บทที่ 170: เถาวัลย์วิญญาณสวรรค์ปรากฏตัว
บทที่ 170: เถาวัลย์วิญญาณสวรรค์ปรากฏตัว
“เซียวซิงหยู ลมเริ่มแรงแล้ว เรากลับกันเถอะ”
“ครับ”
ที่นี่คือชายแดนทางตะวันตกของแคว้นมังกร บนกำแพงเมืองเเบบนี้…มองไปทางไหนก็เห็นแต่เนินทราย
เขตทะเลทราย สภาพแวดล้อมเลวร้ายเเถมยังแปรปรวนเอาแน่เอานอนไม่ได้
เมื่อครู่ท้องฟ้ายังมีแสงแดดอยู่เลย แต่แป๊บเดียวก็มืดครึ้ม เหมือนเป็นลางบอกเหตุว่าเมืองหวงหยานกำลังจะเผชิญกับพายุฝน
เเต่ระหว่างทางกลับห้องจัดเลี้ยง ทั้งสองคนก็บังเอิญเจอกับโจวซง
“เจ้าเมืองโจว ท่านออกมาทำอะไรหรือ?”
“องค์หญิง ผมมีเรื่องส่วนตัวจะคุยกับน้องเซียวหน่อย”
ซ่างกวนเฉียนมองเซียวซิงหยูแวบหนึ่ง…เเต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไร เเล้วเดินกลับห้องจัดเลี้ยงไปคนเดียว
โจวซงยืนพิงกำแพงเมือง มือข้างหนึ่งถือบุหรี่อยู่
“น้องเซียว มาสูบสักมวนไหม?”
“ไม่ล่ะ”
“ฉันจำได้ว่านายก็สูบบุหรี่นี่นา”
“องค์หญิงไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ ถ้าผมสูบตอนนี้…กลับไปคงโดนบ่นหูชาแน่”
โจวซงถึงกับเผือกเรื่องของเซียวซิงหยูกับองค์หญิง
“ฉันสงสัยจริงๆ ว่านายกับองค์หญิงสนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่…รู้จักกันมาก่อนงั้นหรือ?”
เซียวซิงหยูไม่สามารถเปิดเผยเรื่องของกองกำลังวิญญาณจักรพรรดิได้ เขาจึงไม่ได้ตอบคำถามของโจวซง
“เอาเถอะ ไม่อยากตอบข้าก็จะไม่ถาม…ว่าแต่น้องเซียว เรื่องที่ฝากฉันไว้ ฉันจัดการให้เรียบร้อยแล้ว”
หลังจากพูดจบ โจวซงก็เปิดกระเป๋าคาดเอวเเล้วหยิบดอกไม้ออกมาสองช่อ
รูปร่างของดอกไม้เหมือนปลาดาวในทะเลลึก กลีบดอกเป็นสีม่วง ใจกลางเกสรมีประกายสีส้มระยิบระยับ ส่งกลิ่นหอมสดชื่นเเละหอมหวาน
เซียวซิงหยูตาเป็นประกายตื่นเต้น “ดอกวิญญาณเรืองแสง!”
น้ำหวานจากดอกวิญญาณเรืองแสง น้ำค้างบนหญ้าหางนกฟีนิกซ์ และมูลของอสูรระดับเทพเจ้า
สามสิ่งนี้หายากมาก และเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเพาะพันธุ์อสูรสายเลือดโบราณ-เถาวัลย์วิญญาณสวรรค์
โจวซงยื่นดอกวิญญาณเรืองแสงสองช่อให้เซียวซิงหยู แล้วพูดว่า
“น้องเซียว ครั้งก่อนเจ้าบอกว่าต้องการดอกวิญญาณเรืองแสง ข้าต้องใช้ความพยายามอย่างมาก ถึงจะหามาได้ถึงสองช่อเเบบนี้”
“ขอบคุณเจ้าเมืองโจวมาก!”
“ตรงนี้มีแค่เราสองคน ไม่ต้องเกรงใจกันหรอก!”
“ขอบคุณพี่โจวมาก!”
ทั้งสองคนอายุห่างกันเกือบสามสิบปี…เเต่โจวซงชื่นชมความสามารถและนิสัยของเซียวซิงหยูมาก เขาจึงอยากเป็นพี่น้องกับเซียวซิงหยู
เซียวซิงหยูเก็บดอกวิญญาณเรืองแสงเข้าแหวนมิติ แล้วหยิบห่อของออกมาจากแหวนมิติ
“พี่โจว นี่สำหรับท่าน”
“นี่คืออะไร?”
