บทที่ 14 การมาถึงอย่างไม่คาดฝัน
บทที่ 14 การมาถึงอย่างไม่คาดฝัน
“โจวไป๋”
เสียงเรียกทำให้โจวไป๋หันไปมอง เห็นว่าไอชาที่ปกติหลับสบายตอนนี้กลับลืมตาโพลงจ้องมาที่เขา
“มีอะไรหรือเปล่า?”
ไอชามีสีหน้ารู้สึกผิดพลางพูดว่า “โจวไป๋ ฉันกินเยอะเกินไปหรือเปล่า? ทำให้ฐานของเราต้องลำบากเพราะอาหารหมดใช่ไหม?”
“หา?” โจวไป๋มองดูสีหน้าจริงจังของไอชา ก่อนจะเข้าใจว่าทำไมเธอถึงดูเหม่อลอยตั้งแต่เลิกเรียนวันนี้ แม้แต่ตอนมื้อเย็นเธอก็ไม่ได้อ้อนขออาหารเพิ่มจากดร.จวงเหมือนปกติ
โจวไป๋คิดสักครู่ก่อนตอบ “ไอชา มันไม่ใช่ความผิดของเธอ อาหารในฐานมีจำกัดอยู่แล้ว ดังนั้นพวกเราทุกคนต้องกินให้น้อยลง เพื่อให้ดร.จวงมีเวลาออกไปหาอาหารใหม่ๆ”
“จริงเหรอ?” ไอชาถามด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ
“แน่นอน” โจวไป๋ปลอบ “เพราะงั้นไอชาต้องอดทนหน่อย ไม่นานนี้เธอจะได้กินเยอะเหมือนเดิม”
“อื้ม!” ไอชาพยักหน้าหนักแน่น “ต่อไปฉันจะกินให้น้อยลง ฉันสัญญาว่าจะไม่แย่งของโจวไป๋กินอีก”
หลังจากปลอบไอชาและให้เธอเข้านอนแล้ว โจวไป๋กลับไปทดลองพลังวิญญาณอีกครั้ง
เขารู้สึกถึงพลังที่มองไม่เห็นกำลังเคลื่อนตัวออกมาจากจิตสำนึกของเขา โจวไป๋ยกมือขึ้น สัมผัสได้ถึงแรงดันในอากาศที่เขาใช้ออกไป แม้กระทั่งมองเห็นคลื่นอากาศละเอียดเล็กๆ ผ่านแสงจากโคมไฟข้างเตียง
“30 หน่วยพลังวิญญาณ ถ้าพูดถึงแรงล้วนๆ มันคงเท่ากับแรงของชายกำยำหลายสิบคนรวมกันเลย”
คริสตินาสบถอย่างดูแคลน “แค่แรงนิดหน่อยก็ดีใจแล้ว? พลังวิญญาณของนายตอนนี้มันแค่พื้นฐาน ไม่มีอะไรพิเศษเลย จะดีใจทำไม?”
“จะรีบไปไหนล่ะ? ดูความก้าวหน้าของฉันสิ รอให้นอนเพิ่มอีกหน่อย...” โจวไป๋พูดด้วยรอยยิ้มพอใจ ก่อนที่เขาจะค่อยๆ หลับไป
โครม!
เสียงระเบิดดังสนั่นปลุกให้โจวไป๋ตื่นขึ้นทันที เสียงระเบิดและแรงสั่นสะเทือนต่อเนื่องดังก้องในหู
“เกิดอะไรขึ้น?”
โจวไป๋รีบลุกขึ้นจากเตียง เขารู้สึกเหมือนบางสิ่งกำลังโจมตีพื้นที่ด้านบนของฐาน แรงระเบิดดังสนั่นราวกับโลกกำลังถูกเขย่า พื้น ผนัง และเพดานสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง
เขารีบเปิดประตูห้องออกไปดู เห็นทางเดินที่ควรมืดมิดกลับสว่างไสวด้วยไฟสีแดงฉุกเฉิน
ประตูห้องพักหลายบานถูกเปิดออก เด็กๆ แต่ละคนมองออกมาด้วยสายตาไม่สบายใจ
ไอชาเองก็นั่งขึ้นมาบนเตียง ขยี้ตาพร้อมถามด้วยความสงสัย “เกิดอะไรขึ้นเหรอ โจวไป๋?”
