ฝึกสัตว์อสูรระดับ E ที่มีสัตว์อสูรระดับกลางเพียงสองตัว แค่นี้ก็ได้เงินเทียบเท่าราคาสุนัขเขี้ยวเพลิงหนึ่งตัวในตลาดเมื่อก่อน แถมยังมีเงินเหลืออีก?
“130,000 เหรียญพันธมิตรค่ะ” หญิงสาวดูเหมือนจะเข้าใจว่าทำไมเด็กสาวตรงหน้าถึงได้แปลกใจ เธอจึงอธิบายเพิ่ม “นี่เป็นครั้งแรกที่คุณเข้าแข่งขัน เหล่าผู้ชมยังไม่รู้ถึงฝีมือของคุณดีนักเลยเดิมพันไปที่คุณคาร์ชแทบทั้งหมด นั่นทำให้ส่วนแบ่งรอบนี้มากกว่าปกติค่ะ”
เฉียวซางพอจะเข้าใจแล้ว ความหมายก็คือช่วงนี้เป็นช่วงหน้าใหม่ สามารถทำตัวเป็นหมาป่าห่มหนังแกะได้ แต่ถ้าแข่งไปหลายรอบแล้ว ส่วนแบ่งก็คงไม่มากเท่านี้...
เธอเงียบไปสองวินาทีก่อนจะพูดออกมา “ฉันว่าฉันยังกลับขึ้นไปแข่งต่อได้อีกหลายรอบนะ…”
หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเหมือนขอโทษเล็กน้อย “วันนี้คงไม่ได้แล้วค่ะ ที่นี่เรามีกฎให้ผู้แข่งขันแต่ละคนขึ้นสนามประลองได้เพียงวันละครั้งเท่านั้นค่ะ”
เฉียวซางมีสีหน้าหดหู่ เหมือนกับเห็นกองเงินจำนวนมากกำลังลอยหายไปต่อหน้าต่อตา
หญิงสาวเปลี่ยนหัวข้ออย่างแยบยลแล้วพูดต่อ “ถ้าคุณเฉียวซางสนใจการแข่งขันล่ะก็ พรุ่งนี้คุณสามารถกลับมาอีกได้นะคะ”
แต่พรุ่งนี้ฉันต้องไปเรียน ต้องทำการบ้าน แล้วยังต้องเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยอีก… เฉียวซางคิดในใจพลางทำหน้าหดหู่มากขึ้นไปอีก
หญิงสาวมองออกว่าเด็กสาวตรงหน้าเป็นนักเรียน พรุ่งนี้ก็วันจันทร์แล้ว คงคิดว่าไม่มีเวลา... เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า
“ถ้าคุณเฉียวซางอยากมาอีก ฉันสามารถจัดห้องพักส่วนตัวให้คุณได้ คุณจะได้ทำการบ้านในนั้นได้อย่างสงบ ฉันรับรองว่าจะไม่มีใครรบกวนค่ะ”
คำพูดนั้นทำให้เฉียวซางเริ่มลังเล ไม่ใช่เพราะแค่เงินรางวัล แต่ยังรวมถึงโอกาสเพิ่มคะแนนให้สัตว์อสูรของเธอด้วย
ในเมื่อหลักสูตรที่โรงเรียนมัธยมปลายไซแนนท์นั้นเธอรู้หมดแล้ว มีแค่ไม่กี่คาบเรียนที่เป็นการฝึกจริง และถ้าหยาเป่ากับตัวอื่นๆ ต้องอยู่ที่โรงเรียนตลอดเทอมนี้ ก็คงไม่ได้คะแนนระดับเพิ่มขึ้นมากนัก… เมื่อคิดมาถึงจุดนี้ เฉียวซางจึงถามว่า
“แล้วการแข่งขันช่วงกลางคืนเลิกกี่โมงเหรอคะ?”