“ท่านเปิดดูก็รู้เอง”
โจวซงเปิดห่อของ ข้างในมีขวดยาสีม่วงเล็กๆจำนวนมาก
“ยา...ยาวิญญาณม่วงบริสุทธิ์? เเถมเยอะขนาดนี้เลย!”
โจวซงตกดีใจเป็นอย่างมาก
ยาวิญญาณม่วงบริสุทธิ์หนึ่งขวด สามารถรักษาอสูรที่ติดเชื้อได้ประมาณสิบตัว
ในห่อของเซียวซิงหยู มีขวดยาอย่างน้อยสามร้อยขวด…กองกำลังรักษาการณ์ของเมืองหวงหยานมีประมาณสองพันคน เป็นปรมาจารย์อสูรประมาณห้าร้อยคน
นี่หมายความว่าไง ยาวิญญาณม่วงบริสุทธิ์ที่เซียวซิงหยูนำมานั้น เพียงพอสำหรับทุกคน
“น้องเซียว เธอช่วยกองกำลังรักษาการณ์ของเมืองหวงหยานไว้ได้ทันเวลาจริงๆ!”
“เเต่เดี๋ยวก่อนนะ นี่มันไม่ถึงเดือนเลย เธอผลิตยาวิญญาณม่วงบริสุทธิ์ได้เยอะขนาดนี้เลยเหรอ?”
“ผมรู้ว่าพี่โจวต้องการใช้ยาอย่างเร่งด่วน…ผมจึงอดหลับอดนอนเพื่อรีบทำให้เสร็จครับ”
“น้องชาย ฉันดูคนไม่ผิดจริงๆ!” โจวซงรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก
ทั้งสองคนคุยกันอย่างออกรส เเต่ทันใดนั้นจู่ๆก็มีชายหัวเกรียนคนหนึ่งวิ่งเข้ามา
“เจ้าเมืองโจว ทุกคนรอท่านกลับไปดื่มอยู่นะ!”
เซียวซิงหยูเหลือบมองไปที่ชายคนนั้นเล็กน้อย แล้วขมวดคิ้ว
เพราะ…ชายหัวเกรียนคนนั้นคือจ้าวหมิง!
จ้าวหมิงเป็นผู้ช่วยที่โจวซงไว้ใจที่สุด เขาเป็นปรมาจารย์อสูรระดับหกดาว เเละยังเป็นผู้บัญชาการกองกำลังปรมาจารย์อสูรสามกอง
ในเมืองหวงหยาน คำพูดของโจวซงศักดิ์สิทธิ์ที่สุด เเละรองลงมาก็คือจ้าวหมิง
“จ้าวหมิง ฉันยังอยากคุยกับน้องเซียวต่อ พวกนายดื่มกันไปก่อนเถอะ”
“ท่านเจ้าเมืองโจว ทุกคนรอท่านอยู่! นักเรียนจากวิทยาลัยชิงหลงก็อยากฟังเรื่องราวการเฝ้าระวังชายแดนของท่านด้วย!”
เมื่อเห็นโจวซงมีสีหน้าเบื่อหน่าย เซียวซิงหยูจึงรีบพูดขึ้นทันที
“พี่โจว ท่านกลับไปดื่มกับทุกคนเถอะ ท่านเป็นเจ้าภาพ…ทุกคนต้องอยากชนแก้วกับท่านอยู่เเล้ว”
“น้องเซียวจะไม่กลับไปด้วยกันเหรอ? เราไปดื่มกันต่ออีกสักหน่อยเถอะ!”
“ผมไม่ไหวแล้ว ขอสูดอากาศอีกหน่อยเถอะครับ”
“งั้นก็ได้ นี่คือป้ายเจ้าเมืองของข้า, ด้วยป้ายนี้ เธอสามารถไปไหนมาไหนในเมืองได้อย่างอิสระ ไปเที่ยวชมเมืองหวงหยานให้เต็มที่เลย!”