ในตอนนั้นเอง เสียงของดร.จวงดังขึ้นในลำโพงตามทางเดิน
“โจวไป๋…” เสียงของเขาปะปนไปกับเสียงระเบิดที่รุนแรง “พาทุกคนไปที่ห้องทดลอง...ห้ามออกมาเด็ดขาดจนกว่าจะได้รับคำสั่งจากฉัน...ปกป้องทุกคนให้ดี...”
โครม!
เสียงระเบิดที่รุนแรงยิ่งกว่าดังขึ้นอีกครั้ง เสียงของดร.จวงตะโกนออกมาในลำโพง “รีบไปเดี๋ยวนี้!”
‘หรือว่านี่จะเป็น...พวกปีศาจที่ว่า?’ โจวไป๋ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะคว้าไอชาที่กำลังงงงวยและพุ่งออกไป พร้อมตะโกนบอกเด็กๆ ที่ยังหลบอยู่ในห้อง
“ทุกคน ออกมาเร็ว!”
“รีบออกมา! ไปกับฉันลงไปข้างล่าง”
ในสถานการณ์เช่นนี้ โจวไป๋รู้ดีว่าไม่มีเวลาอธิบายมาก เขาใช้พลังวิญญาณทำลายประตูห้องของเด็กที่ล็อกตัวเองไว้ และบังคับให้พวกเขาออกมา
เมื่อเห็นเด็กๆ แตกตื่นและวิ่งหนีกันวุ่นวาย โจวไป๋ใช้พลังวิญญาณสกัดกั้นพวกเขาไว้ พร้อมพูดเสียงดัง “อย่ากลัว ทุกคนฟังนะ เราจะไปซ่อนตัวที่ชั้นล่าง รอให้ดร.จวงจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว เขาจะลงมาหาเราเอง!”
อลิซก็ออกมาช่วยเกลี้ยกล่อม “ทุกคนไม่ต้องกังวล โจวไป๋คือคนที่ครูไว้วางใจ ทุกสิ่งที่เขาทำได้ก็เพราะครูสอนเขามา ครูจะปกป้องพวกเรา แค่รออยู่ข้างล่างให้ครูกลับมาก็พอ”
ด้วยความที่อลิซเป็นคนที่เด็กๆ เชื่อใจ และโจวไป๋ที่แม้อายุมากสุดในกลุ่มแต่ก็แสดงพลังวิญญาณที่ไม่ธรรมดาออกมา ทำให้เด็กๆ ที่แม้ยังหวาดกลัว แต่ก็ตัดสินใจเดินตามโจวไป๋อย่างไม่เต็มใจ ผ่านช่องระบายอากาศในห้องอาหารลงไปยังห้องทดลองชั้นใต้ดินชั้นห้า
เมื่อทั้งหมดเข้าไปแล้ว โจวไป๋ใช้พลังวิญญาณบิดเหล็กดัดปิดช่องระบายอากาศนั้นไว้แน่นสนิท
เด็กๆ ทั้งหมดรวมตัวกันอยู่ในทางเดินของห้องทดลอง รอฟังเสียงระเบิดที่ดังมาจากด้านบน ด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวลและหวาดกลัว
ในขณะที่ความเงียบครอบงำ อลิซรีบวิ่งมาหาโจวไป๋ “โจวไป๋ ขาดไปหนึ่งคน ฉันนับแล้วมีแค่ 41 คน ครูยังอยู่ข้างบน แต่คนที่หายไปคือแบนดู”
ทันใดนั้น เสียงระเบิดเบาๆ ก็ดังมาจากช่องระบายอากาศ
เด็กทุกคนเงยหน้ามองด้วยความตกใจ และสิ่งที่ปรากฏออกมาคือแบนดูในสีหน้าที่เย็นชา
แบนดูกวาดตามองเด็กทุกคน ก่อนจะหันไปจ้องที่อลิซ “ไปกันเถอะอลิซ รีบหนีตอนที่ครูกำลังติดพัน เราจะออกไปจากที่นี่”
เมื่อแบนดูพยายามดึงตัวอลิซ โจวไป๋ก้าวขึ้นมายืนขวางกลางระหว่างทั้งสองคน
อลิซซ่อนตัวอยู่หลังโจวไป๋ พลางส่ายหน้า “นายไม่ใช่แบนดู...”