หญิงสาวยิ้มเมื่อได้ยินคำถามนี้ เธอรู้ทันทีว่าเด็กสาวตรงหน้ามีแนวโน้มจะกลับมาอีกแน่
หญิงสาวหยิบการ์ดใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วยื่นให้ “ที่นี่เปิดตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ ถ้าคุณมาอีกครั้ง สามารถติดต่อฉันได้โดยตรง นี่นามบัตรของฉันค่ะ”
หลังจากที่เฉียวซางจัดการเอกสารและรับเงินรางวัลเรียบร้อย เธอก็เดินออกไป ขณะเดียวกันก็มีพนักงานอีกคนเดินเข้ามาถามหญิงสาวว่า
“พี่เฟิง คิดว่าเธอมีแววเหรอครับ?”
หญิงสาวยิ้มบางๆ “ในสถานการณ์ที่ไม่มีอุปกรณ์เสริมหรือการสลับลายช่วย เธอใช้เหยี่ยวเกราะเหล็กเพียงตัวเดียวเอาชนะสัตว์อสูรระดับกลางได้สองตัวติดกัน นายเคยเห็นใครทำแบบนี้ได้บ้างล่ะ? ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังเป็นผู้ฝึกสัตว์อสูรระดับ D และสัตว์อสูรตัวหลักของเธอยังไม่ได้ถูกเรียกออกมาเลย เชื่อฉันสิ เธอคือขุมทรัพย์ที่จะทำเงินให้เราได้แน่นอน”
ชั้น 11 พื้นที่พักผ่อน
เฉียวซางกำลังบรรจงทาน้ำมันเสริมพลังให้กับเหยี่ยวเกราะเหล็กของเธอ
เหยี่ยวเกราะเหล็กนิ่งสงบเป็นพิเศษ ยอมให้ทาอย่างว่าง่าย
“รู้สึกอะไรไหม?” เฉียวซางถามขณะทาน้ำมันไปด้วย
“กงกง”
เหยี่ยวเกราะเหล็กพยายามรับรู้แล้วร้องออกมาเสียงเบาๆเพื่อบอกว่ามันไม่รู้สึกอะไรเลย แต่อดไม่ได้ที่จะบ่นเรื่องกลิ่นเหม็นเล็กน้อย
“ย่าห์ ย่าห์!”
หยาเป่าที่อยู่ห่างออกไปสามเมตรพยักหน้าเห็นด้วยทันทีเหมือนรู้สึกตามไปด้วย
มีกลิ่นแปลกจริงๆนั่นแหละ…แต่แบบนี้มันแปลกไปหน่อยมั้ง ไม่ใช่ว่าทุกครั้งที่ทาแล้วจะได้ผลชัดเจนเหรอ? หรือว่าถูกหลอก? เฉียวซางคิดในใจ พลางหยิบทิชชู่ที่เตรียมไว้มาเช็ดมือ จากนั้นก็เตรียมจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อติดต่อกับนักพัฒนาสัตว์อสูรชื่อโมนีล
แต่ในตอนนั้นเอง ร่างของเหยี่ยวเกราะเหล็กก็แข็งทื่อขึ้นมาทันที
เฉียวซางสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงนี้ เธอหยุดมือแล้วถามว่า
“รู้สึกอะไรแล้วเหรอ?”
“กงกง...”
เหยี่ยวเกราะเหล็กทำหน้าเหมือนกำลังพยายามอดทน ก่อนจะพยักหน้าช้า ๆ
“รู้สึกยังไง?” เฉียวซางถามอีกครั้ง
“กงกง…”
เหยี่ยวเกราะเหล็กพยายามอธิบายว่ามันรู้สึกคันเล็กน้อย
ในขณะเดียวกัน ซุนเป่าก็ปรากฏตัวออกมาจากที่ซ่อน มันหยิบขวดน้ำมันเสริมพลังที่ยังเหลืออยู่ขึ้นมาพิจารณา ก่อนจะเทน้ำมันในขวดที่เหลืออยู่ลงบนตัวเองด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ผ่านไปห้าวินาที
“ซุน ซุน!”
“ซุน ซุน!”
ซุนเป่าร้องเสียงดังลั่นและกลิ้งไปมากับพื้นอย่างบ้าคลั่ง
คันจนแทบขาดใจ!