จากนั้นโจวซงก็ถูกจ้าวหมิงดึงตัวกลับไป เหลือเพียงเซียวซิงหยูที่ยังอยู่ที่เดิม
ในมือของเซียวซิงหยูถือป้ายเจ้าเมืองที่โจวซงมอบให้…ด้วยป้ายนี้ เซียวซิงหยูสามารถเดินทางไปไหนมาไหนในเมืองได้อย่างอิสระโดยไม่มีข้อจำกัดใดๆทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม, เซียวซิงหยูไม่ได้รีบไปเที่ยวชมเมือง แต่เดินไปที่ตรอกเล็กๆแห่งหนึ่ง
ใต้ต้นไม้ เซียวซิงหยูเปิดแหวนมิติ หยิบกระถางต้นไม้และดอกวิญญาณเรืองแสงออกมา
ทันใดนั้น เถาวัลย์สีเงินยาวกว่าสิบเมตรก็เลื้อยออกมาจากกระถางเเล้วชูตั้งตรงขึ้นฟ้า
“เจ้าเงินน้อย อยู่นิ่งๆหน่อย!”
เจ้าเงินน้อย คือชื่อที่เซียวซิงหยูตั้งให้เถาวัลย์วิญญาณสวรรค์…มันเป็นชื่อที่ฟังดูเรียบง่ายดี
ก่อนหน้านี้ เถาวัลย์สีเงินได้รับการบำรุงจากน้ำค้างบนหญ้าหางนกฟีนิกซ์ และเซียวซิงหยูก็ใช้มูลของอสูรระดับเทพเจ้าเป็นปุ๋ยให้มัน
ตอนนี้ ขอเพียงแค่เติมน้ำหวานจากดอกวิญญาณเรืองแสงเข้าไป เถาวัลย์สีเงินก็จะหลุดพ้นจากกระถางดิน เเละกลายเป็นอสูรอย่างแท้จริง
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เซียวซิงหยูก็ไม่รอช้า บีบน้ำหวานจากดอกวิญญาณเรืองแสงเเล้วหยดลงไปในดินของกระถาง
รากของเถาวัลย์สีเงินสัมผัสได้ถึงกลิ่นของน้ำหวาน มันจึงรีบดูดซับอย่างรวดเร็ว
เพล้ง!!!!
วิ้งงงง!!!
ทันใดนั้นกระถางก็แตกออก เเละภายในตรอกเล็กๆนี้ก็ได้มีแสงสีเงินส่องประกาย พร้อมกับเสียงประหลาดดังขึ้น
โชคดีที่บริเวณนี้ไม่มีใครอยู่ จึงไม่มีการตื่นตระหนกมากนัก
“เจ้าเงินน้อย ยินดีด้วยนะ เจ้าได้เป็นอสูรสายพันธุ์พืชตัวแรกของฉันแล้ว!”
เซียวซิงหยูพูดด้วยความอ่อนโยน
ณ ตอนนี้ เถาวัลย์สีเงินที่มีลักษณะเหมือนงูตัวเล็กๆกำลังพันอยู่ที่ข้อมือขวาของเซียวซิงหยู
เถาวัลย์สีเงินที่ดูไม่มีพิษมีภัยเส้นนี้ คืออสูรสายพันธุ์โบราณ-อสูรเถาวัลย์วิญญาณสวรรค์ที่มีสายเลือดระดับเทพเจ้ามายา
ถึงแม้ตอนนี้มันจะดูเหมือนงูตัวเล็กๆที่เพิ่งเลื้อยออกมาจากกองโคลน แต่จริงๆแล้วระดับของมันได้พัฒนาจนมาถึงระดับสมบูรณ์ (ขั้นที่ 1) เเล้ว
อสูรพืชสายพันธุ์โบราณ แตกต่างจากอสูรประเภทอื่น เมื่อมันหลุดพ้นจากดิน…ระดับของมันก็จะพัฒนาจนเป็นระดับสมบูรณ์ในทันที
ตอนนี้หมาป่าปีศาจแห่งนรกอยู่ในระดับเติบโต (ขั้นที่ 3), เทพธิดาเเสงศักดิ์สิทธิ์สี่ปีกอยู่ในระดับเติบโต (ขั้นที่ 1)....ส่วนกระต่ายสายฟ้าไม่มีเส้นทางวิวัฒนาการ จะอยู่ที่ระดับเริ่มต้นตลอดไป
เมื่อเทียบกันแล้ว ตอนนี้เถาวัลย์วิญญาณสวรรค์เป็นอสูรที่มีระดับสูงสุดที่เซียวซิงหยูสามารถเปิดเผยในที่สาธารณะได้
เซียวซิงหยูยกมือซ้ายลูบไล้เถาวัลย์วิญญาณสวรรค์ที่พันอยู่บนข้อมือขวาเบาๆ พร้อมกับเปิดใช้งานดวงตาเทพอสูร
ทันใดนั้น แผงข้อมูลของเถาวัลย์วิญญาณสวรรค์ก็ได้ปรากฏขึ้นในหัวของเขา
…………………..