แบนดูพยายามอธิบาย “อลิซ ที่ผ่านมาฉันแกล้งทำเป็นแบบนั้นเพื่อไม่ให้ครูสงสัย ฉันหนีออกไปจากฐานครั้งก่อน เพื่อส่งสัญญาณให้ทีมช่วยเหลือ ตอนนี้พวกเขามาช่วยพวกเราแล้ว”
“ไปเถอะอลิซ ถ้าอยู่ที่นี่ต่อมันอันตราย ครูอาจจะลงมาที่นี่เมื่อไหร่ก็ได้ เราต้องรีบขึ้นไปสมทบกับทีมช่วยเหลือ...”
อลิซส่ายหน้า “ไม่ใช่! ข้างนอกมันเป็นวันสิ้นโลก เราออกไปไม่ได้!”
“โกหก! ทั้งหมดคือคำโกหก!” แบนดูพูดด้วยน้ำเสียงกราดเกรี้ยว “ครูหลอกเรา! โลกภายนอกมีวิธีเอาตัวรอดจากวันสิ้นโลกมานานแล้ว ครูแค่กักเราไว้ที่นี่เพราะความเห็นแก่ตัวของเขาเอง!”
คำพูดของแบนดูทำให้เด็กๆ มองหน้ากันด้วยความสับสน แต่เมื่อเสียงระเบิดด้านบนดังขึ้นอีกครั้ง แบนดูขมวดคิ้ว “ไม่มีเวลามาอธิบายมากแล้ว รีบไปกับฉันเถอะ”
พริบตานั้น โจวไป๋สัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณที่พุ่งออกมาจากแบนดู เป็นพลังที่พยายามผลักเขาออกไปและพาอลิซไปด้วย
มันคือพลังของแบนดูที่ใช้เต็มที่ ทั้งหมด 5 หน่วยพลังวิญญาณ
แต่โจวไป๋ก็ปล่อยพลังวิญญาณของตัวเองออกมาอย่างรุนแรงเช่นกัน ด้วยพลังที่สะสมไว้ถึง 30 หน่วย
พลังของแบนดูถูกต้านได้อย่างง่ายดาย ไม่เพียงเท่านั้น พลังของโจวไป๋ยังสะท้อนกลับผลักแบนดูให้ถอยออกไป
“นายก็มีพลังวิญญาณด้วย?” แบนดูมองโจวไป๋ด้วยความตกใจ เขารู้ว่าตัวเองไม่มีทางสู้ได้ จึงเปลี่ยนท่าที “ฉันเข้าใจว่าพวกนายอาจยังไม่เชื่อฉันในตอนนี้ แต่ฉันสามารถพาไปดูหลักฐานได้...”
โจวไป๋หรี่ตาลงเล็กน้อย “อลิซ รออยู่ที่นี่ ฉันจะไปกับเขาเอง”
อลิซที่กำลังสับสนวุ่นวายในใจ ไม่รู้ว่าควรเชื่อคำพูดของแบนดูหรือไม่ เมื่อได้ยินคำสั่งของโจวไป๋ เธอพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว
จำนวนผู้รอดชีวิต: 43
..........