เฉียวซางมองไปยังขวดเปล่าที่วางอยู่ข้างๆก่อนจะเข้าใจทันทีว่าเจ้าซุนเป่าตัวแสบของเธอน่าจะแอบลองใช้น้ำมันเสริมพลังกับตัวเองเข้า
ความอยากรู้อยากเห็นของมันนี่มันเกินเยียวยาจริงๆ… เธอมองซุนเป่าด้วยสายตาที่ปนเปทั้งความเอ็นดูและเหนื่อยใจ
ห้านาทีต่อมา
“ซุน ซุน…”
ซุนเป่าปาดเหงื่อที่ไม่มีอยู่จริงออกจากหน้าผาก ทำสีหน้าเหมือนรอดตายมาได้หวุดหวิด
“กงกง”
เหยี่ยวเกราะเหล็กมองมันแล้วร้องเสียงเบาเหมือนจะบอกว่า ก็บอกแล้วว่าคัน
“ซุน ซุน!”
“ซุน ซุน!”
ซุนเป่าพลันเดือดดาลขึ้นมาในทันทีแล้วตอบกลับด้วยอารมณ์พลุ่งพล่าน
คันเหรอ?! นั่นมันไม่ใช่แค่คันนะ มันคันมาก!
เหยี่ยวเกราะเหล็ก: “…”
มันเริ่มตระหนักได้ว่า ภาพลักษณ์ของซุนเป่าในหัวมันไม่เหมือนอย่างที่คิดเลยสักนิด…
ช่วงบ่ายในร้านอัญมณี
เฉียวซางเดินเข้าไปในร้านอัญมณี พอเธอพูดขึ้นว่าต้องการสั่งทำถุงมือเพชรสำหรับซุนเป่า พนักงานในร้านถึงกับมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจเหมือนเจอคนแปลกประหลาด
“ไม่มีบริการสั่งทำเหรอคะ?” เฉียวซางถามเมื่อเห็นพนักงานนิ่งไปนาน
“มีค่ะ! แน่นอนว่ามี!” พนักงานปรับสีหน้าแล้วตอบทันที
พนักงานมองดูสัตว์อสูรทั้งสามคือ หยาเป่า ซุนเป่า และเหยี่ยวเกราะเหล็ก ก่อนจะหยุดสายตาอยู่ที่หยาเป่า แล้วหยิบสายวัดออกมาเตรียมวัดขนาด
“ย่าห์ ย่าห์?” หยาเป่าทำหน้าเหมือนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
“คุณจะทำอะไรน่ะ?” เฉียวซางรีบอุ้มหยาเป่าถอยหลังไปหนึ่งก้าว พลางถามด้วยความระแวง
พนักงานชะงักไปครู่หนึ่งก่อนตอบว่า “ก็จะวัดขนาดให้ซุนเป่าน่ะสิคะ”
“ซุน ซุน…”
ซุนเป่าค่อยๆลอยมาหาพนักงาน พร้อมส่งสายตาบอกว่า มันต่างหากคือซุนเป่า
หลังจากเฉียวซางอธิบาย พนักงานถึงกับอึ้งไปนานทีเดียว
ถ้าฉันเดาไม่ผิด เจ้าตัวนี้น่าจะเป็นสัตว์อสูรประเภทผีใช่ไหม? แล้วนี่คือจะสั่งทำถุงมือเพชรให้สัตว์อสูรประเภทผี?
เฉียวซางยังไม่รู้ว่าความคิดของเธอในตอนนี้ทำให้พนักงานงงงวยแทบตลอดชีวิต
หลังจากทราบว่าถุงมือจะสั่งทำเสร็จในหนึ่งสัปดาห์ เธอจึงทิ้งที่อยู่โรงเรียนมัธยมปลายไซแนนท์และเบอร์โทรเอาไว้ ก่อนจะออกจากร้านไปพร้อมกับเริ่มค้นหาตำแหน่งตลาดแร่
.......
ยามอาทิตย์อัสดง เฉียวซางนั่งรถแท็กซี่มาถึงหน้าอาคารทรงคริสตัลที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล
ตลาดแร่นั้นตั้งอยู่ในสถานที่แห่งนี้
เพราะสถานที่ค่อนข้างลึกเข้าไป เธอจึงไม่ใช้หยาเป่าในการเดินทาง แต่เรียกแท็กซี่แทน
หลังจากจ่ายค่าโดยสาร เธอก็ลงจากรถแล้วเดินเข้าไปข้างใน
“แกอยากได้แร่ชนิดไหนก็บอกมาเลย ฉันจ่ายไหว” เฉียวซางพูดอย่างภูมิใจ
“กงกง”
เหยี่ยวเกราะเหล็กพยักหน้า บ่งบอกถึงความเข้าใจอย่างชัดเจน
เมื่อเดินเข้ามาด้านใน เฉียวซางมองไปรอบๆเห็นว่าชั้นหนึ่งมีแต่แผงลอยที่จัดเรียงกันเป็นระเบียบ ส่วนชั้นบนดูเหมือนจะเป็นร้านค้า
มีคนเดินเล่นอยู่ไม่มากนัก ดูค่อนข้างประปรายและบางตา
เธอเดินชมตลาดไปอย่างสบายๆจนกระทั่งเหยี่ยวเกราะเหล็กหยุดอยู่หน้าร้านแผงลอยแห่งหนึ่ง
“เจออะไรดีๆเข้างั้นเหรอ?” เฉียวซางก้มลงถามอย่างยิ้มๆ
“เพชรของเราทั้งหมดเป็นของธรรมชาติเลยนะ” เจ้าของแผงรีบแนะนำเมื่อเห็นลูกค้าเข้ามา “เม็ดใหญ่ สีสวย ไม่มีสิ่งเจือปน เป็นของคุณภาพเยี่ยมแน่นอน เหมาะจะเอาไปเจียระไนเป็นเพชรสวยๆได้เลย”
เด็กสาวตรงหน้าเขาดูออกว่าเป็นผู้ฝึกสัตว์อสูร สำหรับคนทั่วไปเพชรเป็นของล้ำค่า แต่สำหรับผู้ฝึกสัตว์อสูรบางคน เพชรอาจจะยังถูกกว่ายาของพวกสัตว์อสูรซะอีก
“กงกง”
เหยี่ยวเกราะเหล็กชี้ไปที่เพชรในแผงลอย แสดงท่าทีดูเหมือนจะสนใจ
เฉียวซางมองเพชรที่เปล่งประกายวาววับอยู่บนแผง แล้วเงียบไปสองวินาที ก่อนพูดขึ้นว่า “ฉันจำได้ว่าเธอซื้อแร่มาเพื่อกินใช่ไหม?”
“กงกง”
เหยี่ยวเกราะเหล็กพยักหน้า
“แล้วแกต้องกินทุกวัน?” เฉียวซางสูดลมหายใจลึกแล้วถามต่อ
“กงกง”
เหยี่ยวเกราะเหล็กพยักหน้าอีกครั้ง
กินเพชร? ทุกวัน? นี่มันจะให้ฉันกินแกลบแทนหรือยังไง?!
“กงกง”
เหยี่ยวเกราะเหล็กมองหน้าผู้ฝึกของมัน แล้วดูเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง มันใช้ปีกชี้ไปข้างหน้าเพื่อบอกว่า อย่าเพิ่งซื้อ เดินดูอีกหน่อยก่อนเถอะ
เฉียวซางไม่ได้เดินออกไปทันที เธอยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนถามว่า
“เจ้าของร้าน รับบัตรเครดิตไหม?”
เจ้าของแผงลอยตาเป็นประกายทันที “รับแน่นอน!”
เฉียวซางหยิบบัตรแบล็กการ์ดออกมา
“กงกง”
เหยี่ยวเกราะเหล็กมองภาพนั้นด้วยความตกใจ มันดูไม่คาดคิดว่าเธอจะตัดสินใจซื้อจริง ๆ
เฉียวซางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังเพื่อวางแผนสำหรับอนาคต “อย่าติดใจนักล่ะ แร่พวกนี้ต้องเปลี่ยนชนิดไปบ้างจะดีกว่า”
“กงกง”
เหยี่ยวเกราะเหล็กได้ยินแล้วแอบหัวเราะเบาๆก่อนพยักหน้าอย่างว่าง่าย